ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก ตุลาคม, 2012

ฮือฮา!'บัวขาว'นั่งสมาธิ-พรมน้ำมนต์ก่อนชก

               ยังคงดุดันเหมือนเดิมสำหรับ "ดำดอทคอม" สมบัติ บัญชาเมฆ หรือ บัวขาว ป.ประมุข  ในศึกไทยไฟท์ 2012 ณ อาคารชาญชัยอะเคเดียม ภายใน ม.กรุงเทพธนบุรี เมื่อวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยมีแฟนมวยเข้าชมกันเนืองแน่น  โดยประเคนอาวุธเข้าใส่ เมาโร เซอร์นา นักชกจากอิตาลีจอดในยก 3  ชนิดที่ผู้แพ้ปากแตกหัวบวมปูดเป็นลูกมะนาว แต่นั้นก็คือหน้าฉาก                 คนส่วนใหญ่จะรู้แต่เพียงว่า นักมวยต้องซ้อมๆๆๆแล้วก็ซ้อมทั้งร่างกายจะจิตใจถึงจะชนะ                 ร่างกายดีแต่สภาพจิตใจไม่ดีไม่เข้มแข็งพอหรือเกิดปัญหาก่อนชกก็อาจจะเกิดความทำท้อแท้หมดกำลังใจที่จะชกได้                  บัวขาว ก็อยู่ในภาพเช่นนั้นคือจากลงเวทีก็ถือเวทีซ้อมนั้นเป็นการเตรียมความพร้อมด้านร่างกาย ส่วนจิตใจหละ บัวขาว ทำอย่างไร                 น้อยคนนักจะรู้ว่า บัวขาว นั้นยังซ้อมจิตใจให้เข้มแข็งด้วยๆ การนั่งสมาธิทำจิตใจให้สงบอยู่เสมอ                 ทุกครั้งที่ บัวขาว จะขึ้นชกจะเดินทางไปที่วัดสุเทพนิมิต สระกำแพงใหญ่ (หลวงปู่เครื่องอุปถัมภ์ ) อ.อุทุมพรสัย จ.ศรีสะเกษ  ฝึกสมาธิขอพรและขอบารมีธรรมจากหลวงปู่สุข โกวิโท หรือพระครูพ

นศ.ตระกูลดังอบรมจูมล่า'มจร' หวังทำเว็บไซต์ครูสอนคณิต

               "สนใจทำเว็บไซต์จึงได้เข้าไปค้นหาข้อมูลในกูเกิ้ล ทราบว่ามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) เปิดอบรมการสร้างและการจัดการเว็บไซต์องค์กรด้วยโปรแกรมจูมล่า (Joomla)   โดยเฉพาะอย่างยิ่งอบรมฟรี จึงได้สมัคร"                นี้เป็นคำบอกเล่าของนักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรีตระกูลดังนามว่านางสาวไอริณ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ขณะเดียวกันเธอก็เป็นครูสอนพิเศษวิชาคณิตศาสตร์ที่สถาบันติวเตอร์แห่งหนึ่งด้วย                นางสาวไอริณตั้งความหวังว่าเมื่ออบรมเสร็จแล้วจะนำความรู้ไปทำเว็บไซต์เก็บข้อมูลเกี่ยวกับวิชาคณิตศาสตร์ที่สอนพิเศษอยู่ ขณะเดียวกันก็จะช่วยโฆษณาประชาสัมพันธ์ "มจร" เป็นการตอบแทนคุณ                เมื่อนางสาวไอริณอบรมการสร้างและการจัดการเว็บไซต์องค์กรด้วยโปรแกรมจูมล่าเสร็จแล้ว ยังได้ลงชื่อเข้ารุมอบรม Joomla Advance Extention Workshop รุ่นที่ 1 ต่ออีกด้วย                นี้เป็นรุ่นที่ 2 แล้วที่ "มจร" ภายใต้การดำเนินการของส่วนเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักหอสมุดและเทคโนโลยีสารสนเทศ เปิดอบรมการทำเว็บไซต์ด้วยโปรแกรมจูมล่าให้กับพระนิสิต นักศึกษา และประชาช

สาววัยใส'ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น'ใฝ่ธรรมเรียนป.โท'มจร'

