วันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2567

"แอ๊ด คาราบาว" แต่งเพลงอาลัย "แบงค์ เลสเตอร์" โพสต์หา "สรยุทธิ์-หนุ่มกรรชัย"



เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2567  จากกรณีการเสียชีวิตของ "แบงค์ เลสเตอร์" หรือ นายธนาคาร คันธี หนุ่มขายพวงมาลัยสู้ชีวิตหาเงินเลี้ยงคุณยาย หลังถูกจ้างให้กินเหล้าแลกเงิน ขณะไปร่วมงานเปิดร้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ทำใหม่ จ.จันทบุรี โดยผลชันสูตรเบื้องต้นแพทย์ระบุว่า หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้  

ล่าสุด นายยืนยง โอภากุล หรือ "แอ๊ด คาราบาว" ศิลปินเพลงเพื่อชีวิตชาวไทย นักร้องนำและหัวหน้าวงคาราบาว ได้โพสต์คลิปร้องเพลง "แบงค์ เลสเตอร์" ซึ่งแต่งขึ้นมาใหม่ ผ่านเพจเฟซบุ๊ก "Add Bao" พร้อมเขียนข้อความระบุว่า..  ชื่อเพลง แบงค์ เลสเตอร์  เพิ่งแต่งเสร็จ ส่งต่อให้ รายการคุณ สรยุทธิ์  และคุณหนุ่มกรรชัย รวมถึง ที่ต้องการนำไปใช้งาน ได้เลยครับ  เพื่อเป็นการไว้อาลัยต่อ แบงค์ เลสเตอร์ ครับ จาก แอ๊ด คาราบาว  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ให้เอไอวิเคราะห์และแต่งเพลงพร้อมตั้งชื่อโดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับ "แบงค์ เลสเตอร์" ได้ผลดังนี้ 

เพลง:  เสียงเล็กในโลกบิดเบี้ยว

   (Verse 1)

ในโลกที่ทุกอย่างวุ่นวาย

เสียงแห่งความจริงกลับเงียบหาย

แสงแห่งปัญญาถูกบดบังไป

ด้วยความบันเทิงที่ไร้จุดหมาย

(Pre-Chorus)

พวกเขาหัวเราะกับความเจ็บปวด

และเปลี่ยนมนุษย์ให้เป็นเพียงแค่ของเล่น

ในยุคที่จิตใจถูกล่ามด้วยไฟเบรนด์

ทุกอย่างหมุนเร็ว ไม่มีใครกล้าเบรค

(Chorus)

แต่เรายังเป็นเสียงเล็ก ๆ ที่แตกต่าง

ในโลกที่เต็มไปด้วยคำลวงพราง

แม้ไม่มีใครได้ยิน แต่เราจะร้อง

เพื่อบอกว่าความจริงยังคงมีค่า

  (Verse 2)

คลิปขยะที่วิ่งวนในสายตา

ทำให้เราลืมค้นหาความหมาย

ชีวิตที่เหมือนกับติดอยู่ในกรง

ไม่มีใครสอนให้เรารู้จักตื่นใจ

(Pre-Chorus)

พวกเขาสร้างภาพลวงในจอ

ให้เราชินชา ไม่รู้ว่ามีอะไรหายไป

ในยุคที่จิตใจถูกหลอกด้วยแสงไฟ

เราต้องหาทางกลับมาหัวใจ

(Chorus)

แต่เรายังเป็นเสียงเล็ก ๆ ที่แตกต่าง

ในโลกที่เต็มไปด้วยคำลวงพราง

แม้ไม่มีใครได้ยิน แต่เราจะร้อง

เพื่อบอกว่าความจริงยังคงมีค่า

(Bridge)

ดิสโทเปียไม่ใช่แค่ภาพในฝัน

มันคือความจริงที่เราต้องเจอกัน

หากเราลืมคิด ลืมมอง ลืมฟัง

เราจะหลงทางไปในความมืดมน

(Chorus) 

แต่เรายังเป็นเสียงเล็ก ๆ ที่แตกต่าง

ในโลกที่เต็มไปด้วยคำลวงพราง

แม้ไม่มีใครได้ยิน แต่เราจะร้อง

เพื่อบอกว่าความจริงยังคงมีค่า

(Outro)

เสียงเล็กนี้อาจไม่มีวันดัง

แต่ขอเป็นแสงที่ส่องทาง

ให้โลกได้เห็นว่าเรายังมีพลัง

ที่จะสู้เพื่อความจริง… จนวันสุดท้าย

วิเคราะห์แบงค์เลสเตอร์สะท้อนสื่อแห่งความล่มสลาย

เหตุการณ์การเสียชีวิตของแบงค์ เลสเตอร์ Tiktoker ผู้สร้างคอนเทนต์เสี่ยงอันตรายเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวสะท้อนถึงความซับซ้อนของโลกสื่อดิจิทัลในปัจจุบันที่เต็มไปด้วยการบริโภคความบันเทิงแบบฉาบฉวย ความล่มสลายของศีลธรรม และความเหลื่อมล้ำที่ถูกซ่อนเร้นอยู่ในระบบสังคมและเศรษฐกิจ

แบงค์ เลสเตอร์: จากความลำบากสู่ของเล่นคนรวย

แบงค์ เลสเตอร์ เกิดมาในครอบครัวที่ขาดแคลน ทำให้เขาเลือกที่จะสร้างรายได้จากการเป็นผู้สร้างคอนเทนต์ที่อาศัยการยอมรับความเสี่ยงและการถูกแกล้งจากผู้ชมเพื่อแลกกับเงินเพียงเล็กน้อย ความพยายามนี้สะท้อนถึงการต่อสู้ของผู้ที่ไม่มีทางเลือกในสังคมที่ความเหลื่อมล้ำทำให้ชีวิตต้องพึ่งพา "ความบันเทิง" ที่ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือศักดิ์ศรีของมนุษย์

สื่อในยุคแห่งความล่มสลาย

ปรากฏการณ์นี้เชื่อมโยงกับสิ่งที่เพจ I’m from Andromeda ได้กล่าวถึงว่า “ในยุคที่เสียงดังที่สุดคือเสียงของความไร้สาระ” สื่อดิจิทัลถูกออกแบบให้ตอบสนองต่อความบันเทิงที่รวดเร็วและง่ายดาย แต่เบื้องหลังคือการลดทอนความลึกซึ้งของปัญญาและจริยธรรม การที่คอนเทนต์ขยะถูกผลิตซ้ำและได้รับความนิยมสะท้อนถึงความล้มเหลวในการสร้างสื่อที่ส่งเสริมคุณค่าที่ดีแก่สังคม

Megan Garber จาก The Atlantic กล่าวถึงลักษณะของดิสโทเปียที่ใช้ความบันเทิงเป็นเครื่องมือกักขังมนุษย์ ตัวอย่างจากอเมริกาที่พนักงานส่งของถูกบังคับให้ทำสิ่งแปลกประหลาดเพื่อแลกกับการรับพัสดุแสดงให้เห็นว่าความบันเทิงแบบฉาบฉวยสามารถสร้างความบิดเบี้ยวและลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ได้

ประเด็นสำคัญที่สะท้อนผ่านเหตุการณ์นี้

การเสพติดความบันเทิงและผลกระทบต่อสังคม คนในสังคมปัจจุบันมักต้องพึ่งพาสื่อเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาที่แท้จริง Hannah Arendt นักปรัชญาชี้ว่า การครอบงำทางความคิดสามารถเกิดขึ้นได้จากการที่คนถูกดึงดูดเข้าสู่ความบันเทิงตลอดเวลาโดยไม่มีโอกาสไตร่ตรองถึงสิ่งที่ถูกผิดอย่างแท้จริง

