วันจันทร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2561

นักการเมืองทำบุญปีใหม่ เอาฤกษ์เอาชัย ถือโอกาสแนะนำตัว



วันที่ 1 ม.ค.2562 เวลา 07.00 น. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ   อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร  นายอนุสรณ์ ปั้นทอง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตบางเขน พรรคเพื่อไทย  นายสายันต์ จันทร์เหมือนเผือก  ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์  70 รูป เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2562  ณ ศาลา สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน 

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  พร้อมสมาชิกพรรคร่วมทำบุญตักบาตร พร้อมกับถวายจตุปัจจัยและเครื่องไทยธรรมแก่พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ จำนวน 10 รูป สวดพระพุทธมนต์ ก่อนจะรับการปะพรมน้ำพระพุทธมนต์ ต่อมาพระสงฆ์ทั้ง 68 รูปได้ออกบิณฑบาตรบริเวณโดยรอบลานคนเมือง กรุงเทพมหานคร  ยังได้อัญเชิญพระพุทธนวราชบพิตร (พระพุทธรูปประจำจังหวัด) มาประดิษฐาน ณ มณฑลบริเวณลานคนเมือง เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสกราบไหว้สักการะบูชา เพื่อเป็นสิริมงคล จนถึงเวลา 15.00 น. วันที่ 1 ม.ค. 2562 ก่อนจะอัญเชิญกลับไปประดิษฐาน ณ หอพระฯภายในศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร
คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ข้าร้าชการ เจ้าหน้าที่ในสังกัด และพุทธศาสนิกชน ร่วมพิธี ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางไปทำบุญตักบาตรร่วมกับชาวตรังแล้ว จากนั้นเวลาประมาณ 09.00 น. เดินทางกลับบ้านพักถนนวิเศษกุล ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งมีข้าราชการ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส พรรคประชาธิปัตย์เขต 1 และเขต 3 พร้อมทั้งบรรดานักการเมืองท้องถิ่น และกลุ่มพลังมวลชนจำนวนมาก ทยอยเดินทางเข้ามอบกระเช้าของขวัญเพื่ออวยพรปีใหม่ให้กับนายชวนฯ  ซึ่งนายชวนฯ ได้นำขนมจีนน้ำยา แกงเขียวหวาน ผัดไทย ไอศรีม ขนมและน้ำผลไม้ต่าง ๆ รวมกว่า 20 รายการไว้คอยต้อนรับประชาชนที่มาร่วมอวยพรปีใหม่เหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา โดยไม่มีนัยยะสำคัญทางการเมือง ขณะที่บรรดาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส พรรคประชาธิปัตย์ต่างใช้โอกาสนี้พบปะกับประชาชนเป็นการหาเสียงไปด้วยในตัว โดยหวังคะแนนเสียงของประชาธิปัตย์ใน จ.ตรังจะยังไม่ลดน้อยลง

ส่วนที่บ้านกุดขุ่น ต.รอบเมือง อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด นางสาวนารี บุตรพรม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 3  จังหวัดร้อยเอ็ด เข้าพบปะพี่น้องชาวบ้านกุดขุ่น มีนายไชยา สุริโย ประธานสมาพันธ์ชาวพุทธอำเภอหนองพอกให้การต้อนรับ และนำกราบนมัสการพระครูสุจิตธมฺมโสภณ รองเจ้าคณะอำเภอหนองพอก เรียนถวายถึงการก่อเกิดพรรคแผ่นดินธรรม พรรคชาวพุทธ จากนั้นเข้าพบปะพี่น้องชาวบ้านกุดขุ่น 

ดร.อดิศร หนันคำจร โฆษกพรรคแผ่นดินธรรม สนทนากับพี่น้องชาวบ้าน พบว่าพี่น้องชาวกุดขุ่นต่างดีใจและยินดีสนับสนุนเต็มที่ เพราะที่ผ่านมายังไม่มีพรรคไหนที่กล้าประกาศว่าพรรคที่จะมารับใช้ชาวพุทธ ยังไงเสียเอาพระพุทธศาสนาไว้ก่อน ผลักดันลูกหลานเราเข้าไปมีบทบาทในสภา เพื่อขับเคลื่อน ศีลธรรมนำชาติ หากเยาวชนและคนในชาติมีศีลธรรม เชื่อว่าปัญหาต่าง ๆ จะเบาเทาเบาบาง นำสังคมและประเทศชาติสู่ความร่มเย็นตามวิถีชาวพุทธสืบไป



ขณะเดียวกันนายธนกฤต เลื่องปุ้ย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กำแพงเพชร เขต 1 ถือโอกาศเข้าขอพรปีใหม่พระคูรวัชรวรกิตติ์ เจ้าอาวาสวัดทุ่งสวน ต.นครชุม อ.เมือง จ.กำแพงเพชรและพบประประชาชนผู้มาร่วมทำบุญเนื่องในโอกาศวันขึ้นปีใหม่

'ทักษิณ'สื่อสารผ่านสื่อออนไลน์เต็มสูบ



วันที่ 31 ธ.ค.2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค อวยพรประชาชนและสวัสดีปีใหม่ 2562 โดยมีเนื้อหาเน้นไปทางด้านโปรโมทผลงาน แนวคิดการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ รวมถึงการรับมือการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีในอนาคตแล้ว

ยังได้สื่อสารผ่านทางช่องทางใหม่คือเว็บไซต์  www.thaksinofficial.com ซึ่งเป็นเว็บใหม่ที่จัดทำโดยบุตรสาวทั้ง 2 คน ที่รวบรวมความประทับใจ คำพูด แนวคิดดีๆที่เคยถ่ายทอดให้บุตรได้ฟัง ในเว็บดังกล่าวยังเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูล ความเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ทั้งหลักคิดการบริหารประเทศ มุมมองทางเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางของนายทักษิณ ในการสื่อสารผ่านโลกโซเชียล จากเดิมที่มักสื่อสารผ่านเฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ เป็นหลัก

'ดร.สุดารัตน์'ชวน สวดมนต์ข้ามปี ยกพุทธสุภาษิต เตือนเห็นภัยมรณะ




 เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2561  เฟซบุ๊ก คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ Sudarat Keyuraphan ได้โพสต์ข้อความว่า ช่วงวันหยุดปีใหม่ เป็นช่วงเวลาดีๆ​ ที่ครอบครัวได้กลับมาอยู่บ้านพร้อมหน้าพร้อมตากันนะค​ะ​ หลังจากต้องทำงานหนัก มาทั้งปี  ใครที่คุณพ่อคุณแม่ยังอยู่ ก็กลับไปกราบ​ ไปกอด​ ไปหอม ท่านผู้เป็นพระในบ้าน​ ให้ท่านชื่นใจนะคะ และถ้ามีโอกาสก็ชวนกันสวดมนต์ไหว้พระ​ เข้าวัดฟังธรรม และทำบุญ เพื่อเป็นสิริมงคลต้อนรับปีใหม่​ ชีวิตใหม่กันค่ะ

ทุกวัดมีจัดสวดมนต์ข้ามปี ใกล้วัดไหนก็ไปวัดนั้นค่ะ​ แต่ถ้าไม่สะดวกออกจากบ้าน หรือบางคนต้องเดินทาง​ ต้องทำงาน ก็ไม่เป็นไรเลยค่ะ จะสวดมนต์เจริญจิตภาวนาที่บ้าน​ บนรถ​ หรือที่ทำงานก็ได้ค่ะ​ เพียงแค่น้อมรำลึกถึงพระพุทธคุณและตั้งใจเป็นคนดี​ น้อมนำพระธรรมคำสอนมาปฏิบัติในปีใหม่นี้​ ก็จะเป็นมงคลต่อชีวิตตลอดปีแล้วค่ะ

ปีเก่าผ่านพ้นไป หมายถึงเวลาของชีวิตแต่ละคนที่จะเหลือลดน้อยลงอีกหนึ่งปี การสวดมนต์ข้ามปีเพื่อให้เกิดสติมีความไม่ประมาทในชีวิต  ดั่งพุทธศาสนสุภาษิตบทหนึ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า “อจฺจนฺติ กาลา ตรยนฺติ รตฺติโย, วโยคุณา อนุปุพฺพํ ชหนฺติ, เอตํ ภยํ มรเณ เปกฺขมาโน, ปุญฺญานิ กยิราถ สุขาวหานิ” แปลว่า “กาลย่อมล่วงไป ราตรีย่อมผ่านไป ชั้นแห่งวัยย่อมละลำดับไป ผู้เล็งเห็นภัยในมรณะนั้น พึงทำบุญอันนำสุขมาให้”

ทั้งนี้คุณหญิงสุดารัตน์สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก พุทธศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต สาขาพระพุทธศาสนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มจร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ด้วยดุษฎีนิพนธ์เรื่อง "พุทธวิธีเชิงบูรณาการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งการเมืองไทยในปัจจุบัน" อย่างไรก็ตามก็ได้จัดพิธีสวดมนต์ข้ามปีที่พระอุโบสถกลางน้ำเช่นเดียวกัน 

'อย่าอยู่ โดยไร้ประโยชน์' ธรรมะเป็นพรปีใหม่ปี62 'พระครูบาบุญชุ่ม'อยู่มาเลย์




 เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2561  เนื่องในเทศกาลขึ้นปีใหม่ พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร  ได้ให้ธรรมะเป็นพรปีใหม่ 2562 อย่างเช่น  “ปี เดือน วันเวลาหมดไป ตัวขันธาไปสู่มรณะความตาย เราท่านทั้งหลาย อย่าอยู่โดยไร้ประโยชน์ เลยคืนเลยวัน พากันพากเพียร สร้างคุณงามความดี มีบุญกุศลไว้มากๆ ให้ทานศีล ภาวนาทุกคืน” อย่างไรก็ตามขณะนี้พระครูบาบุญชุ่มได้เดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจที่ประเทศมาเลเซีย 

อย่างไรก็ตามได้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากได้เดินทางเข้ามาในอำเภอเชียงแสน จ.เชียงราย และหลายคนได้พากันไปที่สำนักปฏิบัติธรรมวัดพระธาตุดอยเวียงแก้ว เพื่อกราบรูปพระครูบาบุญชุ่มเพื่อขอพรปีใหม่ด้วย 

ด้านพลเอกสุทัศน์ จารุมณี ประธานกรรมการมูลนิธิดอยเวียงแก้ว สำนักปฏิบัติธรรมวัดพระธาตุดอยเวียงแก้ว ได้กล่าวว่า พระครูบาบุญชุ่มท่านได้เขียนเป็นธรรมทานบางตอนว่า "คนเราเกิดมาก็ไม่มีอะไรติดตัวมา ตายไปก็ไม่มีอะไรติดตัวไป นอกจากกรรมดีกรรมชั่ว และบุญบาปที่เรากระทำไว้นั้นย่อมติดตามเราไปตลอด" "ผู้ใดหวังดับทุกข์สิ้นทุกข์ จงมีความศรัทธาตั้งมั่น และความเพียร มีสติ สมาธิและปัญญา มีขันติเมตตานำหน้าแล้ว ตั้งใจศึกษาธรรมะ ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ที่รู้แจ้งถึงได้บรรลุถึงมรรคผลนิพพานได้ในชาติปัจจุบันนี้"
   
ประธานกรรมการมูลนิธิดอยเวียงแก้ว กล่าวด้วยว่า  ในวันที่ 6-9 มกราคม 2562 พระครูบาบุญชุ่ม ท่านให้โอกาสแก่ศิษยานุศิษย์ ศรัทธามหาชน และประชาชนทั่วไป ได้แสดงมุทิตาจิต จัดงานสืบชะตาหลวงอายุวัฒนมงคล พระครูบาบุญชุ่ม ครบรอบ 55 ปี ที่สำนักปฏิบัติธรรมวัดพระธาตุดอยเวียงแก้ว ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน ถือเป็นห้วง “วันแห่งการให้” ในครั้งนี้จะมีการเจริญรอยวัฒนธรรมล้านนา คือการตาน(ทาน) ข้าวสี่เผิน(ข้าวสี่สำรับ) เป็นวัฒนธรรมชาวไทใหญ่ ที่ถือกันว่าเป็นการถวายสักการบูชาแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระอรหันต์สาวก 8 รูป ด้วยอาหารที่ประณีต ซึ่งหาดูได้ยากในปัจจุบัน 

'ทักษิณ'อวยพรปีใหม่ เตือนปี62 โลกเปลี่ยนเร็วAIมาแรงเตรียมรับมือ



          วันที่ 31 ธ.ค.2561 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ส่งข้อความอวยพรปีใหม่คนไทย ระบุว่า



สวัสดีปีใหม่ 2562 พี่น้องไทยทุกท่านครับ

วันนี้ผมขอมาสวัสดีปีใหม่กับพี่น้องคนไทยเหมือนทุกปีที่ตัวอยู่ไกลแต่ใจอยู่ไทย ปีนี้เป็นปีที่อวยพรด้วยความดีใจที่ประเทศเราจะกลับคืนสู่สิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพ ถึงแม้จะต้องมาเริ่ม ก.ไก่ กันใหม่ แต่ก็ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี แต่ก็อดห่วงไม่ได้เพราะว่ามีผู้รู้ทางเศรษฐกิจระดับโลกหลายคนได้แสดงความวิตกว่าครึ่งปีหลังของปี 2562 และต่อปี 2563 เศรษฐกิจโลกจะมีปัญหาอีกรอบ เศรษฐกิจของเรายิ่งอ่อนแออยู่ มาเจอแรงกระแทกใหม่จะทำอย่างไร

ผมอยากฝากแนะนำสำหรับปีนี้เอาไว้ว่า ทุกวันนี้เทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนโลกและเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคไปอย่างมาก ถ้าท่านทำธุรกิจไม่ว่าเล็กหรือใหญ่คงต้องปรับตัวอย่างแรง อย่าได้รังเกียจหรือกลัวเทคโนโลยีเลยครับ ท่านเล่นเฟซบุ๊คเป็น ท่านเล่นไลน์เป็น ท่านเรียนรู้ได้หมดครับ

ทุกวันนี้ E-commerce สร้างโอกาสให้คนตัวเล็กตัวน้อยสามารถค้าขายได้กับคนทั่วโลก ที่ทั้งสินค้าและเงินกำลังไหลอย่างอิสระมากขึ้นทุกวัน เราต้องรู้จักใช้ให้เป็นประโยชน์ครับ แม้แต่ธุรกิจอย่างธนาคารก็จะเหนื่อย เพราะเงินดิจิตอล กำลังมาแรง อีกหน่อยทุกประเทศก็จะมีเงินดิจิตอลมาใช้ควบคู่กับเงินที่เป็นธนบัตรมากขึ้นเรื่อยๆ

