วันจันทร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2566

"ทวี สอดส่อง" เผย 9 มิ.ย. คณะทำงนพรรคร่วมถก "สันติภาพชายแดนใต้ ปาตานี"



"ทวี สอดส่อง"นำคณะประชาชาติร่วมทอดผ้าป่าสามัคคีพร้อมฟังธรรมเทศนาที่ขอนแก่น แย้ม 9 มิ.ย. เตรียมถก "สันติภาพชายแดนใต้ ปาตานี" ในพรรคร่วมรัฐบาล 

เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2566 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ พร้อมคณะได้เดินทาง ร่วมทอดผ้าป่าสามัคคีและฟังธรรมเทศนา จาก พระอาจารย์ นายแพทย์วิชัย กัมมสุทโธ ณ สถานปฏิบัติธรรมป่าวิเวกสิกขาราม ณ อำเภอ พล จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา


นอกจากนี้ ส่วนเรื่องการประชุมคณะทำงานชุดเล็ก 7 คณะ ที่ตั้งขึ้นตามมติ 8 พรรคร่วมรัฐบาล ที่พรรคเพื่อไทย ในวันที่ 6 มิ.ย. 66 เวลา 10.30 น. นั้น โดยจะมีการแถลงข่าว เวลา 13.00 น. พร้อมทั้งมีการถ่ายทอด หรือ Live ผ่านเพจพรรค 


สำหรับประเด็นที่จะมีการหารือนั้น พรรคก้าวไกลยังไม่ส่งวาระมาให้เลย แต่การประชุมในวันที่ 9 มิ.ย. นี้ ของคณะทำงานย่อยพรรคร่วมรัฐบาล ว่าด้วยเรื่อง สันติภาพชายแดนใต้ ปาตานี อาจย้ายไปที่พรรคก้าวไกล แทนศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย

วันอาทิตย์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2566

การอุบัติขึ้นของพระพุทธเจ้า : ความสำเร็จของมนุษยชาติ ดร.มงคล นาฏกระสูตร มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร



วิสาขบูชา วันขึ้น ๑๕  ค่ำ เดือน ๖ เป็นวันพระใหญ่สุดและวันสำคัญที่สุดของพระพุทธศาสนา ทำไมวันนี้จึงสำคัญที่สุด เพราะเป็นวันที่เกี่ยวกับพุทธประวัติ พุทธกิจ พุทธธรรมของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าไม่มีการประสูติ ตรัสรู้หรือปรินิพพาน ขาดตอนใดๆตอนหนึ่ง คงจะไม่มีพระพุทธศาสนา ศาสนาเพื่อมนุษยชาติให้เราพุทธได้นับถือ บูชาสักการะ ปฏิบัติและมีวิธีแก้ทางดับทุกข์มาถึงทุกวันนี้ได้


ประสูติ : การพิสูจน์ทดลองศักยภาพของมนุษย์

    จากพุทธประวัติในปฐมโพธิกาล เจ้าชายสิทธัตถะกำเนิดจากพระครรภ์ของพระมารดา การเลี้ยงดู ให้การศึกษาเหมือนมนุษย์ทั่วไป แต่สิ่งหนึ่งที่พระองค์ ทรงนำมาใช้ก็คือสติปัญญาที่มีอยู่ในตัวมนุษย์เอง ได้แก่

  - การสังเกตและมองเห็นปัญหา แม้พระบิดาจะพยายามปิดบังสภาพความเป็นจริงในโลกมนุษย์ แต่ไม่สามารถปิดปังความคิดในการค้นคว้าความจริงได้ และยิ่งเห็นความจริงจากเทวทูตทั้ง ๓ คือ แก่ เจ็บ ตายของคน แต่ทำไมมนุษย์จึงไม่คิดจะแก้ไข จึงตัดสินพระทัยแน่วแน่ในการริเริ่มแสวงหาหนทางด้วยพระองค์เอง

    - การทดลองของจริง เมื่อทรงเห็นปัญหาที่แท้จริง ก็ทรงทุ่มเททั้งชีวิตและสติปัญญาทุกขุม กำลัง เช่น

  ๑.เริ่มต้นด้วยหาข้อมูล ด้วยการจาริกไปตามสำนักครูต่าง ๆ    

 ๒.พยายามพิสูจน์ทดลองทฤษฎีเก่าต่าง ๆ ของการแก้ทุกข์ทั้งปวงในสมัยนั้น

    ๓. มีเป้าหมายที่ชัดเจน แสวงหาแนวทางที่ดีกว่า เมื่อทรงทดลองจนพบว่า วิธีการดังกล่าว ไม่ใช่แนวทาง ทรงไม่ยึดติดกับแนวทางเก่า เมื่อไม่ใช่ ก็ทรงเปลี่ยนทันที โดยยอมเสียสละแม้กระทั่งพระวรกาย (บำเพ็ญทุกกริยา) จนค้นพบอริยมรรคมีองค์ ๘ มัชฌิมาปฏิปทา ทางแก้ทุกข์ที่แท้จริง ทรงริเริ่ม ทดลอง ค้นพบพุทธธรรมด้วยศักยภาพของมนุษย์ในตัวพระองค์เอง


ตรัสรู้ : ประกาศความสำเร็จแก่มนุษยชาติ

    วันเพ็ญเดือน ๖ ก่อนพุทธศักราช ๔๕ ปี ถือว่าเป็นวันประวัติศาสตร์ในการประกาศความสำเร็จในศักยภาพของมนุษยชาติที่ไม่เคยมีผู้ใดทำมาก่อน เพราะก่อนหน้านั้น มนุษย์ล้วนพึ่งพาอำนาจเหนือธรรมชาติหรือจากเทพเจ้าทั้งหลาย

    การตรัสรู้ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นการประกาศอิสรภาพจากพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายนอก โดยมาพึ่งพาสติปัญญาของมนุษย์ โดยการประกาศเรื่อง "#กรรม" เป็นหัวใจหลักของพระพุทธศาสนา

    นอกจากนี้ การตรัสรู้ของพระพุทธองค์ยังเป็นการแสดงถึงงานที่ยิ่งใหญ่ในพุทธศาสนา คือ การเผยแผ่ธรรมะ ทำให้เกิดศาสนาพุทธ งานของพระพุทธเจ้า เป็นงานที่มีอุดมคติสูงสุด คือ เป็นงานอมตะ เป็นงานที่มีคนสืบต่อมากที่สุด ไม่เหมือนงานของมนุษย์คนอื่นที่ทำแล้วก็ค่อยหายไป พ.ศ.คือ งานที่องค์พุทธะยังทรงดำเนินอยู่ เป็นงานที่มีมูลค่าหาปริมาณมิได้ และยังคงมีคนทำสืบทอดต่อจากพระพุทธองค์ แม้จะปรินิพพานนานแล้วถึง ๒๕๖๖ ปีก็ตาม มีงานอะไรที่ทำแล้วคุ้มค่าขนาดนี้

#ปรินิพพาน : #ประกาศสัจจธรรมที่ไร้กาลเวลา

    การปรินิพพานของพระบรมศาสดา ได้ประกาศสัจจธรรม ๓ ประการ

    ๑. พุทธธรรมที่ทรงค้นพบเป็นอมตะธรรมไม่มีกาลเวลา เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่มหาชนทุกหมู่เหล่า ทุกเชื้อชาติ ทุกยุคสมัย

    ๒. ก่อตั้งพระพุทธศาสนาไว้กับโลก เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่มนุษย์ใช้สติปัญญาของมนุษย์เองอย่างมีประสิทธิผลมาแล้ว

    ๓. ทุกสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นอะไร หรือใคร จะยิ่งใหญ่แค่ไหน จะมีชื่อเสียงเพียงใด หรือมีทรัพย์สมบัติเพียงใด ทุกสิ่งล้วนเป็นไปตามกฎธรรมชาติ แม้แต่องค์พระบรมศาสดาก็ยังปรินิพพาน เป็นปกติธรรมดา...

