วันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ร.ร.แสงเหนือสวีเดนนิมนต์พระธรรมทูตบรรยายฝึกปฏิบัติสมาธิ




เมื่อวันที่30 พ.ย.2561คณะครูโรงเรียนแสงเหนือ (Norrskenets Friskolan)เมืองโบเดน (Boden) ประเทศสวีเดน ได้นิมนต์พระวิเทศปุญญาภรณ์ หรือเจ้าคุณสวีเดน เจ้าอาวาสวัดพุทธาราม ประเทศสวีเดน  บรรยายพิเศษ  ซึ่งโรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนภาครัฐตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศสวีเดน ห่างจากกรุงสตอกโฮล์มประมาณ 1000 กิโลเมตร  เนื่องจากปัจจุบันนี้ประเทศสวีเดนพยามที่จะให้านักเรียนนักศึกษาได้เรียนรู้พระพุทธศาสนาอย่างใกล้ชิดทั้งที่วัดและนิมนต์พระไปสอนในโรงเรียน 


เจ้าคุณสวีเดนกล่าวว่า ประเทศสวีเดนเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ให้สิทธิเสรีภาพในการนับถือศาสนาและเพราะมองเห็นว่าพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งปัญญาและสามารถที่จะฝึกปฏิบัติสมาธิเพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ โดยได้รับความสนใจจากนักเรียนได้ฝึกปฏิบัติทั้งการนั่งสมาธิและการเดินจงกรมและสอบถามปัญหาต่างๆ 
 ในแต่ละปีจะมีนักเรียนนักศึกษาทั้งระดับประถมจนถึงมหาวิทยาลัยมาศึกษาพระพุทธศาสนาที่วัดประมาณ 500 คน

นอกจากนี้ทางโรงเรียนได้ถวายภัตตาหารเพลแก่พระธรรมทูตทั้งสามรูป หลังจากนั้นเจ้าคุณสวีเดนจึงได้มอบด้ายมงคลได้สายสิญจน์เพื่อเป็นกำลังใจแก่นักเรียนทุกทุกคนและเป็นเครื่องเตือนใจแก่คณะครูและนักเรียนเมื่อเสร็จแล้วจึงได้เดินทางกลับสต๊อก สตอกโฮล์ม ด้วยรถไฟเนื่องจากท่านมีงานกิจนิมนต์ ในกรุงสตอกโฮล์มในวันที่ 1-2 พฤศจิกายน และก็จะมานักเรียนมาศึกษาพระพุทธศาสนาที่กรุงสตอกโฮล์มอีกด้วย


Cr.เพจวัดพุทธาราม แวร์มเดอ สวีเดน

เอฟดับบลิวดีฯสร้าง Data Lake และ AI ยกระดับให้กับลูกค้าผ่านช่องทางดิจิตอล




เอฟดับบลิวดี สร้าง Data Lake พร้อมนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI – Artificial Intelligence) มาวิเคราะห์และออกแบบการบริการเพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าผ่านช่องทางดิจิตอล ให้ตรงตามความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า โดยหวังจะเปลี่ยนมุมมองของผู้คนที่มีต่อการประกันชีวิตตามวิสัยทัศน์ของบริษัท 

ดร.ยูหุย  เหยา หัวหน้าหน่วยวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมลูกค้าเชิงลึก กลุ่มเอฟดับบลิวดี กล่าวว่า เอฟดับบลิวดีพัฒนาเทคโนโลยีโดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อที่จะส่งมอบประสบการณ์ด้านดิจิตอลที่เหนือกว่าให้แก่ลูกค้าของเรา  ดังนั้นการเข้าใจลูกค้าจึงเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการดังกล่าว เอฟดับบลิวดีจึงได้ร่วมกันจัดทำ Data Lake สำหรับรวบรวมข้อมูลของลูกค้าจากแหล่งต่างๆ เช่น ข้อมูลจากการเรียกร้องสินไหมทดแทน  ศูนย์บริการลูกค้า สื่อออนไลน์ เป็นต้น และนำมาวิเคราะห์เชิงลึก เพื่อตอบโจทย์ให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า  ซึ่งการมองเห็นแบบ 360 องศา (360 Degree Customer Single View) แล้วนำไปประยุกต์ใช้กับระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI - Artificial Intelligence) จะช่วยให้เราสามารถออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของแต่ละบุคคลได้มากยิ่งขึ้น 

ยกตัวอย่างเช่น แอปพลิเคชั่น FWD MAX ที่เป็นแพลตฟอร์มที่ให้คนทั่วไปและลูกค้าเข้ามาร่วมกิจกรรมและแลกของรางวัลกับเอฟดับบลิวดี ซึ่งทำให้เราทราบถึงข้อมูลเชิงลึก เช่น ไลฟ์สไตล์และความสนใจ  เพื่อนำมาสร้างความสัมพันธ์และการบริการที่ดีให้แก่พวกเขา 

นางสาวพิมพาภรณ์ อาภาศิริผล ประธานเจ้าหน้าที่ สายงานบริหารกลยุทธ์ลูกค้าและดิจิตอล บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ บริษัทได้จัดตั้งสายงานบริหารกลยุทธ์ลูกค้าและดิจิตอลขึ้น เพื่อตอบรับวิสัยทัศน์ในการเปลี่ยนมุมมองของลูกค้าที่มีต่อการประกันชีวิต โดยลูกค้าสามารถสัมผัสประสบการณ์ด้านดิจิตอลผ่านทางไลน์ ออฟฟิสเชียลของเอฟดับบลิวดี (LINE: FWD Thailand) ซึ่งปัจจุบันเรามีสมาชิกประมาณ 11 ล้านคน  โดยพวกเขาสามารถเช็คข้อมูลกรมธรรม์ รายละเอียดผลิตภัณฑ์  รวมถึงการพูดคุยกับบริษัทผ่านทางเอฟดับบลิวดีไลน์ แอปพลิเคชั่น ได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน

นางสาวพิมพาภรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา บริษัทและธนาคารทีเอ็มบี ได้เริ่มขายแบบประกันออนไลน์ ชื่อ แบบประกัน มอร์เซฟวิ่ง 10/5  ซึ่งเราเป็นบริษัทประกันชีวิตรายแรกของไทยที่ขายกรมธรรม์ประกันชีวิตผ่านช่องทาง Mobile Banking Application โดยลูกค้าของ ME by TMB  สามารถซื้อประกันชีวิตนี้ได้ง่าย ตลอดเวลา

 นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนในการเปิดตัวเวอร์ชั่นใหม่ของ FWD MAX เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ เพิ่มจำนวนสมาชิก และมีกิจกรรมที่น่าสนใจให้แก่คนทั่วไป ไม่เฉพาะลูกค้าเอฟดับบลิวดีเท่านั้น


“ใน 3 ปีข้างหน้า บริษัทจะมีโครงการใหม่ๆ เหมือนอย่างเช่น โครงการ Data  Lake และเทคโนโลยีที่มีปัญญาประดิษฐ์ (AI - Artificial Intelligence) เป็นส่วนประกอบเข้ามาใช้ เพื่อที่จะตอบโจทย์ความคาดหวังของลูกค้าให้ดีมากขึ้น  เราเชื่อว่าหากเราให้การบริการที่สะดวกสบายและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนในยุคดิจิตอล สิ่งเหล่านี้จะทำให้เราสามารถเปลี่ยนมุมมองที่ผู้คนมีต่อการประกันชีวิตได้อย่างแน่นอน” นางสาวพิมพาภรณ์กล่าว

Cr.http://www.banmuang.co.th/news/insure/133403

มส.เห็นชอบพระพรหมบัณฑิตเป็นก.ก.ผู้ทรงคุณวุฒิสพฐ.


  
วันที่ 30  พ.ย.2561 สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อมฺพรมหาเถร) เสด็จเป็นองค์ประธานในการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) ครั้งที่ 30 ประจำปีพุทธศักราช2561 ณ ห้องประชุมมหาเถรสมาคม อาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม  

หลังเสร็จสิ้นการประชุม นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในฐานะรองโฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้แถลงผลการประชุมมหาเถรสมาคม จำนวน 8  เรื่อง คือ 1. ที่ประชุมมหาเถรสมาคมรับทราบแผนการขับเคลื่อนการปฏิรูปพระพุทธศาสนา ซึ่งภาคคณะสงฆ์ได้ดำเนินการขับเคลื่อนเป็นที่น่าพอใจ 2. การขอใช้ที่ดินเพื่อสร้างวัด โดยกำหนดให้ใช้พื้นที่สร้างวัดไม่เกิน 15 ไร่ กรณีเกิน 15 ไร่ ให้ขอมติเห็นชอบจากมหาเถรสมาคม 3. รายงานผลความคืบหน้าการสร้างพุทธอุทยานโลก ณ วนอุทยานเขาอีโต้ อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี 4. การจัดการแข่งขันทักษะโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา ระดับประเทศ 

5. ที่ประชุมมหาเถรสมาคมมีมติเห็นชอบให้ พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต ป.ธ.9, ศ.ดร.) กรรมการมหาเถรสมาคม,เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส เป็นผู้แทนมหาเถรสมาคม เป็นคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ของสำนักงานคณะการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 6. ที่ประชุมมหาเถรสมาคมมีมติเห็นชอบให้ พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต ป.ธ.9, ศ.ดร.) กรรมการมหาเถรสมาคม,เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส เป็นผู้แทนมหาเถรสมาคม กล่าวสุนทรพจน์ การประชุมนานาชาติ ณ มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาโลก ๗. การยกเลิกสำนักปฏิบัติธรรมของจังหวัดตราด จำนวน 9 แห่ง และ 9. เรื่องการปกครองคณะสงฆ์ สำหรับเนื้อหาโดยละเอียดสามารถติดตามได้จาก www.mahathera.onab.go.th 


Cr.กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ 

ปลุกเสกเหรียญเจ้าตากรุ่นกรุงธนบุรี มหาพิธีศักดิ์สิทธิ์-อาทิตย์ทรงกลด



ในงานพิธีบวงสรวง-อธิษฐานจิตปลุกเสกเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ รุ่นกรุงธนบุรี จัดสร้างเนื่องในวาระครบ ๒๕๐ ปีกรุงธนบุรี เพื่อแจกจ่ายให้ฟรีแก่ท่านพ่อแม่พี่น้องผู้รักเคารพและศรัทธาในพระองค์ท่าน ใน5วาระใหญ่ทั่วประเทศ ร่วมจัดสร้างโดยวัดอรุณราชวราราม โดยพระเดชพระคุณ พระเทพเมธี เจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม ร่วมกับพี่น้องลูกหลานชาววัดอรุณโดย คุณอัครวิทย์ รัตนประสิทธิ์ หรือ "วิทย์ วัดอรุณ" คุณวันชัย ลาภวิไลพงศ์ หรือ "โต วัดอรุณ" และกลุ่มดาราศิลปิน โดย คุณสมบัติ เมทะนี คุณอิ๋งอิ๋ง ดร.สิทธิณี กิตติสิทโธ เจ้าของรายการคนไทยใต้ร่มราชันย์ 



พิธีมหาพุทธามหาเทวาภิเษก เหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ รุ่นกรุงธนบุรี จัดเป็นพิธีใหญ่ระดับประเทศครั้งประวัติศาสตร์ที่จะต้องบันทึกไว้ เพราะจัดพิธีบวงสรวงบอกกล่าวแก่ปวงเทพยดาต่อหน้าองค์พระปรางค์วัดอรุณฯ และทำพิธีเสกโดยปิดโบสถ์น้อยอันศักดิ์สิทธิ์ระหว่างประกอบพิธี ๑ ชั่วโมงเต็ม ทั้งมีพระพิธีธรรมล้วนเป็นเปรียญธรรม ๙ ประโยคจำนวน ๙ รูป มีพระเกจิอาจารย์ผู้เรืองวิทยาคมนั่งปรกในพิธีจำนวน ๙ รูป และในงานนี้ยังมีผู้เกิดในฤกษ์พลังดาวเกตุคาบราศีเมษ(๙ เมษา)มารวมกันอีก ๓ ท่าน ภายหลังงานได้ทราบเพิ่มเติมว่ามีผู้เกิดในชะตาราศรีแห่ง พลังดาว ๙ เดือน ๕ เพิ่มมาอีกหนึ่งท่านรวมเป็น ๔ ท่านในงานซึ่งนับว่าเป็นปรากฏการณ์ที่น่าแปลกและทำให้เกิดพลังงานอันเป็นมหามงคลดลความสุขสมปรารถนาแก่ภายในพิธีแบบทวีคูณ