เรื่องการทหาร ต่อไปจะใช้กำลังพลน้อยลง อาวุธในปัจจุบันแทบจะโละทั้งหมด แล้วรบกันด้วยเทคโนโลยีเช่น โดรน หุ่นยนต์ และใช้เลเซอร์ ทำให้สามารถนำคนและงบประมาณไปพัฒนาเรื่องการศึกษาและอื่นๆได้อีกมาก        

เรื่องการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุหรือ Ageing Society อย่างมีคุณภาพ การรักษาโรคที่อาศัยความรู้ทาง DNA จะมีมากขึ้น รวมทั้งการวัดความแข็งแรงของร่างกายผ่าน Telomere หรือตัวที่อยู่ปลาย Chromosome เพื่อจะบอกว่าท่านกำลังมีสุขภาพถดถอย ต้องปรับวิถีชีวิตอย่างไรถึงจะแข็งแรง การใช้ยาทางเคมีจะลดน้อยลง การใช้วิชาการทางฟิสิกส์มาแทนยาจะมีมากขึ้น และเมื่อคนมีอายุยืนยาวขึ้น ก็จะมีเวลาใช้ชีวิตร่วมกันแสดงพลังเพื่อพัฒนาประเทศเพื่อลูกหลานของเราได้มากขึ้น

สุดท้ายหุ่นยนต์มาแน่ AI Technology จะถูกใช้งานมากขึ้นในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นภาคเกษตร อุตสาหกรรม หรือแม้กระทั่งมาเสริมนักกฎหมายและวินิจฉัยโรคด้วยแพทย์ แต่สิ่งที่หุ่นยนต์มาแทนไม่ได้คือความคิดสร้างสรรค์ ท่านต้องเตรียมตัวเป็นนายของหุ่นยนต์ ไม่ใช่นั่งรอให้หุ่นยนต์มาไล่ท่านตกงาน ซึ่งถือเป็นหน้าที่เร่งด่วนของคนเป็นรัฐบาล

ขอเป็นกำลังใจในการเรียนรู้และปรับตัวของทุกคนครับ โชคดีปีใหม่ 2562 ครับ สำคัญคือสุขภาพที่ดีและการมีครอบครัวที่รักกันเราจะสู้ได้ทุกเรื่องครับ
ผมรักและปรารถนาดีต่อคนไทยทุกคน


ดร. ทักษิณ ชินวัตร 

'ธนาธร'จัด3ที่สุดคสช.ปี61 ยกคัด'ส.ว.'เลือกเองอยู่ดี

  

เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2561 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก จัดอันดับ "3 ที่สุดของ คสช." ในปี 2561 ที่ผ่านมา โดยระบุว่า อันดับ 3 ได้แก่ เพลงและเอ็มวี  #ประเทศกูมี  ซึ่งมีเนื้อหาเสียดสีสิ่งที่ไม่เป็นธรรมในสังคม ภายใต้การบริหารงานของ คสช. ซึ่งเป็นครั้งแรก ที่ประชาชนคนไทยแสดงออกถึงการไม่ยอมรับอำนาจ คสช.  แสดงถึงความโกรธ   ความเกลียด ในการอยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการ ปัจจุบันยอดวิวเพลงนี้เลย 50 ล้านไปแล้ว แสดงว่าประชาชนคนไทยไม่ได้ยอมรับ ไม่ได้สยบยอมต่อระบอบเผด็จการ อย่างที่เขาต้องการให้เราเชื่อกัน

นายธนาธร กล่าวว่า อันดับ 2 ได้แก่ ความล้มเหลวในการปราบโกง และการเอื้อประโยชน์ให้กับตัวเองและพวกพ้อง  เช่นกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ  รองนายกรัฐมนตรี  จนถึงตอนนี้ ปปช. ได้ยกคดีเรื่องการยืมนาฬิกาเพื่อนมาใส่ไปแล้ว นี่ขนาดเพื่อนตายไปแล้ว ยังใส่อยู่เลย ซึ่งไม่รู้ว่ายืมประชาธิปไตยของเราไปหลายปีแล้ว จะได้คืนเมื่อไหร่ หรือ กรณีรัฐมนตรีต่างประเทศ ในรัฐบาลชุดนี้ ถูกข้อครหาว่า ถือหุ้นเกินกฎหมายกำหนด กลับไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไม่ต้องถูกดำเนินคดี
รวมถึง กรณีรัฐบาลของ พล.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้เงินภาษีประชาชน เป็นแสนล้านบาท นำไปใช้ในโครงการที่มีชื่อเหมือนกับชื่อพรรคการเมือง ที่สนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี และพรรคดังกล่าว ก็มีรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ 4 คน  นั่งเป็นกรรมการบริหารพรรค
ทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลที่มาจากการทำรัฐประหาร ไม่มีความจริงใจในการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น ไม่มีความจริงใจในการแก้ปัญหาการเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้อง รัฐบาลทำสิ่งเหล่านี้อย่างไม่เกรงอกเกรงใจประชาชนเลย

"สำหรับที่สุดของ คสช. อันดับ 1 ได้แก่ การแต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. ซึ่งขณะนี้ อยู่ในขั้นตอนสรรหาคัดเลือก โดย กกต.ตั้งงบไว้ 1,300 ล้านบาท หากแต่ท้ายที่สุดแล้ว คสช. ก็เป็นคนคัดเลือกอยู่ดี ดังนั้น ไมจำเป็นต้องมีการตั้งงบประมาณให้วุ่นวาย เสียภาษีประชาชนโดยใช่เหตุ  คสช. สามารถเลือกทั้ง 250 คน ตามที่ตัวเองพอใจได้อยู่แล้ว ซึ่งควรจะทำไปเลย ไม่ควรเอาภาษีประชาชนมาผลาญเล่นแบบนี้ ที่สำคัญสุดคือ ส.ว.ชุดนี้ มีขอบเขตอำนาจเกินชุดอื่นๆ ในสถานการณ์ปกติ  นั่นคือ อำนาจในการ ร่วมโหวตนายกรัฐมนตรี  ซึ่งเป็นอำนาจที่ควรสงวนไว้กับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับเลือกจากประชาชน ไม่ใช่มาจากคนที่มาจากการแต่งตั้งของคณะรัฐประหาร และชัดเจนที่สุด หน้าที่ ส.ว. ชุดนี้ คือการปกป้องพิทักษ์รัฐธรรมนูญปี 60 และ ปกป้องพิทักษ์แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี  จึงอาจกล่าวได้ว่า ส.ว. ชุดนี้ คือพันธนาการของอนาคตประเทศไทยทั้งหมดนี้คือเหตุผลว่าทำไมผมถึงยกให้การแต่งตั้ง ส.ว. เป็นที่สุดของ คสช. ในปี 2561"  นายธนาธร กล่าว

วันอาทิตย์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2561

จัดหนักทุกเทศกาล! เนวินจัดให้อันธพาล 'นักเลงตกน้ำ'





COUNTDOWN  บุรีรัมย์ 2019     “ลุงเนวิน”  จัดการอันธพาล  ด้วย  "นักเลงตกน้ำ"  เชิญปชช.รวมกิจกรรม 3 ลูก 5 บาท  นำรายได้มอบ เด็กกำพร้า จ.บุรีรัมย์ ชี้ใครไม่รับกติกาส่งดำเนินคดีปรับ 1 แสนบาท


วันที่ 31 ธ.ค.2561 ผู้สื่อข่าวรายงาน  เฟสบุ๊คเพจ  BURIRAM UNITED   ได้เผยแพร่คลิปวีดีโอ  นายเนวิน ชิดชอบ  ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด   ได้จัดกิจกรรมย่อย "ร่วมทำบุญไถ่บาป ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่" ภายในกิจกรรมหลัก  “BURIRAM COUNTDOWN 2019 BREATH OF BURIRAM”  ระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2561  ตั้งแต่เวลา 18.00 น.  ที่ช้างอารีนา จังหวัดบุรีรัมย์  


โดยในคลิปนายเนวิน   ได้อธิบายวิธีห้ามปรามนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในงานดังกล่าว ห้ามมีเรื่องทะเลาวิวาท และจะต้องลงโทษตามกฎกติกาของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด   โดยให้นำตัวขึ้นเครื่อง “นักเลงตกน้ำ “ และให้ผู้ชมงานปาลูกบอล 3 ลูก ในราคาเพียง 5 บาท และรายได้ทั้งหมดมอบให้บ้านเด็กกำพร้า จังหวัดบุรีรัมย์  ทั้งนี้หากผู้ที่เข้ามาในพื้นที่ในงานซึ่งเป็นสถานที่ส่วนบุคคล ไม่ยอมรับกติกาและก่อเรื่อง   ก็จะส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายโดยมีโทษปรับสูงสุดปรับ 1 แสนบาท


สำหรับมาตรการลงโทษสำหรับนักเลงที่มาก่อความวุ่นวายในงาน  COUNTDOWN  ที่ช้างอารีนา ไม่ใช่ครั้งแรก ก่อนหน้านี้ในแต่ละปี นายเนวิน ได้มีวิธีจัดการนักเลงหัวไม้ในรูปแบบแตกต่างกันไป เช่นให้กระเทยตบจูบ  หรือให้ขึ้นชกกับนักมวยไทยตัวจริง เป็นต้น

ส่งท้ายปีเก่า! พรรคแผ่นดินธรรม เข้าวัดทำบุญค้ำจุน พระพุทธศาสนา



วันที่ 31 ธ.ค.2561 ผศ.ดร.พีรายุตม์  สังฆะมณี กรรมการบริหารพรรคแผ่นดินธรรม นำทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อุบลราชธานี เขต 8 คือนายมานะ แรงมูลพฤกษ์  พบปะประชาชน และอนุโมทนากับเจ้าภาพถวายพระพุทธรูปและเข้ากราบนมัสการเจ้าอาวาสสำนักสงฆ์โพนคำ ต.หนองจิก อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี



ขณะเดียวกันเมื่อวันที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมา ว่าที่ส.ส.เลย ของพรรคแผ่นดินธรรมได้เดินทางนะนำตัวต่อชาวพุทธที่ไปปฏิบัติธ่รรมส่งท้ายปีเก่าวิถีไทยต้อนรับปีใหม่วิถีพุทธที่วัดป่าจริยธรรม อ.นาด้วง จ.เลย  


พร้อมกันนี้พรรคแผ่นดินธรรมได้แจ้งให้กับผู้สนับสนุนพรรคทราบว่า พรรคแผ่นดินธรรม เป็นพรรคการเมืองเชิงอุดมการณ์ ไม่ใช่เป็นพรรคการเมืองเฉพาะกิจหรือเป็นพรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นเพื่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นการเฉพาะ  พรรคแผ่นดินธรรม มีเป้าหมายเพื่อพิทักษ์รักษาพระพุทธศาสนาให้ดำรงอยู่ในผืนแผ่นดินไทยไปอีกนานเท่านานและมุ่งหมายให้ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติไทย

พรรคแผ่นดินธรรม มีเจตนารมย์แน่วแน่ในหลักการ "ศีลธรรม นำชาติ" อันหมายถึง การนำหลักศีลธรรมมาใช้ในระบบการจัดการทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และอื่นๆในการบริหารประเทศ

พรรคแผ่นดินธรรม ยึดมั่นในหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาเพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของชาติและในการบริหารจัดการพรรคและสนับสนุนให้สมาชิกพรรคปฏิบัติตามหลักธรรมต่างๆที่เกี่ยวข้องตามความเหมาะสม

บุคคลที่อยู่ในสถานะเป็นที่เคารพของสมาชิกพรรคคือ 1) ที่ปรึกษาพรรค ผศ.ร.ท. ดร.บรรจบ บรรณรุจิ 2) หัวหน้าพรรค นายกรณ์ มีดี 3) เลขาธิการพรรค นายพลากร เทศนำ เป็นต้น บุคคลเหล่านี้ถือเป็นผู้มีคุณูปการของพรรค

ผลประโยชน์ของพระพุทธศาสนาและประชาชน คือ เป้าหมายการทำงานของพรรคแผ่นดินธรรม  พรรคแผ่นดินธรรมจะเจริญเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป สร้างวัฒนธรรมองค์กรแบบการให้คุณค่าแก่ความเป็นมนุษย์ของแต่ละคน ไม่พูดจา ใส่ร้ายผู้อื่น ยึดหลักคุณธรรมจริยธรรมของนักการเมืองที่ดี มุ่งหวังให้เป็นพรรคที่ชาวพุทธ
และชาวไทยทั่วไปพึ่งพิงได้  สมาชิกพรรคทุกคนจะธำรงรักษาพรรคแผ่นดินธรรมให้ดำรงอยู่คู่ระบบการเมืองไทยสืบไป ฯ


คิดใหม่ ทำใหม่ กล้าเปลี่ยนแปลง!ทษช.อวยพรปีใหม่




วันที่ 31 ธ.ค.2561 นายพงศ์เกษม สัตยาประเสริฐ โฆษกพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กล่าวว่า ในโอกาสส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2562 กรรมการบริหารพรรคและแกนนำพรรคไทยรักษาชาติ นำโดย ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค ดร.ฤภพ ชินวัตร รองหัวหน้าพรรค นางสาวชยิกา วงศ์นภาจันทร์ นายทะเบียนสมาชิกพรรค นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล คณะกรรมการสรรหา นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะทำงานรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง นายประภัสร์ จงสงวน แกนนำและสมาชิกพรรคอีกจำนวนมากร่วมกันจัดทำคลิปอวยพรปีใหม่ให้กับคนไทยทั้งประเทศ โดยเผยแพร่ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของพรรคไทยรักษาชาติและเพจส่วนตัวของแต่ละท่าน

ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า “อยากให้ปี2562 เป็นปีทองของทุกคน อยากให้ร่วมกันแสดงพลังเพื่อกำหนดอนาคตของประเทศ และคิดใหม่ ทำใหม่ กล้าเปลี่ยนแปลง เพื่อก้าวให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลงของโลกไปกับพรรคไทยรักษาชาติ”

ขณะที่นายจาตุรนต์ กล่าวว่า “ ปีใหม่นี้อยากให้ทุกท่านร่วมกันคิดใหม่ ทำใหม่ กล้าเปลี่ยนแปลง ร่วมกันพลิกฟื้นเศรษฐกิจ เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น”

ดร.ฤภพ ชินวัตร กล่าวว่า “ปีใหม่นี้ ขอให้พ่อแม่พี่น้องทุกท่านมีแต่ความสุข สุขภาพแข็งแรง เงินทองไหลมาเทมาเยอะๆ และขอฝากพรรคไทยรักษาชาติกับทุกท่าน เพราะพวกเรา คิดใหม่ ทำใหม่ และกล้าเปลี่ยนแปลง”

