วันจันทร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2561

"พระอาจารย์ชัยณรงค์ อุปสโม"มรณภาพสิริอายุ 60 ปี




วันที่ 1 พ.ค. 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระอาจารย์ชัยณรงค์ อุปสโม แห่งสำนักสงฆ์เขมาภิรโต บ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านบึง อ.บ้านคา จ.ราชบุรี ละสังขารแล้วเมื่อเวลา 03.00 น. ที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ถนนเศรษฐศิริ เขตพญาไท กทม. สิริอายุได้ 60 ปี เบื้องต้นจะมีการรดน้ำสรีระสังขาร ในเวลา 17.00 น. สวดอภิธรรมเวลา 18.00 น. ที่สำนักสงฆ์เขมาภิรโต จ.ราชบุรี 

ต่อมาเฟซบุ๊กหลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)ได้โพสต์ว่า  เวลา 18.00น. หลวงปู่พุทธะอิสระ เป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพ ณ สำนักสงฆ์เขมาภิรโต ราชบุรี

"โมที"นายกฯอินเดียเป็นประธานพิธีฉลองวันวิสาขบูชาโลกที่เจดีย์พุทธคยา






"โมที" นายกฯอินเดียเป็นประธานพิธีฉลองวันวิสาขบูชาโลกเจดีย์พุทธคยาอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมกล่าวสดุดีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีชาวพุทธนานาชาติร่วมกิจกรรมประมาณ 5,000 รูป/คน ที่เมืองกุสินาราชาวพุทธอินเดียกว่า2,000คนร่วมเฉลิมฉลองยิ่งใหญ่เช่นกัน


วันที่ 30 เม.ย.2561 นายนเรนทรา โมที นายกรัฐมนตรีประเทศอินเดีย ได้เดินทางไปที่เจดีย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย  เป็นประธานในพิธีเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชาโลก ประจำปี 2561 อย่างยิ่งใหญ่  โดยได้กล่าวสดุดีสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตลอดจนหลักธรรมคำสอนในทางพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะอริยสัจจ์ 4 ให้กับผู้เข้าร่วมงานอย่างน่าชื่นชม




ขณะที่ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาพระธรรมโพธิวงศ์ เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา หัวหน้าพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย-เนปาล มอบหมายให้พระมหานิพนธ์ ญาณวีโร ป.ธ.7 เลขานุการเจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา พระครูอุดมโพธิวิเทศ เลขานุการเจ้าสำนักเรียนวัดไทยพุทธคยา พร้อมด้วยคณะพระธรรมทูต วัดไทยพุทธคยาเข้าร่วมขบวนพุทธยาตรา โดยขบวนเริ่มต้นจากวัดญี่ปุ่น พร้อมทั้งวัดพุทธนานาชาติที่ตกแต่งขบวนอย่างงดงาม ทั้งข้าราชการตำรวจ ทหาร ครู นักเรียน ร่วมเดินในขบวนจำนวนมาก โดยวัดไทยพุทธคยาได้จัดรถซึ่งประดับตกแต่งด้วยดอกไม้อย่างสวยงาม พร้อมกันนี้อัญเชิญ พระพุทธรูป ปางประสูติ ปางตรัสรู้ และปรินิพพาน

หลังจากนั้นเวลา 09.30 น. ผู้ว่าการรัฐพิหารพร้อมด้วยข้าราชการระดับสูงเดินทางถึงต้นพระศรีมหาโพธิ์ จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย พร้อมทั้งกล่าวเปิดงานโดยในพิธีมีการสวดมนต์ทั้งฝ่ายเถรวาท และมหายาน สร้างความปิติให้กับทุกท่าน ก่อนที่จะมีการถวายภัตตาหารเพลที่สำนักงาน BTMC อีกด้วย ทั้งนี้คณะสงฆ์นานาชาติเข้าร่วมงาน พร้อมอุบาสก อุบาสิกา ชาวพุทธอินเดีย เข้าร่วมกิจกรรม ประมาณ 5,000 รูป/คน



ที่เมืองกุสินาราชาวพุทธอินเดียกว่า2,000คนร่วมเฉลิมฉลอง




ที่เมืองกุสินารา ประเทศอินเดีย สถานที่ปรินิพพานของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก (ตรงกับประเทศอินเดีย 30 เมษายน 2562) พระอภิธัช อัคคมหาสัมธัมมโชติกะ ดร.ภัททันตะ ญาณิสสระ ประธานคณะสงฆ์นานาชาติกุสินารา Mr. Swami Prasad maurya- Minister for Labour, Service planning, Urban employment and Poverty alleviation Departments of Uttar Pradesh government ฯพณฯ เอกอัครราชทูต เมียนมาร์ ณ กรุงนิวเดลี ส.ส. รัฐบาลเมืองเดลี ส.ส. เมืองกุสินารา อำเภอเมืองกุสินารา พระสงฆ์นานาชาติ ไทย พม่า อินเดีย ศรีลังกา กัมพูชา เวียดนาม ธิเบต ภูฐาน เนปาล




ร่วมขบวนแห่พุทธยาตราสันติภาพโลก ร่วมกับหน่วยงานราชการ พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นักศึกษา จังหวัดกุสินาคาร์ร่วมใจสมานฉันท์ จัดกิจกรรมเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก โดยแต่แต่ละวัดได้ประดับตกแต่งราชรถ เพื่อร่วมขบวนยาตราแห่รอบเมืองกุสินารา-เมืองกาเซีย ตลอดระยะทาง 8 กิโลเมตร โดยมีขบวนช้าง ขบวนม้า พระสงฆ์นานาชาติ ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นักศึกษา นับพัน ยาวกว่า 2  กิโลเมตร ทามกลางแสงแดด แต่ด้วยความศรัทธา นับว่าเป็นความร่วมมือของชาวพุทธ ชาวฮินดู ที่มาช่วยกันจัดงาน ตลอดระยะทาง 8 กิโลเมตร โดยห้างร้าน พ่อค้า ประชาชน ได้จัดเตรียมน้ำดื่ม ขนม ไว้บริการตลอดเส้นทาง และผู้คนได้ชมขบวนแต่ละชุดด้วยความตื่นตาตื่นใจ ต่างยกมือขึ้นสาธุ เมื่อเห็นพระพุทธรูปที่อยู่บนราชรถ





ต่อจากนั้นมีพิธีแสดงตนเป็นพุทธมามกะ รับไตรสรณคมณ์ นับถือพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ว่าเป็นที่พึ่ง ที่ระลึกอันสูงสุด จากนั้นพระสงฆ์นานาชาติได้ร่วมกันเจริญพระพุทธมนต์เพื่อให้เกิดสันติสุขในสังคม ตามหลักคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงสั่งสอนให้มวลมนุษย์มีเมตตาธรรม และขันติธรรมต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน พระสงฆ์นานาชาติ รัฐมนตรี ฯพณฯ เอกอัครราชทูต เมียนมาร์ ณ กรุงนิวเดลี นายอำเภอเมืองกุสินารา ได้ปาฐกถาธรรมเพื่อความบันเทิงใจ

โดยในปีนี้เมืองกุสินารา ได้จัดงานเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชา 3 วัน ระหว่างวันที่ 28-30 เมษายน 2561 กิจกรรมบิณฑบาต กิจกรรมทำความสะอาดแม่น้ำหิรัญวดี กิจกรรมเจริญพระพุทธมนต์ เวียนเทียน กิจกรรมแสดงตนเป็นพุทธมามกะ แสดงพระธรรมเทศนา และขบวนแห่พุทธยาตรา สนติภาพโลกรอบเมืองกุสินารา-เมืองกยา ๘ กิโลเมตร


"มจร"ระดมทีมอาสาสมัครต้อนรับชาวพุทธทั่วโลก



ส่วนประเทศไทยจะมีพิธีเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชาโลกระหว่าง 25-27 พฤษภาคม 2561 ทั้งที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเป็นการประชุมวิชาการนานาชาติ  และศูนย์ประชุมสหประชาชาติ ถนนราชดำเนิน  ดังนั้น วิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ (IBSC) สังกัด มจร ซึ่งเป็นแม่งานในการจัดงาน ได้เปิดรับผู้สนใจทั้งคณาจารย์ และนิสิตนานาชาติของ มจร  รวมถึงรับสมัครบุคคลทั่วไป ร่วมเป็นอาสาสมัคร เพื่อทำหน้าที่ต้อนรับชาวพุทธทั่วโลกจาก 84 ประเทศ ที่กำลังเดินทางมาร่วมประชุมวิชาการและร่วมพิธีเฉลิมฉลองดังกล่าว สามารถติดต่อเพื่อรับการสัมภาษณ์ได้ที่วิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ หมายเลข 035-248-000 ต่อ 7210 หรือดูรายละเอียดได้ที่ www.vesak.org

...............

(หมายเหตุ : ขอบคุณข้อมูลจากเฟซบุ๊ก วัดไทยพุทธคยา ประเทศอินเดีย วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์)

สกอ.แนะมหาวิทยาลัยปรับหลักสูตรตอบโจทย์พัฒนาประเทศ



"มจร"ร่วมภาคีเครือข่ายจัดการประชุมวิชาการระดับชาติครั้งที่ 2  เรื่อง"คุณภาพอุดมศึกษาไทยในยุค Thailand 4.0" พระราชปริยัติกวี ศ.ดร.รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการหนุนปรับปัญญาและศรัทธาและความรู้กับพัฒนาคนให้สมดุล รองเลขาธิการ สกอ. แนะมหาวิทยาลัยปรับหลักสูตรตอบโจทย์พัฒนาประเทศ 

วันที่ 30 เม.ย.2561 ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา คณะสังคมศาสตร์ มจร ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดการประชุมวิชาการระดับชาติครั้งที่ 2  เรื่อง"คุณภาพอุดมศึกษาไทยในยุค Thailand 4.0" โดยมีพระราชปริยัติกวี ศ.ดร.รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ  มจร เป็นประธานเปิดงาน 



ในการนี้ พระราชปริยัติกวี กล่าวว่า คณะสังคมศาสตร์ได้จัดการประชุมวิชาการนานาชาติ จึงขออนุโมทนากับคณะสังคมศาสตร์และภาคีเครือข่าย จึงมีการนำเสนอผลงานวิชาการอันจะเป็นคุณูปการต่อสังคม คุณภาพอุดมศึกษาด้านการศึกษาไทยมี 3 ประเด็นหลัก คือ 1)วัสดุอุปกรณ์อาคารสถานที่ 2)ผู้บริหารและครูอาจารย์ 3) คุณภาพของบัณฑิต ความรู้ความสามารถสอดคล้องกับสังคมอย่างไร เพราะเราเห็นคนจบ ดร.ยังไปลงทะเบียนคนจนอยู่ กำลังสะท้อนอะไรในระบบการศึกษาอุดมศึกษา ด้านอาคารสถานที่ในไทยแลนด์ 4.0 ต้องมีการปรับให้เป็นแหล่งศึกษาด้านค้นคว้าจะต้องมีการบริหารจัดการ ส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดนวัตกรรมต่างๆ สถาบันอุดมศึกษาต้องมีการปรับตัวอย่างยิ่งใหญ่ ด้านความสามารถของผู้บริหารและครูอาจารย์ เรามีการเปลี่ยนผ่านกับผู้บริหารยุคเก่ากับผู้บริหารยุคใหม่ ซึ่งวิธีคิดยังไปด้วยกันไม่ได้ (mindset) ซึ่งวิธีคิดได้รับการหล่อหลอมด้วยวิธีคิดกรอบใดกรอบหนึ่ง ซึ่งไม่มีส่วนใดไปช่วยให้ลูกศิษย์เกิดแรงบันดาลใจมีความคิดสร้างสรรค์เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ เพราะครูอาจารย์เน้นเพียงแต่การบรรยายเท่านั้น และด้านคุณภาพของบัณฑิต 



"เราจะบูรณาการอย่างไรในตัวบุคคลหนึ่ง คือ ศรัทธาและปัญญา ศรัทธาในศาสนาของตนเองนับถือศรัทธาในความเป็นมนุษย์ของตนเองและผู้อื่นและปัญญาในการประกอบวิชาชีพ ยิ่งปัญญามากยิ่งจะต้องปลูกศรัทธา หรือมีศรัทธาต้องประกอบด้วยปัญญา"ศรัทธาเป็นต้นกำเนิดของความเจริญงอกงาม" อย่าเอาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไปรวมไปการทำมาหากิน แต่ต้องใช้ปัญญาในการประกอบอาชีพ เราเห็นคนสะเดาะเคราะห์เมื่อเจอปัญหาแม้จะจบ ดร.ก็ตาม ทำไมเรายังไม่ใช้ปัญญาในการแก้ปัญหานั้นๆ การอุดมศึกษาไทยจะช่วยให้สังคมดีขึ้นจะต้องสร้าง"ปัญญาและศรัทธา"ให้เกิดขึ้นถือว่าเป็นโจทย์สำคัญของการศึกษาในระดับอุดมศึกษาไทยในยุคไทยแลนด์ 4.0"  รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ  มจร กล่าว 


ดร.อรสา ภาววิมล รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา บรรยายพิเศษเรื่อง"ทิศทางการปรับตัวของมหาวิทยาลัยไทยในบริบทที่เปลี่ยนแปลง กล่าวว่า แสดงความความยินดีกับมหาจุฬาและสถาบันภาคีเครือข่ายในการจัดวิชาการที่มีความร่วมมือ เพราะการทำงานในความร่วมมือได้รู้จักกันและเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในความแตกต่างกันระหว่างสถาบัน โดยเฉพาะมหาลัยสงฆ์ต้องมีการทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยภายนอก เป็นประโยชน์ต่อนักศึกษาในการแลกเปลี่ยนงานวิชาการ ถือว่าเป็นรูปแบบหนึ่งในการจะไปพัฒนาคุณภาพ การขับเคลื่อนอุดมศึกษาจากภาครัฐ ปัจจุบันเราอยู่ในช่วงภาวะของการเปลี่ยนแปลง อะไรบ้างที่เป็นความท้าทายในการปรับตัว ของอุดมศึกษาหรือมหาวิทยาลัยไทย อุดมศึกษาจึงถือว่าพัฒนาประเทศโดยตรงเพราะเป็นการสร้างคนออกไปทำงาน อุดมศึกษาจึงสร้างคนที่มีศักยภาพ สามารถไปดำรงชีวิตและขับเคลื่อนสังคม เป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาประเทศ อุดมศึกษาจึงทำงานอันเป็นภาระสำคัญสร้างคนสำหรับประเทศชาติ คือ สร้างคน จึงต้องมีการสร้างงานวิจัยในการขับเคลื่อนประเทศด้วยการสร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ โดยไม่ต้องพึ่งพาต่างประเทศ ผลิตขึ้นมาเองและขายให้ต่างประเทศ จึงมี 2 เรื่องที่ท้าทายสถาบันนอุดมศึกษาคือ 

1)ทิศทางและนโยบายของประเทศ 2)การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในประเทศไทยและในโลก ในปัจจุบันไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใดๆในโลกย่อมมีผลกระทบต่อกันหมด เพราะเราอยู่ในโลกที่ไร้พรมแดนสิ่งที่กระทบมากๆคือทิศทางและนโยบายของประเทศเรารู้จักกันหรือยังผู้บริหารทราบยุทธศาสตร์ชาติอย่างไร เราเข้าใจทิศทางอย่างไรเราควรจะสร้างงานวิจัยแบบใดถึงจะตอบโจทย์ เราควรจะสร้างคนอย่างไรเพื่อตอบโจทย์ในยุคปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงอะไรที่มีผลกระทบต่อการสร้างคน 

