ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กรกฎาคม, 2013

เปิดนักกวีลาวซิวโล่'สุนทรภู่'คู่'เนาวรัตน์'

              เป็นที่ทราบกันดีว่าวันที่ 26 มิ.ย.เป็นวันสุนทรภู่กวีเอกของประชาชนชาวไทยและได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติจากยูเนสโกให้เป็นบุคคลสำคัญของโลกในปี พ.ศ.2529 และมีการจัดกิจกรรมเพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของท่านเพื่อเป็นการกระตุ้นให้บุคคลเจริญรอยตามเป็นประจำทุกปี                ขณะเดียวกันในปี 2558 จะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการส่งเสริมบทบาทของประเทศไทยในการเสริมสร้างความเข้าใจระหว่างประชาชนในประเทศสมาชิกอาเซียนผ่านงานกวีนิพนธ์  จึงร่วมมือจากสมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย ริเริ่มที่จะมอบรางวัลสุนทรภู่ระดับอาเซียนขึ้นหรือเรียกว่า "Sunthorn Phu Award "  ให้แก่กวีดีเด่นขอประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อเป็นอนุสรณ์และเผยแพร่เกียรติคุณของสุนทรภู่ให้กว้างขวางออกไป อีกทั้งเป็นการส่งเสริมบทบาทของประเทศไทยในการเสริมสร้างความเข้าใจระหว่างประชาชนในประเทศสมาชิกอาเซียนผ่านงานกวีนิพนธ์ รวมถึงมีความหวังให้เทียบชั้นรางวัลซีไรท์                มีหลักเกณฑ์การคัดเลือกโดยจะดูจากคุณสมบัติของกวี ได้แก่ 1.เป็นกวีผู้มีสัญชาติประเทศสมาชิกอาเซียนและยังมีชีวิตอยู

'บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์'พ่อพระของผู้ทุกข์ยาก

              'บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์' นอกจากจะเป็นดารานักแสดงแล้ว ยังมีจิตเป็นกุศลช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ตกทุกข์ได้ยากได้บรรเทาลงบ้าง               ผู้ติดตามเฟซบุ๊กของ"บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์"ระยะหลังนี้จะเห็นว่ามีการโฟสต์ภาพที่เขาไปให้กำลังใจโดยไม่เลือกชนชั้นหรือศาสนา อย่างเช่นล่าสุดได้โฟสตข้อความเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ความว่า "สวัสดีครับเพื่อนๆ..ตอนนี้ผมอยู่ที่ จ.หนองคายมาเยี่ยมคุณยายคูน สีหะรักษา อายุ 101ปี อยู่ ต.ปะโก อ.เมือง จ.หนองคาย คุณยายมีลูก 11คน แต่ล่ะคนก็ตายจากคุณยายไปเหลืออยู่ 4 คน แต่ละคนก็มีฐานะยากจน จึงไม่ค่อยได้ดูแลคุณยายเท่าไร              คุณยาย หูไม่ดี ตามัว เดินไม่ได้ เวลาไปไหนก็จะไถตัวไป กินข้าวได้วันละ4-5 คำ คุณยายอยู่กับลูกชายบางวันก็ได้กินบางวันก็ไม่ได้กิน จะมีชาวบ้านเอาขนมบ้างข้าวบ้างมาให้ คุณยายพูดเก่งแต่ไม่ค่อยรู้เรื่องไม่เคยไปหาหมอเพราะกลัวเข็มแต่ไม่ค่อยเป็นอะไรเท่าไร..วันนี้ผมมอบเงินให้ยาย 10,000บาทและสำนักงานกองสลากอีก 10,000บาท เพราะไม่อยากให้มากกลัวมีคนมาเอาไป               คุณยายขอบคุณและให้สินให้พรนานมากครับ แต่ท่านใดจะช่วยเหลือก็ยินด

ศรีลังกาฉลอง'นิกายสยามวงศ์'260ปี โชว์'พระราชสาส์นพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ'