นายวรวัจน์ กล่าวว่า “ปีใหม่ 2562 ได้มาถึงแล้ว เป็นปีที่ทุกคนมุ่งหวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จ คิดมุ่งหวังสิ่งใด ขอให้สมดังใจปรารถนาทุกประการ ”

ด้านนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า “ขอให้ปี2561 เป็นปีส่งท้ายเผด็จการ ประชาชนต้องไม่สิ้นหวัง การอยู่ดีกินดีจะต้องกลับคืนมา ประชาธิปไตยจะเป็นรากฐานสำคัญในการนำพาประเทศไทยเดินไปข้างหน้า"

ส่วนนายประภัสร์ กล่าวว่า “ขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านเคารพนับถือ โปรดดลบันดาลให้ท่านและครอบครัวมีแต่ความสุขความเจริญ คิดหวังสิ่งใดก็ขอให้สมปรารถนา โดยอยากเชิญชวนทุกท่านร่วมกับพรรคไทยรักษาชาติ มาร่วมกันคิดใหม่ ทำใหม่ กล้าเปลี่ยนแปลง เพื่อสิ่งที่ดีกว่าให้กับอนาคตของประเทศ”

นางสาวชยิกา กล่าวว่า “ปีใหม่นี้ขอให้ทุกคนมีโอกาสพบเจอแต่สิ่งดีๆ สิ่งใหม่ๆ ให้ได้ทำในสิ่งที่คิดและสิ่งที่หวัง ร่วมกันเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่สิ่งที่ดีกว่าไปด้วยกัน”

โดยนายพงศ์เกษม กล่าวทิ้งท้ายว่า “ปี2562 นี้ นอกจากจะอวยพรให้ทุกท่านมีสุขภาพกาย สุขภาพใจที่แข็งแรงแล้ว ยังอยากเชิญชวนคนไทยทุกคนมาร่วมกันคิดสิ่งใหม่ๆ ทำสิ่งใหม่ๆ และกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศไปด้วยกัน”

พรรคแผ่นดินธรรมพร้อมส่งชิงส.ส.แม่ฮ่องสอนเขต1



วันอาทิตย์ที่ 30 ธันวาคม 2561  นายโอภาส ต้ออาสา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แม่ฮ่องสอน เขต1  เปิดเผยว่า พรรคแผ่นดินธรรมได้จัดประชุมสมาชิก 120 คน เพื่อตั้งสาขาพรรคการเมืองประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 3 ต.หมอกจำแป อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน โดยนายกรณ์ มีดี หัวหน้าพรรค ได้ส่งทีมงานของนายสรทัศ สังข์ทอง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขต 9 หลักสี่  เข้าร่วมประชุมให้คำแนะนำ ส่งผลให้การประชุมในครั้งนี้สำเร็จไปด้วยดี

พระประมุขสงฆ์และผู้แทนระดับสูง ๑๒ ประเทศเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช




วันอาทิตย์ ที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๑ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จลงพระวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ทรงรับประมุขสงฆ์ และประทานพระวโรกาสให้รัฐมนตรีว่ากระทรวงวัฒนธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศาสนา และผู้แทนระดับสูงจากนานาประเทศ จำนวน ๑๒ ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา จีน ญี่ปุ่น ภูฏาน มองโกเลีย เมียนมา ลาว เวียดนาม ศรีลังกา สิงคโปร์ อินเดีย และอินโดนีเซีย เฝ้าถวายสักการะ ในโอกาสที่กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม อาราธนาและเชิญมาร่วมงานสวดมนต์ข้ามปี ประจำพุทธศักราช ๒๕๖๒




Cr.สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช 

'สุเทพ'ไหว้สิบทิศตลาดสดเมืองนครนายก



เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 30 ธ.ค.2561 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ปธ.รณรงค์การหาสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช)พร้อมด้วยผู้ร่วมจัดตั้งพรรคฯและผู้สมัคร ออกเดินคารวะแผ่นดิน พบประชาชนเป็นวันที่52 ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองจ.นครนายก สักการะศาลหลักเมืองและพื้นที่เศรษฐกิจอาคารพาณิชย์ พร้อมกับอวยพรวันขึ้นปีใหม่ให้กับประชาชน และเชิญชวนให้มาเป็นสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่จะเป็นพรรคการเมืองของประชาชนที่เป็นเจ้าของ และต่อมาได้เดินทางไปที่ตลาด อ.บ้านนา และตลาดนัดที่วัดพิกุลทอง โดยมีประชาชนให้ความมสนใจตอบรับเป็นจำนวนมาก

'ซึมแทรก ซึมทรุด'! ส.สื่อรายงานสถานการณ์สื่อปี2561




วันที่ 30 ธันวาคม 2561 สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้เผยแพร่รายงานสถานการณ์สื่อมวลชนประจำปี2561 ความว่า 

สถานการณ์ด้านสื่อมวลชนไทยในรอบปี พ.ศ. 2561 เป็นปีแห่งการ “ซึมแทรก ซึมทรุด” เพราะยังคงเผชิญความเสี่ยงและท้าทายหลายประเด็น โดยเฉพาะการไม่มีสิทธิและเสรีภาพอย่างเต็มที่ ภายใต้กฎหมายพิเศษของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในห้วงระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ขณะที่อุตสาหกรรมสื่อทั้งระบบยังอยู่ในภาวะยากลำบากอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผลกระทบด้านเทคโนโลยีและพฤติกรรมการเสพข้อมูลข่าวสารที่มุ่งไปสู่ทิศทางทางออนไลน์มากขึ้น ดังนั้นสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยจึงสรุปสถานการณ์สื่อฯใน 4 ประเด็นสำคัญ ดังนี้

1.ถูกควบคุมด้วยกฎหมายพิเศษ : แม้ว่าปี 2560 มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ รองรับสิทธิในการแสดงความคิดเห็น การพูด การพิมพ์ไว้ ในมาตรา 34 และมาตรา35บัญญัติ ให้บุคคลซึ่งประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนย่อมมีเสรีภาพในการเสนอข่าวสาร หรือการแสดงความคิดเห็นตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพ ทว่ายังคงมีการบังคับใช้ ประกาศคสช.และคำสั่งหัวหน้าคสช.4ฉบับ เกี่ยวข้องกับสื่อมวลชนที่ยังไม่มียกเลิก สวนทางกับบรรยากาศของการปลดล็อคทางการเมืองเพื่อเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง ที่ประชาชนต้องการรับรู้ข้อมูลข่าวสารอย่างครบถ้วนรอบด้าน แม้ว่าองค์กรสื่อจะร่วมกันรณรงค์ เรียกร้องและออกแถลงการณ์มาตลอด 4 ปีที่ผ่านมา แต่การยกเลิกประกาศคสช.และคำสั่งหัวหน้าคสช. ทั้ง 4 ฉบับก็ไม่เป็นผล

4 ประกาศคสช.และคำสั่งหัวหน้าคสช. ประกอบด้วย 1.ประกาศ คสช.ฉบับที่ 97/2557 เรื่อง การขอความร่วมมือต่อการปฏิบัติงานของคสช.และการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณะ 2.ประกาศคสช.ที่103 /2557 แก้ไขเพิ่มเติมประกาศคสช.ฉบับที่ 97 /2557 โดยห้ามวิพากษ์วิจารณ์การปฏิบัติงานของคสช.โดยเจตนาไม่สุจริตเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของคสช.ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ 3.คำสั่งหัวหน้าคสช.ที่3/2558 (ข้อ5)ให้อำนาจเจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อยมีอำนาจออกคำสั่งห้ามการเสนอข่าว การจำหน่าย หรือทำให้แพร่หลายซึ่งหนังสือ สิ่งพิมพ์ หรือสื่ออื่นใด

และ 4.คำสั่งหัวหน้าคสช.ที่41/2559 เรื่อง การกำกับดูแลการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณะ โดยมีเจตนาในการขยายอำนาจ ตามมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ให้ครอบคลุมไปถึงประกาศของคสช. ฉบับที่ 97/2557 และฉบับที่103/2557 รวมทั้งคุ้มครองการใช้อำนาจของ กสทช.

2.จับตากฎหมายกระทบเสรีภาพ : ประเทศไทยอยู่ในช่วงขับเคลื่อนตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ รวมถึงแผนปฏิรูปด้านสื่อสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศ หนึ่งในนั้นคือการจัดทำ พระราชบัญญัติส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน. พ.ศ. . ซึ่งก่อนหน้านี้องค์กรสื่อได้รวมพลังคัดค้านในหลายประเด็น แต่ในที่สุดร่างกฎหมายดังกล่าวก็ได้รับความเห็นชอบในหลักการจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2561 โดยมีข้อสังเกตบางประการ และคณะรัฐมนตรีได้ส่งให้คณะกรรมการกฤษฏีกาพิจารณาก่อนเสนอกลับคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง ในชั้นนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวจึงไม่น่าจะทันการพิจารณาของสภานิติบัญญัติชุดนี้ ถึงกระนั้น องค์กรสื่อก็ยังยืนยันหลักการในการกำกับดูแลกันเอง อันเป็นหลักการสากลที่นานาประเทศใช้กำกับดูแลเรื่องจริยธรรม อีกทั้งจะต้องไม่มีตัวแทนฝ่ายรัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ยังมีร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับเสรีภาพบนโลกออนไลน์ ได้แก่ พระราชบัญญัติว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ ที่ผ่านความเห็นชอบจากครม.แล้วเช่นกัน แต่หลายประเด็นอาจจะกระทบต่อสิทธิเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นของประชาชนและสื่อมวลชนตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพ รวมทั้งติดตาม ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.... ร่างพระราชบัญญัติการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล พ.ศ... การแก้ไข พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ ว่าจะมีส่วนใดริดรอนเสรีภาพของประชาชนและสื่อมวลชนหรือไม่

3.ธุรกิจสื่อยังระส่ำ : การใช้อำนาจพิเศษของคสช. ในการออกมาตรการบรรเทาผลกระทบต่อผู้ประกอบกิจการทีวีดิจิทัล ด้วยการพักชำระหนี้ค่าสัมปทานเป็นเวลา 3 ปี ตามที่ผู้ประกอบการร้องขอ เป็นสัญญาณที่การแสดงให้เห็นถึงสถานการณ์ของธุรกิจสื่อได้อย่างชัดเจนตลอดทั้งปีที่ผ่านมาต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2560

ฝั่งของสิ่งพิมพ์ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เปิดโครงการลาออกด้วยความสมัครใจในช่วงสิ้นปี ด้านนสพ.ยักษ์ภาคเหนือ “เชียงใหม่นิวส์” หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นที่ตีพิมพ์ข่าวสารในพื้นที่ภาคเหนือมานานกว่า 27 ปี อำลาแผงเมื่อ 5 มี.ค.2561 ผันตัวสู่ออนไลน์ และวันที่ 4 มกราคม 2562 นิตยสารวิเคราะห์ข่าวการเมืองรายสัปดาห์’สยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์’ที่จะอำลาแผงเช่นกันหลังยืนหยัดมาได้ถึง 66 ปี ตามหลัง ‘เนชั่นสุดสัปดาห์’ ที่อำลาแผงไปก่อนหน้านี้ นิตยสารสตาร์พิคส์รายเดือน ที่อยู่คู่แผงหนังสือไทยมากว่า 52 ปี ประกาศปิดตัว ตีพิมพ์ ฉบับที่ 888 เดือนเม.ย. 2018 เป็นฉบับ 'รายเดือน' เล่มสุดท้าย

นิตยสาร Secret เครืออมรินทร์ ประกาศเลิกผลิต เดือนมิ.ย. วางแผงฉบับสุดท้าย ปรับรูปแบบการนำเสนอผ่านช่องทางออนไลน์ และช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ รวมทั้ง Student Weekly ในเครือ Bangkok Post ได้ประกาศวางแผงเป็นฉบับสุดท้าย ฉบับวันที่ 30 ก.ย. ถือเป็นการปิดตำนานนิตยสารภาษาอังกฤษที่อยู่คู่นักเรียนไทยมากว่า 50 ปu นิตยสารแพรวก้าวเข้าสู่ปีที่ 40 ประกาศปรับจากรายปักษ์ เป็นรายเดือนฉบับแรก เริ่มเดือนต.ค.

ฟากฝั่งของสื่อทีวี เริ่มตั้งแต่ “นิวทีวีช่อง18” เป็นช่องแรกของปี ที่ปรับโครงสร้างโดยมีคำสั่งลดพนักงาน 30 % ตามติดด้วยสปริงนิวส์ช่อง19 เลิกจ้างพนักงาน 80 พร้อมกับการต่อลมหายใจด้วยการขายหุ้นให้กับทีวีไดเร็ค และให้บางรายการไปออกอากาศทางช่อง NOW26 ในเครือเนชั่น ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เนชั่นเปิดตัวทีมผู้บริหารชุดใหม่ได้ไม่นาน ปลายปีสถานีโทรทัศน์ ‘Money Channel ’ แจ้งยุติออกอากาศตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 และจะรุกตลาดผลิตคอนเทน สร้างความเข้มแข็งในโลกออนไลน์ แม้กระทั่งสื่อยักษ์ใหญ่ อย่างสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง3 ก็ยอมเปิดโครงการเกษียณอายุให้แก่พนักงานอายุ 60 ปีขึ้นไป

ซึ่งภาวะธุรกิจเช่นนี้ สื่อระดับโลกอย่างสำนักข่าวรอยเตอร์เอง มีแผนลดพนักงาน 3,200 ตำแหน่ง ปิดสำนักงาน 133 แห่งทั่วโลก ภายใน 2 ปีข้างหน้า ตามแผนปรับโครงสร้างบริษัท

4. บทเรียนถ้ำหลวง : เป็นเหตุการณ์ที่ต้องบันทึกไว้กับเหตุการณ์ที่สื่อมวลชนทั่วโลกมากกว่าพันชีวิต ปักหลักทำข่าวต่อเนื่องยาวนาน 17 วัน ในภารกิจช่วย 13 ชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมี่ ติดอยู่ในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย เป็นสถานการณ์ที่ยากทั้งการช่วยเหลือ และยากต่อการรายงานข่าวบนเนื้อที่ปากถ้ำที่มีหลากหลายอุปสรรค เงื่อนไข ข้อจำกัดที่ต้องแข่งกับเวลา และการช่วงชิงยอดผู้ชมและเรตติ้งของข่าวให้ได้มากที่สุด นำมาซึ่งคำชื่นชม ตำหนิ และบทเรียนให้กับสื่อมวลชนนำกลับไปเป็นการบ้านเพื่อยกระดับมาตรฐานวิชาชีพต่อไป

วันเสาร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2561

'ลด แลก แจก แถม'! ทษช.อัดแผนสืบทอดอำนาจ

 


วันที่ 30 ธ.ค. นางสาวอรุณี กาสยานนท์ รองโฆษกพรรคไทยรักษาชาติ กล่าวถึงกรณีท่ีพรรคพลังประชารัฐ นำนโยบายของรัฐบาลมากำหนดเป็นเนื้อหาและทำเป็นป้ายหาเสียงของผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดเชียงราย ของพรรคพลังประชารัฐ  ทำให้เห็นความชัดเจนในการสืบทอดอำนาจของรัฐบาลชุดปัจจุบัน  การจัดทำนโยบาย ลด แลก แจก แถม อย่างมโหราฬในเวลานี้เป็นการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินและเงินภาษี ของประชาชนหลายแสนล้านบาท โดยอ้างว่าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ในทางปฏิบัติรัฐบาลมีเจตนาเพื่อต้องการเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคการเมืองท่ีสนับสนุนการสืบทอดอำนาจของเผด็จการหรือไม่  อีกทั้งนโยบายดังกล่าวยังส่งผลต่อความเหลื่อมล้ำทางสังคมอย่างมาก ประเทศไทยติดอันดับ 1 ของโลก กับความรวยกระจุกและจนกระจาย ที่รัฐบาลชุดนี้สร้างขึ้น

อย่างไรก็ตามการใช้อำนาจรัฐทุกวิถีทางในการเอาเปรียบพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามของรัฐบาลและพรรคการเมืองท่ีสนับสนุนเผด็จการ  ดูจะไม่ลดน้อยถอยลงเลย ตรงกันข้ามกลับมากขึ้นเป็นทวีคูณ ไม่ว่าจะเป็นการแจกของผ่านข้าราชการโดยมีผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐร่วมด้วย การเลือกส.ว.ที่มีการทุจิตการซื้อเสียง โดยผู้ผ่านการสรรหาส.ว.ออกมาโวยวายถึงความไม่โปร่งใสของกกต. เพื่อปูทางสู่การเลือกนายกคนนอก  
    
รองโฆษกพรรคไทยรักษาชาติกล่าวอีกด้วยว่า หน้าที่อย่างหนึ่งของพรรคการเมือง คือ เสนอตัวเป็นตัวแทนประชาชนรวบรวมความต้องการของประชาชน เพื่อกำหนดเป็นนโยบาย และแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชน ฝากถึงพรรคพลังประชารัฐ ที่อิงแอบอำนาจรัฐและขาดความสร้างสรรค์เชิงนโยบาย  ใช้รัฐราชการเป็นเครื่องมือ ถ้าประชาชนไม่ตื่นตัว รวมพลังต่อต้านเผด็จการ เท่ากับรัฐบาล คสช จะสามารถสืบทอดอำนาจได้ไปอีกนาน และประเทศชาติก็จะตกอยู่ในสภาวะท่ีทุกคนกำลังประสบอยู่ในเวลานี้ ดังนั้น วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นการเลือกข้างอย่างชัดเจนระหว่าง เผด็จการ กับประชาธิปไตย

วันศุกร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2561

47ปีวิถีปริยัติ!ศรัทธาก้าวไกลน้อมใจจิตอาสาที่พุทธมณฑล



วันที่ 29 ธ.ค.2561 สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และโรงเรียนพระปริยัติธรรม ขอเชิญเข้าร่วมชม การจัดนิทรรศการ และการแข่งขัน การบรรยายธรรม ทั้งภาคภาษาไทยและภาคภาษาอังกฤษ และหัตถกรรมฝีมือของสามเณรนักเรียน ทั้ง 14 กลุ่ม ทั่วประเทศ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 10 เพื่อคัดเลือกเพชรน้ำเอก ที่เป็นเนื้อนาบุญของพระพุทธศาสนา ชิงถ้วยเกียรติยศและเงินรางวัล ราหุลอวอร์ด จากสำนักงานข้าหลวงใหญ่ แห่งองค์การสหประชาชาติ



รวมถึงการแข่งขันทักษะวิชาการ ระดับประเทศครั้งที่ 10 เพื่อเสริมสร้างความรู้ และทักษะแก่น้องๆสามเณร เป็นการศึกษาทางรอด ที่เปิดโอกาสให้แก่น้องๆสามเณรทั่งประเทศ ได้เข้ามาศึกษาเล่าเรียน ในระบบการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา การศึกษาสร้างคน ตนสร้างชาติ พ่อแม่ชื่นใจ ได้เนื้อนาบุญ ที่พร้อมจะเป็นกำลัง ให้พระพุทธศาสนาก้าวไกล ไปพร้อมกับระบบสังคมที่ดี 

ผู้สนใจพาบุตรหลานเข้าโครงการ ก็สามารถติดต่อกับหน่วยงาน สำนักพระพุทธศาสนาในพื้นที่ หรือโรงเรียนพระปริยัติธรรมใกล้บ้าน ได้ทุกวัน ในเวลาราชการ เพลิดเพลินกับกิจกรรมร่วมรอบองค์พระพุทธมณฑล ทั้งภาครัฐและเอกชน ร้านค้าอาหารโรงทาน ศิลปินดาราจิตอาสา มาร่วมศรัทธาพร้อมเพรียง 12-13 มกราคม 2562 ณ หอประชุมพุทธมณฑล ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม สอบถามข้อมูลที่ 02-4417950

๓๐ธ.ค.นี้มีพิธีรับพระบัญชาแต่งตั้งเจ้าคณะใหญ่อนัมนิกายแห่งประเทศไทย



วันอาทิตย์ที่ ๓๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ณ อุโบสถ วัดโลกานุเคราะห์ ซอยผลิตผล ถนนราชวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร เวลา ๑๖.๐๐ น.​ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงมอบตราตั้งพระบัญชาแต่งตั้งพระคณานัมธรรมเมธาจารย์  (ถนอม เถี่ยนถึกมหาเถระ) เจ้าอาวาสวัดโลกานุเคราะห์ ให้ดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะใหญ่อนัมนิกายแห่งประเทศไทย ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม รถขบวนอัญเชิญพระบัญชา เคลื่อนไปยัง ณ วัดโลกานุเคราะห์  

เวลา ๑๖.๓๐ น.​คณะพระภิกษุ สามเณร ในสังกัดคณะสงฆ์อนัมนิกาย พร้อมด้วยคณะศิษยานุศิษย์ พร้อมเพรียงกัน ณ วัดโลกานุเคราะห์ รอถวายการต้อนรับขบวนอัญเชิญพระบัญชา



เวลา ๑๗.๐๐ น.​พระคณานัมธรรมเมธาจารย์   เจ้าคณะใหญ่อนัมนิกาย จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย
​-ศาสนพิธีกรสมาทานศีล
​-นายสมเกียรติ ธงศรี รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ อ่านพระบัญชาแต่งตั้ง เจ้าคณะใหญ่อนัมนิกาย
​-พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ ๑๐ รูป เจริญชัยมงคลคาถา
​-ถวายเครื่องไทยธรรม  กรวดน้ำรับพร
​-คณะสงฆ์พร้อมศิษยานุศิษย์  ถวายมุทิตาสักการะแด่ เจ้าคณะใหญ่อนัมนิกาย
​-เสร็จพิธี

เลือกตั้งเลื่อนแน่! 'พรเพชร'รับ 'กกต.บอกมาตามที่เขาคิด'



วันที่ 29 ธ.ค.2561  นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ว่า หากขยับไปเล็กน้อยจะเป็นปัญหาทางธุรการได้ และต้องดูกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งกฎหมายลูก พระราชกฤษฎีกา รวมทั้งระเบียบต่างๆ แต่ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทำตามโรดแมปที่วางไว้ เพราะฉะนั้นยังไม่ถึงวันนั้นอย่าให้ตนพูด เพราะอาจจะถูกกล่าวหาว่าเห็นด้วยให้เลื่อนไปอีก ซึ่งงานธุรการคือการทำหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าจะทำได้เมื่อไหร่ เพราะกกต.จะต้องเป็นผู้ประกาศวันเลือกตั้ง ตอนนี้ กกต. บอกมาตามที่เขาคิด แต่การจะประกาศกำหนดวันเลือกตั้งต้องมีพระราชกฤษฎีกาออกมาก่อน

ไม่ต้องเหนียม!ทษช.ประกาศชัดเอา'แม้ว'กลับไทย



เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2561 ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์พรรค  พร้อมแกนนำพรรคและกรรมการบริหารคณะลงพื้นที่ เขตสวนหลวง ที่ซอยพัฒนาการ 35 เพื่อเปิดศูนย์ประสานงาน ทษช.เขตสวนหลวง พร้อมทั้งรับสมัครสมาชิกพรรค โดยพื้นที่ดังกล่าว นายธกร เลาหพงศ์ชนะ เสนอตัวเป็นผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตเลือกตั้งที่ 20 เขตสวนหลวง เขตประเวศ (แขวงหนองบอน - แขวงดอกไม้) 

นายธกร ระบุว่า หลังไม่มีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ทำให้ประสบปัญหาเรื่องปากท้อง รวมทั้งยาเสพติดก็ระบาดหนัก และขอให้ช่วยแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ  ดังนั้นต้องสนับสนุนให้ ทษช.เข้าไปแก้ไขรัฐธรรมนูญ และนำนายทักษิณ กลับสู่ประเทศไทย

นายฤภพ ชินวัตร รองหัวหน้า ทษช. ย้ำว่า ทษช. จะใช้แคมเปญเพิ่มเงินในกระเป๋าพร้อมทั้งใช้เทคโลยีทำให้การขายสินค้าไปสู่กลุ่มเป้าหมายมากขึ้นโดยทำให้ทุกคนทำได้ โดยวันที่ 24 ก.พ. 2562 จะต้องยกปากกามาเลือก ทษช. เพื่อเข้าไปแก้ปัญหาให้กับประชาชน

ด้าน ร.ท.ปรีชาพล ยืนยันจากการลงพื้นที่ใน กทม. และทั่วภูมิภาคพบปัญหาเศรษฐกิจ ขณะที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ บอกว่าคนจนในปี 2561 คนจนจะหมดประเทศ แต่คนภาคใต้บอกกับตนว่า คนจนจะผูกคอตายหมดประเทศแล้ว

'บัญญัติ'ส่งบทกลอน 'สวัสดีปีเก่า-ใหม่' หวัง กกต.อย่างอหัก ให้เลือกตั้งมีความหมาย



วันที่ 29 ธันวาคม 2561   นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ที่ปรึกษาคณะกรรมการสรรหาคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส. และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เขียนกลอนสรุปเหตุการณ์ พร้อมส่งความสุขหวังให้ กกต. ทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง จัดการเลือกตั้งอย่างเสรี และเป็นธรรม แนะประชาชนเลือกพรรคการเมืองให้ถ้วนถี่ เลือกพรรคที่ดีมีประวัติทำนโยบายได้จริง




'อนุสรณ์'ชี้นาฬิกาเพื่อนสิ่งมหัศจรรย์แห่งปี ลืมเรื่องซุกหุ้นกับคนใช้ไปได้เลย



วันที่ 29 ธ.ค.2561 นายอนุสรณ์  เอี่ยมสะอาด คณะทำงานสื่อสารการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการวิพากษ์มติคณะกรรมการป.ป.ช.กรณีนาฬิกาหรูของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า ไม่เหนือความคาดหมาย แต่ไม่คิดว่าจะไปไกลถึงขั้นมีมติยกคำร้อง โดยวินิจฉัยว่าพล.อ.ประวิตรไม่ได้แสดงทรัพย์สินอันเป็นเท็จ จนนิเคอิ สื่อมวลชนญี่ปุ่นสะท้อนสภาพสังคมไทยที่ผู้มีอำนาจทำอะไรก็ไม่ผิด รัฐบาลทหารสูญเสียความชอบธรรมที่อ้างเรื่องการปราบปรามคอร์รัปชั่น สถานการณ์เรื่องนาฬิกาหรูจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ ที่ทำลายความเชื่อมั่นของประเทศในสายตานานาชาติ ไม่ใช่ครั้งแรกที่ ป.ป.ช. มีมติไม่ชี้มูลความผิดผู้ที่รับราชการทหาร เพราะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จาก 350 คดีที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ไม่มีทหารถูกชี้มูลความผิดเลยแม้แต่คนเดียว ทั้งที่หากยังสอบสวนไม่สิ้นกระแสความก็ต้องสอบสวนต่อ เพียงเหตุผลว่าไม่สามารถตรวจสอบยืนยันการนำเข้านาฬิกาจากต่างประเทศได้ เพราะผู้นำเข้าบางรายไม่สำแดงข้อมูลรายละเอียดของนาฬิกา การขอข้อมูลซื้อขายนาฬิกาจากต่างประเทศ บางประเทศได้ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล หรือบางประเทศตอบว่าไม่สามารถตรวจสอบได้ ก็เชื่อตามในสิ่งที่พล.อ.ประวิตร ชี้แจง จนเกิดข้อสงสัยและมีการตั้งคำถามในคำชี้แจงของป.ป.ช.มากมาย  

1.มีนาฬิกาที่ตรวจสอบ 22 เรือน พบหลักฐาน 21 เรือน และพบว่าเป็นผู้ซื้อในต่างประเทศ 1 เรือน ซื้อต่อ 1 เรือน ที่เหลือไม่พบหลักฐาน โดยทางกรมศุลฯไม่สามารถตรวจพบได้ ทำไมจึงปักในเชื่อว่าพล.อ.ประวิตร ยืมมา 

2.การตรวจพบนาฬิกาในบ้านของนายปัฐวาท มั่นใจได้อย่างไรว่าเป็นเรือนเดียวกันกับที่พล.อ.ประวิตร สวมใส่ เพราะนาฬิกาหรูเหล่านี้ไม่ได้ผลิตหรือมีเรือนเดียวในโลก 

3.เพื่อนที่พล.อ.ประวิตร อ้างว่าให้ยืมนาฬิกาหรู เสียชีวิตแล้ว ป.ป.ช.ไปสอบใครที่พูดแทนนายปัฐวาทได้ทั้งหมด เหตุใดป.ป.ช.จึงเลือกที่จะเชื่อว่ามีการยืมกันจริง รวมถึงการตั้งคำถามว่าทำไมนายปัฐวาท เสียชีวิตไปตั้งแต่ต้นปี 2560 แต่นาฬิกา Rolex รุ่น Yacht Master 40 Everose Gold Black Rubber เพิ่งออกมา ช่วงปลายปี 2559 (2016) กว่าจะเริ่มวางขายก็ต้นปี 2560 แล้ว เป็นไปได้หรือที่นาฬิการุ่นที่นายปัฐวาทซื้อมาตอนใกล้จะเสียชีวิตหรือเสียชีวิตไปแล้ว