ทิศทางและนโยบายประเทศมี 2 ประการ คือ "ยุทธศาสตร์ชาติ 20  ปี และโมเดลไทยแลนด์ 4.0  "ซึ่งเป็นทิศทางในการขับเคลื่อนประเทศไทย เรื่องไร้พรมแดน เทคโนโลยี สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งทิศทางการขับเคลื่อนประเทศไทยคือ 1) ความมั่นคงคือการป้องกันประเทศ 2)ความมั่งคั่งคือ ขีดความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจ มีระบบเศรษฐกิจที่ดี มีการติดต่อค้าขายอยู่ในเวทีสากล ต้องอาศัยมหาวิทยาลัยในการขับเคลื่อน 3)ความยั่งยืนถือว่า

เป็นหัวใจการพัฒนาชาติ 4)การสร้างโอกาสเสมอเท่าเทียมกัน เพราะเราเป็นติดกับดักความเหลื่อมล้ำ เราต้องก้าวข้าว 5)การเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เราเผชิญหน้ากับภัยพิบัติ จึงต้องดูแลสิ่งแวดล้อม 6)การบริหารภาครัฐ เพราะเรามี 19 กระทรวงกับ 1 ส่วนงาน ในการขับเคลื่อนประเทศ กลไกหลักคือภาครัฐ ภาครัฐจะต้องมีคุณภาพ เนื่องจากคนมีกลไลสำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนทุกเรื่อง คนเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนา อุดมศึกษาจึงมีความสำคัญ สถานศึกษาสร้างคนออกไปในการขับเคลื่อนประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติจะประสบความสำเร็จหรือไม่อย่างไรคนจะเป็นตัวบอกซึ่งคุณภาพหรือศักยภาพของไทยจะเป็นตัวบอกถึงยุทธศาสตร์ประเทศ คนจึงมีความสำคัญที่สำคัญ คนจึงเป็นหัวใจในการพัฒนาประเทศจึงให้ความสำคัญของคน ถามว่าคนไทยมีความพร้อมจะขับเคลื่อนประเทศอย่างไร สถาบันอุดมศึกษาจะทำหน้าที่ให้ประเทศชาติได้อย่างไร? ไทยแลนด์ 4.0  จะเป็นตัวขับเคลื่อนสังคมเศรษฐกิจ ต่อไปไทยจะต้องเป็นสังคมเศรษฐกิจที่สร้างมูลค่าผ่านเทคโนโลยี สร้างมูลค่าเพิ่มจากภูมิปัญญาประเทศ ทำให้เราซึ่งเราผ่านพ้นจากกับดักประเทศไทย 3 เรื่อง คือ 

1)กำดักประเทศรายได้ปานกลาง เราเฉลี่ยต่อหัวต่อปีแค่ปานกลาง เรามีรายได้แค่ 9,000 บาทต่อหัว ต่างจากสิงโปร์ มาเลเชีย บรูไน รายได้หลักหมื่น แต่ไทยเรายังไม่ได้ เราต้องสร้างเทคโนโลยี หมายถึง "เศรษฐกิจจึงต้องพึ่งพิงเทคโนโลยี" 2)กับดักความเหลื่อมล้ำทางสังคม ไทยเราคนที่ถือเงินจำนวนมากมีปริมาณน้อย ส่วนที่มีฐานะไม่ดีมีมากในประเทศ เราจึงต้องสร้างคนให้มีคุณภาพมีการศึกษา ทำให้มีรายได้ที่ช่วยตนเอง เราต้องสร้างคนให้มีอาชีพ สร้างรายได้ มีงานทำ 3)กับดักมีการพัฒนาที่ไม่สมดุล เด่นเรื่องหนึ่งด้อยเรื่องหนึ่งก็ไม่สามารถไปด้วยกันได้ เราจึงต้องพัฒนาคน 


คำถามทิศทางประเทศไปแบบนี้แล้วมหาวิทยาลัยจะไปอย่างไร? เป็นโจทย์ของมหาลัย ว่าบัณฑิตควรจะผลิตในสาขาใด ถึงจะตอบโจทย์ความต้องการให้กับประเทศ เพื่อเราจะไปในทิศทางเดียวกัน มหาจุฬาผลิตนิสิตที่ตอบโจทย์ในการพัฒนาประเทศในด้านใด งานวิจัยที่นิสิตกระทำตอบโจทย์สาขาอย่างไร มหาวิทยาลัยจึงต้องทบทวนแผน ปัจจุบันเรามีโครงการผลิตบัณฑิตพันธุ์ใหม่ รัฐลงทุนมากเพื่อให้มหาวิทยาลัยตอบโจทย์ประเทศ กับการผลิตบัณฑิตพันธุ์ใหม่ให้ตอบโจทย์ประเทศ มหาวิทยาลัยและอาชีวศึกษาเป็นหนึ่งในนั้น รัฐบาลยอมลงทุนเพื่ออะไร เพราะมหาวิทยาลัยผลิตบัณฑิตไม่ตรงเป้าหมายตามความต้องการของการพัฒนาประเทศในระยะเร่งด่วน จะมีการรับนักศึกษาปีนี้ จะพัฒนาคนในปีนี้ มหาวิทยาลัยจะต้องปรับภายในปีนี้ ถ้าไม่ปรับตัวจึงอยู่ยากมาก จะทำอย่างไรจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับการเกษตร ให้ชาวนาที่ใช้เทคโนโลยีให้ทำน้อยได้มาก เทคโนโลยีมาช่วยในทุกด้าน หุ่นยนต์เข้ามามีบทบาทมากในยุคปัจจุบัน เช่น การผลิตหรือการท่องเที่ยว การเปลี่ยนแปลงเราทุกคนกระทบประกอบด้วย 