              คำว่า "ยูมิโก๊ะ" คงจะเป็นที่คุ้นเคยสำหรับคนคอการ์ตูนญี่ปุ่นจากเรื่อง "ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน" เพราะเป็นแม่ของโคนันตัวเอกของเรื่องนั่นเอง              แต่ในที่นี้หมายถึงลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น ที่จบการศึกษาที่มหาวิทยาลัยมหิดลและเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ที่ใช้นามทางเฟซบุ๊กว่า "Yuko Fc"              หากดูจากหน้าตาเธอแล้วต้องบอกว่าไม่แพ้ดาราญี่ปุ่นหลายๆ คนเลยที่เดียว  แต่การมองคนนั้นไม่ควรที่จะดูที่ใบหน้าควรจะมองไปถึงจิตใจด้วย และในที่นี้จะมองเธอที่จุดนี้              "ยูมิโก๊ะ" นอกจากจะทำหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์มหาวิทยาลัยมหิดลแล้ว เธอยังสนใจศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) สาขาพระพุทธศาสนา ประดับปริญญาโทปี 2 ขณะนี้กำลังทำวิทยานิพนธ์ และทำรายการธรรมะแนว "กบนอกกะลา" เพราะอะไรเธอถึงสนใจด้านนี้              "รังษี สุทนต์" อาจารย์อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย มจร  ผู้ได้ฉายาว่า  "พระไตรปิฎกเคลื่อนที่"  ให้คำตอบว่า เนื่องจาก "ยูมิโก๊ะ" นับถือพระพุทธศาสนามหายานนิกายนิชิเรนในประเทศญี่ปุ

'มหานิกาย'มอบป.เอก'ธรรมยุต' ย้ำภาพทำลายกำแพงนิกาย

              ภาพความร่วมมือระหว่างพระนิกายทั้งสองในประเทศไทยคือมหานิกายกับธรรมยุตไม่ได้ปรากฏต่อสายตาสาธารณชนเท่าใดนัก ทั้งๆที่มีความร่วมมือกันมาอย่างต่อเนื่อง เป็นที่ทราบกันก็เฉพาะในวงในเท่านั้น               อย่างภาพที่พระธรรมสุธี นายกสภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) ฝ่ายมหานิยาย พร้อมด้วยพระธรรมโกศาจารย์ อธิการบดี ผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ ได้ร่วมพิธีถวายปริญาพุทธศาสตรดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการจักการเชิงพุทธ แด่พระธรรมวราจารย์ (แบน กิตฺสาโร) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 16,17,18  ฝ่ายธรรมยุต และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศ กรุงเทพมหานคร ที่มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร) วิทยาเขตสิรินธร อ้อมใหญ่ จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา              หรืออย่างเช่นกรณีประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชเป็นประธาน โดยได้พิจารณารายชื่อพระเถรานุเถระที่จะเข้ารับพระราชทานสถาปนาเลื่อนและตั้งสมณศักดิ์ ประจำปี 2555 ซึ่งปีนี้มีตำแหน่งชั้นรองสมเด็จพระราชาคณะชั้นหิรัญบัฏ ฝ่ายมหานิกาย ว่างจำนวน 1 ตำแหน่ง              ที่ปร

จุฬาฯถวายทุน'พระมหาจุฬาฯ' ทำวิจัย'พระกับการเมือง'

           สภาพการเมืองไทยทุกวันนี้พูดได้เต็มปากว่ามีการแบ่งฝ่ายเล่นกันอย่างชัดเจนแบบไม่มีกติกา ไม่มีน้ำใจนักกีฬา ไม่รู้จักแพ้ ไม่รู้จักชนะ ไม่รู้จักให้อภัย ต่างชี้หน้าด่ากัน "เลว"  ทำดีก็ด่าว่า "สร้างภาพ"  ทำชั่วก็ทับถม ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า "สนับสนุนคนชั่ว"             ไม่ขีดวงในการเล่น ไม่รู้ว่าการเมืองไหนในเป็นการเมืองในประเทศ การเมืองไหนเป็นการเมืองระหว่างประเทศที่คนทั้งชาติต้องร่วมมือกัน             ไม่นึกถึงคำของพระพุทธทาสที่ว่า "เขามีส่วนเลวบ้างช่างหัวเขา จงเลือกเอาส่วนดีเขามีอยู่ เป็นประโยชน์โลกบ้างยังน่าดู ส่วนที่ชั่วอย่าไปรู้ของเขาเลย"             ตอนนี้มีการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นักการเมืองไทยก็รู้เพียงแค่ผลว่าจะออกมาอย่างไรเท่านั้น แต่ไม่สนใจว่าหลังจากนั้นเขาร่วมมือกันพัฒนาประเทศอย่างไร             นักการเมืองไทยไม่อยากได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพกันบ้างหรืออย่างไร ดูอย่างพม่าที่นักการเมืองไทยมองอย่างเหยียดหยามว่าด้อยพัฒนา หล้าหลังไทย             แต่พม่าก็มีนักการเมืองที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพเม