“พิชัย” ถาม “ประยุทธ์” ปฏิวัติเงียบใช่หรือไม่ ห่วงยิ่งซ้ำเติมเศรษฐกิจ จี้ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทยถอนตัว เพื่อไล่ประยุทธ์ออกไป เชื่อ คนรุ่นใหม่คือความหวัง คนแก่ถ่วงความเจริญหมดยุคแล้ว
วันที่ 16 ต.ค.2563 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ กล่าวในงานเสวนา “ผู้นำท้องถิ่นกับเศรษฐกิจไทย” ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ว่า แม้ว่าผู้นำท้องถิ่นจะมีความสำคัญ แต่ในสถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบันคงไม่ต้องพูดถึงผู้นำท้องถิ่นแล้ว เพราะปัญหาของผู้นำประเทศจะหนักมากกว่ามาก หากปล่อยให้ประเทศบริหารแบบนี้ประเทศไทยจะล้มเหลวทุกด้านอย่างแน่นอน สภาพปัจจุบันที่เกิดขึ้นยังไม่แน่ใจเลยว่าประเทศไทยเกิดการปฏิวัติเงียบขึ้นแล้วใช่หรือไม่ จึงอยากถามไปยังพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง และจับแกนนำทั้งหมดเหมือนรวบอำนาจ แต่กลับทำให้มีการชุมนุมมากยิ่งขึ้นในบริเวณราชประสงค์เมื่อเย็นวานนี้
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน 2-3 วันที่ผ่านมานี้ ข่าวได้กระจายไปทั่วโลกแล้ว และได้สร้างความเสียหายกับภาพพจน์ประเทศ ทำลายความเชื่อมั่นของประเทศไทยอย่างหมดสิ้น หมดหวังแล้วที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์จะสามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้อีกต่อไป และขอเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ลาออกในทันทีเพื่อแสดงความรับผิดชอบ และเพื่อปลดชนวนความวุ่นวายของประเทศ และขอเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากร่วมรัฐบาลมิเช่นนั้นประชาชนจะจดจำไว้ว่ามีพรรคการเมืองไหนบ้างที่ร่วมสร้างความเสียหายให้กับประเทศ และทำร้ายประชาชน
ทั้งนี้ปัจจุบัน คนรุ่นใหม่รวมถึง นักเรียน นักศึกษา รู้ซึ้งเป็นอย่างดีว่าปัญหาการบริหารเศรษฐกิจที่ล้มเหลวของพลเอกประยุทธ์มาตลอด 6 ปี และมาซ้ำเติมโดยวิกฤตการณ์ไวรัสโควิด จะทำให้อนาคตพวกเขามีปัญหาแน่ ถึงพวกเขาตั้งใจเรียนเรียนได้ดี จบการศึกษาสูง ก็จะหางานทำไม่ได้ เศรษฐกิจไทยที่ย่ำแย่มาโดยตลอด การส่งออกที่ทรุดหนัก และการลงทุนที่หายไป จะทำให้การจ้างงานหายไปด้วย ยิ่งเศรษฐกิจไทยปีนี้จะติดลบอาจจะถึง -10.4 % ตามที่ธนาคารโลกคาดการณ์ จะทำให้การจ้างงานแทบไม่มีเลย แถมจะตกงานเพิ่มขึ้นกันอีกมาก
อีกทั้ง การใช้เงินของรัฐบาลจำนวนมากเป็นไปอย่างสเปะสะปะ ฟื้นเศรษฐกิจไม่ได้ มีแต่แจกเงินอย่างเดียว แต่ไม่ได้พัฒนาความสามารถในการแข่งขัน อีกทั้งจะเก็บภาษีได้ต่ำกว่าเป้า ซึ่งจะทำให้หนี้สาธารณะของไทยพู่งทะลุ 60% ทำให้รัฐบาลในอนาคตจะมีปัญหาในการกู้เงินเพิ่มเพื่อฟื้นเศรษฐกิจ แถมงบประมาณก็ยังทำแบบเก่าๆ ทั้งที่สถานการณ์ของโลกเปลี่ยนไปแล้ว ตลอด 6 ปี มีการเพิ่มงบทางการทหารแบบไม่มีเหตุผล มีนายพลมากเกินจำเป็น และต้องเลิกเกณฑ์ทหารได้แล้ว จะเอาทหารเกณฑ์ไปรับลูกกระสุน หรือ รับระเบิด ที่ยิงมาจากโดรนไปทำไม แถมล่าสุดยังมีการนำเงินไปทำไอโอ จนถูกทวิตเตอร์จับได้และปิดบัญชีไป 926 บัญชี ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก
หนี้ครัวเรือนทะลุ 83.8% และสิ้นปีจะทะลุ 90% และหนี้ธุรกิจที่กำลังจะเจ๊งมาก จะทำให้หนี้เสียของระบบธนาคารพุ่งสูง ซึ่งจะทำให้ คนรุ่นใหม่ นอกจากจะตกงานและไม่มีงานทำแล้ว การจะกู้ยืมเงินเพื่อทำทุนหรือเพื่อใช้จ่ายก็จะทำไม่ได้ เพราะธนาคารที่มีหนี้เสียมากจะไม่ปล่อยกู้ และจะต้องไปกู้หนี้นอกระบบแทน ที่คิดดอกเบี้ยเงินกู้อย่างมหาโหด ไม่มีทางที่จะกู้ไปทำธุรกิจอะไรแล้วจะกำไร อีกทั้งจะโดนทวงหนี้อย่างโหดร้าย และอาจข่มขู่ครอบครัวจนอาจต้องฆ่าตัวตาย ตามที่เห็นในข่าวบ่อยๆ ในช่วงรัฐบาลพลเอกประยุทธ์
อีกทั้ง เมื่อนำผู้นำของประเทศของเราไปเปรียบเทียบกับผู้นำของประเทศอื่น พวกเขารู้ได้ทันทีว่าไม่มีทางเลยที่ผู้นำเราจะสามารถพัฒนาประเทศให้รุ่งเรืองได้ ทั้งระดับสติปัญญาและความสามารถ แถมยังแสดงความด้อยปัญญาให้ประชาชนได้รับรู้อยู่บ่อยครั้ง ทุกวันนี้มีแต่บอกว่าเศรษฐกิจไทยยังดีอยู่ ไทยยังดีกว่าประเทศอื่นมาก ทั้งที่ไม่เป็นความจริง เหมือนที่มีคนบอกว่ารัฐบาลนี้ชอบโกหก ซึ่งต้องเลิกโกหกได้แล้ว เพราะการที่รัฐบาลไม่ยอมรับรู้ปัญหาที่แท้จริง รัฐบาลจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ และคนจะทนกันไม่ไหว และพลเอกประยุทธ์ยังยอมรับเองว่า ตื่นมาก็ถูกประชาชนรุมด่าแล้ว โดยไม่ดูเลยว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นมาจากตัวเองทั้งหมด
ตลอด 6 ปีที่ผ่านมานี้ประเทศไทยไม่ได้สร้างความมั่นใจให้กับประชาคมโลกเลย การค้าการลงทุนจึงหดหาย โดยได้ไหลไปประเทศเพื่อนบ้านหมด ซึ่งหากไทยยังไม่รู้ตัวและไม่เร่งแก้ไข ไทยจะทรุดลงอย่างรวดเร็ว ประกอบกับการเกิด disruption ทางเทคโนโลยีของโลก ก็จะยิ่งทำให้ไทยยิ่งแย่ลงอย่างรวดเร็ว
ดังนั้นการตื่นตัวของคนรุ่นใหม่ใหม่เป็นเรื่องที่น่าชื่นชม แนวทางต่างๆ ที่คนรุ่นใหม่นำมาใช้ก็สร้างสรรค์อย่างมาก ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าในอนาคตประเทศไทยจะอยู่ในมือของคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถที่เก่งพอ เพราะทุกคนต้องไม่ลืมว่าประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุที่จะมีสัดส่วนของคนแก่เพิ่มขึ้นมาก หากคนรุ่นใหม่ไม่เก่งพอ จะไม่สามารถหารายได้เพื่อเลี้ยงดูคนแก่เหล่านี้ได้ คนจะเดือดร้อนกันอย่างมาก ประเทศจะเข้าสู่ภาวะที่ยากลำบากได้เลย
ถึงเวลาแล้วที่คนรุ่นเก่าที่ตกยุคและถ่วงการพัฒนาจะต้องลาออกและให้คนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาทำหน้าที่บริหารประเทศแทนได้แล้ว หากท่านยังไม่รู้ตัวว่าเป็นคนถ่วงความเจริญ ในไม่ช้าประวัติศาสตร์จะจดจำความเสียหายที่ท่านสร้างให้กับประเทศอย่างไม่มีใครลืมเลย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น