1)"โลกไร้พรมแดน" การเชื่อมต่อเชื่อมโยง เรารู้ทันทีที่เกิดอะไรขึ้นในอเมริกา การสื่อสารเร็วรวดมากด้านข้อมูลสื่อสาร คนจึงต้องใช้เทคโนโลยีให้เป็น มีภาษาสื่อสาร เรียนรู้วัฒนธรรมระหว่างกันในความแตกต่าง จึงต้องพัฒนาคนให้อยู่ได้ในโลกยุคใหม่ ๒)"ข้อมูลข่าวสาร" ระบบข้อมูลสื่อสาร ทำอย่างไรจะใช้ประโยชน์จากข้อมูลให้มากที่สุด เราจะจัดการข้อมูลอย่างไร 3)"ด้านอินเทอเน็ต" เราคงไม่สามารถปฏิเสธอินเทอเน็ตเพราะในโลกปัจจุบัน เราใช้คอมพิวเตอร์ควบคุมทั้งหมด เราสามารถสื่อสารได้ทั่วโลกเชื่อมโยง เป็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เราใช้โทรศัพท์ทำงานมีกลุ่มไลน์ทำงาน ปัจจุบันเราสามารถเรียนที่ไหนก็ได้ เราจึงต้องกลับมาวิเคราะห์ว่ามหาวิทยาลัยจำเป็นหรือไม่ เราควรจะทำรูปแบบใดทำให้คนมาเรียนกับเรา เพราะคนทุกวันสงสัยอะไรกดดู สิ่งที่คนจะพัฒนาคือ "ทักษะ" ทักษะอะไรที่เด็กไม่สามารถหาได้ต้องมาหาในมหาวิทยาลัย ทักษะแบบใดถือว่าเป็นโจทย์ท้าทายของมหาวิทยาลัย บัณฑิตไทยมีทักษะอะไรที่พร้อมสำหรับโลกแห่งการเปลี่ยนแปลง เป็นเรื่องสำคัญมหาวิทยาลัยต้องวิเคราะห์ ซึ่งทักษะของคนยุคใหม่ มี  10 ทักษะคือ 



การแก้ปัญหา การตัดสินใจ การพัฒนาอารมณ์ การคิดยืดหยุ่น การบริการ มหาวิทยาลัยต้องใช้ทักษะเป็นฐานว่าเด็กขาดอะไร ทักษะอะไรที่นักศึกษาควรจะได้จากมหาวิทยาลัย บัณฑิตไทยมีทักษะอะไรที่พร้อม ครูอาจารย์ต้องพัฒนาทักษะก่อน ทักษะมี 10  ประการ ความรู้เด็กสามารถหาได้เท่ากับอาจารย์แต่ทักษะนักศึกษาจะต้องอาศัยครูอาจารย์ในการสอน "วิธีคิดและทักษะ" ถ้าเราไม่ใช้เทคโนโลยีจะทำให้เราลำบากมากกว่าคนอื่นเพราะเป็นสังคมเทคโนโลยี นักศึกษาของไทยลดลงทุกปี ปัจจุบันเป็นแสนคนกระทบทั้งประเทศ เด็กส่วนหนึ่งจะไปเรียนอาชีวศึกษาซึ่งเป็นความต้องการของประเทศมาก ปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยจะลดลง อาจารย์ส่วนหนึ่งกำลังจะตกงานและตกงานเรียบแล้ว อาจารย์ที่เปิดหลักสูตรที่ขาดการปรับตัวตกงานแน่นอน 




เมื่อไม่กี่ปีมานี้ออสเตรเลียเอาอาจารย์ออกจำนวนมาก อเมริกาตอนนี้ปิดมหาวิทยาลัยแล้วมากกว่า 500 มหาวิทยาลัยเพราะโลกเปลี่ยนแปลง ในปัจจุบันคนไปเรียนคอร์ดสั้นๆ แล้วสามารถทำงานทำอาชีพได้เลย เลี้ยงตนเองได้ เราได้รับผลกระทบแน่นอน จึงถามว่ามหาวิทยาลัยจะปรับตัวอย่างไร การแก้ปัญหาคือ มหาวิทยาลัยต้องพัฒนาคนทุกช่วงวัย มหาวิทยาลัยจะลงไปช่วยสถาบันการศึกษาตั้งแต่เด็กประถมศึกษา อาจารย์มหาวิทยาลัยต้องสร้างเครือข่ายช่วยเรื่องอะไร ออกไปทำงานกับคนในชุมชนแต่มหาวิทยาลัยต้องมีประสบการณ์ และมหาวิทยาลัยต้องปรับรูปแบบการเรียนการสอน พัฒนาทักษะวิธีคิดวิธีจัดการทางอารมณ์ 