      เมื่อเราได้เห็นการประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานในมุมมองแตกต่างไปกว่าความมหัศจรรย์หรือปาฏิหาริย์ใด ๆ ก็จะพบว่าการอุบัติขึ้นขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงอุบัติขึ้นเพื่อความเจริญรุ่งเรือง เพื่อการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่มนุษยชาติทั้งหลาย จะได้ภาคภูมิใจ ที่เราชาวไทยโชคดีที่ได้เกิดเป็นมนุษย์และพบพระพุทธศาสนา และจะได้ใช้โอกาสในวันวิสาขบูชานี้น้อมตนปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างไม่ลังเลสงสัยอีกต่อไป ขอถวายบทความนี้เป็นพุทธบูชา เพื่อความมั่นคงและตั้งมั่นแห่งพระพุทธศาสนาตลอดไป สาธุ

    จิรํ ติฏฺฐตุ พุทฺธสาสนํ ขอให้พระพุทธศาสนาจงตั้งมั่นตลอดกาลนาน..เทอญ


วันศุกร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

"เจ้าคุณประสาร" มองการเลือกตั้งแล้วถามพรรคการเมือง ศาสนาจะอยู่ตรงใหนในสังคมไทย



เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2566 พระราชวัชรสารบัณฑิต หรือเจ้าคุณประสาร เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย  ได้ให้ความเห็นกรณีที่มีพรรคการเมืองบางพรรคมีนโยบายในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งแล้วเกี่ยวเนื่องด้วยศาสนาและพระพุทธศาสนานั้นว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง สำหรับพระสงฆ์แล้วทุกรูปให้ความเคารพต่อมติมหาเถรสมาคมที่ไม่ให้พระสงฆ์เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง เพราะเกรงว่าจะสูญเสียความเป็นกลางและไม่เป็นที่เคารพนับถือของประชาชนโดยรวม ในเรื่องนี้พระสงฆ์ทุกรูปรวมทั้งตนเองด้วยต่างก็ปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัด ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด แต่ในขณะนี้ได้มีพรรคการเมืองบางพรรค แกนนำพรรคการเมืองบางคนได้พูดผ่านเวที Future  Of Creative Economy ซึ่งเผยแผ่ทางสื่อมวลชนโดยที่ผู้พูดเป็นหนึ่งในทีมเศรษฐกิจของพรรค เขาบอกว่า 6 เปลี่ยนเพื่อเศรษฐกิจสร้างสรรค์สังคมไทย  ข้อแรกคือ เปลี่ยนกระทรวงวัฒนธรรมไทย เป็นกระทรวงเศรษฐกิจสร้างสรรค์ 

@siampongnews #เจ้าคุณประสาร มองการเลือกตั้งปี 2566 ถามพรรคการเมืองต่างๆ ศาสนาจะอยู่ตรงใหนในสังคมไทย #ข่าวtiktok ♬ เสียงต้นฉบับ - Dr.samran sompong

พระราชวัชรสารบัณฑิต กล่าวว่า ในเรื่องนี้ในฐานะพระสงฆ์ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากนโยบายดังกล่าวจึงอยากถามพรรคการเมืองพรรคนั้นว่าเมื่อมีแนวนโยบายอย่างนี้แล้ว ศาสนาทุกศาสนาและพระพุทธศาสนาจะอยู่ตรงใหน อยู่ตรงใหนในโครงสร้างและแนวนโยบายแห่งรัฐ อย่าลืมว่ากระทรวงวัฒนธรรมนั้นแยกออกมาจากกระทรวงศึกษาธิการ เฉพาะเรื่องศาสนา และวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของชาติเราโดย เป็นวัฒนธรรมประเพณีที่ทั่วโลกชื่นชมและด้วยความชื่นชม ชื่นชอบนี้นักท่องเที่ยวทั่วโลกส่วนหนึ่งมีจำนวนไม่น้อยที่เข้ามาท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม วัดวาอาราม ศาสนา ทั้งในเขตวัดพระแก้ว วัดโพธิ์ วัดอรุณ อยุธยา สุโขทัย เชียงใหม่ เป็นต้น  แล้วความชื่นชอบด้านศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี เหล่านี้มิใช่หรือที่ช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจของไทยเจริญเติบโตเติบโตและยังช่วยกระจายรายได้ไปสู่ประชาชนคนรากหญ้าได้อย่างแท้จริง ตั้งแต่แท็กซี่ สามล้อ คนขายไข่ปิ้ง ผู้ประกอบการทุกระดับไปจนถึงเจ้าสัว คนร่ำคนรวยในประเทศทั้งหลายและในปัจจุบันนี้ประเทศไทยเราก็พึ่งพาการส่งออกและการท่องเที่ยวใช่หรือไม่ แล้วจะมายุบเอาดื้อๆเสียอย่างนี้ และถ้าเกิดว่ายุบจริงตานโยบายของพรรคท่านแล้วกระทรวงใหม่ที่ว่านี้งานจะซ้ำซ้อนกับกระทรวงเศรษฐกิจที่มีอยู่เดิมแล้วหรือไม่ เช่น กระทรวงการคลัง พาณิชย์ พลังงาน คมนาคม เกษตรและสหกรณ์ อุตสาหกรรม และหน่วยงานรวมทั้งภาระงานในสังกัดกระทรวงวัฒนธรรมเดิมจะไปอยู่ใหน เช่น   กรมการศาสนา กรมศิลปากร กรมส่งเสริมวัฒนธรรม สำนักศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร หอภาพยนตร์และศูนย์คุณธรรม หรือเพราะก่อนหน้านี้แกนนำของท่านที่บัดนี้กลายมาเป็นผู้ช่วยหาเสียงเคยบอกไว้ว่ามีนโยบายให้มีศาสนาเสรีและรัฐไม่ต้องอุปถัมภ์ศาสนารวมทั้งพระพุทธศาสนาด้วย           

พระราชวัชรสารบัณฑิต กล่าวต่อไปว่า ที่พูดนี้ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่เพราะการการเมืองเข้ามาล้ำเขตแดนในโครงสร้างรัฐจึงมีผลกระทบต่อศาสนา พระพุทธศาสนาและพระสงฆ์ทั้งประเทศอย่างลีกเลี่ยงไม่ได้        

"อาตมาพูดโดยไม่ได้ระบุว่าใคร พรรคใหน อย่างไร แต่พูดด้วยความเป็นห่วงศาสนาและพระพุทธศาสนาว่าอาจจะถูกเข้าใจผิด อาจจะมองศาสนาในสังคมไทยด้วยภาพที่ไม่ชัดเจน แต่ถึงอย่างไรก็ตามทั้งหมดที่พูดมานี้ก็พูดบนหลักแห่งเมตตาธรรม" พระราชวัชรสารบัณฑิต กล่าวในตอนท้าย

"พี่ตู่" นำพลพรรครทสช.ช่วยผู้สมัครปากน้ำหาเสียง ห่มผ้าองค์พระปรางค์เอนและร่วมก่อพระเจดีย์ทรายวัดสาขลา

 


"พลเอกประยุทธ์"นำผู้บริหารพรรครวมไทยสร้างชาติช่วยผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการหาเสียง        เดินสายสักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมืองพระประแดง-ห่มผ้าองค์พระปรางค์เอนและร่วมก่อพระเจดีย์ทรายวัดสาขลาเพื่อความเป็นสิริมงคล

เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม  เวลา 14.00 น.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) พร้อมด้วย นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรค และคณะผู้บริหารพรรคลงพื้นที่อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อหาเสียงช่วยผู้สมัครของพรรครวมไทยสร้างชาติทั้ง 9 เขตเลือกตั้ง

@siampongnews #บิ๊กตู่ ลงพื้นที่ปากน้ำหาเสียง ห่มผ้าองค์ #พระปรางค์เอน #ก่อพระเจดีย์ทราย #วัดสาขลา #ข่าวtiktok ♬ เสียงต้นฉบับ - Dr.samran sompong

ทั้งนี้ จุดแรกพล.อ.ประยุทธ์พร้อมคณะเข้าสักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมืองพระประแดงเพื่อความเป็นสิริมงคล ทันที ที่มาถึงมีกองเชียร์รอต้อนรับจำนวนมากพร้อมกับตะโกนลุงตู่สู้ๆและร้องเพลงลุงตู่อยู่ไหนตลอดเวลา จากนั้นเดินพบปะประชาชนบริเวตลาดพระประแดงท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าว โดยประชาชนส่วนใหญ่ยังคงขอถ่ายรูปเซลฟี่กับ พล.อ.ประยุทธ์ ตลอดเส้นทางที่เดินพบปะประชาชน

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้ขึ้น กล่าวกับประชาชนที่มาต้นรับว่า ต้องขอขอบคุณพี่น้องชาวพระประแดง และอยากขอโอกาสให้กับตัวแทนของพรรครวมไทยสร้างชาติทุกคน จะได้เข้าไป ดำเนินนโยบายต่อเนื่องที่เคยได้ทำมาแล้ว พรรครวมไทยสร้างชาติมีนโยบายที่จะสนับสนุนผู้คนทุกช่วงวัย ถ้าหากได้กลับเข้าไปเป็นรัฐบาลก็จะสามารถทำนโยบายต่อได้ แต่ขออย่าไปสนใจเรื่องโพลล์ต่างๆ แต่ขอให้สนใจโพลล์ ของลุงตู่อย่างเดียวก็พอ 