ทั้งนี้ ปรากฏว่าภายในพิธีบวงสรวงหน้าองค์พระปรางค์วัดอรุณ ด้านทิศตะวันออก ซึ่งมีความเชื่อมาแต่ครั้งโบราณว่า คือจุดศูนย์รวมพลังแห่งทวยเทพที่ปกปักรักษาองค์พระปรางค์วัดอรุณ ซึ่งบนยอดพระปรางค์วัดอรุณนั้นได้มีการอัญเชิญองค์พระบรมสารีริกธาตุบรรจุไว้แต่ครั้งโบราณกาล ก็ได้เกิดเหตุการณ์น่าอัศจรรย์ใจขึ้นทันที เมื่อขณะประกอบพิธีบวงสรวงบอกกล่าวดวงพระวิญญาณขององค์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชหน้าองค์พระปรางค์วัดอรุณ ท้องฟ้าที่กำลังเจิดจ้าด้วยแสงแดดอันร้อนแรงในเวลาเที่ยงตรง กลับมืดมิดลงเป็นร่มเงาขึ้นมาอย่างน่าแปลกใจ เมื่อแหงนหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้าก็ปรากฏเหลือบรุ้งทาบอยู่บนมหาเมฆ และพลันบังเกิดลมพายุปะทะขึ้นมาวูบหนึ่ง 



ทุกคนภายในพิธีและรอบบริเวณพิธีนับพันคนได้แต่มองท้องฟ้าเบื้องบนด้วยความอัศจรรย์ใจในปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้น ซึ่งประจวบเหมาะกับช่วงเวลาของการเริ่มพิธีบวงสรวงพอดิบพอดี เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นราว ๕ นาที ทุกอย่างจึงเข้าสู่เหตุการณ์ปกติ ในช่วงเวลานั้นบางท่านถึงกับขนลุกซู่ไปทั้งตัว บางท่านเกิดความปีติน้ำตาไหลห้ามตัวเองไม่ได้ 



เหตุการณ์ทั้งหมดคงสรุปได้เพียงว่านี่คือกระแสความศักดิ์สิทธิ์แห่งองค์สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีที่ประทานพรลงมาสู่ภายในพิธีครั้งนี้ เพื่อประทานพรให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์แห่งการมหาพุทธามหาเทวาภิเษก เหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ รุ่นกรุงธนบุรี อย่างชัดแจ้งประจักษ์ต่อสายตาของผู้พบเห็นนับพันคน 



ท่านผู้ศรัทธาในพระองค์ท่าน สามารถติดต่อร่วมทำบุญเพื่อร่วมบุญเป็นเจ้าภาพในการสร้างเหรียญแจกพระเจ้าตากแจกฟรีในครั้งนี้ ได้ที่ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ ปากซอยวังเดิม 3 ถนนวังเดิม แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กทม 10600 หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ 1.แว่น วัดอรุณ โทร.08-3846-3033 line : nopparutnong 2.โก วัดอรุณ โทร.08-5363-4431 line : 085363443



คอลัมน์ : แวดงพระเครื่อง
ผู้เขียน :  ไตรเทพ ไกรงู

วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

'จริยธรรม'ต้องสร้าง! อย่าสักแต่ร้องหาจากคนในสังคม


'จริยธรรม'ต้องสร้าง! อย่าสักแต่ร้องหาจากคนในสังคม  : สำราญ สมพงษ รายงาน

ช่วงนี้คำว่า "จริยธรรม" ดูจะดังกระหึ่มในสังคมไทยและสังคมโลกอย่างน้อย 4 เรื่องคือ เรื่องแรกคือโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ กำลังจดทะเบียนและเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องที่สองคือผู้ขับขี่จักรยานยนต์ขับชนคนบนทางเท้า เรื่องที่สามคือ การตัดต่อพันธุกรรทที่ประเทศจีน  และเรื่องที่สี่คือพฤติกรรมของนักการเมืองและผู้จัดการเลือกตั้ง

เรื่องแรกคือ โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ กำลังจดทะเบียนและเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้น เป็นโรงเรียนเอกชนในกำกับดูแลของกระทวงศึกษาธิการ ซึ่งนพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.)  ก็ได้ออกมาระบุว่า ตามกฎหมายในพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ.2550 นั้น ถือว่าไม่ผิดกฎหมาย แต่เรื่องดังกล่าวจะพิจารณาเฉพาะกฎหมายไม่ได้ต้องดูเรื่องจริยธรรมว่าถูกต้องหรือไม่ โดยระบุว่า "เป็นธุรกิจที่ไม่ต้องเสียภาษีและมีการระดมทุนเพื่อให้ได้กำไรมากขึ้น" แต่ก็ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าขัดกับหลักจริยธรรมข้อไหนอย่างไร

รวมถึงนักการเมืองอย่าง นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการตรวจสอบเรื่องธรรมาภิบาล ก็ยังมีข้อสงสัยว่า หลักธรรมาภิบาลกับหลักจริยธรรมอันเดียวกันหรือสอดคล้องกันอย่างไร

เรื่องที่สองคือผู้ขับขี่จักรยานยนต์ขับชนคนบนทางเท้า พอเกิดเหตุขึ้นผู้บริหารทั้งระดับประเทศอย่างพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหมยังได้กำชับให้กทม.และสำนักงานตำรวจแห่งชาติกวดขันการขับขี่รถจักรยานยนต์บนฟุตบาธหรือขับขี่ย้อนศรขอให้ปฏิบัติให้ถูกต้องและเคารพกฎจราจรและเคารพสิทธิ์ของผู้ใช้ทางเท้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บริหาร กทม.ก็ได้ชี้ว่าผู้ก่อเหตุไม่มีจริยธรรม ก็คงดูว่าจะเป็นไฟไหม้ฟางหรือไม่

เรื่องที่สามคือ การตัดต่อพันธุกรรทที่ประเทศจีน  แม้ว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย แต่เมื่อประเทศไทยเป็นยุคไทยแลนด์ 4.0 กำลังสนใจเรื่องเทคโนโลยีระดับสูงโดยเฉพาะอย่างปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอจะส่งผลกระทบในอนาคตอันใกล้นี้

เรื่องมีอยู่ว่า ศาสตราจารย์ เหอ เจี้ยนขุย จากมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีใต้ในเสิ่นเจิ้น ประเทศจีนสร้างทารกตัดต่อพันธุกรรมเป็นครั้งแรกของโลก ก็ถูกพากษ์วิจารณ์จากนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกจำนวน 100 คน  เพราะทั่วโลกถือว่าการตัดต่อยีนในตัวอ่อนมนุษย์เป็นเรื่องผิดต่อจริยธรรมการวิจัยด้านชีวการแพทย์อย่างร้ายแรง ในหลายประเทศรวมทั้งสหราชอาณาจักร มีกฎหมายห้ามโดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่ปล่อยให้ตัวอ่อนจากการตัดต่อยีนเจริญต่อไปเป็นทารกและถือกำเนิดมาในที่สุด ในที่สุดศาสตราจารย์ เหอ เจี้ยนขุย จึงได้ประกาศยกเลิกการทดลองแล้ว แต่สำหรับประเทศไทยแล้วจะว่าอย่างไร

อย่างไรก็ตามพระกิตติเมธีได้มองว่า ถ้าจบลงตรงนี้ ดูเหมือนเรื่องนี้ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาทางจริยธรรม เพราะแม้แต่ศาสนาก็ดูจะอธิบายให้เราพยายามเอาชนะธรรมชาติที่ติดตัวมา แต่เอาเข้าจริงแล้ว ปัญหาทางจริยธรรมเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่ได้พิจารณาเกี่ยวกับร่างกายที่เกิดขึ้นจากการตัดต่อพันธุกรรมเท่านั้นแต่มุ่งที่ “จิตใจหรือความรู้สึกเป็นหลัก” เช่น ความรู้สึกของเด็ก ความรู้สึกของคนในสังคม เป็นต้น และหากมีข้อกังวลนั้นเกิดขึ้นจะแก้ไขอย่างไร

ปัญหาทางด้านจิตใจนั้นละเอียดอ่อน ผูกพันกับโครงสร้างความรู้สึกหลายอย่าง เช่น ศาสนาที่ให้ความรู้สึกถึงความสำคัญทางด้านจิตใจ (มโนกรรม) ก็จะสนใจต่อสิ่งที่จะทำให้ตนเองทุกข์อย่างมาก หรือแม้แต่ศาสนาที่สนใจการกระทำ (กายกรรม) ก็แคร์ว่าตนเองไม่ควรเบียดเบียนใคร เมื่อปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น จะมากจะน้อยก็ควรต้องสนใจให้มาก อย่าด่วนทำบางอย่างโดยเน้นไปที่ผลสำเร็จของการแพทย์อย่างเดียว  แต่ควรคำนึงถึงจิตใจเด็ก และคนในสังคมด้วยจะรู้สึกอย่างไร

มาถึงเรื่องที่สี่เรื่องสุดท้ายคือ พฤติกรรมของนักการเมืองและผู้จัดการเลือกตั้ง เพราะที่ผ่านมานั้นมีทั้งพฤติกรรมดูด แจก เอาเปรียบ ที่มีเสียงออกมาจากปากของนักการเมืองด้วยกัน หากประเมินผลสัมฤทธิ์ปฏิรูปการเมืองไทยแล้วก็พบว่า 1.เอาเปรียบแจก 2.ดูดไม่เลือกดี-ชั่ว 3.ไม่วัฒนธรรม 4.พูดไม่อยู่กับร่องกับรอย 5.มอบเมา แทบจะหาคำว่า"จริยธรรม" จากนักการเมืองและผู้ทำหน้าที่นักการเมืองไทยเลย ดังนั้น คงต้องถามไปถึงประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งว่าจะต้องการนักการเมืองแบบไหนแล้วจะปล่อยให้ประเทศเป็นไปอย่างไร หรือนี้คือการเมืองแบบไทยๆ ลองพิจารณาสักนิดในความไม่มีนั้นอาจจะมีพรรคการเมืองหรือนักการเมืองที่ดีอยู่ก็เป็นได้

จากคำว่า "จริยธรรม" ใน 4 กรณีดังกล่าวนี้พอจะประเมินได้ว่า ยังไม่ได้มีมาตรฐานที่ชัดเจนว่าคืออะไรกันแน่ รวมถึงความเข้าใจและการสร้างให้เกิดขึ้นด้วย คงเป็นเพียงวาทกรรมที่ยกขึ้นมาพูดให้ผู้พูดดูดีเท่านั้น

ม.กรุงเทพธนบุรีต้อนรับเยาวชน'โครงการเยาวชนเอเชียอาคเนย์'





วันที่ 30 พ.ย.2561 ที่หอประชุมศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี  ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล  ชัยรุ่งเรือง รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี  ฝ่ายกิจการนักศึกษา พร้อมด้วยอาจารย์จิรวรรณ ชัยรุ่งเรือง ผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตกรุงเทพธนบุรี คณาจารย์ นักศึกษา. ร่วมให้การต้อนรับคณะเยาวชนจากโครงการเยาวชนเอเชียอาคเนย์ ประจำปี 2561 ที่มาแลกเปลี่ยนความรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมกับนักศึกษาของม.กรุงเทพธนบุรี และนักเรียนโรงเรียนสาธิตกรุงเทพธนบุรี 


เพื่อสร้างความสัมพันธไมตรีอันดีต่อกัน คณะเยาวชนยังได้เรียนรู้ศิลปะมวยไทย หนึ่งเดียวของโลก ศิลปะการรำไทย การเรียนรู้เสริมสร้างร่างกาย (ฟิตเนส) ชมการสาธิตทำส้มตำ อาหารอร่อยของคนไทย สนามแบดมินตัน  สนามฝึกซ้อมฟุตบอลของนักเตะทีมชาติไทย ซึ่งเป็นศูนย์ฝึกที่ได้มาตรฐาน นอกจากนี้นักศึกษาปริญญาโท หลักสูตร NEW. ERA. คณะรัฐศาสตร์หลักสูตรสาขาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศได้ร่วมกิจกรรมกับเยาวชนเอเชียอาคเนย์ในครั้งนี้ด้วย บรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่นดียิ่งด้วย