เราต้องขยายกลุ่มเป้าหมายอย่ามองแค่เด็กปริญญาตรี " มหาจุฬาต้องเร่งปรับหลักสูตรเพื่อให้ตอบโจทย์ประเทศและต้องฝึกให้เด็กคิดเกิดทักษะ เรียนรู้จากประสบการณ์ตรง ต้องเจอของจริง " เด็กต้องเรียนรู้จากสถานที่จริงเพื่อเกิดประสบการณ์ตรงในการพัฒนาตนเอง และมีงานวิจัยที่มีความสมดุลคือเอาไปตอบโจทย์ประเทศและได้องค์ความรู้ มหาวิทยาลัยต้องเร่งสร้างงานวิจัยให้ตอบโจทย์ประเทศ สาขาที่สอนเชื่อมโยงอะไร ต้องลงมือทำตอนนี้ มหาวิทยาลัยต้องเปิดคอร์ดให้ตอบโจทย์ เพราะไม่มีศาสตร์ใดศาสตร์หนึ่งตอบโจทย์หรือแก้ปัญหาได้ทั้งหมดแต่ต้องบูรณาการศาสตร์ สังคมศาสตร์ ครุศาสตร์ ต้องบูรณาการศาสตร์ 




เราต้องสร้างหลักสูตรให้นักศึกษาตอบโจทย์รายบุคคล ให้นักศึกษาเจอสถานการณ์จริง เพื่อมีประสบการณ์ตรง มหาจุฬาจะต้องทำทันทีเรารอไม่ได้แล้วเพราะการเปลี่ยนแปลงของโลก อุดมศึกษาต้องสร้างคนให้มีงานทำ สร้างให้คนเรียนรู้ตลอดชีวิต มหาวิทยาลัยของสิงคโปร์มีการเรียนรู้ตลอดชีวิต คนสิงคโปร์ใฝ่เรียนรู้ตลอดเวลาตลอดชีวิต นักศึกษาอายุมากที่สุดอายุ 82  ปี เป็นการใฝ่เรียนรู้ตลอดเวลา ปัจจุบันนี้ "ปลาที่ว่ายเร็วจะกินปลาที่ว่ายช้า" เราต้องสร้างหลักสูตรให้ตอบโจทย์ประเทศในการพัฒนาคน 




ดร.อรสา กล่าวสรุปว่า ดังนั้น ช่วงบ่ายมีการนำเสนอผลงานทางวิชาการจากมหาวิทยาลัยต่างและอภิปรายทางวิชาการเรื่องศาสนธรรมกับการพัฒนาไทยแลนด์ ๔.๐ และประเทศไทยกับการกับการก้าวสู่ประชาธิปไตยที่มั่นคง มีการแลกเปลี่ยนในมิติของวิชาการเพื่อเกิดองค์ความรู้ในการวิจัยและพัฒนาสังคมสืบไป



..................


(หมายเหตุ ขอบคุณข้อมูลจากเฟซบุ๊ก Pramote OD Pantapatพระอาจารย์ปราโมทย์ วาทโกวิโท นิสิตปริญญาเอก สาขาสันติศึกษา  มจร)

จิ๋วพิจิตรเข้าถึงธรรม"ผู้ให้คือผู้ชนะ"สร้างสังคมสันติสุข




วันที่ 30 เม.ย.2561 วัดป่าเขาน้อย อำเภอวังทรายพูน จังหวัดพิจิตร ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ  ภาคเอกชน ตลอดจนคณะศรัทธาวัดป่าเขาน้อย จัดโครงการ“ค่ายคุณธรรมภาคฤดูร้อนวัดป่าเขาน้อย” น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในหลวงรัชกาลที่ 9 มาใช้ในกระบวนการสร้างสรรค์เยาวชนของชาติ  ผนวกกับพระบรมราโชบายของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ในโครงการจิตอาสาพระราชทาน รวมถึงการนำหลักธรรมคำสอนของหลวงปู่จันทา  ถาวโร “ ผู้ให้คือผู้ชนะ”  มาประยุกต์ใช้ พัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทยในฐานะทรัพยากรที่มีคุณค่าของชาติ ซึ่งจัดขึ้นในช่วงปิดภาคเรียน ระหว่างเดือนมีนาคม ถึง เมษายน ของทุกปี
          


สำหรับโครงการค่ายคุณธรรมฯ ในปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 4  ผู้เข้าร่วมโครงการส่วนใหญ่จะอยู่กินนอนในค่าย โดยหลักสูตรที่ใช้ในการดำเนินการของค่ายคือ หลักสูตรจริยธรรม/คุณธรรม นำสู่ปัญญา ผู้ให้คือผู้ชนะ แต่ละวันจะมีรุ่นพี่จิตอาสาคอยอำนวยความสะดวก และสอนน้องในการทำกิจกรรม “พี่สอนน้อง” ในช่วงเย็น เด็กๆ ทุกคนจะช่วยกันเป็นจิตอาสาในการทำความสะอาดบริเวณค่าย กุฏิ และอาคารที่พัก ซักเสื้อผ้าของตนเอง รวมทั้งจัดเตรียมวัตถุดิบเพื่อจะทำอาหารในมื้อเช้าของวันถัดไป
          