4.ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1369 ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า ผู้ที่ยึดถือทรัพย์สินนั้นไว้เป็นการยึดถือเพื่อตน จึงต้องด้วยบทสันนิษฐานตามกฎหมายดังกล่าวว่า นายปัฐวาท เป็นเจ้าของนาฬิกาตามภาพข่าวจำนวน 21 เรือน และให้ พล.อ.ประวิตร ยืมใช้ในโอกาสต่าง ๆ  แต่ทำไมไม่สันนิฐานด้วยตรรกะเดียวกันว่านาฬิกาอยู่ในข้อมือของพล.อ.ประวิตร ต้องเป็นของพล.อ.ประวิตร ทำไมถึงไม่เชื่อเช่นนั้น แตกต่างจากกรณีของนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ที่อ้างว่ายืมรถคนอื่นมาใช้ โดยที่ทะเบียนรถก็เป็นชื่อของคนอื่นจริงๆ แต่ ป.ป.ช ก็ยังไม่เชื่อ และทำสำนวนส่งฟ้องศาลฯ แต่เหตุใดกรณีนี้จึงเชื่อง่ายๆ ว่า นาฬิกาที่พลเอกประวิตรใส่ เป็นการยืมเพื่อน ทั้งที่นาฬิกาดังกล่าวไม่มีเอกสารยืนยันว่าเป็นของใคร

เป็นที่น่าสังเกตว่าป.ป.ช.เสียงข้างน้อย 3 คน เห็นว่ายังสอบสวนไม่สิ้นกระแสความ ทำไมจึงไม่สอบสวนต่อเพื่อทำความจริงให้ปรากฎอย่างเช่น คดีโรงพัก 396 แห่งยังสอบสวนต่อได้ ป.ป.ช. ควรเปิดเผยคำวินิจฉัยส่วนตนของคณะกรรมการป.ป.ช. ทั้ง 8 คน ระหว่างเสียงข้างมาก 5 คนที่ให้ยกคำร้องว่าไม่มีมูล และเสียงข้างน้อย 3 คน ว่าให้มีการหาข้อมูลเพิ่มนั้น กรรมการทั้ง 8 คน ให้เหตุผลไว้อย่างไรบ้าง และจากมติดังกล่าวอาจถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์แห่งปี 2561 ก็เป็นได้

่ว่าด้วยทฤษฎี.."การสร้างสันติภาพโลกถาวร"พลเอกเปรม

่ว่าด้วยทฤษฎี.."การสร้างสันติภาพโลกถาวร"...!!!
(The Establishment of Lasting World Peace Theory)

พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ผู้ออกนโยบาย 66/23 ปฏิวัติสันติเอาชนะปฏิวัติรุนแรงของคอมมิวนิสต์ อันลือลั่นไปทั่วโลก  ได้กล่าวเตือนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐบุรุษว่า.. "เห็นต่างไม่ใช่ศัตรู แต่เป็นมิตร"...!!!

คำว่า.."เห็นต่างไม่ใช่ศัตรู..แต่เป็นมิตร"...!!!
นี่เป็นระบบความคิดของ..นโยบาย 66/23 ที่มีชัยชนะต่อเผด็จการคอมมิวนิสต์และเผด็จการทุกชนิด..เพราะมาจากสัจธรรม(Truth)ที่เป็นปรัชญาของอุดมการลัทธิประชาธิปไตย ที่จะสร้างสังคมประชาธิปไตยอันเป็นอุดมคติคือ.....
"เอกภาพของความแตกต่าง...!!!
(Unity of Diversity)

และแม้.."เห็นตรงข้ามกันเลย...ก็เป็นมิตร"...!!!
อันเป็นการปฏิบัติสัจธรรมอันเป็นปรัชญาของลัทธิวัตถุนิยมคือ...
"เอกภาพของด้านตรงข้าม"...!!!
(Unity of the Opposite)

และจะทำให้ทั้ง 2 ปรัชญาเป็นมิตรกันอย่างแท้จริงตลอดไป อันเป็นการสร้างสันติภาพโลกถาวร(Lasting World Peace) โดย..ยกระดับทั้งสองปรัชญาขึ้นสู่.. "เอกภาพ"(Unity)อันเดียวกันคือ...
ทำให้เข้าสู่.."สภาวะสุญญตา"(ความว่าง)...!!!
ด้วยการปฏิบัติ.."3 ระบบแห่งพุทธะ"..คือ...
- ระบบความคิดออกจากทุกข์..คือ..อริยสัจ 4 (ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค)
- ระบบจิตวิญญาณ..คือ..ปรมัตถธรรม 4 (จิต เจตสิก รูป นิพพาน)
- ระบบภูมิของจิต..คือ..วัฏสงสาร 31 ภูมิ (อบายภูมิ 4 มนุษย์ 1 เทวดา 6 พรหม 20)

ดังนั้น คำชี้แนะของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อันเป็นปรัชญาทางโลกสังคม(Social World)คือ ทฤษฎีทางปรัชญาของลัทธิประชาธิปไตย..จะปฏิบัติได้จริง...จะต้องปฏิบัติโมกษธรรมสักระดับหนึ่ง โดยการปฏิบัติ 3 ระบบแห่งพุทธะแห่งโลกจิตวิญญาณ(Spiritual World) คือ... อริสัจ 4 ปรมัตถธรรม 4 วัฏสงสาร 31
ซึ่งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยเสนอไว้แล้วว่า.. "การแก้ปัญหาชาติจะต้องปฏิบัติอริยสัจ 4"...!!!
อันเป็นการเอา.."โลกสังคม..มาประสานเข้ากับ..โลกจิตวิญญาณ"...!!!
นั่นคือ.."ประสานการเมือง..เข้ากับ..โมกษธรรม" นั่นเอง
นี่คือ.."ความสัมพันธ์ของโลกสังคม..กับ..โลกจิตวิญญาณ"...!!!

และ..โลกธรรมชาติ(Natural World)ก็จะมีความสัมพันธ์กับโลกสังคม(Social World)..คือ..เมื่อนักวิทยาศาสตร์ได้คิดค้นพบกฎเกณฑ์ของโลกธรรมชาติแล้ว..ก็จะถูกนำเอามารับใช้โลกสังคมเช่น เครื่องจักรเครื่องกลนำเอามาทำการผลิตทางเศรษฐกิจอันเป็นอุตสาหกรรม จนกลายเป็น.."ลัทธิเศรษฐกำหนด"(Economic Determinism) ซึ่งจะเป็นไปตามระบบสังคม(Social System) ซึ่งประกอบด้วย 3 ด้านคือ...
- การเมืองเป็นส่วนนำ
- เศรษฐกิจเป็นรากฐาน
- วัฒนธรรมเป็นภาพสะท้อน
นั่นคือ..ความสัมพันธ์ของโลกธรรมชาติกับโลกสังคม..คือ..."โลกธรรมชาติขึ้นต่อโลกสังคม" รูปธรรมคือ.. "วิทยาศาสตร์ขึ้นต่อการเมือง"...!!!
และ..ความสัมพันธ์ของโลกจิตวิญญาณกับโลกสังคม..คือ.."โลกสังคมขึ้นต่อโลกจิตวิญญาณ" รูปธรรมคือ.. "การเมืองขึ้นต่อโมกษธรรม"...!!!
นี่คือ..ความสัมพันธ์ตามธรรมชาติที่ถูกต้องของ 3 โลก นั่นคือ...
"โลกธรรมชาติ..ขึ้นต่อ..โลกสังคม..ขึ้นต่อ...โลกจิตวิญญาณ"...!!!

แต่ละโลกมีระบบความคิด(System of Thought)ของตนเอง
ส่วนสำคัญที่สุดของระบบความคิดคือ.. "ทฤษฎี"(Theory)...!!!
เพราะความคิดทั้งหลายจะเริ่มต้นจาก.."ทฤษฎี"..ทั้งสิ้น
ดังนั้น ทฤษฎีโลกธรรมชาติ..ขึ้นต่อ..ทฤษฎีโลกสังคม..ขึ้นต่อ..โลกจิตวิญญาณ

โลกธรรมชาติ(Natural World)...
ทฤษฎีวิทยาศาสตร์..จะถูก..ทฤษฎีการเมืองนำเอาไปใช้ เช่น...
ทฤษฎีระปรมาณู..จะถูก..ทฤษฏีประชาธิปไตย..หรือ..ทฤษฎีคอมมิวนิสต์เอาไปใช้..เป็นระเบิดปรมาณู..ไปทำสงคราม(War)..หรือเป็นอาวุธเพื่อแผ่อิทธิพลเป็นมหาอำนาจของโลก ฝ่ายโลกเสรีนิยม..หรือ..โลกสังคมนิยม
แต่...ในที่สุดแล้วมนุษย์ต้องการความสุขไม่ต้องการความทุกข์ นั่นคือไม่ต้องการสงคราม(War)..แต่..ต้องการสันติภาพ(Peace) 

ความสุข..กับ..ความทุกข์ เกิดขึ้นกับจิตใจ(Mind) ดังนั้น สันติภาพหรือสงครามก็เกิดขึ้นจากจิตใจ หรือเกิดขึ้นในจิตใจ ดังพุทธพจน์ว่า.. "ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นใหญ่ มีใจเป็นประธาน สำเร็จด้วยใจ"...!!!
"จิตใจ"..คือ..โลกจิตวิญญาณ(Spiritual World)..ดังนั้น ทฤษฎีของโลกสังคม..จึงขึ้นต่อ..ทฤษฎีของโลกจิตวิญญาณ นั่นคือ...
"ทฤษฎีโลกสังคม..ขึ้นต่อ..ทฤษฎีโลกจิตวิญญาณ"...!!!

ทฤษฎีโลกสังคม..มาจาก..ระบบความคิดของโลกสังคม นั่นคือ...
ระบบความคิดของโลกสังคม..ประกอบด้วย 2 ส่วนคือ...
1. จุดยืน(Standpoint)
2. วิธีคิด(Way of Thinking)
จุดยืน..มี 2 จุดยืน..คือ...
- จุดยืนเห็นแก่ตัว
- จุดยืนเห็นแก่ส่วนรวม
เอาจุดยืนไปมองปัญหาสังคม(การเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม)ก็จะเกิดเป็น.."วิธีคิด"..ส่วนแรกของวิธีคิดคือ.. "ทฤษฎี"(Theory)...!!!
และแปร.."ทฤษฎี"..ให้เป็น.."แนวทาง"...!!!
และแปร.."แนวทาง"..ให้เป็น..หลักนโยบาย"...!!!
และแปร.."หลักนโยบาย"..ให้เป็น..นโยบาย"...!!!
และแปร.."นโยบาย"..ให้เป็น.."มาตรการ"...!!!
และแปร.."มาตรการ"..ให้เป็น.."วิธีการ"...!!!
และแปร..ให้เป็น.."ยุทธศาสตร์"..และ.."ยุทธวิธี"...!!!
เป็นวิธีคิดของระบบความคิด คือ...
- ทฤษฎี..เช่น ทฤษฎีของประชาธิปไตย ทฤษฎีของคอมมิวนิสต์ 
- แนวทาง
- หลักนโยบาย
- นโยบาย
- มาตรการ
- วิธีการ
- ยุทธศาสตร์
- ยุทธวิธี

ทฤษฎีของลัทธิต่างๆ ก็จะประกอบด้วย 3 ทฤษฎีตามลำดับ คือ...
1. ทฤษฎีทางปรัชญา
2. ทฤษฎีทางการเมือง
3. ทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์
โดยทั้ง 3 ทฤษฎีนี้ มีความสัมพันธ์ภายในกัน คือ...
"ทฤษฎีทางปรัชญา..นำ..ทฤษฎีทางการเมือง..นำ..ทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์"...!!!

ทฤษฎีทางปรัชญาของ 2 ลัทธิทางสังคมใหญ่คือ...
- ทฤษฎีทางปรัชญาของลัทธิประชาธิปไตย..คือ...
"เอกภาพของความแตกต่าง"
"Unity of Diversity"

- ทฤษฎีทางปรัชญาของลัทธิคอมมิวนิสต์..คือ...
"เอกภาพของด้านตรงข้าม"
"Unity of the Opposite"

ทั้ง 2 ทฤษฎีทางปรัชญาของโลกสังคม(Social World)นี้..ขึ้นต่อ..ทฤษฎีของโลกจิตวิญญาณ(Spiritual World)
และทั้ง 2 ทฤษฎีทางปรัชญานี้ มีจุดร่วมกันคือ.. "เอกภาพ"(Unity)
ดังนั้น เอกภาพ(Unity)จะต้องขึ้นต่อทฤษฎีของโลกจิตวิญญาณ นั่นเอง

"ทฤษฎีในระบบความคิดของโลกจิตวิญญาณ"..คือ.."อริยสัจ 4"...!!!
ซึ่งประกอบด้วย 4 ส่วนคือ...
1. ทุกข์
2. สมุทัย
3. นิโรธ
4. มรรค
โดย..มีความสัมพันธ์ภายในกันคือ.. "ทุกข์..และ..สมุทัย..และ..นิโรธ..ขึ้นต่อ..มรรค"..นั่นเอง
"มรรค"..ประกอบด้วย 8 องค์ คือ...
- ทฤษฎีถูก
- คิดถูก
- พูดถูก
- ทำถูก
- เลี้ยงชีพถูก
- พยายามถูก
- สติถูก
- สมาธิถูก

นั่นคือ.."ทฤษฎีเอกภาพของโลกสังคม..ขึ้นต่อ..ทฤษฎีถูกของโลกจิตวิญญาณ"...!!!

ทฤษฎีเอกภาพของโลกสังคม..คือ...
เอกภาพของความแต่กต่าง
เอกภาพของด้านตรงข้าม
ดังนั้น จึงรวมอยู่ใน.."เอกภาพ"...!!!
นั่นคือ.."ทฤษฎีทางปรัชญาทั้ง 2 ลัทธินี้จะเป็นเอกภาพอันเดียวกันได้ จะต้องใช้ทฤษฎีถูกของอริยสัจ 4"

"เอกภาพ"..คือ..สุญญตา(ความว่าง) หรืออสังขตธรรม หรือความไม่ขัดแย้ง หรือความไม่มี อันเป็นสัจธรรมสัมบูรณ์(Absolute Truth)ซึ่งเป็นความถูกต้องอย่างปราศจากเงื่อนไข หรือผู้ถือดุลสูงสุด

จิตจะเป็นเอกภาพกันได้ หรือจะเข้าสู่สภาวสุญญตา หรือความว่างได้..ก็ต้องเมื่อจะต้องยึดถือและปฏิบัติมรรคมีองค์ 8 ที่เริ่มต้นด้วยมรรคองค์นำองค์แรกที่สำคัญที่สุดคือ.. "ทฤษฎีถูก"...!!!