ต่อมาพลเอกประยุทธ์และคณะได้เดินทางไปยังวัดสาขลา ตำบลนาเกลือ อำเภอพระสมุทรเจดีย์  โดยได้กราบสักการะองค์หลวงพ่อโตวัดสาขลา, และห่มผ้าองค์พระปรางค์เอน ก่อนที่จะพบปะประชาชน และร่วมก่อพระเจดีย์ทราย เดินชมงานประเพณี ที่วัดสาขลา ท่ามกลางพี่น้องประชาชนที่ยังคงตะโกนลุงตู่สู้ๆและขอเซลฟี่ตลอดทาง

สำหรับ  ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ พรรครวมไทยสร้างชาติ มีทั้งสิ้น 8 เขต ประกอบด้วย

เขต1 นายธนชาติ ยังประภากร เบอร์ 1 

เขต2 กิตติศักดิ์ ศีลภูษิต เบอร์ 1 

เขต3 สำเริง จิตต์อาจหาญ เบอร์ 5

เขต4 พ.ต.อ.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ เบอร์ 2

เขต5 ปรัชญา สมบูรณ์ เบอร์ 3

เขต6 ดร.กุลชร มีสัมฤทธิ์ เบอร์ 7

เขต7 น.ส.ไพลิน เทียนสุวรรณ เบอร์ 8

เขต8 นายพนัส อิ่มใจ  เบอร์ 8


 


ขวัญใจแม่ค้า "ลุงป้อม" กินข้าว ตลาดบองมาเช่ แม่ค้าขอถ่ายรูป หน้าร้าน บอกค้าขายดี


เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2566  เวลา ประมาณ 12.00 น.ลุงป้อม พลเอก ประวิตรวงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเดินทางลงพื้นที่เป็นการส่วนตัวที่ตลาดบองมาเช่ ทักทายพ่อค้าแม่ค้าประชาชนพร้อม นั่งรับประทานอาหารบริเวณฟู๊ดคอร์ดโดยสั่งอาหารที่ร้านค้ามารับประทาน อาทิ ก๋วยจั๊บร้านคุณต๋อย  หมูทอดชาววัง เจ้าเก่าวังหลังศิริราช  ก๋วยเตี๋ยวแห้งหมู ข้าวมันไก่ ซั้งไห่  ระหว่าง รับประทานอาหารมีประชาชน และแฟนคลับมาขอถ่ายรูปอย่างต่อเนื่องพร้อมเชียร์ให้ลุงป้อมสู้ๆ แฟนคลับบอกลุงป้อม ว่าเลือกพรรคพลังประชารัฐอยู่แล้วขอให้ลุงป้อมได้เป็นนายกคนที่สามสิบ

@siampongnews #ลุงป้อม ขวัญใจแม่ค้า กินข้าว #ตลาดบองมาร์เช่ แม่ค้าขอถ่ายรูปบอกขายดี #ข่าวtiktok ♬ เสียงต้นฉบับ - Dr.samran sompong

โดยก่อนหน้าที่จะรับประทานอาหารลุงป้อมพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณได้เดินทักทายพ่อค้าแม่ค้าบริเวณตลาดบองมาเช่ ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าได้ขอให้ลุงป้อมมาถ่ายรูปกับพ่อค้าแม่ค้า ที่หน้าร้านของตนโดยบอกว่าถ้าลุงป้อมมาถ่ายรูปที่หน้าร้านของตนเองจะได้ขายดีโดย พลเอก ประวิตร ก็ได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกไว้ด้วยความเป็นกันเองด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม และได้ฝากให้เลือกพรรคพลังประชารัฐด้วย โดยก่อนเดินทางกลับก็ได้มีแฟนคลับ ของลุงป้อมทั้งเด็กและผู้ใหญ่มาขอถ่ายรูปและเชียร์ให้ลุงป้อมสู้ๆ อย่างต่อเนื่อง 

หลังจากทักทายประชาชนด้วยความเป็นกันเองลุงป้อม พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้เตรียมตัวไปปราศรัยต่อที่จังหวัดภูเก็ตและพังงาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน

วันพฤหัสบดีที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

ทสท. เดินสายมูเมืองคอน ลั่นต้องปรับแนวคิด ก.ท่องเที่ยว-ก.วัฒนธรรม ส่งเสริมความเป็นไทยให้อินเตอร์ดึงนักเที่ยว


เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2566  น.ต.ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรคไทยสร้างไทย และจินนี่ - น.ส.ยศสุดา ลีลาปัญญาเลิศ ผู้ช่วยหาเสียง ลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 10 เขต รศ.สืบพงศ์ ธรรมชาติ เขต 1 เบอร์ 4 นายอนุชา ขวัญคาวิน เขต 2 เบอร์ 9 นายเริงบพิธ เพชรคง เขต 3 เบอร์ 11 ร.ต.อ.สมคิด ไทรแก้ว เขต 4 เบอร์ 2 น.ส.นงเยาว์ ประชุมทอง เขต 5 เบอร์ 3 นายภูมิไท ดีเป็นแก้ว เขต 6 เบอร์ 3 นายศุภชัย เครือจันทร์ เขต 7 เบอร์ 4 น.ส.กชพร ราชรักษ์ เขต 8 เบอร์ 5 นายพชร สรงประเสริฐ เขต 9 เบอร์ 3 และนายภูริณัฐ ใจสนุก เขต 10 เบอร์ 2

คณะพรรคไทยสร้างไทย เดินทางไปสักการะตาพรานบุญ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดยางใหญ่  อ.ท่าศาลา และมนัสการพระประธาน และสักการะไอ้ไข่ ที่วัดเจดีย์ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช 

น.ต.ศิธา กล่าวว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชสามารถเป็นเมืองหลวงของการท่องเที่ยวสายมูได้เลย ยกตัวอย่างช่วงโควิดที่สายการบินแทบจะปิดกิจการกันหมด แต่นครศรีธรรมราชมีเที่ยวบินเต็มเที่ยววันละประมาณ 10 เที่ยวบินมาลงที่นี่ จนตอนนี้มีสนามบินนานาชาติสร้างแล้วด้วย เราลงทุนไปเยอะในจังหวัดที่มีศักยภาพ แต่การสนับสนุนจากภาครัฐยังไม่เพียงพอ ถ้ารัฐบาลปรับให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงวัฒนธรรม ส่งเสริมการท่องเที่ยวสายมู ซึ่งมีนักท่องเที่ยวทั้งในไทยและต่างชาติพร้อมจะมาเที่ยว 

จินนี่ ยศสุดา กล่าวว่า การท่องเที่ยวสายมูกำลังเป็นกระแสในหมู่คนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะจากในโซเชียลมีเดียที่มักจะแชร์ วาปสถานที่มูเตลูที่โด่งดัง

น.ต.ศิธา กล่าวเสริมว่า รัฐบาลที่หาเงินไม่เป็นต้องมาดูงานที่วัดไอ้ไข่ การเอาวัฒนธรรมไทยมาเป็นอินเตอร์ให้คนต่างชาติมีความสนใจที่จะมาเที่ยว ในต่างประเทศมีการเผยแพร่วัฒนธรรมผ่านหนัง หรือการ์ตูน แต่ไทยลงทุนแค่สิ่งปลูกสร้าง แล้วปล่อยให้รกร้าง คนไทยที่มีความสามารถก็ต้องใช้ทั้งพรสวรรค์และพรแสวงผลักดันตัวเองถึงจะสำเร็จ แต่ถ้าไทยสร้างไทย เบอร์ 32 ได้เป็นรัฐบาลจะส่งเสริมตรงนี้ จัดอีเวนต์ระดับโลก 12 เดือน ทุกจังหวัดมีจุดขายโปรโมทความเป็นไทยในแบบของตัวเอง และปลดล็อกกฎหมายที่เป็นอุปสรรคในการทำมาหากิน เช่น โรงแรมเล็ก และใบอนุญาตค้าขายสินค้าต่างๆ เป็นต้น


"อนุทิน" มั่นใจ "พรชัย" รักษาแชมป์ คว้าเก้าอี้ ส.ส.โคราช จุดเด่น อยู่ติดพื้นที่ ผลงานเป็นที่ประจักษ์ ประชาชนยอมรับฝีมือ

   


เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2566 ที่โรงเรียนหนองบุญมากประสงค์วิทยา ต.หนองหัวแรด  อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค เดินทางลงพื้นที่ ช่วย นายพรชัย อำนวยทรัพย์ ผู้สมัครเขต 11 เบอร์ผู้สมัคร 7 หาเสียงท่ามกลางประชาชน 4,000 คน   

นายอนุทิน กล่าวว่า สำหรับนายพรชัย มีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าเจะสามารถรักษาแชมป์ ได้เนื่องจากทางพรรคภูมิใจไทยเห็นการทำงานของท่านมาโดยตลอด หลัง จากท่านได้เป็นตัวแทนปวงชน นายพรชัย ไม่เคยทิ้งพื้นที่ เจอหน้าตน ทุกครั้งพูดแต่ว่าพื้นที่ต้องการอะไรบ้าง เป็นคนที่หายใจเข้าออกนึกถึงประชาชน นายพรชัยทำงานชนิดที่หัวหน้าพรรค ยังต้องเกรงใจ เรื่องความทุ่มเท นายพรชัย ไม่เป็นสองรองใคร ขอให้คำมั่นสัญญาว่าเลือกนายพรชัยไปทำงาน รับรองไม่มีคำว่าผิดหวัง 

"ที่ผ่านมา มีสำนักโพลต่างๆ รายงานผลออกมา ส่วนตัว ผมดูไว้เป็นข้อมูล แต่ที่ผมเชื่อที่สุด คือ ผมเชื่อในการทำงานของผู้สมัครพรรค นายพรชัย ทำงานดี มีความมุ่งมั่น ตอนที่โควิด-19 ระบาด หรือตอนที่มีปัญหาต่างๆ ท่านโทรหาผมแทบทุกวัน เพื่อให้ลงไปช่วยแก้ปัญหา ไปทำในสิ่งที่ประชาชนต้องการให้หน่อย  มาถึงวันนี้จากผู้คนที่มาฟังนายพรชัยปราศรัยจำนวนมากมายหลายพันคน สิ่งที่ผมเห็น ผมว่า มันมีความหมายมากกว่าผลโพล เพราะนี่คือคะแนนความนิยมจากชาวบ้านในพื้นที่จริงๆ" 

จากนั้นนายอนุทินได้นำเสนอนโยบายของพรรคภูมิใจไทย อาทิ การพักหนี้ 3 ปี ไม่เกิน 1 ล้านบาท หยุดต้น หยุดดอกเบี้ยง เงินกู้ฉุกเฉิน 50,000 บาท กรมธรรม์ผู้สูงวัย 60 ปีขึันไป  การเพิ่มค่าตอบแทนอสม 2,000 บาทต่อเดือน  การจัดหา เครื่องฉายรังรักษามะเร็งสีติดตั้งทุกจังหวัด นโยบาย 1 ตำบล 1 ศูนย์ไตเทียม  ฟรีติดตั้งโซลาร์รูฟบนหลังคา ลดค่าใช้จ่าย 450 บาทต่อหัวเรือนและการให้สิทธิ์ซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าผ่อนเดือนละ 100 บาท 60 งวด นโยบายเกษตรร่ำรวย รู้ราคาก่อนขายเสียหายมีประกัน เป็นต้น  

" ผมขอให้พี่น้องคนไทยออกมาเลือกตั้งกันเยอะๆ แล้วเรื่องพรรคที่มีผลงานสามารถทำงานให้ประชาชนได้จริงๆ สำหรับพรรคภูมิใจไทยเรายังยึดถือสโลแกนของเรา พูดแล้วทำ สิ่งที่เราพูดสามารถปฏิบัติได้เพื่อประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชน".

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในจังหวัดนครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย ส่งผู้สมัครจำนวน 16 เขตเลือกตั้ง ประกอบไปด้วย 

เขต 1 นางสาวเดือนดารา อินทรกำแหง เบอร์ผู้สมัคร 4 

เขต 2 นายชูชาติ ประสาทไทย เบอร์ผู้สมัคร 2

เขต 3 นายพงศ์พัฒน์ จิตตานุรักษ์ เบอร์ผู้สมัคร 5

เขต 4 นายมนัส ศรีบงกช เบอร์ผู้สมัคร 2 

เขต 5 นายจักรกฤช ผาสุขมูล เบอร์ผู้สมัคร 5

เขต 6 นายสมชาย ภิญโญ เบอร์ผู้สมัคร 2

เขต 7 นายสหรัฐ ชัยพัฒนปรีดากูล เบอร์ผู้สมัคร 2

เขต 8 นายยตนะ เตียรวัฒนศรี เบอร์ผู้สมัคร 2

เขต 9 นายพลพีร์ สุวรรณฉวี เบอร์ผู้สมัคร 1

เขต 10 นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ เบอร์ผู้สมัคร 2

เขต 11 นายพรชัย อำนวยทรัพย์ เบอร์ผู้สมัคร 7

เขต 12 นายสมศักดิ์ พันธ์เกษม เบอร์ผู้สมัคร 5

เขต 13 นางสาวตติญารัต ใจสูงเนิน เบอร์ผู้สมัครเบอร์ 4, 

เขต 14 นายมานิธ จันทรวราภร ผู้สมัคร 3

เขต 15 นายวิสิทธิ์ พิทยาภรณ์ เบอร์ผู้สมัคร 2 และ 

เขต 16 นายสุชาติ ภิญโญ เบอร์ผู้สมัคร 6

 


หาเสียงช่วงโค้งสุดท้ายเลือกตั้ง! รทสช.ปล่อยคลิป“คุยกับลุง”



 รทสช. ปล่อยคลิป “คุยกับลุง” วีดีโอสั้นพูดคุยกับ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” อย่างเป็นกันเองในเรื่องราวเบาๆ ทั้งเรื่องชีวิตวัยเด็ก งานอดิเรก ชีวิตครอบครัวและการทำงาน ที่แตกต่างกับบุคลิกที่สังคมเคยเห็นมาก่อน ทำให้หลังเผยแพร่คลิปไม่นานก็ถูกแชร์ไปจำนวนมาก พร้อมแฟนคลับขอให้ผลิตต่อเนื่องเพราะได้เห็น พล.อ.ประยุทธ์ ในตัวตนที่แท้จริง ที่ไม่ได้ดุ เหมือนที่เห็นในข่าว และพร้อมที่จะสนับสนุนเสมอ 

เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2566  เพจเฟซบุคส์ พรรครวมไทยสร้างชาติเผยแพร่คลิป “คุยกับลุง” คลิปวีดีโอสั้นๆ ประมาณ 7 นาที เป็นการพูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประธานกำหนดยุทธศาสตร์และนโยบายพรรครวมไทยสร้างชาติ ในบรรยากาศสบายๆ โดยพล.อ.ประยุทธ์ สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ลายใบไม้สีเหลือง กางเกงสแล็กสีดำ พูดคุยอย่างเป็นกันเองกับทีมงาน โดยเนื้อหาการสนทนาส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของตนเอง ตั้งแต่วัยเด็ก งานอดิเรก กีฬา และชีวิตครอบครัวน่ารักๆ 


เนื้อหาเริ่มต้นคลิป พล.อ.ประยุทธ์ เล่าถึงที่มาของชื่อ “ประยุทธ์” โดยระบุว่ามีที่มาจากระหว่างที่ตนเกิดในค่ายทหารที่ จ.นครราชสีมา มีการซ้อมรบบิดาจึงตั้งชื่อตนว่า “ประลองยุทธ์” แต่เมื่อบิดาไปหาหมอพระ ได้ขอให้เปลี่ยนเป็น “ประยุทธ์” เท่านั้น ตนจึงได้ชื่อนี้มาตั้งแต่เกิด และจากวันนั้นถึงวันนี้ก็ต้องต่อสู้มาตลอดตามความหมายของชื่อที่แปลว่า “ต่อสู้นั่นเอง” 


พล.อ.ประยุทธ์ ยังเล่าด้วยว่าในสมัยเด็กตนก็เป็นเด็กซนๆ คนหนึ่งจนถูกบิดาลงโทษจนถูกตี รู้สึกเจ็บมาก ตอนนั้นอายุสิบกว่าขวบ ตัดสินใจหนีออกจากบ้านด้วยการถีบรถจักรยานออกไปในเวลาเย็น แต่เมื่อออกไปสักพักก็คิดว่าจะไปไหนดี แต่หาคำตอบไม่ได้ว่าจะไปไหนจึงตัดสินใจกลับบ้านมาเองโดยบิดายืนรออยู่พร้อมกับถามว่าออกไปไหนมา ตนก็แค่บอกว่าออกไปเล่นมา แต่ทราบดีว่าบิดารู้ว่าตนงอนที่ถูกทำโทษ ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ในสมัยเด็ก พร้อมกับเล่าว่าบิดาเป็นคนที่เป็นหลักของครอบครัว ดุ แต่ก็ใจดีและมีเหตุผล ส่วนมารดาเป็นคนใจดี 


พล.อ.ประยุทธ์ ยังตอบคำถามเกี่ยวกับการออกไปเล่นสงกรานต์กับประชาชนที่ ถ.ข้าวสาร เมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาว่า ที่จริงแล้วตั้งใจจะไปเยี่ยมตำรวจเพื่อให้กำลังใจและกำชับให้ดูแลประชาชนให้ดี แต่เมื่อเข้าไปแล้วก็เลยได้เล่นน้ำสงกรานต์กับประชาชนจริง เพราะส่วนตัวแล้วตนไม่ได้เล่นสงกรานต์มาตั้งแต่เด็กทำให้เผลอตัวไป ขาไปผมเรียบหล่อ แต่กลับออกมาผมฟู จนถึงวันนี้ยังเมื่อยอยู่ 


ทีมงานถามว่ามีคนนำไปพูดว่านายกฯ กราดยิงประชาชนในวันสงกรานต์ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าก็เป็นการยิงน้ำที่ใส่ความเป็นมงคลไปให้ ตนไม่เคยไปให้ร้ายกับใคร เป็นเรื่องธรรมดาที่คนเรามักจะมีทั้งคนเกลียดและคนรักจึงไม่ได้คิดอะไร


เมื่อถามว่าเคยดูซีรีส์บ้างไหม พล.อ.ประยุทธ์  กล่าวว่า ตนก็ดูซีรีส์เหมือนกันแต่ดูไม่เคยจบ เพราะไม่สนุกทำให้มีซีรีส์ค้างจออยู่หลาบสิบเรื่องแต่เรื่องที่ดูจนจบคือ ซีรีส์เกาหลี Desendents of the Sun ที่พระเอกเป็นทหาร และเรื่อง Crash Landing on you และยังดูซีรีส์ย้อนยุคของเกาหลี หรือภาพยนตร์เก่าอื่นๆ ด้วยเช่นกัน เพราะดูแล้วสนุกโดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับการทหาร ที่มีการรบกัน แต่ไม่ได้อยากให้เกิดขึ้น เพราะเป็นเหตุการณ์ที่โหดร้าย ทารุณ แต่ก็ดูไปหมด


พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นคนดุ ว่าจริงๆ ตนไม่ได้เป็นคนแบบนั้น อยากให้เห็นใจตนด้วย แต่เข้าใจก็พยายามปรับตัว จนทุกวันนี้พยายามพูดเล่น พูดจริงบ้าง ทำให้เห็นว่าตอนนี้นักข่าวก็แฮปปี้ ที่พอตนเป็นแบบนี้คำถามก็หายไปเยอะ แสดงว่าที่ผ่านมาตนอาจจะถูกแหย่ให้โมโห ทุกวันนี้ตนก็ทักทายยิ้มแย้มแจ่มใส นักข่าวก็ชอบแต่ก็บอกว่าเขียนอะไรไม่ค่อยได้


เมื่อทีมงานถามว่าดูฟุตบอลพรีเมียร์ลีกหรือไม่และชอบทีมไหน พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า เมื่อก่อนชอบแมนเชสเตอร์ ซิตี้ พร้อมกับพูดคุยเรื่องเกี่ยวกับฟุตบอลอังกฤษอย่างสนุกสนาน โดยเฉพาะประเด็นที่ทีมลิเวอร์พูลถูกยิงประตู  7-0 ว่า เห็นใจ เพราะคนวิจารณ์ว่าไม่เคยแพ้ถึงขนาดนี้


สุดท้ายเมื่อถูกถามว่าเป็นคนเจ้าชู้หรือไม่ และจีบภรรยาอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คนส่วนใหญ่ก็จะคิดว่าทหารเจ้าชู้ แต่โดยนิสัยตนเป็นคนขี้อ้อน ชอบพูดตลกให้เขาขำ แต่ตนก็ซื่อสัตย์กับภรรยาคนเดียว คุยกับภรรยาทุกวัน รักภรรยาทุกวัน และภรรยาเองก็เคยงอนเพราะลืมวันสำคัญเช่น วันวาเลนไทน์ หรือวันเกิดต้องใช้เวลาง้อนานเพราะบางทีก็ลืม จึงไม่รู้ว่าภรรยาโกรธเรื่องอะไร ตนก็ต้องง้องด้วยการพูดว่า “ขอโทษนะจ๊ะ ไม่ได้เจตนา”  


ทั้งนี้ทันทีที่คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีผู้เข้ามาชมพร้อมแชร์ออกไปจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นคลิปวิดีโอ ที่ทำให้ประชาชนได้รู้จัก พล.อ.ประยุทธ์ ในอีกมุมหนึ่งส่วนใหญ่เข้ามาแสดงความชื่นชม  พร้อมกับขอให้ผลิตคลิปวีดีโอลักษณะนี้ออกมามากๆ เพื่อจะได้ติดตาม และทำให้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้เป็นคนดุ เหมือนกับที่เคยเห็นในข่าว และพร้อมจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ และพรรครวมไทยสร้างชาติในการเลือกตั้งครั้งนี้อีกด้วย


ชมคลิป : https://youtu.be/c7twmyoWmyc


“อุตตม-สนธิรัตน์” ชื่นมื่นแท็กทีมลุย “อุดร-หนองบัวลำภู” ช่วยผู้สมัคร ส.ส. พลังประชารัฐหาเสียงโค้งสุดท้าย



วันนี้ (4 พ.ค.66) ที่ จ.อุดรธานี-หนองบัวลำภู ดร.อุตตม สาวนายน ประธานคณะจัดทำนโยบายพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง พรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ จ.อุดรธานี และจ.หนองบัวลำภู ช่วยนายโกเมนทร์ ทีฆธนานนท์ ผู้สมัคร ส.ส. อุดรธานี เขต 1 เบอร์ 6 นายชัยฤทธิ์ เขาวงศ์ทอง ผู้สมัคร ส.ส. อุดรธานี เขต 2 เบอร์ 13 นางชุติมา โชติธนาจินดา ผู้สมัคร ส.ส. อุดรธานี เขต 3 เบอร์ 3 และนางศรัณยา สุวรรณพรหม ผู้สมัคร ส.ส. หนองบัวลำภู เขต 1 เบอร์ 7 หาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง โดยบรรยากาศการลงพื้นที่หาเสียงเป็นไปอย่างชื่นมื่น และคึกคัก ประ ประชาชนให้การตอบรับนโยบายของพรรคพลังประชารัฐเป็นอย่างดี

โดย ดร.อุตตม ได้กล่าวปราศรัยย่อยช่วยนายชัยฤทธิ์ หรือทนายแม็ค ผู้สมัคร ส.ส. อุดรธานี เขต 2 เบอร์ 13 และนางชุติมา ผู้สมัคร ส.ส. อุดรธานี เขต 3 เบอร์ 3 ว่าพรรคพลังประชารัฐมีชุดนโยบายที่ตอบโจทย์พี่น้องประชาชนในพื้นที่ และมีผู้สมัคร ส.ส. ในพื้นที่ที่พร้อมทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน ขอให้พี่น้องประชาชนให้ความไว้วางใจเลือกผู้สมัคร เลือกนายชัยฤทธิ์ หรือทนายแม็ค เขต 2 เบอร์ 13 นอกจากนี้ยังมีนางชุติมา เขต 3 เบอร์ 3 ขอให้พี่น้องเลือกให้ดี ๆ เลือกพรรคที่พร้อมจะเป็นรัฐบาล มีนโยบายที่ตอบโจทย์ และต้องทำได้จริง สามารถระดมสรรพกำลังในสังคมไทย ทั้งฝ่ายการเมือง ฝ่ายประชาชนไม่ให้มีความขัดแย้ง พรรคพลังประชารัฐเชื่อว่าเราสามารถที่จะทำงานตรงนี้ได้ เริ่มจากการก้าวข้ามความขัดแย้ง เป็นศัตรูกับแค่เรื่องปัญหาปากท้อง และความยากจน ของพี่น้องเท่านั้น

ขณะที่นายสนธิรัตน์ กล่าวปราศรัยช่วยนางศรัณยา ผู้สมัคร ส.ส. หนองบัวลำภู เขต 1 เบอร์ 7 ว่า ตนมาที่นี่เพื่อจะมาทำให้คนที่ชื่อศรัณยา เข้าไปเป็นตัวแทนของพี่น้องให้ได้ เหลือเวลาอีกแค่อาทิตย์กว่า ๆ ที่พี่น้องจะต้องตัดสินใจเลือก ส.ส. ที่พี่น้องสามารถพบเขาได้ คนที่ทุ่มเทลงพื้นที่ทำงาน ซึ่งคนที่ตนพูดถึงคือศรันยา เบอร์ 7 เมื่อวานตนได้ปราศรัยที่ จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นบ้านเกิด ตนบอกพี่น้องว่าคนเราต้องรักบ้านเกิด เช่นเดียวกับที่ จ.หนองบัวลำภู ถ้าพี่น้องจะเลือก ส.ส. ต้องเลือก ส.ส. บ้านเกิดหนองบัวลำภู เอาคนบ้านอื่นมาเป็น ส.ส. ที่นี่เขาจะรักพี่น้องเท่าศรัณยาหรือไม่ ดังนั้นจะต้องเลือกคนเกิดที่นี่ คนอยู่ที่นี่ คนที่เป็นคนบ้านเรา เพราะหัวใจเขาอยู่ที่นี่ บ้านเกิดคือพื้นที่ที่ต้องกลับไปตอบแทนบุญคุณ ซึ่งศรัณยาจะมาตอบแทนบุญคุณพี่น้อง 

“ผมทราบดีว่าพี่น้องรักศรัณยา เมื่อ 4 ปีที่แล้วผมเป็นเลขาธิการพรรคก็มาหาเสียงให้ แต่แพ้ไปนิดเดียว วันนี้ 4 ปีแล้วที่ผู้หญิงคนที่ชื่อศรัณยา ไม่เคยหยุด ไม่เคยท้อ ไม่เคยเลิก สู้ทุกอย่าง ขอให้ศรัณยาได้เป็น ส.ส.ในดวงใจของพี่น้อง และขอโอกาสให้ศรัณยาได้มารับใช้พี่น้องเขต 1 จ.หนองบัวลำภู ผมมาวันนี้ด้วยความตั้งใจ ถึงแม้เหนื่อยยาก ลำบาก แต่มาเพื่อขอคะแนนให้ศรัณยา วันที่ 14 พ.ค. นี้ เข้าคูหากาเบอร์ 7 และเบอร์ 37” นายสนธิรัตน์ กล่าว 

จากนั้น ดร.อุตตม และนายสนธิรัตน์ ได้ร่วมปราศรัยย่อย และพบปะพี่น้องประชาชน เขต 1 จ.อุดรธานี เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และช่วยนายโกเมนทร์ หาเสียง โดยนายสนธิรัตน์ ปราศรัยว่า ถ้าตนไม่รักนายโกเมนทร์จริง คงไม่มาถึงที่นี่ วันนี้มาพร้อม ดร.อุตตม มาเพื่อขอล้ม ส.ส.เก่า แล้วเอา ส.ส.ใหม่ ชื่อโกเมนทร์มาแทน ส.ส.เก่าพี่น้องไม่เคยเห็นหน้า เพราะเขามองพี่น้องเป็นเหมือนของตาย แต่ถามว่าพี่น้องเชื่อในตระกูลทีฆธนานนท์หรือไม่ คนเราพูดอะไรก็ไม่สำคัญเท่าลงมือทำ ตนไม่เห็นเหตุผลที่จะไม่เอาคนอุดรธานีที่อยู่มาตั้งแต่รุ่นพ่ออย่างนายโกเมนทร์ ซึ่งหลังเลือกตั้งหากนายโกเมทร์ ได้เป็น ส.ส. ตน และดร.อุตตม จะมาขอบคุณพี่น้องด้วยตนเอง อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่า จ.อุดรธานี ต้องเปลี่ยนแปลง จ.อุดรธานี มีของดีอีกมาก แต่ที่ไปไม่ได้ เพราะเลือก ส.ส. ผิด วันนี้มาขอคะแนนจากพี่น้องเลือกนายโกเมนทร์ เบอร์ 6 ยกบ้าน เวลาของการเปลี่ยนแปลงมาถึงแล้ว ตนตั้งใจมามองตาพวกเราแล้วบอกว่าเราจะเดินไปข้างหน้าด้วยกัน มาขอความจริงใจ และคะแนนพี่น้องให้นายโกเมนทร์มาก ๆ ให้ชนะแบบขาดลอย นายโกเมนทร์ เป็นเหมือนลูกหลานของพี่น้องชาวอุดรธานี วันนี้ต้องขอคะแนนพี่น้องให้เขาได้เป็น ส.ส. เลือกคนที่จะอยู่กับเรานาน ๆ เลือกคนที่จริงใจกับพี่น้อง

ด้านนายอุตตม กล่าวว่า วันนี้ตน และนายสนธิรัตน์ มาให้กำลังใจ และสนับสนุนนายโกเมนทร์ ซึ่งเขาก็ยังคงเป็นโกเมนทร์คนเดิมที่พี่น้องสามารถพึ่งพาได้ เป็นโกเมนทร์น้องรักของพวกตนที่มีใจเต็มที่ เมื่อปีที่แล้วพบกันเขาก็ยังสู้ และวันนี้ก็สู้หนักกว่าเดิม อยากให้พี่น้องมั่นใจว่าวันนี้พรรคจะสนับสนุนนายโกเมนทร์เกินร้อย เพราะเรามั่นใจว่านายโกเมนทร์คือคนที่ใช่ พรรคพลังประชารัฐวันนี้เราพร้อมด้วยทีมงานคุณภาพ และชุดนโยบายที่เราคิดมาอย่างดี จากนี้ต้องเป็นวันของภาคอีสานจริง ๆ เพราะภาคอีสานมีประชากรมากที่สุดเมื่อเทียบกับทุกภูมิภาค ไม่มีเหตุผลว่าที่นี่จะไม่เป็นแนวหน้าในการพัฒนา วันนี้ต้องทำให้เป็นจริงให้ได้ วันนี้เราเสนอว่าจะพัฒนาพื้นที่ภาคอีสานให้ใหญ่กว่า EEC โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงต้องทำให้เสร็จให้ได้ รวมถึงอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ยึดโยงการพัฒนาในพื้นที่ของพี่น้องต้องทำให้เกิดขึ้นให้ได้ รวมถึงการพัฒนาคน และการศึกษาด้วย อย่าให้ใครมาว่าอีสานเป็นของตาย จึงขอให้พี่น้องช่วยกันสนับสุนนนายโกเมนทร์ เบอร์ 6 ยกบ้าน

จากนั้น ดร.อุตตม นายสนธิรัตน์ พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส. อุดรธานี เขต 1 เขต 2 เขต 3 ได้ขึ้นรถแห่หาเสียงทั่วเทศบาลเมืองอุดรธานี โดยได้รับเสียงเชียร์ และกำลังใจจากประชาชนในพื้นที่เป็นจำนวนมาก 

 


รวมพลแฟนคลับพปชร!!.เปิดเวทีปราศรัยลานคนเมืองดันนโยบายพัฒนาคุณภาพชีวิตคนกทม.


 

รวมพลแฟนคลับพปชร!!.เปิดเวทีปราศรัยลานคนเมืองดันนโยบายพัฒนาคุณภาพชีวิตคนกทม. สร้างรากฐานที่อยู่อาศัยทุกชุมชนอยู่อย่างมั่นคงต่อยอดพัฒนาอาชีพดูแลผู้สูงวัย กลุ่มเปราะบางถ้วนหน้า

วันที่ 4 พฤษภาคม 2566   พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดเวทีปราศรัยย่อย โซนกรุงเทพกลางและตะวันออก นำโดย ศ.ดร. นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค และหัวหน้าทีมผู้สมัคร กทม. , นายสกลธี  ภัททิยกุล กรรมการบริหารและหัวหน้าทีมผู้สมัครกทม นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ คณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายพรรค  พร้อมด้วย ผู้สมัคร ส.ส.กทม.  ประกอบด้วย ดร.สฤษดิ์ ไพรทอง เขตเลือกตั้งที่ 1 เบอร์ 11   นายพณิชย์ วิทยาภัทร์ เขตเลือกตั้งที่ 2 เบอร์ 11  นายกานต์ กิตติอำพน เขตเลือกตั้งที่ 5 เบอร์ 4 ดร.ภักดีหาญส์ หิมะทองคำ เขตเลือกตั้งที่ 13 เบอร์ 8 ทองคำ นางนฤมล รัตนาภิบาล  เขตเลือกตั้งที่ 14 เบอร์ 5  นางสาวณิรินทร์ เงินยวง  เขตเลือกตั้งที่ 15 เบอร์ 8  นายกิติภูมิ นีละไพจิตร์ เขตเลือกตั้งที่ 16 เบอร์ 12 นายพีระพงษ์ รัสมี เขตเลือกตั้งที่ 18 เบอร์ 4 นางนาถยา แดงบุหงา เขตเลือกตั้งที่ 19 เบอร์ 10  นาย บุญรุ่ง เต๋งจงดี  เขตเลือกตั้งที่ 20 เบอร์ 1 


ศ.ดร. นฤมล กล่าวว่า เวทีครั้งนี้ได้รวมเอาผู้สมัครของ  10 เขต มาพบกับพี่น้องประชาชน  และยืนยันถึงนโยบายที่จะลดค่าครองชีพ ให้กับพี่น้องประชาชน คนกทม. รวมถึงประชาชนทั่วประเทศ   ซึ่งในวันนี้ได้มีการแถลงนโยบายเศรษฐกิจของพรรค และได้พูดถึงนโยบายเศรษฐกิจของกทม. เป็นสิ่งที่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคได้ทำไว้ โดยเฉพาะโครงการบ้านมั่นคง ที่ทำไว้เป็นต้นแบบ ทั้งที่คลองลาดพร้าวและคลองเปรมประชากร  เพื่อให้พี่น้องประชาชนอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น  โดยผู้สมัครได้เสนอให้พรรคทำนโยบายให้ทุกชุมชน เพื่อที่จะได้มีบ้านเป็นของตนเอง ในโครงการบ้านประชารัฐ  ซึ่งการทำโครงการนี้ไม่มีการใช้งบประมาณของรัฐ เนื่องจากมีความซ้ำซ้อนของพื้นที่ เพราะที่ดินบางแห่งเป็นที่ราชพัสดุ การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือเป็นของเอกชน ดังนั้นการดำเนินโครงการนี้ จะให้เอกชน เป็นผู้ลงทุนดำเนินโครงการ ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ โดยมีราคาไม่เกิน 500,000 บาท  และมีสถาบันการเงินเป็นผู้ปล่อยสินเชื่อมีอัตราดอกเบี้ยต่ำ ทำให้พี่น้องประชาชนสามารถเปลี่ยนเงินค่าเช่าบ้าน เป็นเงินผ่อนได้บ้าน  ทำให้พี่น้องประชาชนมีความมั่นคงในชีวิตมากขึ้น 


นอกจากนี้ยังมีนโยบายการเสริมทักษะ อาชีพและเพิ่มช่องทางการค้าผ่านมือถือให้กับพี่น้องประชาชนมีช่องทางการค้าขายมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายที่สำคัญของพปชร.   เช่นเดียวกับการทำนโยบาย บัตรสวัสดิการประชารัฐ จากเดิมที่ผู้ถือบัตรจะได้รับเงินอยู่ที่ 300 บาท ซึ่งพรรคจะเพิ่มให้เป็น 700 บาท และยังมีการประกันชีวิตอีก 200,000 บาท ดังนั้นขอฝากพี่น้องเลือก  พลเอกประวิตร เบอร์ 37 ในบัตรสีเขียว ให้เป็นนายกรัฐมนตรี และขอฝากผู้สมัครทั้ง 10 คนที่ขึ้นเวทีในวันนี้ด้วย 


ทั้งนี้ผู้สมัครกทม. ได้สลับขึ้นเวทีเพื่อปราศรัย นำเสนอนโยบายในการดูแลพื้นที่กทม. ที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน และมีเป้าหมายที่จะเข้าไปพัฒนาพื้นที่ของตนเอง ในแบบที่สอดรับกับปัญหา และความต้องการของชุมชนอย่างแท้จริง


โดย  ดร. สฤษดิ์ ไพรทอง ผู้สมัครเขต 1  กล่าว ว่า พปชร.มีนโยบายในการส่งเสริมและสนับสนุนผ่านกองทุนประชารัฐ 3 แสนล้านบาทเพื่อให้กรุงเทพฯเป็นมหานครแห่งอาเซียน ตามนโยบายของพล.อ.ประวิตร ซึ่งกรุงเทพฯเป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแต่เรายังพบว่าการพัฒนาบางพื้นที่ยังไม่เต็มประสิทธิภาพ โดย พปชร.เรามีกองทุนประชารัฐ 3 แสนล้านที่จะมาช่วยเพิ่มศักยภาพของการท่องเที่ยวโดยเฉพาะการส่งเสริมและสนับสนุนย่านเศรษฐกิจใหม่ๆ ที่ไม่เพียงทำให้เป็นแลนด์มาร์คการท่องเที่ยวแต่ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องที่นั้นๆ

ดร.ภักดีหาญส์ หิมะทองคำ  เขตเลือกตั้งที่ 13 เบอร์ 8 กล่าวว่า ในชุมชน ยังขาดเรื่องการส่งเสริมด้านสุขภาพ โดยเฉพาะหาพื้นที่ออกกำลังกายของคนในชุมชน เป็นเรื่องที่ควรผลักดัน ซึ่งได้มีการดำเนินการทำโครงการต้นแบบ เพราะมีพื้นที่ว่าง อีกเป็นจำนวนมาก แต่เป็นของหน่วยราชการ ซึ่งตนได้ประสานหน่วยงานทำลานกีฬาแบบไม่เสียค่าใช้จ่ายเพื่อให้สุขภาพของคนในชุมชนดีขึ้น และเรื่องความปลอดภัย การติดไฟส่องสว่างมีความจำเป็น เพราะพบว่าในพื้นที่ชุมชนต่างๆ ยังเป็นจุดเสี่ยงภัยอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งไฟส่องสว่าง จะเป็นการป้องปรามอาชญากรรมที่ได้ผล


นายกานต์ กิตติอำพน เขตเลือกตั้งที่ 5 เบอร์ 4  กล่าวว่า สิ่งที่อยากทำและมุ่งมั่นสำหรับการเข้ามาทำหน้าที่ในครั้งนี้ คือต้องการให้พื้นที่ของห้วยขวาง มีบรรยากาศคึกคักและสีสัน โดยเน้นการทำพื้นที่ให้เป็น เศรษฐกิจสร้างสรรค์ เพื่อสร้างที่ทำกิน การทำพื้นที่ให้เป็น ครีเอทีพ มาร์เกต  รวมถึงการพัฒนาบุคลากรสร้างสรรค์ ผลักดันโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออำนวยความสะดวกกับคนในชุมชน ทั้งถนน ทางเดินทางแคบ การดูแลสวนสาธาณะที่ขาดการดูแลงอยากเข้ามาประสานและแก้ไขพัฒนาทุกอย่างให้ดีขึ้น สิ่งสำคัญที่สุด คือเรื่องสุขภาพ อยากผลักดันด้านสาธารณสุข ให้ประชาชนเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว 


นางสาวณิรินทร์ เงินยวง  เขตเลือกตั้งที่ 15 เบอร์ 8  กล่าวว่า ทันทีได้รับเลือกตั้ง จะผลักดันให้เกิดศูนย์สุขภาพจิต และดูแลความหลากหลายทางเพศ หรือกลุ่ม LGBT ให้เกิดความเท่าเทียมและทั่วถึงในทุกด้าน โดยเฉพาะด้านสุขภาพจิต  เพราะเป็นบ่อเกิดของเหตุการณ์สูญเสีย โดยเฉพาะปัญหาการฆ่าตัวตาย หากทุกคนได้รับการดูแล ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น รวมถึงการให้ความสำคัญ ดูแลความปลอดภัยให้กับคนกลุ่มเปราะบาง ซึ่งเป็นปัญหา ให้สามารถมีช่องทางในการรักษา หรือการบำบัด ได้อย่างสะดวก และอยู่ใกล้บ้าน  


นายพีระพงษ์ รัสมี เขตเลือกตั้งที่ 18 เบอร์ 4 กล่าวว่า ผมขออาสาเข้าทำงานให้คลองสามวา ลาดกระบัง ให้มีความทัดเทียม เทียบเท่ากับเมืองชั้นในเพราะที่ผ่านมา ได้ทำงานร่วมกับคุณพ่อ ศิริพงษ์ รัสมี ที่ดูแลประชาชนในพื้นที่ที่อดีตมีแต่สะพานไม้ ให้เป็นสะพานคอนกรีตเป็นการเพิ่มคุณภาพชีวิต และจะทำต่อเนื่อง ผมขอกอดคุณพ่อ นายศิริพงษ์ รัสมี  เขต 17 เบอร์ 10 เขตหนองจอก เขตคลองสามวา เข้าสภาฯเพื่อทำหน้าที่ให้กับพี่น้องประชาชน 


ปิดท้ายด้วยนายสกลธี กล่าวว่า อนาคตของประเทศไทยอยู่ในมือของประชาชนทุกคน จึงอยากให้ทุกคนตั้งคำถามว่า อยากเห็นประเทศไทยเป็นอย่างไรอยากเห็น เศรษฐกิจที่ดี คนไทยกินดีอยู่ดี หรืออยากจะเห็นความแตกแยกของคนสองยุค อยากเห็นคอร์รัปชั่น เห็นยาเสพติดระบาดทั่วเมือง และสถาบันหลักของชาติถูกนำมาล้อเลียน และนำไปพูดอย่างสนุกปาก หรืออยากเห็นคำว่าชาติที่ไม่ใช่ศูนย์รวมของคนไทยอีกต่อไป ทุกอย่างอยู่ในมือของทุกท่าน ในวันที่ 14 พ.ค.นี้ 


"การเลือกตั้งครั้งนี้ของพรรคพลังประชารัฐ เรามีดีในหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นตัวบุคคล ศักยภาพของพวกเราไม่น้อยหน้าพรรคการเมืองไหนแน่นอน ซึ่งตนมั่นใจว่าถ้าผู้สมัครของเราทั้ง 33 เขตและพรรคพลังประชารัฐได้เข้าไปทำงาน กทม.ต้องดีกว่านี้แน่นอน"นายสกลธี กล่าว


นายสกลธี กล่าวต่อว่า การก้าวข้ามความขัดแย้งของพรรคพลังประชารัฐคือ อยากจะให้ประชาชนรักกัน การก้าวข้ามมันก็มีเส้นแบ่งที่ก็คงไม่สามารถก้าวข้ามไปได้เช่นการไปรวมกับพรรคที่ไม่เอาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ หรือพรรคที่ทำให้เศรษฐกิจของชาติมันล่มจม ด้วยการแจกหว่าน เพราะนักวิชาการก็บอกชัดว่า นโยบายเช่นนี้ จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศพังทลายอย่างแน่นอน พรรคการเมืองควรที่จะคิดนโยบายที่ช่วยเหลือประชาชน ไม่ใช่นโยบายที่ไม่ได้สร้างประโยชน์ให้กับประชาชน และทำลายประเทศชาติ ด้วยการบอกว่าจะยกเลิก ม.112 ตนไม่มั่นใจว่าการยกเลิกไปแล้วจะทำให้ประชาชนรวยขึ้นอย่างไร


"ขณะนี้มีวาทกรรมออกมาจำนวนมาก เพื่อใช้เป็นยุทธศาสตร์ของแต่ละพรรค แต่ผมอยากจะบอกทุกคนว่าเรารักใครชอบพรรคไหนเราก็เลือกตามใจของเราไม่ต้องไปกังวลว่าจะเลือกคนนั้น แล้วคะแนนจะเสียเปล่า คะแนนจะตกน้ำ เพราะทุกคะแนนเสียงของประชาชนคือกำลังใจให้กับผู้สมัครและพรรคการเมือง ๆ ขอให้ทุกคนเลือกด้วยหัวใจ เลือกในสิ่งที่เราต้องการและเราอยากได้เป็นพอ"


เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทบัวบกอุดรธานี วอนหน่วยราชการออกโฉนดให้วัด



วันที่ 5 พฤษภาคม 2566  นางบุญเพ็ง คันธี  ประธานชมรมรักษ์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย  เปิดเผยว่า ตนเองเป็นชาวบ้านอยู่บ้านติ้ว ต.เมืองพาน อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ช่วง2ปีก่อนมีกลุ่มชาวพุทธศาสนิกชนที่ได้มาเที่ยวชมวัดพระพุทธบาทบัวบก  อยู่ที่บ้านติ้ว  แล้วมีความประทับใจมาก เนื่องจากวัดนี้เดิมเป็นวัดร้างเก่าแก่สมัยทวาราวดี อายุ 966 ปี มีเนื้อที่ 2,500 ไร่  โดยหลวงปู่ศรีทัตถ์ ญาณสัมปันโน  ได้บูรณะวัดพระพุทธบาทบัวบกเมื่อปี 2460  จากนั้นจึงสร้างเจดีย์ครอบรอยพระพุทธบาท  นอกจากนี้ยังได้สร้างเจดีย์ไว้อีก 3 แห่ง คือ เจดีย์พระธาตุท่าอุเทน วัดพระธาตุท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม, เจดีย์พระธาตุพระพุทธบาทบัวบก และเจดีย์พระธาตุพระบาทโพนสัน วัดพระธาตุพระบาทโพนสัน เมืองท่าพระบาท แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว  ปัจจุบันวัดพระพุทธบาทบัวบกมีพระสงฆ์จำนวน 10 รูป โดยมีพระครูพุทธบทบริรักษ์เป็นเจ้าอาวาส และเป็นรองเจ้าคณะอำเภอบ้านผือรูปที่ 1  ซึ่งเป็นเหลนแท้ๆ ของหลวงปู่เทสก์ เทสก์รังสี พระเกจิชื่อดังของภาคอีสาน

ภายในวัดมีศาสนสถานที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติที่สำคัญหลายแห่ง  อาทิ พระธาตุเจดีย์ รอยพระพุทธบาทหลายรอย เช่น รอยพระพุทธบาทบัวบก รอยพระพุทธบาทหลังเต่า รอยพระพุทธบาทสาวก ถ้ำพญานาค โดยมีคำเล่าขานกันว่าถ้ำพญานาคนี้ทะลุไปถึงลำน้ำโขง ถ้ำฤาษีจันทรา เศียรพญากงพาน (พ่อของนางอุษา) บ่อน้ำทิพย์ (มีน้ำตลอดปี) สวนหินพญากงพาน พระแม่กาลีอายุหมื่นล้านปี ถ้ำเกิ้ง ลานธรรมพระพุทธเจ้าปางเปิดโลก เนินสาวเอ้  ลานโขดหินขนาดใหญ่  ที่สำคัญบูรพาจารย์หลายๆ รูปเคยธุดงค์วัตรในป่าพื้นที่ของวัดพระพุทธบาทบัวบก อาทิเช่น หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล, หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต, หลวงปู่บุญ ขันธโชติ, หลวงปู่แหวน สุจิณโณ, หลวงปู่ขาว อนาลโย, หลวงปู่ศรีทัตถ์ ญาณสัมปันโน, หลวงปู่เทสก์ เทสก์รังสี, หลวงปู่ชอบ ฐานสโม, หลวงปู่ฝั้น อาจาโร, หลวงปู่จิ๋ว พุทธญาโณ บูรพาจารย์หลายรูปเขียนไว้ในตำราว่า พระอาจารย์สายกรรมฐานลุ่มน้ำโขงมาปฏิบัติธรรมบำเพ็ญพรตที่วัดพระพุทธบาทบัวบกทุกรูป และสำเร็จบำเพ็ญเพียรกุศลที่ถ้ำพญานาค  

นางบุญเพ็งกล่าวอีกว่า นอกจากวัดพระพุทธบาทบัวบกมีอายุเก่าแก่มากแล้ว ผืนป่ายังมีความสำคัญสำหรับการบำเพ็ญภาวนา ธรรมปฏิปทา ธรรมยาตราของสายพระปฏิบัติอีสานลุ่มน้ำโขง และนักปฏิบัติธรรมสองฝั่งโขง เข้าไปใช้พื้นที่ๆ เนื่องจากมีความเงียบสงบในการปฏิบัติธรรมตามรอยพระพุทธเจ้า ซึ่งป่ามีความสำคัญมาก  อีกทั้งไม่สามารถแยกป่าไม้กับพุทธศาสนาออกจากกันได้ พระครูพุทธบทบริรักษ์จึงให้ความสำคัญกับการดูแลผืนป่าเป็นอย่างมาก และเคยกล่าวไว้ว่า ครูบาอาจารย์รุ่นก่อนทำเพื่อพุทธศาสนิกชน เพราะถ้าเทียบกับปัจจุบันนี้ 2500ไร่ไม่มากเกินไป ผืนป่าแห่งนี้จึงเป็นสมบัติของพระพุทธศาสนา อันเป็นเขตโบราณสถานทั้งหมดจำนวน 2500 ไร่  

“ด้วยความที่เจ้าอาวาสเป็นครูยาหมอยา หมอฝังเข็ม และเชี่ยวชาญด้านสมุนไพรไทย ท่านมีความรู้ความสามารถทางการแพทย์แผนโบราณ โดยเฉพาะการใช้สมุนไพรในการรักษา การฝังเข็ม เคยรับนิมนต์ไปรักษาคนไข้ และสอนฝังเข็มที่ประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซีย ท่านรู้จักบรรดาสมุนไพรและต้นไม้ใบหญ้าที่สามารถนำมาใช้เป็นสมุนไพรได้ บูรพาจารย์และพระครูพุทธบทบริรักษ์ จึงมีบทบาทสำคัญในการดูแลผืนป่าของวัดนับตั้งแต่ปี 2520 จนถึงปัจจุบัน พุทธศาสนิกชนหลายคน มีโอกาสสนทนาธรรมกับพระครูพุทธบทบริรักษ์  ท่านมีความเป็นห่วงถึงการขอออกโฉนดที่ดินของวัด จำนวน 2,500 ไร่ ที่ธรณีสงฆ์อีก 25 ไร่ ซึ่งเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินได้รังวัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว พร้อมแจกโฉนดจำนวน  2,397 ไร่ 3 งาน 39.1 ตารางวา” นางบุญเพ็งกล่าวและว่า  เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทบัวบก และญาติโยมอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบออกโฉนดให้ เพราะที่ผ่านม มีหลักฐานชัดเจนว่าวัดมีเนื้อที่กว่า 2500 ไร่  ที่สำคัญการออกโฉนดครั้งนี้จะยังประโยชน์โดยรวมให้กับคนไทยทั้งประเทศ พระพุทธศาสนา และความมั่นคงของประเทศชาติด้วย

"ทวี สอดส่อง" เผย 9 มิ.ย. คณะทำงนพรรคร่วมถก "สันติภาพชายแดนใต้ ปาตานี"

"ทวี สอดส่อง"นำคณะประชาชาติร่วมทอดผ้าป่าสามัคคีพร้อมฟังธรรมเทศนาที่ขอนแก่น แย้ม 9 มิ.ย. เตรียมถก "สันติภาพชายแดนใต้ ปาตานี&qu...