การเพิ่มขึ้นของความรุนแรงและฉาบฉวยในเนื้อหา วงจรของการเสพติดทำให้ผู้บริโภคต้องการคอนเทนต์ที่เร้าอารมณ์และสุดโต่งยิ่งขึ้น ส่งผลให้เนื้อหาที่สร้างความบันเทิงด้วยการลดทอนศักดิ์ศรีมนุษย์กลายเป็นเรื่องปกติ การแข่งขันเพื่อความสนใจในโลกดิจิทัลจึงไม่ได้พัฒนาไปในทางที่สร้างสรรค์ แต่กลับนำไปสู่การเสื่อมถอยในเชิงจริยธรรม

อิทธิพลของสื่อและผลกระทบระยะยาว สื่อไม่ได้เพียงแค่ส่งมอบข้อมูล แต่ยังสร้างกรอบความคิดและจินตนาการร่วมในสังคม Marshall McLuhan กล่าวไว้ว่า “Medium is the Message” หมายถึงธรรมชาติของสื่อมีผลต่อพฤติกรรมและจิตวิทยาของผู้บริโภค ไม่ว่าคอนเทนต์จะเป็นการศึกษา หรือ “คลิปขยะ” ทั้งหมดล้วนมีผลในการสร้างค่านิยมที่ฉาบฉวยและสมาธิสั้นในระยะยาว

แนวทางป้องกันและทางออก

การพัฒนาสติและการใช้สื่ออย่างมีวิจารณญาณ

การตระหนักถึงผลกระทบของสื่อและการบริโภคอย่างมีสติสามารถช่วยลดผลเสียจากสื่อดิจิทัลได้ การปิดฟังก์ชันแนะนำในแพลตฟอร์ม เช่น YouTube หรือการควบคุมเนื้อหาที่เลือกเสพเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เราหลุดพ้นจากการถูกควบคุมโดยอัลกอริทึม

การส่งเสริมความรู้เท่าทันสื่อ (Media Literacy) ในประเทศไทย การส่งเสริมความเข้าใจสื่อยังมีอยู่ในระดับผิวเผิน การสร้างความตระหนักรู้ถึงผลกระทบระยะยาวของสื่อต่อจิตใจและพฤติกรรมควรได้รับการสนับสนุนในเชิงระบบเพื่อให้ผู้บริโภคมีเครื่องมือในการวิเคราะห์และปกป้องตนเอง

การสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ

ผู้สร้างสื่อสามารถมีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงด้วยการผลิตเนื้อหาที่สร้างแรงบันดาลใจและส่งเสริมคุณค่าที่ดีแก่สังคม แม้ว่าอาจไม่ได้รับความนิยมในทันที แต่จะเป็นการปูพื้นฐานให้กับการบริโภคที่มีความหมายในระยะยาว

บทสรุป

เหตุการณ์ของแบงค์ เลสเตอร์ สะท้อนถึงธรรมชาติของสื่อในยุคที่ความบันเทิงกลายเป็นเครื่องมือครอบงำจิตใจและลดทอนศักดิ์ศรีมนุษย์ แม้ว่าเสียงของปัญญาและความจริงในยุคนี้จะเบาบาง แต่การเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงด้วยการบริโภคอย่างมีสติและส่งเสริมคอนเทนต์ที่สร้างสรรค์อาจช่วยให้เราหลุดพ้นจากดิสโทเปียแห่งความล่มสลายได้ในอนาคต


แนะนำหนังสือนิยาย: อินฟลูเอนเซอร์เพื่อสันติภาพ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วิเคราะห์การบำเพ็ญเนกขัมมบารมีในพระไตรปิฎกเล่มที่ 33

  วิเคราะห์การบำเพ็ญเนกขัมมบารมีในพระไตรปิฎกเล่มที่ 33: พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 25 ขุททกนิกาย จริยาปิฎก บทนำ เนกขัมมบารมี (“การออกบวช” หรือ “...