"ทฤษฎีถูก"(Right Theory)..คือ.."เห็นถูกว่าอริยสัจ 4 จะพาพ้นจากความทุกข์"...!!!
หรือ.."ทฤษฎีอริยสัจ 4 พาจิตมนุษย์ไปสู่ความพ้นทุกข์"...!!!
นั่นคือ.."ทำให้จิตถอนความยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ทั้ง 5 รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ"...!!! 
นั่นก็คือ.."จิตเข้าสู่สภาวสุญญตา(ความว่าง)"...!!!
หรือ.."จิตอยู่ในสุญญตาวิหาร"...!!!

"ระบบอริยสัจ 4"..คือ..ระบบความคิดออกจากทุกข์(System of Thought)
เมื่อยึดถือปฏิบัติอริยสัจ 4 แล้ว..ก็จะนำไปสู่กระบวนการของจิตวิญญาณทั้งหมด หรือ.."ระบบจิตวิญญา"(System of Mind)คือ.. "ปรมัตถธรรม 4 คือ จิต เจตสิก รูป นิพพาน"...!!!
และจะนำไปสู่ภพภูมิของจิตทั้งสิ้น หรือ.. "ระบบของภูมิของจิต"(System of State of Mind) คือ.. "วัฏสงสาร 31 ภูมิ"...!!!
ซึ่งประกอบด้วย...
- อบายภูมิ 4
- มนุษย์ภูมิ 1
- เทวภูมิ 6
- พรหมภูมิ 20
อันเป็นภพภูมิของจิตปัจจุบัน ตามทฤษฎีสวรรค์ในอกนรกในใจ หรือทฤษฎีนิพพานที่นี่นิพพานเดี๋ยวนี้ อันเป็นปัจจุบันขณะ เช่น จิตของเราอาจจะอยู่ในภพภูมินรกเป็นสัตว์นรก เปรต อสูรกาย สัตว์เดรัชฉาน หรืออาจจะอยู่ในภพภูมิของเทวดา หรือพรหม ก็ได้ในวันเดียวกัน ในชั่วโมงเดียวกัน ในนาทีเดียวกัน โดยไม่ต้องรอให้ตายไปเสียก่อนแล้วจึงจะได้ไปเวียนวายตายเกิดอยู่ในภพภูมิ 31 ภูมิ หรือวัฏสงสาร 31 ภูมิ  หรืออาจจะบรรลุนิพพาน เพราะปฏิบัติมรรคมีองค์ 8 ประการจนหมดกิเลส เมื่อหมดกิเลสก็จะไม่มีกรรม และจะไปมีวิบาก จึงไม่เกิดอีกต่อไป ปัญหาก็มีข้อยุติแบบดับตลอดกาล หรือมีข้อยุติที่จะต้องไปเวียนว่ายตายเกิด(เกิด-ดับ)อยู่ภพภูมิ 31 ภูมิตามวิบากในจิตดวงนั้นๆ   และหลังจากตายไปแล้วก็จะไปเกิดในภพภูมิ 31 ภูมิตามวิบากในจิตดวงนั้นๆ ไปเป็นอยู่อบายภูมิ 4 หรือมนุษย์ภูมิ 1 หรือเทวภูมิ 6 หรือพรหมภูมิ 20  จึงแบ่งออกเป็น 2 ภพภูมิคือ...
- ภพภูมิของจิตในขณะที่มีชีวิตอยู่
- ภพภูมิของจิตหลังจากที่ตายไปแล้ว
ถ้าเชื่อและปฏิบัติตามอริยสัจ 4 ปรมัตถธรรม 4 และภพภูมิตามวัฏสงสาร 31 ภูมิ อันเป็นปัจจุบันชาติ เช่น ตามทฤษฎีนิพพานเดี๋ยวนี้ นิพพานที่นี่  หรือ.. "สวรรค์ในอก นรกในใจ"..ปัญหาของจิตก็จะมีข้อยุติเพราะเป็นปัจจุบันชาติ  แต่ถ้าเชื่อถือว่า.."ตายแล้วจะไปเกิดในภพภูมิ 31 ภูมิ ก็จะหาข้อยุติไม่ได้" หรือ "หาข้อยุติยากที่สุด" เพราะมันพิสูจน์ในปัจจุบันชาตินี้ไม่ได้ ปัญหาของจิตนี้จึงไม่มีข้อยุติ

นี่คือ..."ความสัมพันธ์ของระบบความคิดของ 3 โลก"...!!!
หรือ.. "3 โลก 6 ระบบ"...!!!
หรือ.. "การสร้างสันติภาพโลกถาวร"...!!!
ที่ไม่เคยมีการค้นพบมาก่อนเลย...!!!

พระอาจารย์สมาน ศรีงาม
ประธานขบวนการศาสนาเพื่อมนุษย์ชาติและสร้างสันติภาพโลกถาวร
สถาบันปฏิวัติสันติพุทธอหิงสาธรรมโลกประเสริฐ ทรัพย์สุนทร
สภาประชาชนปฏิวัติส้นติแห่งชาติ
พรรคการนำใหม่ประชาชนปฏิวัติสันติ
ไร่อรหันต์สถานปฏิบัติโมกษธรรมนานาชาติ
โทร. 089-8860868
วันที่ 28 ธันวาคม พุทธศักราช 2561

'โอ๊ค'โพสต์รูปคู่'หญิงหน่อย-ชัชชาติ'สยบเต้าข่าวหนี



28 ธ.ค.61 นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพถ่ายร่วมกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม ในอินสตาแกรม oak_ptt พร้อมข้อความว่า “No Caption คร้าบบบ

วันพฤหัสบดีที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ยุค ๔.๐ ยุคพี่มหาเปิดตัว 'พรรคมหาเปรียญ' สู่สังคมไทย?




@ ผมว่ายุคนี้เป็นยุคที่บรรดาพี่มหาทั้งหลายของผมเริ่มออกจากมุมอับของสังคมที่เคยแอบๆอยู่ก็มทยอยๆออกมาแสดงตังเปิดตัวกันเป็นจำนวนมาก ถามว่าเปิดตัวเพื่ออะไร? คำตอบคือเปิดตัวเพื่อ "สมัคร ส.ส." ครับในนามหลายพรรค เช่น พรรคแผ่นดินธรรม พรรรคประชาธิปไตยเพื่อปวงชน พรรคไทยสาธุชน เป็นต้น ผมว่า 3 พรรคนี้เป็นพรรค "มหาเปรียญ" ทั้งนั้น คือ พรรคแผ่นดินธรรม ของ อ.กรณ์ มีดี ป.ธ.๖ พรรคประชาธิปไตยเพื่อปวงชนของ ดร.รักสยาม นามานุภาพอ.ดร.เอกภพ เหล่าลาภะ พรรคไทยสาธุชน ของ อ.มหาดวงใจ เชื้อคำเพ็ง คนนครพนมบ้านเดียวกันกับผม

@ พรรคอดีตพระ..พรรคมหาเปรียญ..สู่ความเป็นพรรคเพื่อพระพุทธศาสนา ?

ผมว่า ทั้ง 3 พรรคนี้ผมก็เคยคุยกับผู้บริหารพรรคมาก่อนหน้านี้มาแล้วก็ในวงการ "มหาเปรียญ" บ้านเรานี้มันแคบ คือใครทำอะไรที่ไหนรู้กันไปหมดประเภทสืบสาวหาประวัติกันค่อนข้างง่ายเพราะแค่ถามว่าตอนบวชอยู่วัดไหนแค่นั้นแหละ อัตชีวประวัติไหลพรืดออกมาเลย

ดังนั้น ความโปร่งใสหรือความเป็นคนดีในฐานะที่เป็นคนสุกหรืออดีตนักบวชเก่านั้นผมว่า "การันตี"ได้ถึงจิตวิญญาณที่ท่านเหล่านั้นจะทำเพื่อพระพุทธศาสนา หรืออาจจะกล่าวได้ว่า พรรคอดีตพระเหล่านี้มีจิตวิญญาณเพื่อพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริงครับ

และผมคิดว่าน่าจะเป็นพรรคทางเลือกของชาวพุทธบ้านเราได้ที่จะเลือกพวกเขาเหล่าชาวพุทธจิตอาสาเหล่านี้เข้าไปทำหน้าที่ในสภาแทนเราได้ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เลือกเสี่ย เลือกเจ้าสัว เลือกนักเลงโตเราก้เลือกมาแล้ว ชั่ว ดี อัปปรีย์ จัญไร ก่อนหน้านี้เราก็เลือกมาแล้ว ได้เรื่องบ้างไม่ได้เรื่องบ้าง เราก็เลือกกันมาหลายสิบปี

มาปีนี้ยุคนี้ อยากฝากเราชาวพุทธทุกท่าน หากจะมีเลือกตั้งก็เลือก "พรรคมหาเปรียญ" ทั้งหมดนี้เข้าไปทำหน้าที่ที่สภาแทนพวกเราบ้างจะเป็นไร ไม่เสียหายหรอกครับ อย่างน้อยก็ให้เขาไปทำหน้าที่แทนชาวพุทธทั้งประเทศโดยตรง พรระมหาเปรียญเหล่านี้จะดีจะอย่างไรเดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง ?

@ พรรคแผ่นดิธรรม "พรรคกรณ์ มีดี"?

พรรคนี้ก่อตั้งมาจากการทำงานในนาม สมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย เดิมทีผมเป็นเลขาธิการสมาพันธ์นี้เป็นคนแรก แต่ทำหน้าที่ได้แค่สองเดือนผมก็ลาออกเพราะเวลาทำงานมีน้อยเลยให้อ.กรณ์ มีดี เข้ามาทำหน้าที่แทน และในสมาพันธ์นี้ทั้ง อ.ดร.รักสยาม นามานุภาพ อ.ดร.เอกภพ เหล่าลาภะ และอ.แก้ว ชิดตะขบและมหาเปรียญคนอื่นๆก็เป็นสมาชิกอยู่ด้วยก่อนจะแยกไปตั้งพรรคอีกทีในนามพรรคประชาธิปไตยเพื่อปวงชน หรือพรรค สป.๙

พูดถึง อ.กรณ์ มีดีนี่ผมยอมรับว่าท่านเป็นคนดี เป็นคนที่เสียสละอดทนทำงานเพื่อพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริงไม่ว่างานประชุมงานเล็กงานน้อยท่านไม่เคยขาดและที่สำคัญท่านเป็นคนมีหลักการในการทำงานเพื่อพระพุทธศาสนาค่อนข้างสูง คือหาตัวจับยาก เคยทำงานการเมืองมาจากพรรคใหญ่คือไทยรักไทยมีประสบการณ์ มุมมองทางการเมืองที่ยอดเยี่ยม เสนอตัวผ่านสื่อมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา หลายครั้งเจอกันผมเห็นแววตาของความมุ่งมั่นของท่านมาก เวลาที่มีปัญหาท่านจะบอกอย่างเดียวว่า สู้ๆและอดทน เท่านั้น อ.กรณ์ในมุมมองผมเป็นคนที่เป็นตัวแทนชาวพุทธในสนามการเมืองได้ครับ

พรรคนี้เริ่มออกพบปะประชาชนและพระสงฆ์มานานแล้วเวลาไปไหนวัดไหนก็เข้ากับวัดได้ง่ายเพราะไปที่ไหนก็ไปหามหาเก่าในถิ่นนั้นๆก่อนเสมอทำให้เข้าถึงวิถีชาวบ้านได้ง่าย ผมว่าพรรคนี้ก็ควรพิจารณาครับ

@ พรรคไทยสาธุชน "พรรคมหาดวงใจ เชื้อคำเพ็ง" ?

อ.มหาดวงใจ เชื้อคำเพ็ง เป็นคนอ.นาแก จ.นครพนม ท่านอ.มหาก็เป็นคนที่ทำเพื่อพระพุทธศาสนาคนหนึ่ง จบ ป.ธ.๘ อดีตเคยเป็นใหญ่เป็นโตทางคณะสงฆ์มาก่อนจะลาสิกขามาเป็นชาวบ้านแต่ก็ยังวนเวียนอยู่กับวัดกับวาไม่ได้ไปไหน ท่านอ.มหาดวงใจ ได้แยกตัวจากสมาพันธ์ชาวพทธแห่งประเทศไทยออกมา ตั้งพรรคไทยสาธุชน จุดตั้งต้นหวังรวบรวมพี่น้องป้องปายแถบอีสานตอนบน นครพนม สกลนคร อุดรธานี อุบลฯ เป็นต้นมาไว้ในพรรคและมีนโยบายเพื่อพระพุทธศาสนาอย่างชัดเจน ท่านอ.มหาดวงใจเป็นโผงผางเสียงดังฟังชัด คาดว่าชาวพุทธเราคงจะได้ตัดสินใจเลือกพรรคท่านมาทำงานแทนชาวพุทธในอีกไม่ช้าในนามพรรคไทยสาธุชนครับ

@ พรรคประชาธิปไตยเพื่อประชาชน "พรรครักสยาม นามานุภาพ" ?

ที่จั่วหัวแบบนี้ไม่ใช่ว่าอ.มหารักสยามเป็นหัวหน้าพรรคนะครับ พี่มหารักสยามเป็นเลขาธิการพรรค เดิมก็แยกไปจากสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทยอีกพรรคหนึ่ง เพราะพี่รักสยามก็เป็นสมาชิกสมาพันธ์มาก่อน พรรคนี้วางยุทธศาสตร์การทำงานครอบคลุมทั่วประเทศ ประเภทพรรคเล็กแต่คิดการณ์ใหญ่ วางคนไว้ทำงานทัาวทุกภาค เป็นพรรคที่มีภาพของคนขอนแก่นชูนโยบายสนับสนุนวิปัสสนาธุระในเมืองไทยในฐานะที่เป็นคนขอนแก่น เป็นเกิดของเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์(อาจ อาสภมหาเถระ) ดังนั้น จึงเน้นที่ทำงานเพื่อพระพุทธศาสนาที่เน้นด้านวิปัสสนาธุระมากกว่าด้านอื่นๆงานนี้เจ้าสำนักปฏิบัติธรรมทั้งหลายคงจะต้องพิจารณาพรรคนี้กันล่ะ

@ จุดยืนของพรรคมหาเปรียญในสังคมไทย ?