วัดพระธรรมกายเปิดสอบธรรมศึกษาตรี-โท-เอก



เจ้าคณะอำเภอคลองหลวงเปิดสอบธรรมศึกษาตรี-โท-เอก สนามสอบวัดพระธรรมกาย มีผู้เข้าสอบกว่า 600 คน

วันที่ 20 พฤศจิกายน 2561 พระครูมงคลกิจจารักษ์ เจ้าอาวาสวัดมงคลพุการาม เจ้าคณะอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี  เป็นประธานเปิดสอบธรรมศึกษาระดับชั้นตรี โท เอก ณ สนามสอบวัดพระธรรมกาย จังหวัดปทุมธานี โดยมีผู้เข้าสอบจำนวน 610 คน

สนามสอบวัดพระธรรมกาย เป็นสนามสอบธรรมศึกษาของเขตพื้นที่จังหวัดปทุมธานี กำกับดูแลโดยแม่กองธรรมสนามหลวงกำหนดสอบพร้อมกันทั่วประเทศ 4 วิชาคือ 1. วิชาเรียงความแก้กระทู้ธรรม เริ่มสอบเวลา 08.40 น. ให้เวลา 3 ชั่วโมง 2.วิชาธรรม 3.วิชาพุทธ และ 4. วิชาวินัย ให้เวลาวิชาละ 50 นาที เริ่มสอบเวลา 13.00 น.ใช้ข้อสอบแบบปรนัย หรือแบบเลือกตอบ

ทูตวีรชัยเข้าวัดสร้างชุมชนไทยเข้มแข็งที่เมืองนิวออร์ลีน

 

วันที่ 20 พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา และนางอลิซเบธ พลาศรัย ภริยา พร้อมด้วย น.ส. ภัทรียา วัฒนสิน และนายภาณุภัทร ชวนะนิกุล ข้าราชการสถานทูต ได้เข้าเยียมชมวัดวิมุตตายาราม และถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ 

จากนั้นได้ร่วมประชุมกับนาย Henry Lambert กงสุลกิตติมศักดิ์ไทยประจำเมืองนิวออร์ลีน และนาง Stephanie Burmaster เจ้าหน้าที่สถานกงสุลกิตติมศักดิ์ เพื่อเสริมสร้างและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสถานทูตฯ และเครือข่ายท้องถิ่น เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองดูแลคนไทยในพื้นที่ 

หลังจากนั้น ในช่วงเย็นของวันเดียวกัน ทูตวีรชัยและคณะได้ ร่วมรับประทานอาหารเย็นกับชุมชนไทยที่ร้าน Sukho Thai ร้านอาหารรสชาติไทยแท้ใจกลางเมืองนิวออร์ลีนซึ่งได้รับรางวัล Thai Select Premium โดยความร่วมมือจากพระมหาวิเชียร เจ้าอาวาสวัดวิมุตตยาราม คุณสุปรียา สคาร์มูสซา เจ้าของร้าน และคุณนางสาวธีราภรณ์ สานติวัตร อาสาสมัคร ช่วยประสานงานเชิญชวนคนไทยรวม 50 คน หลากหลายอาชีพจากในรัฐลุยเซียนามาร่วม 

มีทั้งเจ้าของร้านอาหาร ต่าง ๆ เช่น ร้าน Banana Blossom และร้าน Singha Thai แพทย์ พยาบาล ผู้ประกอบวิชาชีพและธุรกิจ แม่บ้าน และนักศึกษามหาวิทยาลัย มาร่วมทานอาหารไทยรสชาติอร่อย เช่น เมี่ยงคำ ยำส้มโอ แกงเขียวหวาน คะน้าหมูกรอบ หอยแมลงภู่อบสมุนไพร และทับทิมกรอบ 

ในโอกาสนี้ ทูตวีรชัยได้พูดคุยหารือ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับชุมชนไทย ตลอดจนรับฟังปัญหาและความต้องการของชุมชนไทยในพื้นที่ และกล่าวเน้นถึงการบริการประชาชนในด้านต่างๆ อันเป็นภารกิจหลักของสถานทูต อาทิ งานตรวจลงตรา งานด้านนิติกรณ์ การทำหนังสือเดินทางไทย บัตรประชาชน การรับร้องเรียนเรื่องตกทุกข์ การให้บริการกงสุลสัญจร และการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร เป็นต้น

cR.Royal Thai Embassy, Washington D.C.

วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

'มจร วิทยาสงฆ์ปัตตานี'อบรมe-learningจัดเรียนสอนผ่านสื่อออนไลน์




ระหว่างวันที่ 29-30 พฤศจิกายน 2561 มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) วิทยาสงฆ์ปัตตานี ได้จัดการอบรมภายใต้หัวข้อ "การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนด้วย e-learning และ e-testing" ครั้งที่ 1 โดยมีวิทยากรคือนายอภิชาติ รอดนิยม และนายฐิติวัฒน์ หวังสุขใจ ตำแหน่งนักวิชาการคอมพิวเตอร์จากส่วนเทคโนโลยีสารสนเทศ มจร. ดำเนินการเป็นวิทยากรอบรม เพื่อพัฒนานวัตกรรมทางการศึกษาสู่ไทยแลนด์ 4.0

ขณะที่ เฟซบุ๊ก Tin Witee ได้โพสต์ข้อความว่า "พระมหาสมบูรณ์ วุฒิกโร,ดร. คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้รับนิมนต์ไปสอนวิชาพระพุทธศาสนา ณ วิทยาลัยธรรมเกต ประเทศฮังการี น่าชื่นชม และน่าส่งเสริมให้คณาจารย์ของ มจร ที่มีความเชียวชาญศาสตร์พระพุทธศาสนาเถรวาท ได้มีโอกาสไปแลกเปลี่ยนความรู้ กับนิสิตและคณาจารย์ด้านพระพุทธศาสนาในต่างประเทศทั่วโลกเพื่อสร้างเครือข่ายและนำหลักการทางพระพุทธศาสนาไปขยายผลให้เกิดประโยชน์ต่อคนทั่วโลก 

ความรู้เชิงลึกทางพระพุทธศาสนาของ มจร นั้นมีอยู่ แต่กระบวนการเผยแพร่ ความรู้ จะอยู่เพียงในห้องเรียน คงไม่เพียงพอ ห้องเรียนของ มจร ในยุคนี้ ควรเป็นห้องเรียนในโลก ดิจิตัลออนไลน์ กว้างไกล ไปทั่วโลก ที่ใครๆก็สามารถเข้าเรียนได้ ต่อไป มจร คงไม่ใช่มีเพียงนโยบาย เปิดเพิ่ม สาขา วิทยาเขต หรือห้องเรียน หรือสถาบันสมทบอย่างที่เคยทำมาเท่านั้น แต่ควรเปิดห้องเรียนในโลกออนไลน์ ทั้งภาษาไทย จีน อังกฤษ ที่คนทั่วโลกก็สามารถมาเรียนรู้พระพุทธศาสนา จาก มจรได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็ว Buddhist Knowledge, Language, and IT รวมถึงมีนโยบายสนับสนุน คือองค์ประกอบสำคัญ ที่จะพลักดันไปสู่จุดนั้น" 

สื่อภารตะตีข่าวใหญ่เปิดสมโภชพระพุทธรูปองค์ใหญ่



วันที่ 29 พ.ย.2561 ตามที่มีพิธีเปิดสมโภชพระพุทธรูปองค์ใหญ่สร้างขึ้นในนามของรัฐบาลอินเดียนั้นได้มีหนังสือพิมพ์สำนักต่างๆ ประเทศอินเดียได้เผยแพร่ข่าวกระจ่ายไปทั่วโลก เมื่อรัฐบาลสนใจเอาใจใส่ปกป้องและส่งเสริมพระพุทธศาสนาเช่นนี้ เฟซบุ๊กวัดไทยสิริราชคฤห์อินเดีย ได้ระบุว่า ในอนาคตชาวพุทธใหม่เกินขึ้นอีกมากมาย อย่างแน่นอน ซึ่งพระครูปลัดสุวัฒนพุทธก็ได้มีส่วนแห่งการผลักดันโครงการและเป็นผู้แทนพระธรรมทูตในอินเดียร่วมพิธีอันสำคัญนี้ด้วย


ประกาศแล้ว!การแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร



เมื่อวันที่  29 พ.ย.2561 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่  ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง การแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ตามที่ได้มีคาสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 13 /2561 เรื่อง การดำเนินการ ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (เพิ่มเติม) ลงวันที่ 14 กันยายน พุทธศักราช 2561 กำหนดว่า เพื่อประโยชน์ของพรรคการเมืองในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรก เมื่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งดำเนินการแบ่งเขตเลือกตั้งตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าวกาหนด และประกาศเขตเลือกตั้งให้แล้วเสร็จก่อนวันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าวมีผลใช้บังคับ ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ออกระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 และประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง จานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่แต่ละจังหวัดจะพึงมีและจานวนเขตเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัด ลงวันที่ 18 กันยายน 2561 เพื่อดำเนินการแบ่งเขตเลือกตั้งและเป็นการเตรียมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่จะมีขึ้น
          


ต่อมา ได้มีคาสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 16/2561 เรื่อง การดาเนินการ ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (เพิ่มเติม) ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2561 กำหนดให้คณะกรรมการการเลือกตั้งมีหน้าที่และอำนาจในการตรวจสอบหรือเปลี่ยนแปลงการพิจารณาหรือดาเนินการแบ่งเขตเลือกตั้งสาหรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ตามหมวด 3 การจัดการเลือกตั้ง แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 และข้อ 7 ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 13/2561 เรื่อง การดาเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (เพิ่มเติม) ลงวันที่ 14 กันยายน พุทธศักราช 2561 ให้ได้ข้อยุติ โดยหากเป็นกรณีจำเป็นเร่งด่วนที่ไม่อาจดำเนินการ ตามกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ หรือมติใดๆ ของคณะกรรมการการเลือกตั้งที่ออกไว้ ก็ให้สามารถดาเนินการต่อไปได้โดยชอบด้วยกฎหมาย โดยให้เป็นไปตามมติคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งคณะกรรมการ การเลือกตั้งได้ออกประกาศ เรื่อง การรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2561 กำหนดระยะเวลา ในการยื่นคาร้องเรียนหรือการแสดงความคิดเห็น ตั้งแต่วันที่ 20 –25 พฤศจิกายน 2561
          


คณะกรรมการการเลือกตั้งได้มีมติในการพิจารณาการแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 54/2561 เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2561 ถึงครั้งที่ 62/2561 เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2561 ครั้งที่ 63/2561 เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2561 ครั้งที่ 67/2561 เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 และครั้งที่ 68/2561 เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2561 เห็นชอบให้มีการประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 350 เขตเลือกตั้ง จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22 (2) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2561 คำสั่งหัวหน้า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 13 /2561 เรื่อง การดาเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (เพิ่มเติม) ลงวันที่ 14 กันยายน พุทธศักราช 2561 คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 16/2561 เรื่อง การดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (เพิ่มเติม) ลงวันที่ 16 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2561 ประกาศเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ให้ทราบทั่วกันดังนี้

สามารถติดตามได้ที่ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/A/101/T_0005.PDF

เตรียมชงแนวปฏิรูปสอนพุทธในร.ร.สพฐ.ต่อมส.ทราบ




วันที่ 29 พ.ย.2561 เป็นวันที่ 2 แล้ว ของของการประชุมคณะอนุกรรมการปฎิรูปการเรียนการสอนพระพุทธศาสนาในสถานศึกษาขั้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ ถนนราชดำเนิน กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีพระมหาหรรษา ธมฺมหาโส ผู้อำนวยการวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร.)  ในฐานะรองประธานคณะกรรมการปฏิรูปการเรียนการสอนพระพุทธศาสนาในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมฯ โดยมีพระภิกษุสอนศีลธรรมในโรงเรียน, ผู้บริหารจาก สพฐ. ผู้แทนโรงเรียน,นักวิชาการด้านพุทธศาสนา ,นักวิชาการด้านพัฒนาหลักสูตร,นักวัดผลการเรียน, นักจิตวิทยาเด็ก และครู มาร่วมแสดงความคิดเห็นหลักสูตรพุทธศาสนาที่เหมาะสมกับวัยและสถานการณ์ในโลกปัจจุบัน  ซึ่งที่ประชุมถกเถียงกันพอสมควรว่าหลักธรรมระดับไหนที่เหมาะสมกับช่วงวัยของเด็ก เช่นคำว่า "กตัญญูกตเวที"  

การร่างหลักสูตรนี้อาศัยกรอบ “หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551” เป็นแนวทางในการร่างเพื่อจัดเป็นหมวดหมู่สาระการเรียนรู้แกนกลางเพื่อการออกแบบการเรียนรู้ที่มีสติเป็นฐาน (Mindffulness Based Learning : MBL) แต่ละชั้นปี 

พระมหาหรรษาเปิดเผยว่า  "หลังจากนี้ไปจะให้กระทรวงศึกษาธิการรายงานการทำงานความคืบหน้าการปฎิรูป ฯ ให้มหาเถรสมาคมรับทราบถึงรายละเอียดและอาจต้องทำ MOU (Memorandum of Understanding) ระหว่างสำนักพระครูสอนศีลธรรม มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และกระทรวงศึกษาธิการด้วย เพื่อจะได้เกิดความร่วมมือด้านอื่น ๆ ต่อไปในอนาคตและหลักสูตรที่กำลังร่างนี้จะเร่งรัดให้ทันการเปิดเทอมแรกในปี 2562นี้ด้วย"  

ในวงนอกประชุมมีพระภิกษุและนักวิชาการด้านพุทธศาสนาบางท่านเสนอประเด็นต่อว่า "การปฎิรูปการสอนพุทธศาสนาในโรงเรียนน่าจะมีตัวแทนสำนักงานแม่กองธรรมสนามหลวงมาร่วมด้วย เพื่อให้การปฎิรูปเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพราะกลุ่มเป้าหมายคือเด็กล้วนอยู่ในกลุ่มเดียวกัน" 
 
หวังว่าหลักสูตรนี้เมื่อร่างออกมาแล้วจะมีความเหมาะสมกับยุคสมัย เป็นไปตามเจตนารมณ์ของคณะสงฆ์และกระทรวงศึกษาธิการที่คาดหวังปลูกฝัง "เด็กให้เป็นคนดี มีความรู้ คู่คุณธรรม"  อันเป็นสร้างภูมิคุ้มกันและพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักเรียนอย่างยิ่งยืน สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันและอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ  ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างสังคมคุณธรรม จริยธรรม และมีสติ ใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุขท่ามกลางสังคมโลกปัจจุบันนี้

ม.หอการค้าไทย-องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ-มูลนิธิเพื่อคนไทยจับมือภาคีภาคประชาชนทำ'โพลต้านโกง'รับเลือกตั้ง 2562




องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) มูลนิธิเพื่อคนไทย และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และภาคีเครือข่าย ร่วมกันจัดทำ “โพลต้านโกง” ขึ้น เพื่อให้พรรคการเมืองนำข้อเสนอของประชาชนจากผลโพลไปพัฒนาเป็นนโยบายต่อต้านคอร์รัปชัน ประกาศพันธสัญญารับเลือกตั้ง 2562  โดยเตรียมจะแถลงผล 20 ธันวาคม ศกนี้ และเดินหน้าหาแนวร่วมภาคประชาชนติดตาม ตรวจสอบ คำสัญญา 



วันที่ 28 พฤศจิกายน 2561 รร.เดอะ สุโกศลกรุงเทพฯ  นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) กล่าวในงานแถลงข่าวการประชุมความร่วมมือภาคีเครือข่ายร่วมขยายผล “โพลต้านโกง” ว่า ไม่อาจปฏิเสธว่า นโยบายของพรรคการเมืองทุกพรรค มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความอยู่ดีมีสุขของประชาชน แต่ละพรรคจะมีนโยบายที่แตกต่างกัน ตามการกำหนดกลยุทธ์ของแต่ละพรรค แม้จะเป็นนโยบายด้านเศรษฐกิจ เรื่องการแก้ปัญหาปากท้องประชาชน หรืออย่างปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ปัญหาสิ่งแวดล้อม  ปัญหารัฐสวัสดิการต่างๆ   ฯลฯ ทุกปัญหามีจุดร่วมเหมือนกัน คือ มาจากการทุจริตคอร์รัปชันที่ไปลดทอนและทำให้เกิดอุปสรรคในการพัฒนาสังคม ดังนั้น ในการเลือกตั้ง 2562 ที่จะถึงนี้ น่าจะเป็นเรื่องสำคัญและถึงเวลาที่พรรคการเมืองไทยที่ควรจะมีนโยบายด้านการต่อต้านคอร์รัปชันอย่างจริงจัง และเป็นโอกาสของพรรคการเมืองด้วย ที่จะใช้จังหวะนี้ประกาศเป็นนโยบายหาเสียงช่วงเลือกตั้ง



ขณะเดียวกัน ยังเป็นโอกาสสำคัญของประชาชนที่จะสามารถสะท้อนเสียงตัวเองออกไปในฐานะที่เป็นเจ้าของประเทศ ว่า มีความต้องการให้พรรคการเมืองและนักการเมืองไทย ดำเนินการในเรื่องการต่อต้านคอร์รัปชันอย่างไร  ผ่านโพลที่ทางมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยดำเนินการ โดยพร้อมจะแถลงผลโพลในวันที่ 20 ธันวาคม ที่จะถึงนี้ เพื่อให้ทันกับที่พรรคการเมืองต่างๆ จะนำไปพัฒนาเป็นนโยบายในการหาเสียง แต่สำคัญกว่านั้นคือ จะต้องทำจริงตามสัญญาด้วย หลังพ้นช่วงเลือกตั้ง



นางเสาวณีย์  ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยทำการสำรวจดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชันไทย (CSI) มา 8 ปี แม้โดยภาพรวมจะดีขึ้นคือจากเดิมอยู่ที่ร้อยละ 35 ในปี 2553 สูงขึ้นเป็นร้อยละ 55 ในปีนี้ แต่ยังมีปัญหาอีกมากที่รอการแก้ไข และจากผลสำรวจล่าสุดของปีนี้ พบว่า ประชาชนร้อยละ 99 ไม่ทนต่อการคอร์รัปชัน กับร้อยละ 86 บอกว่า พร้อมจะมีส่วนร่วมในการป้องกันต่อต้านการทุจริต โพลต้านโกงนี้จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะไปเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน ให้เป็นเจ้าของประเด็นต่อต้านคอร์รัปชันตั้งแต่แรก และหากพรรคการเมืองรับข้อเสนอของผลโพลไปเป็นนโยบาย ย่อมเท่ากับว่า สังคมไทยเกิดนโยบายการแก้ปัญหาคอร์รัปชันในระบบมาจากการฟังเสียงประชาชน



“โพลต้านโกง” หรือ “โครงการสำรวจความคิดเห็นประชาชนต่อนโยบายต่อต้านคอร์รัปชันของพรรคการเมืองและนักการเมืองไทยในการเลือกตั้ง 2562” นั้น มีประชากรเป้าหมายเป็นประชาชนทั่วไป ขนาดตัวอย่างไม่น้อยกว่า 3,000 ตัวอย่าง โดยมีสัดส่วนกลุ่มที่จะได้มีโอกาสเลือกตั้งครั้งแรกกับกลุ่มที่เคยเลือกตั้งมาแล้วคิดเป็นสัดส่วน 1:6 กระจายจำนวนตัวอย่างทั่วประเทศ ได้แก่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ เกี่ยวกับความคาดหวังต่อการขับเคลื่อนงานต่อต้านคอร์รัปชันของพรรคการเมืองและนักการเมือง ในด้าน (1) การขับเคลื่อนนโยบายระดับประเทศ  (2)การขับเคลื่อนการทำงานของพรรคการเมือง และ (3) การปฏิบัติตนของนักการเมือง ระยะเวลาโครงการ 30 วัน เริ่มตั้งแต่ 16 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 15 ธันวาคมขนานกันไป ยังมีการสำรวจในช่องทางออนไลน์ ผ่านเวบไซต์ www.แจกการบ้านนักการเมืองต้านโกง.com ในช่วงวันที่ 1-14 ธันวาคม คาดว่าจะได้จำนวนประชากรเป้าหมายอย่างน้อย 5,000 คน และจะมีการแบ่งปันข้อมูลข่าวสารเพื่อให้เกิดการกระจายโพลออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ผ่านช่องทางออนไลน์ของภาคีเครือข่ายต่างๆ ซึ่งบริหารจัดการโดยมูลนิธิเพื่อคนไทย ในภาพรวมคาดว่าโพลต้านโกงจะสามารถรวมเสียงของประชาชนได้ไม่น้อยกว่า 8,000 ตัวอย่าง ถือเป็นจำนวนที่มีความน่าเชื่อถือในทางสถิติ
                                                                   


นายวิเชียร พงศธร ประธานกรรมการมูลนิธิเพื่อคนไทย กล่าวว่า ด้วยกระบวนการของโพลต้านโกงมีหลายขั้นตอน และเป็นประโยชน์สำหรับทุกฝ่าย  การจะสำเร็จได้ต้องอาศัยความร่วมมือของหลายองค์กร เริ่มจากองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ผู้มีพันธกิจหลักในการสร้างเสริมพลังประชาชนร่วมต้านโกง และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านเครื่องมือสำรวจวิจัย ขณะที่มูลนิธิเพื่อคนไทยจะมุ่งเน้นเชื่อมโยงภาคีเครือข่ายให้เข้ามาช่วยกันขยายผลโพล เพื่อให้กระบวนการต่างๆ สมบูรณ์ขึ้น เพราะต้องอาศัยภาคีเครือข่ายจำนวนมากช่วยกันกระจายเสียงของประชาชนที่โพลรวบรวมไว้สู่สาธารณะแล้วให้พรรคการเมืองนำไปเป็นนโยบาย



ดังนั้น กระบวนการทำงานนำไปสู่ผลลัพธ์ ไม่ได้จบแค่ “ผลโพล”  ยังมีเรื่องการติดตามพันธสัญญานักการเมืองอย่างต่อเนื่อง หลังเลือกตั้งด้วย จึงเป็นที่มาของการประชุมภาคีเครือข่ายในวันนี้  ประกอบด้วย เครือข่ายสื่อมวลชน เครือข่ายวิชาการ เครือข่ายคนรุ่นใหม่ และเครือข่ายภาคประชาชน ร่วมขยายผลใน 3 ด้าน  ได้แก่ (1) ช่วยแชร์โพลออนไลน์ให้เข้าถึงประชาชนมากที่สุด ในช่วงวันที่ 1-14 ธ.ค.   (2) ร่วมกระจาย “ผลโพล” หรือข้อเสนอของประชาชน ในวงกว้างในรูปแบบต่างๆ อาจจะเป็นเวทีสาธารณะ หรือกิจกรรมอื่นใด ให้เกิดพันธะสัญญาสู้โกงของพรรคการเมือง ในช่วงมกราคมและกุมภาพันธ์ ก่อนการเลือกตั้ง 2562 (3) ร่วมติดตามตรวจสอบ “คำสัญญานักการเมือง” อย่างต่อเนื่องหลังเลือกตั้ง



อนึ่ง ภาคีเครือข่ายที่ตอบรับให้ความร่วมมือแล้วเรื่องการกระจายโพลออนไลน์ ส่วนใหญ่เป็นภาคีกลุ่มคนรุ่นใหม่ ได้แก่  สถาบันเช้นจ์ฟิวชัน ฯ เครือข่ายทีวายพีเอ็น เลิร์น เอ็ดดูเคชั่น  อา-ชีฟ แฮนด์ วิสาหกิจเพื่อสังคม ทูลมอโร วายน็อต โอเพ่นดรีม สยามอาสา ฯลฯ เป็นต้น นอกจากนั้น ยังมีภาคีวิชาการและสื่อมวลชน ตลอดจนผู้นำจากภาคส่วนต่างๆ ที่จะช่วยขยายผลในช่องทางโซเชียลมีเดียส่วนบุคคล อีกจำนวนมาก

ประชุมนานาชาติสมาคมม.พุทธเถรวาทนานาชาติที่ศรีลังกา





ระหว่างวันที่ 27-28 พฤศจิกายน 2561 ที่กรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา พระโสภณวชิราภรณ์ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศและรักษาการผู้อำนวยการวิทยาลัยพระธรรมทูต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) พร้อมด้วยผู้บริหาร คณาจารย์และผู้แทน มจร ได้เข้าร่วมประชุมนานาชาติสมาคมมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาเถรวาทนานาชาติ (IATBU) ครั้งที่ 5 (5th International Conference of “International Association of Theravada Buddhist University”) โดยมีพระมหานายกะแห่งสยามนิกายฝ่ายอัสคีรี เป็นประธานสงฆ์ พระอนุนายกะ ฝ่ายมัลวัตตะ พระมหานายกะ แห่งอมรปุระนิกาย พระมหานายกะ แห่งรามัญญะนิกายและพระมหานายกะแห่งสยามนิกายฝ่ายโกเต้ (โคลัมโบ) ร่วมในพิธีเปิดประชุมด้วย 


พร้อมกันนี้มีมีประธานาธิบดีแห่งศรีลังกา เป็นประธานฝ่ายคฤหัสถ์ มี รมว.ว่าการกระทรวงศึกษาและอุดมศึกษา มีเอกอัครราชทูตไทยในกรุงโคลัมโบ เอกอัครราชทูตเมียนมาร์ เข้าร่วมพีธิเปิดการประชุม 


สมาคม IATBU แห่งนี้มีสถาบันการศึกษาเถรวาท 36 สถาบัน จาก 14 ประเทศ เป็นสมาชิก ขณะที่ประเทศไทยมี มจร และ มมร เป็นสมาชิก สมาคมนี้ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.2549 จดทะเบียน ที่ประเทศไทย มี พระ ดร.อชิน ญาณิสสระ อธิการบดีสถาบันสีตะกูนานาชาติ ประเทศเมียนมาร์ เป็นประธาน กำหนดให้มีการประชุมทุก 2 ปี


Cr.เพจ วิทยาลัยพระธรรมทูต Dhammaduta College 

เข้าถึงหัวใจของปัญญาประดิษฐ์ และความน่าตื่นเต้นของ Deep Learning



หัวใจของปัญญาประดิษฐ์ (Gradient Descent ทำงานอย่างไร) และความน่าตื่นเต้นของ Deep Learning

- Artificial Intelligence คืออะไร กำเนิดได้อย่างไร มีกี่ประเภท ทำอะไรได้
- Machine Learning คืออะไร กำเนิดได้อย่างไร มีกี่ประเภท ทำอะไรได้
- หัวใจของปัญญาประดิษฐ์ (Gradient Descent) คือลูกแก้วบนผ้าเช็ดหน้าแห่ง Cost Function พร้อมสมการ คำนวณตามได้เป็นฉากๆ
- จาก Machine Learning สู่ Deep Learning
- Deep Learning ทำอะไรได้ ไปได้ถึงไหน และจะเปลี่ยนโลกอย่างไรได้


Cr.https://aiat.or.th/heart-of-ai/?fbclid=IwAR2tvv957gFSXBat5nJnbfFiOqduWZs1rFT5VPGi8E4v3irLFH730FFhUWI,https://www.youtube.com/watch?time_continue=6&v=17LSoGsSs0Y,สมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย

ลงทุนบวชพระ!ฝรั่งทำวิจัยป.เอกเสียงพินที่สัมพันธ์กับประเพณีพุทธ





วันที่ 28 พ.ย.2561 เพจ Phanna Som ได้แชร์วิดีโอจาก เพจ echo อยู่ที่ หล่มสัก จ. เพชรบูรณ์ ที่โพสต์เมื่อวันที่ 6 มิถุนายนเข้าใจว่าเป็นปี 2561 นี้โดยมีผู้รับชม 2,484,376 ครั้ง ซึ่งเพจ echo ได้โพสต์ข้อความกำกับว่า  "ป๊าดดดด เสียงพิณบ่ได้ม่วนอยู่แต่กับคนไทยเด้อ ดูอย่างฝรั่งคนนี้ดิ สนใจจริงจังขนาดฝึกเล่นเลยอะ ป.ล.มี sub eng ด้วยนะ เผื่ออยากส่งให้เพื่อนฝรั่งมาม่วนด้วยกัน #ฝรั่งคลั่งพิณ #งานบุญ #งานแห่ #มักม่วน #echo #fookingecho"

ทั้งนี้เพจ Phanna Som ได้โพสต์ข้อความกำกับว่า "ชายฝรั่งคนนี้กำลังวิจัยทางมานุษยวิทยาเกี่ยวกับเสียงดนตรีที่สัมพันธ์กับประเพณีทางพระพุทธศาสนา การวิจัยในสายนี้จะเน้นเชิงคุณภาพ โดยมีหลักอย่างหนึ่งว่า ผู้วิจัย กับ สิ่งที่ถูกวิจัย จะคลุกเคล้าเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่แยกออกจากกัน เครื่องมือการวิจัยที่สำคัญที่สุด คือตัวผู้วิจัย ซึ่งต่างจากวิธีวิจัยเชิงปริมาณที่พยายามแยกผู้วิจัยออกจากสิ่งที่ถูกวิจัย ด้วยเกรงว่าจะขาดความเป็นกลาง/ภววิสัย ด้วยเหตุนี้ ชายคนนี้จึงพยายามเล่นดนตรีให้เป็น (ดีดพิณ) และออกบวชเป็นพระด้วย"



วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ปธ.สมาพันธ์ชาวพุทธร่วมร่างปฏิรูปสอนพุทธในร.ร.สพฐ. หวังเปลี่ยนแปลงสังคมในจุดที่ยืนด้วยสติศึกษา



ปธ.สมาพันธ์ชาวพุทธร่วมร่างปฏิรูปสอนพุทธในร.ร.สพฐ. หวังเปลี่ยนแปลงสังคมในจุดที่ยืนด้วยสติศึกษา  กำหนดจุดเน้นเนื้อหาสาระพระพุทธศาสนาที่สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน


วันที่ 28 พ.ย.2561 ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ ถนนราชดำเนิน กรุงเทพมหานคร   พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส,รศ.ดร.ผู้อำนวยการวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติและหลักสูตรสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา รองประธานคณะกรรมการปฏิรูปการเรียนการสอนพระพุทธศาสนาในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการปฏิรูปการเรียนการสอนพระพุทธศาสนาในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ในการนี้มีผศ.ดร.บรรจบ บรรณรุจิ ประธานสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการปฏิรูปการเรียนการสอนพระพุทธศาสนาในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการร่วมด้วย

พระอาจารย์ปราโมทย์ วาทโกวิโท นิสิตปริญญาเอก สาขาสันติศึกษา มจร ในฐานะประธานอนุกรรมการด้านประชาสัมพันธ์ฯ เปิดเผยว่า ช่วงแรกพระมหาหรรษาได้กล่าวการประชุมความว่า  #กระแสการจัดค่ายคุณธรรมถือว่าโจทย์ที่สำคัญจะทำให้เรามาร่วมกันหาทางออก ถือว่าเป็นกิจกรรมเสริมหลักสูตรที่ทุกโรงเรียนของสพฐ.ต้องจัดขึ้น


"เรามาช่วยให้เกิดคุณค่าต่อเยาวชนและสังคมในปัจจุบันและอนาคต สังคมจึงมีความหวังกับพวกเราทุกท่านในการร่วมกับปฏิรูปการสอนพระพุทธศาสนา สิ่งที่เราทำเป็นสิ่งที่ดีงามมิใช่เพื่อตนเองแต่เพื่อเยาวชนและลูกหลานของเรา เป็นการเอาธรรมของพระพุทธเจ้าไปส่งต่อให้ลูกหลาน ด้วย #สติศึกษา เป็นการพัฒนาสติให้เกิดขึ้นในรูปนาม เพราะฐานของการปฏิรูปคือ สติศึกษา ซึ่งจะออกแบบการเรียนรู้ที่มีสติเป็นฐาน (Mindfulness Based Learning: MBL) แต่ละช่วงชั้น สติจึงหมายถึงการอยู่กับปัจจุบัน สมาธิแปลว่าคิดเรื่องเดียว" 


จึงมีการขับเคลื่อนด้วยรูปแบบ 5 คำ คือ "สติ เมตตา สุจริต เคารพ สัจจะ" สติเป็นการอยู่กับปัจจุบัน #เมตตาเป็นความรักเมตตาแผ่ไปในสัตว์ที่มีความสุขส่วนกรุณาแผ่ไปในสัตว์ที่มีทุกข์ สุจริตเป็นการไม่บกพร่องต่อหน้าที่ เคารพเป็นการอ่อนน้อมถ่อมตนเคาพความต่างวัฒนธรรมเคารพในความพหุวัฒนธรรม สัจจะเป็นการกตัญญูต่อตนเองบุคคลสถานที่ รวมถึงการสื่อสารระหว่างกันด้วยความจริง ไม่ใช้วาจาทำให้เกิดความเกลียดชัง ไม่ใช้ความรุนแรง โดยเราจะยึดสาระแกนกลางเป็นฐาน โดยใช้ MBL ในการขับเคลื่อน จึงต้องมีการพัฒนาหลักสูตรโดย #ไม่ได้รื้อหลักสูตร #ดำเนินใบไม้กำมือเดียว #เอาความต้องการเด็กเป็นที่ตั้ง #การเลือกธรรมะให้กับเด็กที่เหมาะสม จึงแสดงให้เห็นว่าที่ผ่านมาหลักสูตรเราเขียนไว้เราไปไม่ถึงปลายทางของหลักธรรมเพราะมีจำนวนมาก เราจึงต้องมีความชัดเจน 


ดังนั้น เรากำลังจะเอาพระพุทธศาสนาไปแก้ปัญหาสังคม การจัดหลักสูตรต้อง #เอาชีวิตเด็กเป็นตั้ง เด็กประถมเป็นความกตัญญู ส่วนเด็กมัธยมเป็นปัญญาจึงใช้โยนิโสมนสิการ สิ่งที่สำคัญคือ #วิธีการสอนที่เหมาะสมในยุคปัจจุบัน จึงต้องนึกถึงใบไม้ในกำมือ

พบชาวพุทธลาวได้รับเลือกตั้งส.ว.รัฐโอไฮโอสหรัฐ



จากผลการเลือกตั้งกลางสมัยของประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อวันอังคารที่ 6 พ.ย.2561 ที่ผ่านมา ปรากฏว่า นายแอนดี้ เลวิน ผู้สมัครรัฐมิชิแกน ที่นับถือพระพุทธศาสนาชนะเลือกตั้งด้วย   และเฟซบุ๊ก Dharmananda Mahaprabu ได้เปิดเผยว่า นายแอนดี้ เลวินนั้นจบปริญญาโทสาขาพุทธศึกษาที่มหาวิทยาลัยมิชิแกน และได้เดินทางไปสักการะสังเวชนียสถานที่ประเทศอินเดีย  ฉันทำงานอย่างหนักสำหรับเขาและพยายามที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างความสำเร็จสำหรับชาวพุทธในประเทศสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้การเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้สมัครชาวพุทธที่ได้รับเลือกตั้งเป็นส.ว. 2 คนและเป็น ส.ส.4 คนนั้น



ต่อมาได้ทราบว่า  ผู้สมัครชาวพุทธที่ได้รับเลือกตั้งเป็นส.ว. 1 ในจำนวน 2 คนนั้นคือตินา มหารัตน์(Tina Maharath) ทั้งนี้จากการแชร์เพจของเธอโดยอนุศาสนาจารย์กองทัพสหรัฐซึ่งเป็นอดีตพระธรรมทูตซึ่งเป็นคนไทย ซึ่งเป็นเนื้อหาของลิ้งค์ข่าวและข้อความที่เธอโพสต์ความว่า  ฉันเป็นวุฒิสมาชิกของรัฐเอเชียคนแรกของโอไฮโอ ฉันเป็นวุฒิสมาชิกของอเมริกา แห่งพรรคเดโมแครตในรอบหลายปีแห่งรัฐนี้


ทั้งนี้จากการศึกษาข้อมูลของเธอในเพจทราบว่าเธอมีเชื้อสายชาวลาวที่อพยพเมื่อครั้งที่เกิดสงคราม และขณะนี้เธอและครอบครัวได้เดินทางมาที่ประเทศไทยโดยเที่ยวชมวัดโพธิ์เมื่อช่วงเทศกาลลอยกระทงแล้วเดินทางไปที่สปป.ลาวเพื่อเยี่ยมญาติ


สื่อไทยยกคณะดูงานจีน พบนสพ.ใช้ AIเสริมแกร่งทำข่าว



วันที่ 28 พ.ย.61 ทีมข่าวพิเศษ กองบก.เพจจุลสาราชดำเนิน ได้รายงานว่า ผ่านพ้นไปแล้ว หลักสูตรเข้มข้น ยาวนาน 7วัน “ยุทธศาสตร์จีนยุคใหม่ ไทยเตรียมพร้อมอย่างไร" ที่ทางสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ร่วมมือกับ สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ร่วมจัดเสวนาพร้อมกับเดินทางไปดูงานจริงถึง กว่างโจว-เซินเจิ้น สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 10-16พ.ย.

คณะนักข่าว ยังมีโอกาสไปเยือน หนังสือพิมพ์หนานฟาง (Nanfang Daily) มีคณะผู้บริหารให้การต้อนรับสื่อไทยอย่างอบอุ่น เป็นกันเอง พร้อมกับ อธิบายถึงประวัติความเป็นมา การทำงานเบื้องต้นของสื่อจีน ที่น่าสนใจ ในยุคเทคโนโลยีก้าวล้ำ ทันสมัย ไม่เพียงสำนักข่าวชื่อดังในจีนทดลองใช้ AI มาอ่านข่าวได้อย่างน่าทึ่งแล้ว ในหนังสือพิมพ์หนานฟาง ทดลองใช้ AI มาช่วยทำงานในงานบางอย่างที่ไม่ซับซ้อนมากนัก อาทิ การรายงานผลกีฬา ความเคลื่อนไหว ดัชนีในตลาดหลักทรัพย์จีน เป็นต้น ซึ่งผลที่ออกมาให้ความแม่นยำเกือบ100เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

Cr.http://www.tja.or.th/index.php?option=com_content&view=article&id=4852%3A---ai-&catid=168%3A2018-05-09-12-47-39&fbclid=IwAR0mVBdDTwZOziMTAEVV3KTEpIkdrmMp7G2-WS-AZ1rveaCpl8KUDATcL_k

วิเศษนิยมโพลล์!พลิกหนุน'บิ๊กตู่'นั่งนายกฯ เหนือ'หญิงหน่อย'



วันที่ 28 พ.ย.2561 รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต ในฐานะผู้อำนวยการโครงการสำรวจความนิยมของนักการเมืองที่ประชาชนปรารถนาให้เป็นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งเดือน ก.พ.62 เปิดเผยว่า วิทยาลัยฯ ได้ทำการรวบรวมประชากรครั้งละ 8,000 ตัวอย่าง ใน 350 เขตเลือกตั้ง ใน 77 จังหวัดทั่วประเทศ ตามโครงสร้างของประชากรไทยในปัจจุบัน คือ ภาค อาชีพ เพศ อายุ ระดับการศึกษา ฯลฯ ด้วยระดับความเชื่อมั่นทางสถิติ 90% การสำรวจดำเนินการมาแล้ว 4 ครั้ง ดังนี้ครั้งที่ 1 วันที่ 1 พ.ค.61 ผลการสำรวจพบว่า ผู้ได้รับคะแนนนิยมจากประชาชนทั่วประเทศมากที่สุด 5 อันดับแรก1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 29.34%2.คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ 26.24%3.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 24.74%4.นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ 10.61%5.นายอนุทิน ชาญวีรกูล 4.54%และอื่นๆ ที่เหลือ 4.53% 




ครั้งที่ 2 วันที่ 13 มิ.ย.61 ผลการสำรวจพบว่า ผู้ได้รับคะแนนนิยมจากประชาชนทั่วประเทศมากที่สุด 5 อันดับแรก1.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 19.34%2.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 17.31%3.คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ 8.93%4.นายอนุทิน ชาญวีรกูล 5.68%5.นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ 4.36%และอื่นๆ ที่เหลือ 37.61%




ครั้งที่ 3 วันที่ 15 ต.ค.61ผลการสำรวจพบว่า ผู้ได้รับคะแนนนิยมจากประชาชนทั่วประเทศมากที่สุด 5 อันดับแรก1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 19.62%2.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 16.91%3.คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ 16.43%4.นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ 14.42%5.นายอนุทิน ชาญวีรกูล 3.52%และอื่นๆ ที่เหลือ 29.10%ครั้งที่ 4 วันที่ 24 พ.ย.61ผลการสำรวจพบว่า ผู้ได้รับคะแนนนิยมจากประชาชนทั่วประเทศมากที่สุด 5 อันดับแรก 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 27.06%2.คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ 18.16%3.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 15.55%4.นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ 9.68%5.นายอนุทิน ชาญวีรกูล 2.26%และอื่นๆ ที่เหลือ 27.30% 



ขณะที่เมื่อวันที่  25 พ.ย.61 ที่ผ่านมา ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “ประชาชนอยากได้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ตามกฎหมายการเลือกตั้งปัจจุบัน (ครั้งที่ 5)” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 20-22 พฤศจิกายน 2561 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,260 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับประชาชนอยากได้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ตามกฎหมายการเลือกตั้งปัจจุบัน 



จากการสำรวจ เมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนอยากให้เป็นนายกรัฐมนตรี ตามกฎหมายการเลือกตั้งปัจจุบัน (10 อันดับแรก) พบว่า ส่วนใหญ่ อันดับ 1 ร้อยละ 25.16 ระบุว่าเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคเพื่อไทย) รองลงมา อันดับ 2 ร้อยละ 24.05 ระบุว่าเป็น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) อันดับ 3 ร้อยละ 14.52 ระบุว่าเป็น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ (หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่) อันดับ 4 ร้อยละ 11.67 ระบุว่าเป็น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์) อันดับ 5 ร้อยละ 6.90 ระบุว่าเป็น พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส (หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย)








ปฏิวัติ!'นักข่าวอีสาน' ก้าวสู่โลกใหม่บนมือถือ เป็น'นักข่าวมืออาชีพ'




“นักข่าวอีสาน” เร่งปรับตัวและเปลี่ยนแนวความคิด เข้าติวเข้ม 3 วันเต็ม เตรียมตัวเป็น "นักข่าวมือถือ มืออาชีพ” ต่อยอดพัฒนาคุณภาพสู่ไทยแลนด์ 4.0



เมื่อเร็วๆนี้ ที่โรงแรมเพชรเกษม แกรนด์ ถนนจิตรบำรุง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ สมาคมเครือข่ายสื่อมวลชนภาคอีสาน ต่อยอดพัฒนาเข้มผู้สื่อข่าวทุกแขนงของภาคอีสาน เป็นรุ่นที่ 2 ภายใต้ชื่อ "นักข่าวมือถือ มืออาชีพ พัฒนา คุณภาพชีวิตสู่ไทยแลนด์ 4.0" เรียนรู้วิธีการถ่ายภาพและตัดต่อ การทำ Content Marketing แบบ Storytelling ระหว่างวันที่ 23-25 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา 




พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมเครือข่ายสื่อมวลชนภาคอีสาน กล่าวว่า สมาคมฯ ได้จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ โครงการพัฒนาศักยภาพสื่อมวลชนภาคอีสาน ประจำปี 2561 เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งมีผู้เข้ารับการอบรมในครั้งนี้รวม 68 คน จากจังหวัดต่างในภาคอีสาน ทั้งนี้ยังมีภาคอื่นๆ เช่น สระบุรี และสมุทรปราการ เข้าร่วมอบรมด้วย โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในการดำเนินการจัดการอบรม และจัดวิทยากรมาให้ความรู้ ซึ่งเป็นการอบรมเชิงปฏิบัติการต่อยอดความรู้ให้แก่สื่อมวลชนภาคอีสาน ในการผลิตข่าว เพื่อนำเสนอผ่านออนไลน์ พร้อมกันนี้ สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ได้ส่งผู้สังเกตการณ์จำนวน 2 คน เป็นตัวแทนจากองค์กรสื่อมวลชนภาคกลาง และภาคใต้ เข้าร่วมการอบรมในครั้งนี้อีกด้วย 



“ซึ่งการอบรมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ ได้มีวิทยากรมืออาชีพ อย่างเช่น นายกุลพัฒน์ จันทร์ไกรลาศ หรืออาจารย์ต่อง ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตสื่อ, อาจารย์จำรัส จันทนาวิวัฒน์, อาจารย์สืบพงษ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต (กลุ่มพลังแห่งต้นกล้า), คุณวิทยา จิรัฐติกาลสกุล (กลุ่มสื่อสุขสันต์) และคุณอุมาพร ตันติยาทร โปรดิวเซอร์ รายการสารคดีโทรทัศน์ บริษัท บุญมีฤทธิ์ จำกัด นอกจากนี้ สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ได้มอบให้นายชาย ปถะคามินทร์ เลขาธิการ มาบรรยายเรื่อง 

"ภูมิทัศน์สื่อที่เปลี่ยนไป"

 และยังเปิดเวทีเสวนา เรื่อง “สังคมสูงวัย” โดย รองศาสตราจารย์ ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง และอาจารย์กรรณิการ์ บันเทิงจิตร” 



ด้าน อาจารย์ดนัย หวังบุญชัย ผู้จัดการแผนงานสื่อศิลป์วัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สสส. กล่าวว่า สสส. ได้มอบหมายให้แผนงานสื่อศิลป์วัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สสส. เป็นผู้รับผิดชอบงานด้านพัฒนาสื่อ จึงได้ประสานกับสมาคมเครือข่ายสื่อมวลชนภาคอีสาน โดยการเชิญสื่อมวลชนเข้ามาร่วมโครงการพัฒนาศักยภาพฯ ซึ่งเป็นความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายหลายๆส่วน ร่วมกันจัดอบรมเชิงปฏิบัติการสู่ภูมิภาค โดย สสส.ได้ดำเนินการต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว โดยเชิญสื่อมวลชนที่ทำงานในภาคต่างๆ เข้ามาร่วมกิจกรรม ในครั้งต่อไปก็จะเป็นการจัดร่วมกับเครือข่ายสื่อมวลชนภาคเหนือ ที่ จ.น่าน จากนั้นจะไปที่ภาคกลาง ที่ จ.ตราด และปิดท้ายที่ภาคใต้ ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แล้วจึงจะมีการถอดบทเรียน เพื่อทำ


หลักสูตร “สื่อศึกษา”


 เพื่อใช้เป็นแนวทางในการจัดการอบรมในครั้งต่อๆ ไป



ในวันที่ 2 ของการอบรม ผู้อบรมทุกคนจะได้ลงพื้นที่ฝึกปฏิบัติจริง เพื่อผลิตผลงานคลิปวิดีทัศน์ผ่าน Smartphone ความยาว 5 นาที ในประเด็นหัวข้อที่ใช้ฝึกปฏิบัติการทั้ง 4 ประเด็นหลัก ที่ สสส. ได้กำหนดให้มา ได้แก่ ประเด็นรองรับผู้สูงวัย, ประเด็นกลุ่มอ่อนไหวและเปราะบาง, ประเด็นสิ่งแวดล้อมในชุมชน และประเด็นปัญหาปัจจัยเสี่ยงในชุมชน โดยจะมีวิทยากรพี่เลี้ยง ลงไปให้คำแนะนำวิธีการใช้แอพพลิเคชั่นและผลิตสื่อสร้างสรรค์อย่างถูกหลักและจูงใจผู้ชม 



