วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2563

"เทพไท"เหน็บกลางสภาฯ รัฐบาล คสช. โกงมากกว่ารัฐบาลเลือกตั้ง



เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2563 นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายรายงานยุทธศาสตร์ชาติ และแผนการพัฒนาประเทศ ที่เสนอต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า เป็นครั้งแรกที่มีรายงานเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ชาติเข้าสู่การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมาจากแนวความคิด ของวิทยาลัยป้องกันราชณาจักร (วปอ.) ที่นักศึกษา วปอ.ทุกรุ่น จะต้องทำยุทธศาสตร์นำเสนอทุกปี และเมื่อ คสช. เข้ามายึดอำนาจบริหารประเทศ ก็นำเอาแนวความคิดยุทธศาสตร์ชาติมาเป็นแผนงานบริหารประเทศด้วย ซึ่งตนขออภิปรายในแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นที่ 21 การต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ ที่มี3เป้าหมายคือ 

1.เป้าหมายประชาชนมีวัฒนธรรมและพฤติกรรมซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งต้องปลูกฝังค่านิยมให้ประชาชนมีทัศนคติไม่นับถือคนโกง ตามคำพูดของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ  ที่บอกว่า อย่าไหว้ อย่าเคารพคนโกง จะมีบารมีมากแค่ไหนก็มีไป เราต้องแสดงความขยะแขยง รังเกียจพวกโกงชาติบ้านเมือง

2.เป้าหมายคดีทุจริตและประพฤติมิชอบลดลง อยากให้ไปดูสถิติดัชนีการทุจริตของของประเทศไทย ที่จัดโดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ที่จัดลำดับความโปร่งใสตั้งแต่ยุคนักการเมืองบริหารประเทศจนถึงยุคคสช. ซึ่งพบว่าแม้ไม่มีนักการเมืองบริหารประเทศก็ตาม แต่สถิติการโกงกินก็เพิ่มขึ้นอยู่ในอันดับ 101 ทั้งๆที่ในยุคที่รัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง ในปี 2552-54 ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ดัชนีความโปร่งใส อยู่ลำดับที่ 78 เท่านั้น แต่ปัจจุบันตั้งแต่ปี 2557-2562 มีลำดับเพิ่มขึ้นจากลำดับที่ 99 เป็น 101 แสดงให้เห็นว่าแนวโน้มปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นแย่ลง 

3.เป้าหมายการดำเนินคดีทุจริตมีความรวดเร็วเป็นธรรมโปร่งใสไม่เลือกปฏิบัติซึ่งในขณะนี้เห็นได้ชัดว่าการดำเนินคดีทุจริตไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติ มีการดำเนินคดีไม่ทุจริตไม่เที่ยงธรรม ถ้าเป็นพวกเดียวกันก็สามารถหลุดพ้นจากคดีได้ มีคดีหมดอายุความ หรือศาลฎีกามีคำพิพากษาตัดสินลงโทษแล้ว หนีคดีไม่ต้องติดคุก ใครเป็นพวกเดียวกันก็รอดพ้นจากคดีหมด การแจ้งบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ การวินิจฉัยทรัพย์สินยืมใช้คงรูป ไม่ต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อ ปปช. และการปฏิบัติหน้าที่ ขององค์กรอิสระไม่โปร่งใส ไม่ตรงไปตรงมา จึงทำให้ขัดต่อเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติ จึงอยากจะให้เป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติในด้านการต่อต้านทุจริตและประพฤติมิชอบเป็นจริง ก็ต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด และเท่าเทียมกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"พวงเพ็ชร" มาแล้วมอบสำนักพุทธจับมือ "พม." ตรวจสอบ พ่อ-แม่ ‘น้องไนซ์ เชื่อมจิต’ หากเข้าข่ายหลอกลวง ปชช. สั่งฟันทันที

เมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2567 นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีประชาชนเรียกร้องให้สำนักงานพระพุทธศาส...