ผมว่าจุดยืนของพรรคชาวพุทธที่เกิดขึ้นเท่าๆที่สัมผัสไอเดียหรือแนวคิดของ หน.พรรคแต่ล่ะพรรคล้วนชูนโยบายเพื่อพระพุทธศาสนาทั้งหมด คือ เพื่อปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา เนื่องจากปัจจุบันนี้พระพุทธศาสนาถูกบดบังไปมากจนสังเกตเห็นได้ ดังนั้น การเกิดขึ้นของพรรคเพื่อพระพุทธศาสนาก็จึงถือว่าเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นเพราะความสำนึกรักพระพุทธศาสนานั้นเป็นสิ่งที่ชาวพุทธเรามีอยู่ในสายเลือดอยู่แล้ว หากยามใดที่พระพุทธศาสนามีภัย ชาวพุทธไม่ออกมาปกป้องแล้วจะให้ใครเล่ามาทำหน้าที่นี้ ดังนั้น พรรคมหาเปรียญจึงเปรียบเสมือนตัวแทนของชาวพุทธที่คนยุค 4.0 อย่างเราจะต้องพิจารณา

@ มหากับการเมืองไม่ใช่เรื่องใหม่ ?

ผมว่าเรื่องมหากับการเมืองนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับสังคมบ้านเรา ในอดีต "อดีต"ก็ได้เป็นถึงพระเจ้าแผ่น เช่นในสมัยกรุงศรีอยุธยา "พระเจ้าทรงธรรม"ก็เป็นอดีตพระราชาคณะที่ลาสิกขามาครองบัลลังก์ หรือในยุครัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๔ พระองค์ก็ทรงเป็นมหาเปรียญ ๕ ประโยคที่ทรงลาสิกขามาเพื่อครองราชบัลลังก์

นอกจากนั้นในยุคเปลี่ยนแปลงการปกครอง เกษม บุญศรี ป.ธ.๘ อดีตส.ส.นครวรรค์ ก็เป็นถึงประธานรัฐสภามาแล้ว หรือหลวงวิจิตรวาทการ ป.ธ.๕ ก็เป็นถึงอธิบดีกรมศิลปากรก่อนจะก้าวขึ้นเป็นรัฐมนตรีได้ หรือยุคปัจจุบันนี้ กุเทพ ใสกระจ่าง ป.ธ.๘ ก็เป็นส.ส.ฝีปากกล้าของวงการเมืองไทยมาแล้ว

ดังนั้น การที่พี่มหาอดีตพระทั้งหลายยุคไทยแลนด์ ๔.๐จะก้าวเข้าสู่ถนนการเมืองผมว่าก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดดอกครับ ผมว่ามันขึ้นอยู่ที่ว่าชาวพุทธบ้านเราจะให้โอกาสเขาเหล่านั้นหรือไม่แค่นั้นเองครับ

ขอบคุณครับ

Cr.FB-Naga King

แผ่นดินธรรมขึ้นเหนือ กราบพระแจงภารกิจ เชิญชวนอดีตนักบิณฑ์ แทนคุณข้าวก้นบาตร




 แผ่นดินธรรมขึ้นเหนือ กราบพระแจงภารกิจ เชิญชวนอดีตนักบิณฑ์ แทนคุณข้าวก้นบาตร ศรีสะเกษปั่นจักรยานสะท้อนวิถีชีวิตชนบท


วันที่ 28 ธันวาคม 2561 นายพลากร เทศนำ เลขาธิการพรรคแผ่นดินธรรม ได้เป็นประธานประชุมเตรียมการเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย  โดยก่อนหน้านี้ได้เข้านมัสการพระครูสุคันธสีลคุณ เจ้าคณะอำเภอคีรีมาศ ที่วัดสามพวง  โดยกล่าวว่า  ทั้งนี้ไม่ใช่เป็นการให้พระช่วยหาเสียงให้เป็นแต่เพียงต้องการให้พระได้เข้าใจในพันธกิจของพรรคจะทำอะไรเพื่อพระพุทธศาสนา เพราะพรรคแผ่นดินธรรมเป็นพรรคใหม่อาจยังไม่ทราบชัดเจนถึงความเป็นมา โดยเฉพาะสโลแกนที่ว่า "ศีลธรรมนำชาติ" 

"พร้อมกันนี้พรรคแผ่นดินธรรมขอเชิญเหล่าอดีตนักบิณฑ์ มาร่วมกันปฏิบัติการให้ชาวโลกได้รู้ว่าลูกชาวไร่ ชาวนาที่แสนยากจนข้นแค้น ขอตอบแทนคุณข้าวก้นบาตรด้วยการตั้งพรรคแผ่นดินธรรม พรรคชาวพุทธ เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเรามีการพัฒนาให้มีความเจริญทั้งด้านวัตถุและจิตใจไปพร้อมๆกัน ให้สมกับเมืองไทยเป็นเมืองพุทธ เป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนา" เลขาธิการพรรคแผ่นดินธรรม กล่าวและว่า

สำหรับตนนั้นมีหลายบทบาท หลายหน้าที่ หลายคนรู้จักตน ได้สัมผัสเป็นที่รู้จักและคุ้นเลย และนำมาสู่การเป็นเพื่อนกันในเฟซบุ๊กคงไม่พ้นจากหน้าที่ในการทำงานเกี่ยวกับด้านพระพุทธศาสนา หรือเกี่ยวข้องกับทางด้านพระพุทธศาสนา ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งโดยเฉพาะในจังหวัดสมุทรปราการ การทำงานรับใช้พระพุทธศาสนา ผมตั้งใจและทุ่มเทอุทิศเวลาอย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยมิได้หวังผลตอบแทนใดๆ 

"ทั้งชีวิตของผมที่มีมาได้จนทุกวันนี้เพราะอานิสงส์แห่งข้าวก้นบาตร เพราะพระพุทธศาสนาได้อาศัยความอุ้มชูของพี่น้องชาวพุทธ คุณธรรมที่ผมได้ยึดถือประจำใจเสมอมานั้นคือ ความกตัญญูกตเวที พระพุทธศาสนา หรือเพื่อความเข้าใจง่ายๆ ก็คือวัดเป็นสิ่งที่มีพระคุณกับผม ๆ ได้ระลึกถึงและได้หาโอกาสตอบแทนคุณทุกครั้ง ที่มีโอกาส ท่านครับแม้จะตอบแทนด้านต่างๆ ที่กล่าวมา ก็ยังไม่เพียงพอในการที่จะทำให้พระพุทธศาสนามีความมั่นคง และยั่งยืน การตอบแทนพระคุณของพระพุทธศาสนานั้นมีหลายวิธี หลายบทบาทหลายรูปแบบตามแต่จะคิดกัน" นายพลากร  กล่าวและว่า

จึงขอเลือกแนวทางที่จะตอบแทนพระคุณของพระพุทธศาสนา โดยการอาสาเข้าไปทำหน้าที่ ปกป้อง คุ้มครอง และอุปถัมภ์พระพุทธศาสนา ในสภาผู้แทนราษฎร์ คณะของผมทั้งหมดได้ตระหนักถึงเรื่องนี้ ได้พิจารณาอย่างรอบคอบและถี่ถ้วนแล้ว จึงได้ร่วมกันจัดตั้งพรรคการเมืองของชาวพุทธขึ้นมา ชื่อพรรค"แผ่นดินธรรม" คณะก่อตั้งพรรคเกือบทั้งหมดเป็นผู้ได้ดีเพราะข้าวก้นบาตร พรรคแผ่นดินธรรม จึงเกิดขึ้นด้วยเหตุผลเพียงข้อเดียวคือการตอบแทนคุณของข้าวก้นบาตร 

ขณะความเคลื่อนไหวทางมหาสารคามนางอรุณลักษณ์  สมบัติชัยแสง  ที่ปรึกษาพรรคแผ่นดินธรรม ได้ประชุมพบปะชาวบ้านลาดพัฒนา ต.ลาดพัฒนา อ.เมือง จ.มหาสารคาม พร้อมกับเปิดประชุมแต่งตั้งตัวแทนพรรคแผ่นดินธรรม จำนวน 3 คน พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต จังหวัดมหาสารคาม ทั้ง 5  เขต จากปัญหาที่ชาวบ้านสะท้อนมา พบว่าฤดูฝนน้ำท่วม ฤดูแล้งน้ำแห้ง ทำให้ทำการเกษตรไม่ได้  ผลผลิตไม่ดี  หากช่วยจัดการเรื่องระบบน้ำเพื่อการเกษตรได้จะเป็นประโยชน์กับชาวบ้านมาก ส่วนเรื่องพระพุทธศาสนา  ความรัก ความศรัทธาและหวงแหนในมรดกพุทธธรรมนั้นมิอาจที่ใครจะมาแยกได้ ในการนี้ ดร.อดิศร หนันคำจร โฆษกพรรคแผ่นดินธรรม และนายนิรันดร์ คลังบุญวาสน์ ได้เข้าร่วมประชุมตั้งตัวแทนพรรคแผ่นดินธรรมจังหวัดมหาสารคามด้วย



ส่วนทางจังหวัดศรีสะเกษได้ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องแบบพอเพียงใช้จักรยานเข้าถึงบ้านทุกหลังซึ่งเป็นการประหยัดและได้ออกกำลังกายไปในตัว ว่าที่ผู้สมัครส.ส.ของพรรคแผ่นดินธรรม เปิดเผยว่า ได้สำรวจดูแต่ละหมู่บ้านสภาพแวดล้อมของชาวบ้านชาวนาได้เข้าถึงประชาชนทุกครัวเรือนบางคนก็จนมากไม่มีบ้านจะอยู่ไม่มีจะกินอดมื้อกินมื้อพอหาเช้ากินค่ำเห็นแล้วก็สงสารอยากช่วยเหลือครอบครัวที่ยังขาดแคลน 

"ปู"โพสต์อ้อนคิดถึงชาวอุบลฯ ส่งข้าวเหนียวมาให้กิน ขอบคุณที่ไม่ลืมกัน




วันที่ 28 ธ.ค.2561 นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพทางเฟสบุ๊ก Yingluck Shinawatra กินข้าวเหนียวที่ชาวอุบลฯส่งมาให้ ระบุว่า

“ข้าวเหนียวหอมแดงแสงแรก” จากพี่น้อง จ.อุบลราชธานี ที่ส่งมาให้ได้รับแล้วนะคะ ชอบทานค่ะ เมื่อนึ่งทานแล้วหอมและนิ่มมากๆ เพราะเป็นข้าวใหม่ ยิ่งทานคู่กับหมูทอดแล้วยิ่งอร่อยค่ะ

เขาบอกว่าข้าวนี้มีคุณสมบัติคือมีน้ำตาลกลูโคสต่ำกว่าข้าวขาวพันธุ์ทั่วไป ช่วยลดอัตราความเสี่ยงการเป็นโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือด โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคความจำเสื่อม โรคไขข้ออักเสบ และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยไม่ให้แก่ก่อนวัยอันควรอีกด้วยค่ะ
          
เห็นน้ำใจของพี่น้องประชาชนแล้ว ทำให้นึกถึงเมื่อ 2 ปีก่อน ที่ได้มีโอกาสไปเยี่ยมพี่น้องเกษตรกร จ.อุบลฯ เพื่อซื้อข้าวช่วยชาวนา ต้องขอขอบคุณพี่น้องทุกคนที่ยังไม่ลืมและคิดถึงกันเสมอค่ะ 

แม่น้ำลพบุรีร้องแม่เน่า ร้องเปิดประตูระบายน้ำโพธิ์เก้าต้น




เกษตรกรลุ่มแม่น้ำลพบุรีร้องแม่เน่าให้ชลประทานเปิดประตูระบายน้ำโพธิ์เก้าต้น ไล่น้ำเสีย หวั่นน้ำเสียผลกระทบมาก ปลาในกระชัง เลี้ยงและปลาหน้าวัดจะตาย


วันที่ 27 ธ.ค.2561  นางสาวกรรณิกา ธัญญวิกัย  บ้านเลขที่ 105 หมู่ 4 ตำบลงิ้วราย อำเภอเมืองลพบุรี  ร้องเรียนว่า น้ำในแม่น้ำลพบุรีไม่มีการไหลเวียน การปล่อยน้ำจากประตูน้ำระบายน้ำโพธิ์เก้าต้นมีน้อย ทำให้น้ำมีกลิ่นเน่าเหม็น น้ำประปาหมู่บ้านมีสีขุ่น มีกลิ่นเน่า  เหนือประตูระบายน้ำมีน้ำมากสูง แต่ปลายน้ำท้ายประตูระบายน้ำ ตื้นเขิน            

“ในช่วงประตูน้ำวัดมณีชลขัณฑ์เมืองลพบุรี  มาจนถึง เหนือประตูน้ำระบายน้ำโพธิ์เก้าต้นน้ำเยอะมาก  น้ำใส แต่ท้ายประตูระบายน้ำโพธิ์เก้าต้น ในแม่น้ำลพบุรี มีน้ำน้อย ทำให้น้ำไม่ไหลเวียน ไม่มีน้ำผลักดันน้ำเน่าเสีย ต้องการให้เปิดประตูระบายน้ำ   ปล่อยน้ำมาผลักดันน้ำเน่าเสีย มิเช่นนั้นชาวบ้านจะรวมตัวกันร้องเรียน อยากให้มีการแบ่งปันน้ำบ้าง เพื่อให้ช่วยเหลือเกษตรกร ชาวบ้าน เพราะมีทั้งสวนกล้วย สวนมะยงชิด สวนกระท้อน สวนมะม่วง และไม้ประดับ ทั้งสองฝั่งแม่น้ำลพบุรีตั้งแต่ตำบลงิ้วราย ตำบลโก่งธนูอำเภอเมืองลพบุรี  ตำบลบ้านแพรก  ตำบลสำพะเนียง ตำบลโรงช้าง ตำบลเจ้าปลุก พระนครศรีอยุธยา “นางสาวกรรณิกากล่าว

ด้าน ร.ต.สวิท สิงโต  บ้านเลขที่ 74 /2 หมู่ 9 ตำบลโพธิ์เก้าต้น อำเภอเมือง ลพบุรี ข้าราชการทหารบำนาญ กล่าวว่า ตอนนี้หน้าประตูระบายน้ำโพธิ์เก้าต้นมีผักตบชวามาก และแม่น้ำลพบุรีทางตำบลบางขันหมากนั้นนิ่ง เวลาน้ำแม่น้ำทางโพธิ์เก้าต้นยุบก็จะไหลย้อนมาทางโพธิ์เก้าต้น ซึ่งก็จะเป็นน้ำเสีย  นอกจากนี้ยังมีน้ำเสียที่ระบายมาจากเทศบาลเมืองลพบุรี ระบายลงสู่แม่น้ำลพบุรี