               เสร็จสิ้นลงแล้วสำหรับภารกิจของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่เดินทางไปเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาเมื่อวันที่ 31 มิถุนายน พ.ศ.2556 เพื่อร่วมการเฉลิมฉลอง 260 ปีแห่งการสถาปนานิกายสยามวงศ์ในศรีลังกา                ในการนี้นางสาวยิ่งลักษณ์ยังได้กล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมรัฐสภาศรีลังการะบุว่า "ในโลกปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีการแข่งขันที่รุนแรงในระบบเศรษฐกิจทุนนิยม มีความวุ่นวายทางการเมือง และความผันผวนสังคม เราจึงต้องร่วมมือกันส่งเสริมพุทธศาสนาซึ่งเป็นศาสนาที่เน้นความอดทน อดกลั้น และสอดคล้องกับวิถีชีวิตของมนุษย์ และจะนำมาซึ่งสันติภาพ ไม่เพียงแต่สำหรับปัจเจกบุคคล แต่รวมถึงมนุษยชาติ"                พร้อมกันนี้นางสาวยิ่งลักษณ์ได้เยี่ยมชมวัด 3 แห่งของศรีลังกา เริ่มจากวัดทีปทุตตมาราม ในกรุงโคลัมโบ ต่อด้วยการเดินทางไปยังเมืองแคนดี้เพื่อเยี่ยมชมวัดมัลวัตตะ โดยมีพระมหานายกและพระสงฆ์ฝ่ายมัลวัตตะเจริญชัยมงคลคาถาให้นายกรัฐมนตรีและคณะ ก่อนจะเดินทางต่อไปเยี่ยมชมวัดอัสกิริยะ โดยนายกรัฐมนตรีถวายดอกไม้สักการะพระประธานและนมัสการพระอูดูก

3มิ.ย.วัน'เสฐียร พันธรังษี'รำลึก

               "เสฐียร พันธรังษี"ศาสตราจารย์แห่งธรรมะนักเขียน                ศาสตราจารย์เสฐียร พันธรังษี ราชบัณฑิตทางพุทธปรัชญา และวิชาการหนังสือพิมพ์ เป็นอาจารย์ ผู้มีลูกศิษย์มากมายในบ้านเมืองนี้ เพราะเป็นผู้มีความสำคัญต่อการสอนวิชาการหนังสือพิมพ์และจรรยาบรรณแก่นักศึกษา เป็นอาจารย์สอนที่คณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จนปี 2522 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นศาสตราจารย์ทางวิชาการหนังสือพิมพ์ โดยมีความถนัดและเชี่ยวชาญงานเขียน โดยเฉพาะตำรางานวิชาการ ทั้งด้านการศึกษา ประวัติศาสตร์ ศาสนา และเรื่องราวต่างประเทศ                โดยเฉพาะศาสนา ซึ่งเป็นธรรมสากลสำหรับสังคม เป็นเครื่องประคับประคองสังคมให้ตั้งอยู่ได้ ช่วยขัดเกลาสังคมให้พ้นจากความดุร้ายมาสู่ความเห็นอกเห็นใจรักใคร่สามัคคีกัน ศาสนามิได้เป็นสมบัติของชาติหนึ่งหรือกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะ แต่ทางแห่งการปฏิบัติธรรมในศาสนาเพื่อความเรียบร้อยของสังคมนั้น ย่อมมีความแตกต่างกันไปตามลักษณะภูมิประเทศและสังคม เป็นคำนิยมที่ เสถียร พันธรังษี ร่ายเป็นบทนำในหนังสือ ศาสนาเปรียบเทียบ                สำหรับ เสฐียร พันธรังษี และคู่หูอย่าง เฉลิม วุฒิ

พระไทยหนึ่งเดียวผงาดบนเวทีศก.โลกที่พม่า

               ปิดฉากลงแล้วสำหรับการประชุมเศรษฐกิจ 'เวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรัม' ในเอเชียตะวันออก ณ กรุงเนปีดอว์ ประเทศเมียนมาร์ ระหว่างวันที่ 5-7 มิ.ย.2556 ที่มีผู้แทนเกือบ 900 คนจาก 55 ประเทศเข้าร่วม นับเป็นครั้งแรกที่เมียนมาร์มีโอกาสได้จัดการประชุมระดับใหญ่เช่นนี้               และมีผู้นำสำคัญอย่างเช่นประธานาธิบดีเต็ง เส่งของเมียนมาร์  ประธานาธิบดีเบนิกโน่ อาคิโน่ ของฟิลิปปินส์ นายกรัฐนตรีเหงียน ตัน ดุง ของเวียดนาม นายกรัฐมนตรี ทองสิง ทำมะวง ของลาว และนางอองซาน ซูจี ผู้นำฝ่ายค้านของเมียนมาร์ ส่วนไทยนั้นมีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง  น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีที เข้าร่วม                ดูเหมือนว่าความสนใจจะมุ่งเป้าไปที่นางออง ซาน ซูจี หัวหน้าพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ฝ่ายค้านของเมียนมาร์ ที่เธอได้กล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมพร้อมกับระบุว่าเธอต้องการลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี รวมถึงท่าทีของเธอที่มีต่อกรณีชาวมุสลิมโรฮิงญา ชนกลุ่มน้อยในรัฐยะไข่                แต่คงแปลกใจไม่น้อยที่การประชุมครั้งนี้ได้มีพระไทยเพียงหนึ่งเดียวเท่านั