อาจารย์ดนัย กล่าวต่อว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีได้เปลี่ยนไป เราจึงต้องมีการอบรมในการใช้มือถือ หรือสมาร์ทโฟน ในการผลิตสื่อในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามหลังจากจบการอบรมแล้วผู้เข้าอบรม จะต้องกลับไปฝึกทบทวนและใช้มือถือต่อยอดในการผลิตข่าวด้วยตัวเองต่อไปเพื่อให้เกิดทักษะ และความชำนาญมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้หากติดขัดหรือมีข้อสงสัย ก็ยังสามารถสอบถามวิทยากรทุกท่านได้ เพื่อที่เราจะได้มีการพัฒนาให้ดียิ่งๆขึ้นต่อไป



ด้าน ดร.กัลยาณี ธรรมจารย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ หนึ่งในผู้เข้าร่วมอบรม เล่าด้วยความประทับใจว่า เป็นการอบรมที่เข้มข้น จริงจัง ทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติที่ได้มีการแบ่งกลุ่มผู้อบรมฯ และให้ลงไปยังพื้นที่พร้อมวิทยากรพี่เลี้ยง เพื่อหาประเด็นข่าวตามหัวข้อที่ สสส.กำหนด โดยในแต่ละกลุ่มก็ได้มีการประชุมวางแผนร่วมกัน แบ่งมอบหน้าที่ แล้วลงมือถ่ายภาพด้วยมือถือ เพื่อนำมาตัดต่อด้วยแอพพลิเคชั่นในมือถือ ซึ่งเป็นความทันสมัยในยุค 4.0 และที่สำคัญมีความสะดวกสบาย สามารถผลิตสื่อได้โดยง่าย รวดเร็ว แก้ไขได้ตามใจต้องการ และที่สำคัญสามารถนำไปใช้งานได้ทันต่อเหตุการณ์ 



ทั้งนี้ หลังจากที่ทุกกลุ่มได้ร่วมกันผลิตสื่อตามโจทย์ที่ สสส.กำหนดแล้ว และได้ส่งงาน คณะผู้ทรงคุณวุฒิ โดยมีอาจารย์มานพ  แย้มอุทัย ผู้ทรงคุณวุฒิ สสส. เป็นประธานได้ร่วมกันวิพากย์ถึงเนื้อหา การถ่ายภาพ ความเชื่อมโยงการเล่าเรื่อง เพื่อให้นำไปปรับแก้ ให้ผลงานของแต่ละกลุ่มออกมามีประสิทธิภาพและเป็นที่สนใจของผู้ชม จึงนับได้ว่าการอบรมครั้งนี้เป็นการอบรมเข้มที่ทุกคนได้มีส่วนร่วมและเรียนรู้การผลิตสื่ออย่างสร้างสรรค์เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการจัดงาน ซึ่งจะได้มีการต่อยอดในการจัดโครงการครั้งที่ 3/2561 ต่อไป

แต่งคอนโดฯ อย่างไร...ให้คอมพลีท!




ยังคงเป็นปัญหาความยุ่งยากของใครหลายคน ที่เมื่อซื้อคอนโดฯ แล้วยังจะต้องหาเวลาไปเลือกเฟอร์นิเจอร์ตรงนั้นที ตรงนี้ที ไหนจะต้องโทรตามช่างมาติดตั้งอะไรต่างๆ นานา ไหนจะเจอปัญหาเฟอร์นิเจอร์ไม่พอดีกับพื้นที่ สายไฟตามผนังทำให้ดูรกหูรกตา ฯลฯ ด้วยเหตุนี้ เอสบี ดีไซน์สแควร์ ผู้นำด้านนวัตกรรมและดีไซน์เฟอร์นิเจอร์เมืองไทย จึงปิ๊งไอเดียเปิดโมเดลธุรกิจใหม่เป็นของขวัญส่งท้ายปีด้วย “CONDO SOLUTIONS @ SB DESIGN SQUARE” (คอนโด โซลูชั่นส์ @ เอสบี ดีไซน์สแควร์) ทั้งยังนับเป็นเจ้าแรกที่รวบรวมบริการตกแต่งคอนโดแบบครบวงจร พร้อมตอบทุกเรื่อง ขจัดทุกปัญหา การแต่งคอนโดได้ในที่เดียว โดยเปิดตัวที่แรก ณ เอสบี ดีไซน์สแควร์ บางนา 

นางธัญญรักข์ ชวาลดิฐ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท เอสบี เฟอร์นิเจอร์ เผยว่า สิ่งแรกเลย คือ เอสบีเข้าใจในความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริงว่า เมื่อลูกค้าซื้อคอนโดฯ ก็อยากจะตกแต่งห้องให้สวย แต่บางครั้ง   ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไง ทั้งสไตล์ที่ชอบ แบบที่ใช่ ช่างที่ไว้ใจได้ รวมถึงเรื่องงบประมาณ ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะหมดปัญหาไปเมื่อได้มาที่ CONDO SOLUTIONS @ SB DESIGN SQUARE เพราะครั้งนี้จะไม่ใช่แค่การเลือกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่ง ที่สามารถตอบโจทย์เพียงเรื่องการออกแบบ การใช้งาน คุณภาพและความสวยงามเท่านั้น แต่เอสบีจะเข้ามาช่วยดูแล “งานตกแต่งคอนโด” ให้กับลูกค้าแบบครบวงจร ทั้งงานปูพื้น  ดรอปฝ้า  ย้ายปลั๊ก ทำผนังตกแต่ง กรุกระจก เติมไฟประดับ  ติดฟิมล์กันความร้อน ผ้าม่าน วอลเปเปอร์ ติดตั้ง Digital Door Lock และระบบ Smart Home System

 “การที่เอสบีมาทำแบบนี้ คือ การเดินเข้าสู่โลก Disruptive ซึ่งมันคือการเอา Pain Point ของผู้บริโภค มาหา Solution ให้ทุกอย่างง่ายขึ้น จึงเป็นที่มาของ CONDO SOLUTIONS ซึ่งทางเอสบีกำลังก้าวล้ำไปกว่า พวก Disruptive โดยทั่วไป คือ การเป็น Hybrid Disruptive ผนวกทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคเข้ามาช่วยแก้ปัญหา ให้ผู้บริโภคเอง ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่วาง 3D และดึง Database ทุกอย่างที่เอสบีมีเอามาใช้ เรียกได้ว่า ลงตัวทั้งคนและโลกดิจิตอล ในขณะเดียวกันเราก็ไม่ปล่อยให้เครื่องมือทำงานอย่างเดียว เพราะว่าบ้าน คือ การใส่ใจลงไปด้วย เรายังมีทีมงาน Interior Designer มืออาชีพคอยช่วยดูแลเรื่องออกแบบและสไตล์การตกแต่ง และทีม Condo Décor Planner ที่เป็นมากกว่าผู้ช่วยส่วนตัว คอยให้คำปรึกษา ติดตามงาน บริหารจัดการเวลาและวางแผนงานติดตั้งต่างๆ ให้กับลูกค้า เพื่อให้การแต่งคอนโดของลูกค้าเป็นเรื่องสะดวกสบายและง่ายขึ้น”

โดยในงานเปิดตัว CONDO SOLUTIONS @ SB DESIGN SQUARE ยังยกห้องตัวอย่างแปลนห้องจริงของคอนโดโครงการต่างๆ  พร้อมไอเดียการตกแต่งมาไว้ให้ดูถึง 6 แบบ ซึ่งแต่ละแบบเรียกว่าสะท้อนสไตล์ที่แตกต่างกันได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น แบบที่ 1 เป็นการนำแปลนห้องขนาด 33.5 ตารางเมตร จากโครงการ Ideo สุขุมวิท 93 มาตกแต่งเป็นสไตล์ “Modern Luxury” ที่มีความเรียบหรู ดูทันสมัย ด้วยหลากวัสดุอินเทรนด์ อาทิ ลายหินอ่อนสีดำ Crystal High Gross อะลูมิเนียมสีทอง กระจกเงาเทา ขณะที่ แบบที่ 2 ด้วยพื้นที่เท่ากัน   ในโครงการเดียวกัน แต่มาในสไตล์ “Metro Luxe” ที่โฉบเฉี่ยวแบบแฟชั่นลุค โดดเด่นในธีมสีเทาเข้มขรึม แต่หยอดความมีชีวิตชีวาด้วยสีสันแห่งดีไซน์ ตามมาด้วย แบบที่ 3 กับขนาดพื้นที่ 33 ตารางเมตร โครงการ The Line สุขุมวิท 101 ถูกเนรมิตรในสไตล์ “Stylish Loft” ที่บ่งบอกเอกลักษณ์แห่งตัวตน สะท้อนความดิบ เท่ สไตล์ลอฟท์ ด้วยการตกแต่งที่เน้นเผยผิวสัมผัสของหลากวัสดุ ทั้งลายไม้ เหล็กและผ้า นอกจากการตกแต่งสไตล์เท่ๆ แล้ว ลองมาดูสไตล์หวานๆ กันบ้างกับ แบบที่ 4 ที่จำลองห้องขนาด 33.7 ตารางเมตร ของโครงการ Whizdom Essence สุขุมวิท 101 มาตกแต่งในสไตล์  “Scandi Chic” ซึ่งมีความสวยเรียบ แต่ซ่อนเสน่ห์ด้วยลายไม้สีอ่อน ให้ความรู้สึกอบอุ่น และโปร่งสบาย สไตล์สแกนดิเนเวีย บอกรสนิยมอย่างมีระดับ ต่อกันด้วย แบบที่ 5 “Classy Urban” ที่หยิบเอาโครงการ Ideo Mobi สุขุมวิท 66 ขนาด 52.5 ตารางเมตร มาตกแต่งแบบไลฟ์สไตล์คนเมือง  ให้สัมผัสอบอุ่นแต่หรูหรามีสไตล์ ด้วยการผสานสีเอิร์ธโทนเข้ากับวัสดุ ลายหิน ลายไม้ และคริสตัลไฮกลอส และปิดท้ายด้วยสไตล์ที่หนุ่ม-สาวสายวินเทจห้ามพลาด กับ แบบที่ 6 “Classic White” ด้วยการเนรมิตห้องขนาด  22 ตารางเมตร ของโครงการ Knights Bridge Prime Onnut ให้ออกมาสวยคลาสสิค อ่อนหวาน ผสานความทันสมัย โดดเด่นด้วยหน้าบ้านสีพ่นสีขาว ดีไซน์คิ้วบัวสุดประณีต บอกเอกลักษณ์สไตล์วินเทจสุดๆ  พร้อมกันนี้  ทุกห้องยังสามารถติดตั้ง Digital Door Lock และเพิ่มระบบ Smart Home System เพื่อตอบรับการใช้ชีวิตแบบ Smart Metro Lifestyle ได้อย่างลงตัวอีกด้วย

และแม้ว่าเทรนด์การออกแบบตกแต่งคอนโดที่มาแรงในปี 62 นี้ จะเป็นสไตล์ลักซัวรี่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังคงขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนด้วย เพราะการตกแต่งคอนโดฯ ให้ออกมาในแบบที่เป็นตัวเองที่สุด น่าจะตอบโจทย์ ตัวเราเองได้อย่างดีที่สุดเช่นกัน ซึ่งนอกจากทั้ง 6 แบบที่กล่าวมาแล้วนั้น ก็ยังมีอีกหลายร้อยแบบเพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า จะชอบแต่งคอนโดฯ สไตล์ไหน จะปรับ-เปลี่ยน-แต่งเติม-เพิ่มอะไร ให้ CONDO SOLUTIONS ดูแล คลิ๊กดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sbdesignsquare.com/th/condo_solutions

 Cr.https://www.thaitimenews.com/content/4658?fbclid=IwAR1t_wOY_dlBlQnSIeU57v3jyUpJnFjvu7XpnE9XGRxvy6bXDX_4uiwJs5s

วันจันทร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ผู้แทนวัดพระธรรมกายแสดงความยินดีช่อง 7 HD ก้าวสู่ปีที่ 52



เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พระมหานพพร ปุญฺญชโย ปธ.9 รองผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกายร่วมแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสวันสถาปนาสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 โดยมีคุณสมโภชน์ โตรักษา รองผู้จัดการฝ่ายข่าว ให้การต้อนรับ ในการนี้ทางวัดพระธรรมกายและมูลนิธิธรรมกาย ได้มอบหนังสือ 48 ปีวัดพระธรรมกายเป็นที่ระลึกและร่วมสร้างกุศลบริจาคอุปกรณ์การศึกษา และอุปกรณ์กีฬา ร่วมกับสถานีฯ เพื่อส่งเสริมสนับสนุนเยาวชนของชาติให้มีความสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ กล้าคิด กล้าแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ ทั้งในด้านการศึกษา กีฬา และสันทนาการซึ่งสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 จะได้รวบรวมนำอุปกรณ์เหล่านี้ไปเป็นของขวัญวันเด็กมอบให้แก่นักเรียน และเยาวชนของชาติในทุกภูมิภาคทั่วประเทศต่อไป

แถลงการณ์เพื่อไทย…จะยืนหยัดรักษาความเชื่อมั่นที่ประชาชนมอบให้เรา



วันที่ 27 พฤศจิกายน 2561 นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ได้ออกแถลงการณ์ความว่า 




พรรคเพื่อไทย…จะยืนหยัด รักษาความเชื่อมั่นที่ประชาชนมอบให้เรา



ในช่วงหลายวันมานี้  อดีต ส.ส. นักการเมืองของทุกพรรคการเมืองมีการแตกตัว เปลี่ยนย้ายไปอยู่พรรคต่างๆมากมาย ไม่เว้นแม้กระทั่งพรรคเพื่อไทย
ปรากฎการณ์ที่มากและสับสนเช่นในปัจจุบัน เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นหรือไม่ควรเกิดขึ้นมากนักหากประเทศเรามีระดับการพัฒนาทางการเมืองมากกว่านี้ 
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สภาพเช่นนี้เกิดขึ้นภายใต้สถานการณ์ทางการเมืองที่ผู้มีอำนาจในปัจจุบันได้ใช้อำนาจพิเศษนอกระบบเข้ามาล้มล้างการปกครองโดยการยึดอำนาจไปจากรัฐบาลประชาธิปไตยที่ได้รับฉันทานุมัติมาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งประเทศและอ้างว่าจะดำเนินการปฎิรูปประเทศและปฎิรูปการเมืองของประเทศอย่างเร่งด่วนและสัญญาว่า จะคืนอำนาจกลับมาให้ประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศโดยเร็วพลัน…เศร้ามาก ที่สิ่งนี้ คือผลิตผล
ของการปฎิรูปการเมือง ที่ได้มาด้วยการแลกกับ การล้มล้างระบบประชาธิปไตยไป เมื่อ4-5ปีก่อน”

  

หลายคนที่เคยมีส่วนร่วมสนับสนุน ให้เกิดการล้มล้างระบอบประชาธิปไตยที่ผ่านมา และเคยมีความคาดหวัง อยากเห็นการปฎิรูปการเมืองเกิดขึ้นในประเทศของตน คงนึกไม่ถึงว่าคณะบุคคลที่ยึดอำนาจจะมีส่วนทำให้ระดับการพัฒนาทางการเมืองของไทยตกต่ำลงมากถึงเพียงนี้



สถานการณ์การใช้”เครื่องดูดที่มีพลังมหาศาล  ที่ได้รับการสนับสนุนจากกลไกต่างๆที่ผู้มีอำนาจมีอยู่…ถูกยื่นเป็นข้อเสนอประกอบสารพัดเงื่อนไขไม่ว่าจะเป็นผลประโยชน์ในรูปแบบต่างๆทั้งสินทรัพย์ เงินทองรวมถึงประโยชน์ในการเอื้อประโยชน์เรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งรวมถึงการช่วยเหลือในทางคดีหรือการช่วยคลายปัญหา คลายทุกข์ให้เครือญาติพี่น้องที่ยอมรับเงื่อนไขการย้ายไปอยู่ร่วมกัน ล้วนเป็นเหตุผลในการใช้เป็นข้ออ้าง เพื่ออธิบายของบุคคลและคณะบุคคลที่มีการโยกย้าย เปลี่ยนแปลงพรรคในครั้งนี้ทั้งสิ้น / จริงหรือไม่ยังต้องใช้เวลาพิสูจน์ แต่รูปการและลักษณะของผู้ที่ตัดสินใจโยกย้ายพรรคหลายคน ล้วนมีร่องรอยให้ข้อกล่าวอ้างต่างๆมีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้ใครหลายคนเชื่อและคล้อยตาม



ผมเคารพในข้อจำกัดและการเลือกเส้นทางชีวิตทางการเมืองของอต่ละคน  แม้นพยายามจะเข้าใจ แต่ก็ยังอดเสียดายอดีตที่แต่ละคนได้มีส่วนทุ่มเทผลักดันสิ่งดีๆที่ผ่านมาไม่ได้



เส้นทางข้างหน้า ยังทอดยาวไปอีกไกล ปัญหา อุปสรรคที่ยืนขวางหน้าการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยเปรียบเสมือน”คลื่นร่อนทราย ในช่วงเปลี่ยนผ่านของกาลเวลา
ที่จะมีเพียงทรายเม็ดใหญ่ที่แข็งแรง หลงเหลืออยู่”



ขออวยพรให้ทุกคน ยึดมั่นในสิ่งดีๆ  และมีชีวิตอยู่อย่างมีคุณค่าเพื่อคนที่ยังยากลำบากที่ยังมีอยู่อีกมากในสังคมไทย




อย่างที่ผมเคยกล่าว…” รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ได้เขียนขึ้นมาเพื่อพวกเรา แต่เขียนมาเพื่อคนอีกกลุ่มหนึ่ง ที่ยึดถืออำนาจอยู่ในปัจจุบัน…เขาหวังให้เราต้องเจอกับสภาพนี้ และมันก็ได้เกิดขึ้นแล้ว”



แต่ผมยังคงยืนยัน สภาพแค่นี้ ไม่มีวันทำลายอุดมการณ์และความเชื่อมั่นของพวกเรา ที่จะมุ่งเดินไปข้างหน้าเพื่อแก้ไชปัญหาให้ประชาชนและสร้างการเมืองที่มีคุณภาพและเป็นประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นในสังคมไทย



เราจะมุ่งเดินไปข้างหน้าต่อไป



เรายังมีจุดยืนที่มั่นในอุดมการณ์ประชาธิปไตย ไม่หวั่นไหว




ผมยืนยันอีกครั้งว่า พรรคเพื่อไทยยังเป็นพรรคการเมืองที่ประชาชนยังตั้งความหวังและไว้วางใจเราได้



เราได้เตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่ผ่านมาและเรียนยืนยันว่า สถานการณ์แค่นี้ ไม่ระคายหรือไม่อาจทำลายเราได้แม้แต่น้อย…เรายังมีบุคลากรที่มีคุณภาพทางการเมือง และมีบุคลากรที่เป็นที่ไว้วางใจของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ต่างๆอีกจำนวนมาก และเราก็ยังจะเป็นพรรคการเมืองที่จะได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนอย่างสูงสุด 



พรรคเพื่อไทยจะยืนหยัดทำงานเพื่อถนอมความหวังที่ประชาชนมอบให้ ให้สมกับที่พี่น้องประชาชนฝากความหวัง ฝากชีวิต ฝากอนาคตของพวกเขาไว้กับพรรคเพื่อไทย



สุดท้าย ขอขอบคุณและขอมอบ กำลังใจ ให้สมาชิกพรรคเพื่อไทยทุกคน ที่ยังคงยึดมั่นในอุดมการณ์ที่พี่น้องประชาชนฝากความหวังไว้กับพวกเรา ผมเชื่อว่าเมื่อถึงวันที่อำนาจอยู่ในมือประชาชน ประชาชนจะตัดสินใจด้วยความเชื่อมั่นในตัวพวกเรา



เราเชื่อมั่นในพี่น้องประชาชน

พท.ถามนี่หรือปฏิรูปการเมืองแบบไทยแลนด์ 4.0 ?



วันที่ 27 พฤศจิกายน 2561 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด คณะทำงานสื่อสารการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนักการเมืองแห่สมัครและย้ายพรรคเพื่อให้ทันตามกำหนดเวลาการลงสมัครรับเลือกตั้ง จนทำให้บางพรรคมีสมาชิกเพิ่มและลดลงอย่างชัดเจน ว่า หลังรัฐประหารปี 2534 เกิดพรรคสามัคคีธรรม หลังรัฐประหารปี 2549 เกิดพรรคเพื่อแผ่นดิน หลังรัฐประหารปี 2557 ก็มีพรรคลักษณะเดียวกันนี้เกิดขึ้น ภาพการกวาดต้อนนักการเมืองที่ทำกันอุตลุดจนถึงเที่ยงคืนของวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 เป็นรูปแบบการดูดและการกวาดต้อนที่น่าตกใจ 



ไม่ว่าจะเป็นการเสนอให้อามิสสินจ้างเพื่อให้ย้ายพรรค การรับปากจะช่วยเรื่องคดี รวมถึงการแบ่งเขตเลือกตั้งให้ได้เปรียบ ล้วนถูกหยิบยกขึ้นมาใช้ทุกกระบวนท่าเพื่อกวาดต้อนอดีตส.ส.ให้ได้มากที่สุด น่าจะเป็นการดูดครั้งมโหฬาร จนเป็นรอยด่างการเมืองไทย จึงตั้งคำถามว่านี่หรือคือการปฏิรูปการเมืองแบบไทยแลนด์ 4.0 ที่จะให้กับคนไทย ซึ่งหากทุกฝ่ายรับฟังเสียงประชาชน จะทราบว่าการปฏิรูปการเมืองที่ประชาชนต้องการ คือการเมืองที่สุจริต มีประสิทธิภาพ 



พรรคการเมืองที่ลงทุนดูดอย่างมหาศาล มีหรือที่หว่านพืชไม่หวังผล แล้วต้องเข้าไปถอนทุนคืนอีกเท่าไหร่ เมื่อการดูดสำเร็จแล้ว ก็ควรปลดปลดล็อคให้พรรคการเมือง สามารถแข่งขันกันนำเสนอนโยบาย รณรงค์การเลือกตั้ง สื่อสารนโยบายกันได้อย่างเต็มที่ แล้วรอฟังคำตอบจากประชาชนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ว่าประชาชนเห็นด้วยกับพรรคพลังดูดหรือไม่ เมื่อผลการตัดสินใจของประชาชนผ่านการเลือกตั้งออกมาเป็นอย่างไร ขอให้ทุกฝ่ายยอมรับและเคารพต่อการตัดสินใจของประชาชนด้วย

ผู้ว่าการรัฐพิหารอินเดียเปิดพระพุทธรูปปางแสดงปฐมเทศนา



วันที่ 27 พฤศจิกายน 2561 ผู้ว่าการรัฐพิหาร ประเทศอินเดีย (H. E. Nitish Kumar, Hon’ble Chief Minister of Bihar, India) เป็นประธานเปิด พระพุทธรูปปางแสดงธรรม ปฐมเทศนา ที่ทะเลสาปเมืองราชคฤห์ at Ghora Katora in Rajgir.ขนาดความสูง 16 เมตร ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสลักหินทรายที่สูงเป็นอันดับสองรองจากพุทธไดมึสุ วัดญี่ปุ่นพุทธคยา (23 เมตร) มีพระครูปลัดสุวัฒนพุทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดไทยสิริราชคฤห์ เลขาคณะพระธรรมทูตอินเดีย- เนปาล พร้อมด้วยประธานสงฆ์วัดมหาโพธิพุทธคยา Chief Monk Bhante Chalinda พร้อมคณะสงฆ์นานาชาติกว่า 20 รูปและพุทธศาสนิกชนจำนวนมากร่วมพิธี










Cr.FB-ท่านคมสรณ์ ข่าวสารงานพระธรรมทูตอินเดีย

กรมพัฒน์ ร่วม NECTEC ดันแผนพัฒนาแรงงานด้าน AI เป้า 3 ปี 10,000 คน

กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ร่วมกับ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ ดันแผนพัฒนากำลังคนด้านปัญญาประดิษฐ์ เป้าหมาย 10,000 คน ในระยะ...