“ส่วนที่ประตูระบายน้ำโพธิ์เก้าต้นก็ได้เปิดประตูระบายน้ำมา สัปดาห์กว่าๆถึงสองสัปดาห์ เพราะว่าถ้าทางเหนือประตูระบายน้ำโพธิ์เก้าต้นต้องการน้ำก็จะปิดประตูระบาย ทำให้ท้ายประตูระบายน้ำโพธิ์เก้าต้นไม่มีน้ำผ่าน น้ำในแม่น้ำลพบุรีนั้นแม้ว่าจะเห็นว่ามีการไหล แต่น้ำข้างล่างนั้นเหม็นไม่สามารถนำมาอุปโภคบริโภคได้ ใช้ได้เพียงแค่รดน้ำต้นไม้ เพราะใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้เลย” ร.ต.สวิท กล่าว
         
นายสุภเวช ยวนแหล  ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาโคกกะเทียม กล่าวว่า แม่น้ำลพบุรีเป็นคลองระบายเป็นระยะๆ โดยเอาน้ำจากคลองชัยนาท-ป่าสัก มาส่งให้แม่น้ำลพบุรี เพราะถ้าน้ำเน่าเสียจะต้องเอาคลองส่งน้ำผลักดันน้ำเพื่อให้น้ำเน่าเสียลงไป แม่น้ำลพบุรีมีปัญหาบ่อยมาก พอน้ำในคลองชัยนาท-ป่าสักน้อย ก็ทำให้ไม่ส่งน้ำไปยังแม่น้ำลพบุรีได้ ก็จะทำให้น้ำในแม่น้ำลพบุรีเน่าเสีย ซึ่งแม่น้ำลพบุรีนั้นอยู่ในความดูแลของกรมเจ้าท่า แต่ทางสำนักชลประทานที่ 10 มีหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือแค่การส่งน้ำไปผลักดัน ไม่สามารถขุดลอกหรือทำอะไรได้เลย  แม่น้ำลพบุรีมีทั้งวัชพืช การใช้น้ำ ถ้าเปิดประตูโพธิ์เก้าต้นก็ต้องรับน้ำมาเพิ่ม ไม่อย่างนั้น จะทำให้เกิดผลกระทบในการเลี้ยงน้ำ
          
นายอนุสรณ์ ตันติวุฒิ ผู้อำนวยการส่วนจัดสรรน้ำและบำรุงรักษา สำนักชลประทานที่ 10 กล่าวว่า  ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาโคกกะเทียม แจ้งว่าประตูระบายน้ำโพธิ์เก้าต้นไม่ได้ปิด โดยปัจจุบันเปิดระบายน้ำอยู่ที่ 0.20 ม. จำนวน 1 ช่อง  หากสถานการณ์น้ำในคลองชัยนาท-ป่าสัก มีปริมาณน้ำที่เพิ่มมากขึ้น จะดำเนินการเติมน้ำลงในคลองระบายใหญ่ชัยนาท-ป่าสัก 3 (แม่น้ำลพบุรี) และ แม่น้ำลพบุรีต่อไป  ซึ่งตอนนี้ได้แจ้งกรมชลประทานถึงปัญหาของน้ำเน่าเสียไปแล้ว โดยคาดว่าไม่เกิน 1-2 วันจะมีการระบายน้ำเพิ่มไปยังแม่น้ำลพบุรี

มติป.ป.ช. 5 ต่อ 3 ไม่มีมูล! นาฬิกาเพื่อน'บิ๊กป้อม'



วันที่ 27 ธ.ค.2561 นายวรวิทย์  สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่าวันนี้(วันพฤหัสบดีที่ 27 ธันวาคม พ.ศ.2561) ได้มีการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยมีเรื่องสำคัญที่ควรแถลงให้สื่อมวลชนทราบ คือ กรณีปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชนว่า พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ สวมใส่นาฬิกาหรูแต่ไม่แจ้งนาฬิกาดังกล่าวในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินที่ยื่นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2557 และกรณีที่มีผู้ร้องเรียนให้ตรวจสอบพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมว่าจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีไม่แสดงนาฬิกาหรูและแหวนประดับมีค่าที่สวมใส่ในโอกาสต่างๆ ที่ปรากฏเป็นภาพข่าวตามสื่อมวลชนนั้น

คณะกรรมการ ป.ป.ช. (พลตำรวจเอกวัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ขอถอนตัวไม่เข้าร่วมพิจารณา) ได้พิจารณารายงานผลการตรวจสอบปรากฏว่า สำนักงาน ป.ป.ช. ได้ให้พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว จำนวน 4 ครั้ง ซึ่งพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวมาแล้วว่า นาฬิกาทั้งหมดจำนวน 22 เรือน ได้ยืมจาก นายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทและได้คืนไปหมดแล้ว ส่วนแหวนมีทั้งที่เป็นมรดกของบิดาที่มารดามอบให้ระหว่างที่พลเอก ประวิตร วงศ์สุวรรณ ดำรงตำแหน่งดังกล่าว  บางวงเป็นแหวนรุ่นหรือแหวนวัตถุมงคลมีมูลค่าไม่สูงมาก จากการสอบปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง และขอเอกสารหลักฐานจากผู้แทนจำหน่ายนาฬิกาหรูในประเทศไทย รวมทั้งขอเอกสารและความร่วมมือจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมศุลกากร  และกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อตรวจสอบการสำแดงรายการนาฬิกาที่นำเข้าจากต่างประเทศรวมทั้งผู้จำหน่ายนาฬิกาในต่างประเทศ ปรากฏข้อเท็จจริงว่า นายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ เป็นนักธุรกิจที่มีฐานะทางการเงินและมีทรัพย์สินเป็นจำนวนมากและชอบสะสมนาฬิการาคาแพง ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ช. ได้ตรวจสอบพบว่ามีการเก็บรักษานาฬิการาคาแพงอยู่ในบ้านของนายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ จำนวนมากกว่าที่ร้องเรียน จากคำให้การของพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง ได้ข้อเท็จจริงว่านายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ เป็นคนมีฐานะดี คอยช่วยเหลือสนับสนุนทางด้านการเงินให้กับกลุ่มเพื่อนที่เคยศึกษาที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล และได้ให้เพื่อนในกลุ่มโรงเรียนเซนต์คาเบรียลยืมนาฬิการาคาแพงไปใช้สวมใส่ ซึ่งรวมถึงพลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ เพื่อนร่วมห้องเดียวกับนายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ ที่มีความสนิทสนมกันด้วย นอกจากกลุ่มเพื่อนในโรงเรียนเซนต์คาเบรียลแล้ว นายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ ยังให้เพื่อนกลุ่มอื่นยืมนาฬิกาไปสวมใส่ด้วย 

เมื่อพิจารณาภาพของนาฬิกาจำนวน 25 เรือนที่ปรากฏเป็นข่าวพบว่ามีภาพซ้ำกัน 3 คู่ จึงมีนาฬิกาที่ต้องตรวจสอบจำนวน 22 เรือน โดยพบว่าอยู่ในบ้านของนายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ จำนวน 20 เรือนและพบใบรับประกันนาฬิกาอีก 1 เรือนแต่ไม่พบตัวเรือน รวมเป็น 21 เรือน โดย 21 เรือนดังกล่าวพบหลักฐานว่านายปัฐวาท สุขศรีวงศ์  

เป็นผู้ซื้อจากผู้จำหน่ายในต่างประเทศจำนวน 1 เรือน ซื้อต่อจากผู้อื่นจำนวน 2 เรือน ส่วนที่เหลือไม่พบหลักฐานการซื้อจากผู้จัดจำหน่ายภายในประเทศ และกรมศุลกากรก็ไม่สามารถตรวจสอบยืนยันการนำเข้านาฬิกาจากต่างประเทศได้เพราะผู้นำเข้าบางรายไม่สำแดงข้อมูลรายละเอียดของนาฬิกา ในส่วนการขอข้อมูลการซื้อขายนาฬิกาจากต่างประเทศ บางประเทศได้ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล หรือบางประเทศตอบว่าไม่สามารถตรวจสอบได้ 

คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่าพยานหลักฐานฟังได้ว่านาฬิกาที่ปรากฏเป็นข่าวเก็บรักษาอยู่ ในบ้านของนายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ และเป็นส่วนหนึ่งของนาฬิการาคาแพงที่นายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ ได้สะสมไว้ แม้ไม่ปรากฏเอกสารการซื้อขายว่านายปัฐวาท สุขศรีวงศ์  เป็นผู้ซื้อนาฬิกาดังกล่าว แต่ตามประมวลกฎหมายแพ่ง
และพาณิชย์ มาตรา 1369 ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ที่ยึดถือทรัพย์สินนั้นไว้เป็นการยึดถือเพื่อตน จึงต้องด้วยบทสันนิษฐานตามกฎหมายดังกล่าวว่านายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ เป็นเจ้าของนาฬิกาตามภาพข่าวจำนวน 21 เรือน และได้ให้พลเอก ประวิตร วงศ์สุวรรณ  ยืมใช้ในโอกาสต่างๆ ตามที่ปรากฏในภาพข่าว ประกอบกับนายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ ได้ให้เพื่อนคนอื่นยืมใช้นาฬิการาคาแพงด้วย จึงรับฟังว่าเป็นการกระทำโดยปกติของนายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ ที่ช่วยดูแลกลุ่มเพื่อนเก่าโรงเรียนเซนต์คาเบรียลที่สนิทสนมกัน รวมถึงเพื่อนกลุ่มอื่นด้วย ในส่วนของนาฬิกาอีก 1 เรือน ที่ไม่พบตัวเรือนและไม่พบใบรับประกันนั้น จากการตรวจสอบยังไม่พบรายละเอียดข้อมูลนาฬิกาเรือนดังกล่าว แต่เมื่อนาฬิกาเป็นสังหาริมทรัพย์ที่เคลื่อนย้ายได้ง่าย และนายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ ได้เสียชีวิตไปแล้ว และเมื่อรับฟังว่าพลเอก ประวิตรวงศ์สุวรรณ ได้ยืมนาฬิกาจากนายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ มาสวมใส่ในการออกงานต่างๆ จำนวน 21 เรือนข้างต้น จึงรับฟังได้ว่าพลเอก ประวิตร วงศ์สุวรรณ ได้มีการยืมนาฬิกาเรือนที่ยังตรวจสอบไม่พบมาสวมใส่เช่นกัน ทั้งนี้ ไม่ปรากฏว่านายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ และบริษัทคอม-ลิ้งค์ เข้าเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมแต่อย่างใด 

กรณีแหวนที่ปรากฏตามภาพข่าวที่พลเอก ประวิตร สวมใส่จำนวน 12 วง นั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาคำชี้แจงของพลเอก ประวิตร วงศ์สุวรรณ แล้วเห็นว่าพยานหลักฐานรับฟังได้ว่าแหวนจำนวน 3 วงเป็นทรัพย์มรดกของบิดาของพลเอก ประวิตร วงศ์สุวรรณ ที่ได้รับมาจากมารดาในขณะดำรงตำแหน่งรองนายก รัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จึงไม่มีหน้าที่ต้องแสดงแหวนดังกล่าวในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินกรณี เข้ารับตำแหน่งดังกล่าว แหวนที่เหลือเป็นแหวนที่เป็นสัญลักษณ์หน่วยทหาร หรือแหวนวัตถุมงคลที่มีราคาไม่มากนำมาใส่เพื่อเป็นศิริมงคล หรือใส่เพื่อแสดงสัญลักษณ์ของสังกัด จึงไม่ต้องแสดงในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เช่นกัน 

จากพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงดังกล่าว คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีมติด้วยคะแนนเสียง 5 ต่อ 3 ว่า กรณียังไม่มีมูลเพียงพอว่าพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรรณ จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินนั้น โดยกรรมการ ป.ป.ช.เสียงข้างน้อยเห็นว่าพยานหลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะวินิจฉัยได้ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม นอกจากนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้แจ้งข้อมูลนาฬิกาจำนวน 22 เรือน ต่อกรมศุลกากรเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป 

จึงขอแถลงมาให้ทราบทั่วกัน

วันพุธที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2561

'ป๋าเปรม'ยกหลักสันติวิธีอวยพรปีใหม่ 'ทุกคนเป็นมิตรกัน-ทุกอย่างราบรื่น'



'ป๋าเปรม'ยกหลักสันติวิธีอวยพรปีใหม่ 'ทุกคนเป็นมิตรกัน-ทุกอย่างราบรื่น' พร้อมขอให้'บิ๊กตู่'ทำตามคำว่า เห็นต่างอย่างเป็นมิตร


วันที่ 27 ธ.ค.2561 พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เปิดบ้านสี่เสาเทเวศร์ ต้อนรับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม คณะรัฐมนตรี และผู้นำเหล่าทัพ อวยพรปีใหม่
          
พลเอกเปรม ได้ขอบคุณนายกรัฐมนตรี และ ครม.ที่ได้มาอวยพรปีใหม่ว่า ขอให้นายกฯและรัฐบาลชุดนี้มีความราบรื่นในการบริหารงาน ซึ่งการที่ทำงานราบรื่น เนื่องจาก เราเป็นมิตรกัน พลเอกเปรม ระบุว่า นายกรัฐมนตรีก็เป็นมิตรกับตนเอง พล.อ.ประวิตร ก็เป็นมิตรกับตนเอง ทุกคนเป็นมิตรกัน สิ่งนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญและคิดว่านักการเมืองฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน เห็นแก่ความเป็นมิตร ทุกอย่างก็จะราบรื่นและไปได้สวยงาม

พลเอกเปรม ระบุถึงนายกรัฐมนตรีด้วยว่า ขอให้ทำตามคำว่า เห็นต่างอย่างเป็นมิตร และนำไปใช้เพราะตนเองเคยใช้แล้วได้ผล แต่ขออย่าเห็นต่าง อย่างเป็นศัตรูกันเพราะไม่มีประโยชน์ ขณะเดียวกัน ยังชมเชยนายกรัฐมนตรีที่บริหารประเทศมาด้วยความโลดโผนด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำให้ชาติบ้านเมืองมีความสงบสุข คนไทยลดปัญหายากจนไปบ้าง ซึ่งถือเป็นการได้บุญได้กุศลเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ผู้นำประเทศที่จะทำอย่างนั้น และทุกคน อยากให้คนไทยมีความสุขอย่างน้อยก็มีเงินพอใช้สอยซึ่งสิ่งนี้นายกรัฐมนตรี ก็กำลังทำอยู่และคิดว่าน่าจะได้ผลพอสมควร

กรมพัฒน์ ร่วม NECTEC ดันแผนพัฒนาแรงงานด้าน AI เป้า 3 ปี 10,000 คน

กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ร่วมกับ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ ดันแผนพัฒนากำลังคนด้านปัญญาประดิษฐ์ เป้าหมาย 10,000 คน ในระยะ...