ทั้งนี้ เป็นการฝึกให้เยาวชนมีจิตอาสาช่วยเหลือผู้อื่น เข้าถึงหลักธรรมคำสอน เป็นรากฐานในการใช้ชีวิตในสังคมเพื่อร่วมสร้างสังคมแห่งสันติสุข  ผู้ปกครองที่สนใจ สามารถนำบุตรหลานเข้าร่วมโครงการได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ สามารถติดตามกิจกรรมได้ที่ facebook fan page: ค่ายคุณธรรมภาคฤดูร้อนวัดป่าเขาน้อย-หลวงปู่จันทา ถาวโร

"มจร"จัดถก"ปชต.ที่มั่นคง"พท.-ปชป.ร่วม เสนอหมู่บ้านสันติภาพเป็นฐานสร้างหมู่บ้านประชาธิปไตย



วันที่ 30 เม.ย.2561 ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา คณะสังคมศาสตร์ มจร จัดการประชุมวิชาการระดับชาติครั้งที่ 2  เรื่อง"คุณภาพอุดมศึกษาไทยในยุค Thailand 4.0" หลังจากมีพิธีเปิดในช่วงเช้าแล้ว ช่วงบ่ายมีการประชุมกลุ่มย่อยในประเด็นต่างๆ โดยเฉพาะอย่างกลุ่มที่มีการอธิปรายเรื่อง "ประเทศไทยกับการก้าวสู่ประชาธิปไตยที่มั่งคง" โดยมีวิทยากรประกอบด้วย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์   รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา แกนนำพรรคเพื่อไทย(พท.) รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช โดยมีรศ.ดร.สุรพล สุยะพรหม รองอธิการบดี มจร ฝ่ายกิจการทั่วไปเป็นผู้ดำเนินรายการ   

รศ.ดร.ยุทธพร เห็นว่าความเข้าใจเกี่ยวกับประชาธิปไตยของคนไทยนั้นยังไม่สอดคล้องกับแนวความคิดสากล จึงเป็นประชาธิปไตยแบบไทยๆ 

นายจุรินทร์ ได้แสดงความเห็นว่า ต้องมีการสร้างวัฒนาธรรมประชาธิปไตยนิยมให้ทางปฎิบัติในวิถีชีวิตให้ได้่ ประชาธิปไตยถึงจะมั่งคง คอร์รัปชั่นแก้ไม่ได้ด้วยการยึดอำนาจเพราะไม่มีการคานอำนาจตรวจสอบ 

รายงานข่าวแจ้งว่า ปัจจุบันนี้ประเทศไทยไม่มีแบบอย่างหรือต้นแบบของวิถีชีวิตประชาธิปไตย ดังนั้น ควรมีการสร้างโมเดลประชาธิปไตยอย่างเช่นหมู่บ้านประชาธิปไข เช่นหมู่บ้านสันติภาพขึ้นมา หรือจะมีการนำโมเดลหมู่บ้านสันติภาพหรือหมู่บ้านช่อสะอาดเป็นฐานในการสร้างหมู่บ้านประชาธิปไตย อย่างเช่นการสร้างหมู่บ้านสันติภาพชายแดนประเทศเกาหลีเหนือและประเทศเกาหลีได้ใต้เพื่อรอให้ผู้นำทั้งสองประเทศร่วมเจรจาสันติภาพที่ผ่านมา   



วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2561

"มจร"เตรียมมอบปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์อธิบดีกรมการศาสนา




วันที่ 30  เม.ย.2561 ตามที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) เป็นมหาวิทยาลัยในคณะสงฆ์ไทย กำหนดจัดพิธีประสาทปริญญาบัตรระหว่างวันที่ 12-13 พ.ค. 2561 ที่ มจร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุทธยา โดยมีผู้สำเร็จการศึกษาในระดับต่างๆ จนถึงระดับปริญญาเอกทั้งระดับประเทศและระดับนานาชาติรวมทั้งสิ้น 5,062 รูปคน โดยแบ่งเป็น



1. ระดับปริญญาตรี บรรพชิต 1,983 คฤหัสถ์ 1,810  รวม 3,793 รูป/คน


2. ระดับปริญญาโท บรรพชิต 588 คฤหัสถ์ 243       รวม 831 รูป/คน


3. ระดับปริญญาเอก บรรพชิต 135 คฤหัสถ์ 162      รวม 297 รูป/คน


รวมทั้งหมด บรรพชิต 2,706 คฤหัสถ์ 2,215          เป็น 4,921 รูป/คน




และเข็ม ป.เอก ป.โท กิตติมศักดิ์ รวม 141 คน   



จากจำนวนผู้ที่ได้รับปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (พธ.ด.) นั้นมีนายมานัส ทารัตน์ใจ ป.ธ.6, พธ.บ., M.A. อธิบดีกรมการศาสนา พระมหาคำมา ปันยาวิจิด Most Ven. Phramaha Khamma Panyavichit, Lao Buddhist Fellowship Organization LBFO รองประธานศูนย์กลางองค์การพุทธศาสนาสัมพันธ์ลาว (รองประมุขสงฆ์ลาว)  นายบุญส่ง น้อยโสภณ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.), อดีตประธานศาลอุทธรณ์ภาค 7 ศ.ดร.วัชระ งามจิตรเจริญ ป.ธ.9, พธ.บ.(เกียรตินิยม), ศษ.บ.(เกียรตินิยม), M.A.(เหรียญทอง), อ.ด. อาจารย์ประจำภาควิชาปรัชญา ม.ธรรมศาสตร์ และนายพีระพงษ์ นพนาคีพงษ์ ผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครสวรรค์รวมอยู่ด้วย



..............