ทำบุญเข้าพรรษายล'โบสถ์ไม้แกะสลัก'สุดวิจิตรทั้งหลัง

              การสร้างพระอุโบสถหรือโบสถ์ของคนไทยพุทธนั้นปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่จะสร้างด้วยปูน แต่สำหรับโบสถ์ที่วัดเขาชวัง หมู่ 6 ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี จะสร้างด้วยไม้เก่าทั้งหลังและแกะสลักสวยงาม               ทั้งนี้เฟซบุ๊กที่นี่จันทบุรีได้นำภาพและเรื่องมาเผยแพร่พร้อมแนะนำความว่า  มีพระประธานสร้างด้วยหินอ่อนสีขาวงดงามมาก  วัดแห่งนี้เป็นเล็กๆอยู่ห่างจากสี่แยกทับไทรเข้าไปทางโป่งเก่าประมาณ 15 กิโลเมตรทางซ้ายมือ วัดนี้เคยเป็นสำนักสงฆ์มาก่อน ปัจจุบันโบสถ์สร้างเสร็จแล้วแต่ยังมีงานก่อสร้างตกแต่งรอบๆวัดอยู่ เข้าพรรษานี้ยังตัดสินใจไม่ถูกว่าจะไปทำบุญที่วัดไหนก็ขอเชิญที่วัดนี้มีพระจำพรรษาอยู่ 15 รูป และ เณรอีก 1 รูป               ภาพที่เฟซบุ๊กที่นี่จันทบุรีนำมาเผยแพร่นั้นเป็นภาพของ"ลุงถึก ลุงถึก" และเฟซบุ๊กVilla Gardenอีกทอดหนึ่ง               แต่จากการค้นข้อมูลยังพบว่ามีโบสถ์สร้างด้วยไม้และมีการแกะสลักนั้นยังมีที่วัดบางแคน้อยตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง ตำบลแควอ้อม   อำเภออัมพวา  จังหวัดสมุทรสงครามเช่นกัน   ซึ่งมีคุณหญิงจุ้ย (น้อย) วงศาโรจน์ เป็นผู้สร้างเมือ พ.ศ.244

วิจารณ์แซ่ด!ชุดละคร'วันนี้ที่รอคอย' หมวกไทยใหญ่โสร่งพม่า

             ทันทีที่ออกอากาศสำหรับละครเรื่องใหม่ของสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 เรื่อง"วันนี้ที่รอคอย"  ที่บทประพันธ์โดย : วราภา บทโทรทัศน์โดย : ปราณประมูล กำกับการแสดงโดย : ธงชัย ประสงค์สันติ ผลิตโดย : บริษัท พอดีคำ จำกัด ที่ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ก็เสียงวิจารณ์เกี่ยวกับชุดของนักแสดงว่าเหมาะสมหรือสมจริงหรือไม่               ทั้งนี้ได้มีการโพสต์กระทู้ในเว็บไซต์พันทิพย์พร้อมกับรูปภาพของชุดประกอบ พร้อมระบุที่มาของรูปภาพคือมาจากเฟซบุ๊ก Tai Community Online โดยมีการตั้งกระทู้ว่า "วันนี้ที่รอคอย คุณทำผิด บานตะไท จะทำไงแก้ทันไหม" พร้อมกับมีการแสดงความคิดเห็นประกอบความว่า "อยากให้ทีมงานที่สร้าง ละคร วันนี้ที่รอคอย  ได้ศึกษาให้ดีก่อนว่าไทยใหญ่กับพม่าคนละพวกกันการแต่งตัวก็ไม่เหมือนกัน  แต่นี่คุณจับอะไร คุณก็มิกซ์ตามใจชอบเลย มีโอกาสแก้ไขได้ทันก็ดีนะ จะได้ไม่หน้าแตก  ลองเข้าไปชมเฟซบุ๊กในภาพนะ  เผื่อจะได้ปรึกษาเค้าได้ เพราะพวกเค้าเป็นคนไทยใหญ่ จะให้ข้อมูลได้ชัดเจนละครฟอร์มใหญ่ แต่กำลังตกม้าตาย ซะแล้ว" ซึ่งตามภาพคือหมวกไทยใหญ่แต่โสร่งพม่า               มีผู

