วันเสาร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2563

อดีต รมว.สธ.แนะจับตา "สมคิด" ชงครม.เสียเปรียบมหาอำนาจผูกขาดยา-เม็ดพันธุ์พืช




อดีต รมว.สาธารณสุข อัดยับ "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" นำประเทศไทยเข้า CPTPP สุดเสียเปรียบประเทศมหาอำนาจ หากผ่าน ครม.อังคารนี้ จะขอสาปแช่งทุกวัน เพราะกระทบ การผลิตยาต้านเอดส์และมะเร็ง รวมถึงบังคับเกษตรกรไทย ต้องซื้อเมล็ดพันธุ์เพื่อเพาะปลูกอย่างเดียว


วันที่ 25 เมษายน  2563   จับตาการประชุมคณะรัฐมนตรีวันอังคารที่จะถึงนี้ (28 เม.ย.63) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ จะเสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ไทยยื่นหนังสือแสดงเจตจำนงเข้าร่วมเป็นภาคีความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิค (CPTPP) ในการประชุม ครม.วันอังคารที่จะถึงนี้ (28 เม.ย.63)

นพ.มงคล ณ สงขลา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้ Facebook Live เช้านี้ ตำหนินโยบายนี้อย่างรุนแรง โดยระบุว่า เนื้อหาของความตกลงเป็นการร่างจากประเทศมหาอำนาจเพื่อหวังเอารัดเอาเปรียบประเทศกำลังพัฒนาหรือประเทศที่พัฒนาน้อยกว่า ในหลายๆเรื่องโดยเฉพาะเรื่องการเข้าถึงยา และเมล็ดพันธุ์พืช แต่นายสมคิด พยายามผลักดันให้ไทยเข้าร่วมความตกลงนี้ตลอดช่วง 6-7 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่สมัยรัฐบาล คสช.

ในช่วงปี 2549-2550 ประเทศไทยได้ประกาศบังคับใช้สิทธิ (ซีแอล) เพื่อนำเข้ายาต้านไวรัสเอชไอวี/เอดส์ และยามะเร็งมาใช้ดูแลรักษาประชาชนเป็นแสนๆคนในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ให้รอดตายมาได้ แต่ถ้ารัฐบาลชุดนี้ไปเข้าร่วม CPTPP จะไม่สามารถทำซีแอลได้ นี่เป็นเรื่องที่น่ากลัว" อดีตรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงผลที่จะตามมาด้านการแพทย์และสาธารณสุข 

นี่คือจุดแข็งของบ้านเรา การที่ประเทศไทยทำซีแอลทำให้คนไข้เข้าถึงยา เพราะเราไม่ได้ไปลงนามบ้าๆบอๆตามที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ พยายามผลักดันมาโดยตลอด 6-7 ปีที่อยู่ในรัฐบาล

น.พ.มงคล กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีผลกระทบกับเกษตรกร ที่จะไม่ได้เก็บเมล็ดพันธุ์ที่เหลือในไร่นา เอาไว้ปลูกในฤดูกาลถัดไป ต้องไปซื้อทุกครั้ง ถ้าเก็บเมล็ดพันธุ์ที่ได้รับการคุ้มครองจะถูกเจ้าหน้าที่จับเพราะไปทำผิดกฎหมาย 

"ยิ่งช่วงนี้ จะเห็นว่า ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากโควิด-19 น้อยกว่าประเทศอื่น เพราะคนของเราส่วนหนึ่งได้กลับไปต่างจังหวัดยังมีพืชพันธุ์ธัญญาหารกินประทังชีวิต แต่เมื่อไรที่เมล็ดพันธุ์ถูกผูกขาด เกษตรกรถูกจำกัดจะทำให้ความเข้มแข็งได้อาหารและด้านเกษตรกรรมของประเทศไทยเดี้ยงไปเลย การที่จะช่วยตัวเองพึ่งพาตัวเองเพื่อช่วยวิกฤติชาติจะไม่มีที่จะพึ่งพิง เพราะฉะนั้นนี่คือการทำความเสียหาย เมื่อเกิดโรคร้ายทำซีแอลไม่ได้ นำเข้าหรือผลิตยาชื่อสามัญไม่ได้ต้องใช้ยาต้นแบบที่มีราคาแพงเท่านั้น

อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขอให้คนไทยจำชื่อคนเหล่านี้ ทั้งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ จารึกไว้ที่ใดก็ได้ว่าทำอะไรกับแผ่นดินไทยบ้าง

"ผมมองว่า คุณสมคิด และรัฐบาลชุดนี้ นอกจากจะไม่มีอะไรจารึกไว้ในแผ่นดินในเรื่องของการทำประโยชน์ให้คนข้างหลังได้พูดถึงได้คิดถึง แล้วยังทำสิ่งที่ไม่ดีตราอยู่ในแผ่นดินอีก เพราะฉะนั้น อยากฝากทั้งนายกฯและรองนายกฯว่า ท่านจะทำอะไรก็แล้วแต่ ทำไปเหอะ แต่คนที่จะจารึกความดีความชั่วของท่านไว้ในแผ่นดินนี้คือประชาชนคนไทย ขอให้คิดให้หนักก่อนที่จะไปเอาใจผู้ที่มีเงินเป็นหมื่นเป็นแสนล้าน ตรงนั้นไม่มีประโยชน์ ตายไปก็เอาไปไม่ได้สักอย่าง"

นพ.มงคล กล่าวว่า รู้สึกโกรธ เพราะนี่คือการใช้อำนาจในการบริหารประเทศมาทำร้ายประชาชนและประเทศชาติโดยตรง ผมทนไม่ไหว ถ้ามีการเซ็นสัญญาเข้าร่วมความตกลง CPTPP เมื่อไรจะนั่งแช่งทุกวัน ขอฝากให้ประชาชนช่วยกันจับตาการประชุมคณะรัฐมนตรี

ก่อนหน้านี้ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย ทีดีอาร์ไอ. เคยชี้ว่า การบังคับให้เข้าร่วมอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่ (UPOV1991) จะทำให้เกิดการผูกขาดเมล็ดพันธุ์และมิได้เป็นประโยชน์ต่อนักปรับปรุงพันธุ์และเกษตรกรไทย รวมถึงด้านสาธารณสุข ที่มีการจำกัดการประกาศบังคับใช้สิทธิของไทยที่ไม่รวมถึง public non-commercial use หรือเหตุผลการใช้เพื่อสาธารณะโดยไม่แสวงหากำไร ดังที่ประเทศไทยเคยใช้ในช่วงปี 2549-2550

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"พวงเพ็ชร" มาแล้วมอบสำนักพุทธจับมือ "พม." ตรวจสอบ พ่อ-แม่ ‘น้องไนซ์ เชื่อมจิต’ หากเข้าข่ายหลอกลวง ปชช. สั่งฟันทันที

เมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2567 นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีประชาชนเรียกร้องให้สำนักงานพระพุทธศาส...