พรรคเล็ก หนุน "บิ๊กตู่" ควบ รมว.คลัง ย้ำเหมาะสมเพราะเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ รู้ปัญหามาตลอด ขจัดปัญหากลุ่มการเมืองจ้องแซะเก้าอี้รัฐมนตรี พร้อมชง "บิ๊กป้อม" ควบ รมว.กลาโหม เหตุดูงานกลาโหมมาตลอดชีวิต สุขภาพแข็งแรงพร้อมรับภาระอีกทรวงได้ "มงคลกิตติ" มอง "สันติ" เสนอตัวนั่ง รมว.คลัง ต้องดูว่าประชาชนยอมรับหรือไม่ พร้อมยืนยันพรรคเล็กไม่แตะรัฐธรรมนูญหมวด 1-2 หนุนปิดสวิตช์ ส.ว.
วันที่ 2 ก.ย.2563 นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย และ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ร่วมกันแถลงข่าวในนาม 10 พรรคเล็ก ต่อกรณีที่นายปรีดี ดาวฉาย ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยนายพิเชษฐ กล่าวว่า การลาออกของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นสิ่งที่ประชาชนให้ความสนใจและถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้กำกับดูแลในเรื่องของเศรษฐกิจ เป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญที่ส่งผลต่อเสถียรภาพรัฐบาล ซึ่งทางกลุ่มพรรคเล็กได้มีการหารือกันในการนำเสนอทางออก เพื่อให้ประชาชนทั้งประเทศได้สบายใจว่า รัฐบาลมีทางออกและยังมีเสถียรภาพอย่างมั่นคง โดยเห็นว่าควรให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งมองว่านายกรัฐมนตรีมีความเหมาะสมที่จะควบตำแหน่งดังกล่าวเพราะเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจที่ทราบปัญหาต่างๆ มาเป็นอย่างดี ซึ่งหากนายกรัฐมนตรีควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็จะทำให้ปัญหากลุ่มต่างๆ ในพรรคการเมืองพยายามผลักดันคนของตัวเองเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหมดไป
ส่วนตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนั้น ขอเสนอให้นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เข้ามาดูแล โดยควบตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งมองว่ามีความเหมาะสมที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ ที่มีทั้งการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 และ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าไปตามปกติ สร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนต่างประเทศเกิดสบายใจว่าเราไม่ได้ขาดตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีจะพิจารณา
ด้านนายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ขอยืนยันว่ากลุ่มพรรคเล็กไม่ได้ออกมาเพื่อทวงถามโควตารัฐมนตรี เพราะขณะนี้ผ่านพ้นช่วงเวลาการปรับ ครม.แล้ว แต่เห็นว่านายกมนตรีมีความเหมาะสมเพราะเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจอยู่แล้ว หากนำบุคคลภายนอกจากภาคธุรกิจเข้ามาก็อาจจะหวั่นกลัวไม่กล้าเซ็นเอกสารต่างๆ เพราะกลัวว่าจะเกิดปัญหาตามมา โดยเฉพาะเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการกู้เงินซึ่งถือเป็นหน้าที่หลักของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในสถานการณ์ปัจจุบันที่เราต้องกู้เงินมาเพื่อใช้ในการฟื้นฟูผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตามพระราชกำหนดกู้เงิน 3 ฉบับ ซึ่งใครเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังก็กลัวว่าเมื่อออกจากตำแหน่งไปแล้วจะถูกดำเนินคดีในภายหลัง เพราะการตัดสินใจต่างๆ หากเกิดความเสียหายก็มีโอกาสสูงที่จะถูกดำเนินคดีหลังจากหมดอำนาจไป แต่นายกรัฐมนตรีรู้จักป่าทั้งป่า ก็จะกล้าเซ็นและไม่กังวลกับสิ่งที่เซ็นไปแล้วว่าจะเกิดผลกระทบอะไรตามมาภายหลัง ประเทศจะไปข้างหน้าหรือถอยหลังยังไงท่านนายกรัฐมนตรีก็ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว ส่วนเรื่องสุขภาพก็เป็นประเด็นที่สำคัญ เพราะหากสุขภาพไม่ดีการตัดสินใจในการบริหารราชการแผ่นดินมันจะมีปัญหาไปด้วย จึงควรหารัฐมนตรีที่ยังหนุ่ม อายุน้อยเข้ามา
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่า นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง มีความเหมาะสมที่จะรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือไม่ นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับพรรคพลังประชารัฐที่จะพิจารณาว่าท่านเหมาะหรือไม่ แต่ผมเชื่อว่าท่านมีความกล้าในการใช้เงินกู้แน่นอน แต่ก็ต้องดูว่าประชาชนจะยอมรับได้หรือไม่หากนายสันติเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาเรามีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังที่มาใช้เงิน แต่เรายังไม่มีรัฐมนตรีที่หาเงินเก่งๆ เข้ามา
ขณะเดียวกัน ยืนยันว่าการเสนอให้พลเอกประวิตร ควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไม่ใช่เป็นการมาทวงตำแหน่งให้พลเอกประวิตร แต่เห็นว่าท่านพลเอกประวิตรมีร่างกายแข็งแรงมากขึ้น หน้าตาแจ่มใส สามารถรับภาระได้อีกหนึ่งกระทรวง ซึ่งท่านทำงานกระทรวงกลาโหมมาทั้งชีวิตอยู่แล้ว แต่หากท่านนายกฯ จะควบตำแหน่งทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมผมกลัวว่าท่านนายกฯ จะได้นอนหลับวันละไม่ถึงชั่วโมง ผมเป็นห่วงสุขภาพของท่าน
นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า กลุ่มพรรคเล็กไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 1-2 แต่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 การตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร. ที่มาจากการเลือกตั้ง เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 คือการปิดสวิตช์สมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. เพื่อตัดอำนาจในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จแล้ว ก็ต้องคืนอำนาจให้กับพี่น้องประชาชน ก็คือเข้าสู่สนามการเลือกตั้งต่อไป
ส่วนกรณีการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือนั้น อยากขอบคุณที่นายกรัฐมนตรียังฟังเสียงของพี่น้องประชาชน ซึ่งสามารถนำงบประมาณอีก 20,000 ล้านบาท ไปช่วยเหลือแก้ไขปัญหาให้ประชาชนในด้านอื่นๆ ขณะที่การชุมนุมของกลุ่มนักศึกษาที่จะเกิดขึ้น เราก็ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างถูกต้อง ผู้ชุมนุมสามารถชุมนุมได้ตามกรอบของกฎหมาย ไม่ก้าวล่วงสถาบันเบื้องสูง แสดงออกตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งเราพร้อมที่จะไปให้กำลังใจกับน้องๆนักศึกษา ในการแสดงออกในสิ่งที่ถูกต้อง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น