พระอารมณ์ดีนำธรรมะอารมณ์ดีออกรายการ'ตีสิบ'

              "อีกครั้งกับโอกาสในการเผยแผ่ธรรมขออนุโมทนาคุณวิทวัส สุนทรวิเนตรและคณะทำงานตีสิบ ได้ขยายพื้นที่สีขาวให้เครือข่ายธรรมะอารมณ์ดีได้มีโอกาสอีกก้าว"               นี้เป็นข้อความที่พระมหาวีรพล วีรญาโณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดยานนาวา ๔๐  ถนนเจริญกรุง แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร ประธานเครือข่ายธรรมะอารมณ์ดี ได้โพสต์ข้อความพร้อมรูปลงในเฟซบุ๊ก"พระมหาวีรพล ธรรมะอารมณ์ดี"  เมื่อวันที่ ๒๔ มิ.ย.๒๕๕๖ หลังจากอัดเทปรายการตีสิบ ที่ออกอากาศเป็นประจำทุกวันอังคารทางช่อง ๓               และเป็นประจำทุกวันหลังจากเสร็จจากการปฏิบัติศาสนกิจในเครือข่ายกัลยาณมิตร "ธรรมะอารมณ์ดี"  สำนักงานสถาบันส่งเสริมและเผยแพร่การพระศาสนาแห่งประเทศไทย วัดยานนาวา พระมหาวีรพลก็จะโพสต์ข้อความพร้อมรูปลงในเฟซบุ๊ก"พระมหาวีรพล ธรรมะอารมณ์ดี" ไม่ได้ขาด พร้อมกันนี้ยังเผยแพร่ทางเว็บไซต์ dhammaaromdee.com อีกด้วย               ทั้งนี้เครือข่ายกัลยาณมิตร "ธรรมะอารมณ์ดี"นั้น  "ไตรเทพ ไกรงู" นักข่าวหน้าพระเครื่องหนังสือพิมพ์คมชัดลึกได้เขียนรายงานเรื่อง "เทศนามัลต

สกว.สวนกระแส'เณรคำ' ชู'ครูพระลำปาง'ยอดนักวิจัย

              ช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมาชาวพุทธคงจิตตกไม่น้อยกับกระแสข่าวในวงการพระสงฆ์ ทั้งการสึกของอดีตพระอาจารย์มิตซูโอะ การแฉพฤติกรรมของ "หลวงปู่เณรคำ" ส่วนข้อเท็จจริงทั้งสองเรื่องนี้จะเป็นจริงหรือมีเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างไรนั้น เป็นเรื่องเฉพาะตนวิญญูชนพิจารณาเอาเองเถิด               หากจะพิจารณาถึงสาเหตุของอาการจิตตกนั้น พอจะมองได้ว่าคงเกิดจากชาวพุทธไทยยึดติดกับตัวบุคคลมากเกินไปหรือไม่ แทนที่จะยึดพระพุทธ พระธรรม  และพระอริยสงฆ์เป็นที่พึ่ง กลับไปยึดติดกับพระปุถุชนสงฆ์ไปที่พึ่งแทน เพราะพระปุถุชนสงฆ์ยังตกอยู่ในลักษณ์ของไตรลักษณ์ก็มีการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมดา หากไปยึดติดก็เป็นทุกข์อย่างที่เห็นกัน               ความจริงแล้พระในประเทศไทยมีมากกว่าสองแสนรูปหากไม่ยึดติดในตัวบุคคลมากจนเกินไปก็พอจะหาเป็นแบบอย่าง เป็นที่พึ่ง หรือเป็นเพื่อนเพื่อพัฒนาจิตให้สูงขึ้นได้               ในที่นี้จะขอยกตัวอย่างหนึ่งของพระที่ทำหน้าที่เพื่อสังคมเป็นครูสอนศิลธรรมในโรงเรียนถิ่นธุรกันดาร นั้นก็คือพระประพจน์สรัช ญาณธีโร สังกัดวัดสัณฐาน อ.แม่ทะ จ.ลำปาง โดยเป็นครูสอนศิลธรรมในโรงเรียนสุนทรศึกษา ต

