วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2563

"วิสาร"แจงเหตุกรีดแขนกลางสภา ลั่นขอเป็นเลือดสุดท้ายพร้อมพลีชีพเพื่อคนไทย

 


"วิสาร" ลั่นขอเป็นเลือดสุดท้ายของคนไทย! แจงเหตุกรีดแขนกลางสภาต้องการให้นายกฯ ฟังข้อเรียกร้องบ้าง อัดอั้นแทนเยาวชน หลังประชุมสภาไม่เห็นทางออก ถ้าตัวคนเดียวพร้อมพลีชีพ

เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2563  นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวหลังกลับมาจาก รพ.วชิรพยาบาล หลังจากที่กรีดเลือดกลางสภาว่า ขออภัยทำให้ตกอกตกใจ เย็บไป 9 เข็มตลอดระยะเวลาเล่นการเมืองมา 34-35 ปี ไม่มีครั้งไหนกดดัน ตนเห็นเด็กชุมนุมในวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่ดูแล้วไม่เป็นที่สนใจของนายกรัฐมนตรี ยังคิดเหมือนเดิม อยากให้อันนี้เป็นเลือดสุดท้ายของคนไทย ตนเคยผ่านเหตุการณ์ 14 ตุลาคมมาแล้ว ตนก็ไม่อยากให้คนไทยเสียเลือดเนื้ออีก วงล้อประวัติศาสตร์ดูแล้วจะไม่มีทางออก เวลาในสภาน้อยไปหน่อย น่าจะให้ พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีอยู่ด้วย เพราะต้องการสื่อสารกับท่านโดยตรง 

อยากเตือนว่าอย่าไปฟังเสียงอวยอย่างเดียว ในสภาเหมือนกะลาครอบ ควรจะเรียกร้องให้ท่านสนใจ และหลังจากนี้ท่านคนไปย้อนดู และไม่อยากให้ตัดสินใจผิดๆ ตอนนี้ท่านอำนาจล้นฟ้าก็อยากให้ลดลงมามองเด็กๆ เปิดโอกาสให้นั่งคุยกันอย่างเปิดอก การประชุมรัฐสภา มันไม่ใช่คู่ขัดแย้งที่ประชาชนจะเชื่อใจได้ ต้องให้เด็กๆ มาเล่าให้ฟัง ตนห่วงข้อเรียกร้องสุดท้ายก็ต้องลดทิฐิมาคุยกัน รวมทั้งการแก้รัฐธรรมและการลาออกทุกอย่างจะแก้ได้ ถ้าตนตัวคนเดียวพร้อมฆ่าตัวตาย แต่มันไม่เกิดประโยชน์ อยากเรียกร้องให้นายกฯ ลงมา ตอนนี้ประชาชนข้างนอกเลยไปกว่านั้น

ตนขออภัยประธานและสภา ตั้งแต่เป็น ส.ส. 9 สมัยไม่เคยทำผิด แต่นายกรัฐมนตรีต้องลงมาแก้ปัญหาและใช้โอกาสตรงนี้ ย้ำว่า ท่านจะเป็นวีรบุรุษหรือทรราชก็อยู่ตรงนี้ ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงใย และขออภัยให้วุ่นวายไม่มีความเป็นอย่างอื่น ยืมมีดปลอกผลไม้ของแม่บ้าน ไม่ได้พกมาเอง และไม่ได้บอกคนในครอบครัว เป็นการประท้วงและยอมเจ็บตัวคนเดียวให้

นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาที่จะลงมาเยี่ยม และพบกับนายวิสารที่ชั้น 1 ของอาคารสุริยันพอดี กล่าวว่ามันเกิดขึ้นแล้วก็เป็นห่วง ตนให้เจ้าหน้าที่รายงาน ตนกำลังจะไปเยี่ยม ขณะที่นายวิสาร เดินเข้ามาไหว้ขอโทษประธานรัฐสภา นายชวนกล่าวว่า ต้องอดทน มีดปลอกผลไม้ก็ไปล้างก่อน และถือว่าไม่ได้เอาอาวุธเข้าไปในรัฐสภา เพราะมีดปลอกผลไม้อยู่ในสภาอยู่แล้ว ยอมรับว่าตนไม่เห็นด้วย ก็ห้ามแล้ว ตอนนี้ก็เข้าใจ และบอกว่าการเมืองก็ต้องอดทนในการแก้ไข กว่าจะไปสู่เป้าหมายความสำเร็จไม่มีอะไรง่าย และกลัวเป็นบาดทะยัก

นายวิสาร กล่าวอีกว่า ตนไม่อยากโต้ตอบ ส.ส. ปารีณา ไกรคุปต์ ตนเก็บความรู้สึกในใจอัดอั้นมาตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม ตนไม่ได้กินข้าวกลางวันและกินยาความดัน เพราะคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะทำอย่างไร ตอนนี้ก็อาการดีขึ้นแล้ว ยอมรับว่าตนเตรียมมา 2-3 วัน ยังไงก็เหมือนเป็นการแสดงและเรียกร้องยังไงเขาก็ไม่เชื่อ ส.ว. ก็อวยกันเอง ฝ่ายค้านก็ติกันเอง แต่ไม่ใช่คู่ขัดแย้ง ตนกลัววงล้อประวัติศาสตร์ ตนทำให้นายกรัฐมนตรีหันมามอง เพราะที่ผ่านมาที่ตนเรยเรียกร้องก็ฟังแต่พวกกันเอง แล้วขณะนี้ก็บานปลาย แถมยังไม่มีการให้ใช้สื่อประกอบ ตนอยากให้เป็นการเรียกร้องถึงนายกรัฐมนตรีโดยตรง ไม่อยากให้ใครเสียเลือดเนื้อหรือคนไทยฆ่ากันเอง ตนไม่มีวิธีไหนสื่อให้นายกฯ ได้รู้ อีกทั้งนายกรัฐมนตรียังเอาสถาบันมาปกป้องตัวเอง ก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ตนวางแผนแล้วก็รู้ว่าแม่บ้านที่ปลอกผลไม้อยู่หน้าห้องประชุม ก็บอกแม่บ้านว่าลับให้คมๆ ไม่ต้องการให้นายกฯ ฟังแต่พวกตัวเอง ฟังพวกเราบ้าน ไม่ใช่ไปเชื่อว่าจักรวรรดิมาครอบงำการชุมนุม ควรชวนเด็กๆ เข้ามานั่งคุยกันในสภา เพื่อหาทางออกของปนะเทศชาติ ถ้าขึ้นไปเจอหน้านายกรัฐมนตรีตนยินดีกราบ ถ้าจะให้น้องๆ ไม่อันตราย ย้ำว่าตั้งใจและอยากให้เสียงดังไปถึงนายกรัฐมนตรี ไม่อยากให้ฟังความข้างเดียว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วธ.ร่วมสืบสานพิธีบรรพชาสามเณรและบวชศีลจาริณี ส่งเสริมให้เยาวชนเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2567  นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา ร่วมกับคณะสงฆ์ ...