'ยันตระ'ทูเดย์!อะลิตเติ้ลบุ๊ดด่ะดอทคอมตีแผ่ละเอียดยิบ

             อะลิตเติ้ลบุ๊ดด่ะดอทคอมของพระมหานรินทร์ นรินฺโท พระจำอยู่ที่วัดในรัฐเท็กซัสประเทศสหรัฐอเมริกา นับได้ว่าเป็นเว็บไซต์แรกๆ ที่ติดตามพฤติกรรมของอดีตพระวิรพล ฉัตติโก หรือหลวงปู่เณรคำ ประธานที่พักสงฆ์ป่าขันติธรรม อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ตั้งแต่ที่รูปภาพของอดีตพระวิรพลนอนคู่กับสีกาและอริยาบถต่างๆออกมาเผยแพร่ทางสังคมออนไลน์ เข้าใจว่าคงพร้อมๆกับการเผยแพร่คลิปนั่งเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวทางยูทูบ               แต่เป็นเพราะช่วงนั้น "เณรคำ" ยังมีบารมีคับฟ้าอยู่จึงทำให้กระแสไม่ร้อนแรงเท่าใดนัก               ต่อมาสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ออกมาแฉพฤติกรรมหรูใช้เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของ "เณรคำ" ในช่วงที่กระแสรถหรูถูกไฟไหม้กำลังได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วไป เท่ากับเป็นการใส่เชื้อสื่อกระพือข่าวกลบบางข่าวอย่างได้ผล ส่งผลให้อดีตพระวิรพลถูกมติของคณะสงฆ์จังหวัดศรีสะเกษว่าต้องอาบัติปาราชิกขาดจากความเป็นพระเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ดังนั้น เรื่อง "เณรคำ" จะมีผลกระทบต่อพระพุทธศาสนาอย่างไร สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติคงจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้               แล

18ก.ค.พระราชทานเพลิงศพ'เจ้าคุณรุ่น' พระผู้สานปณิธานหลวงพ่อปัญญา

             ส่งมอบเป็นที่เรียบร้อยแล้วพระอุโบสถกลางน้ำที่ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร)  อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา หนึ่งในปณิธานของพระพรหมมังคลาจารย์ (ปัญญานันทภิกขุ) อดีตเจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์ จ.นนทบุรี ที่ละสังขารไปแล้วถึง 6 ปีแล้ว เมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา               พระอุโบสถกลางน้ำแห่งนี้ก่อสร้างเสร็จได้สมปณิธานสวยงามและสะท้อนให้เห็นภาพของสังคมไทยปัจจุบันที่แบ่งออกเป็นสีต่างๆ ภาพส่วนหนึ่งสื่อออกมาเป็นมือตบ ตีนตบ ปืน รวมทั้งเครื่องตรวจวัตถุระเบิดทางภาคใต้นั้น บุคคลหนึ่งที่เป็นแรงผลักดันที่สำคัญยิ่งนั้นก็คือพระธรรมวิมลโมลี (รุ่น ธีรปญฺโญ ป.ธ.๙)  อดีตเจ้าคณะภาค 17 อดีตหัวหน้าพระธรรมทูตสายที่ 9  อดีตเจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษดิ์  โดยได้ร่วมแถลงข่าวเปิดให้ประชาชนได้เข้าชมเมื่อวันที่ 29 ต.ค.2555ด้วย               แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด หลังจากนั้นไม่นานพระธรรมวิมลโมลีได้ล้มป่วยเข้ารับการรักษาอาการปอดติดเชื้อที่โรงพยาบาลชลประทานในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2556 จากนั้นได้ย้ายไปรักษายังโรงพยาบาลศิริราช กระทั่งมรณภาพในที่สุดในวันที่ 7 เมษายน