โพสต์นิวส์ :รายงาน, กองวิชาการ มจร :ข้อมูล)

วันเสาร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2561

สุดยอดพระธรรมทูต!เป็นประธานตัดริบบิ้นแข่งขันกีฬาหมู่บ้าน



วันที่ 29 เมษายน 2561 เวลา 09.30 น. เฟซบุ๊ก Namaste Dhamma ของพระธรรมทูตไทยสายอินเดีย-เนปาล ได้รายงานว่า ได้รับนิมนต์จากประธานหมู่บ้าน รามนาคาร์ ห่างจากกุสินารา 9 กิโลเมตร เป็นประธานตัดริบบิ้น เปิดการแข่งขันกีฬาคริเก็ตประจำปีของหมู่บ้าน โดยมีทีมเข้าแข่งขัน 4 ทีม ซึ่งเป็นกรรมชุมนุมสัมพันธ์ของพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย


........

(หมายเหตุ : ขอบคุณข้อมูลจากเฟซบุ๊กNamaste Dhamma)

เตรียมจัดพิมพ์พระไตรปิฏกฉบับสากลภาคภาษาไทย




แปลเสร็จแล้วเตรียมจัดพิมพ์พระไตรปิฏกฉบับสากลภาคภาษาไทย โชว์งานฉลองวันวิสาขบูชาโลก 29 พ.ค.นี้พร้อมจำหน่ายไปทั่วโลก

วันที่ 30 เมษายน 2561  พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส,รศ.ดร. ผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) ผู้อำนวยการวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ ผู้อำนวยการหลักสูตรปริญญาโท และปริญญาเอก สาขาสันติศึกษา ในฐานะผู้ประสานงานและทีมกองบรรณาธิการ มจร เปิดเผยว่า  ขณะนี้ คณะทำงานแปลพระไตรปิฏกฉบับสากลที่มีพระเดชพระคุณพระพรหมบัณฑิต,ศ.ดร.กรรมการมหาเถรสมาคม(มส.)  อธิการบดี มจร  เป็นประธานบรรณาธิการในการแปลนั้น ได้ดำเนินการแปลและตรวจความสมบูรณ์ของการแปลเรียบร้อยแล้ว


ขั้นตอนขณะนี้ คือ การจัดรูปเล่ม Artwork ซึ่งการดำเนินการใกล้จะแล้วเสร็จ ในส่วนของภาษาอังกฤษ ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 2 นั้น จะมีจำนวนหน้าราว 700 หน้า ในขณะที่ภาษาไทย จะมีจำนวนหน้าราว 1,100 หน้า  คาดว่า จะสามารถเริ่มดำเนินการตีพิมพ์ตั้งแต่ 5-20 พฤษภาคม 2561 โดยจะพิมพ์ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ จำนวนอย่างละ 10,000 เล่ม และมอบเป็นธรรมบรรณาการ อย่างละ 5,000 เล่ม เหลือจากนั้น จะจัดจำหน่ายออกไปทั่วโลก โดยสำนักพิมพ์ มจร

"กราบขอบคุณ และขอขอบคุณในความมุ่งมั่นและทุ่มเทของทีมแปลภาษาอังกฤษมาเป็นไทยทุกท่าน นำโดยอาจารย์นัยนา นาควัชระ อาจารย์พจนา จันทรสมบัติ อาจาจารย์ ผศ.ดร.สมหวัง แก้วสุฟอง และท่านอื่นๆ ที่ใช้เวลามาเกือบ 1 ปีเต็ม และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประธานบรรณาธิการ คือ พระเดชพระคุณพระพรหมบัณฑิต,ศ.ดร. ที่ทุ่มเท พร้อมทั้งสละเวลาตรวจความสมบูรณ์อย่างละเอียดและรอบด้าน" พระมหาหรรษา กล่าวและว่า

การทำงานครั้งนี้ จะสำเร็จไม่ได้ ถ้าไม่มีคณะกรรมการดำเนินการแปล (http://www.banmuang.co.th/news/education/86153) ที่แต่งตั้งโดยมหาวิทยาลัย นำโดยพระราชปริยัติกวี,ศ.ดร. พร้อมด้วยทีมงานนักวิชาการ มจร และผู้ทรงคุณวุฒิทุกท่าน ที่ประชุมระดมสมองมากว่า 1 ปี จนทำให้งานลุล่วงมาจนถึงวันนี้

ผู้ช่วยอธิการบดี มจร  เชื่อมั่นว่า ชาวไทยทุกท่านจักได้มีโอกาสอ่านงานวรรณกรรมที่ทรงคุณค่าภายใต้ชื่อพระไตรปิฎกฉบับสากล ในวันอันเป็นมงคล คือ วันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของสหประชาชาติ ที่กำลังเดินทางมาถึงนี้ วรรณกรรมที่ชาวต่างประเทศและชาวไทยได้มุ่งมั่นตั้งใจอย่างสุดกำลัง เพื่อความตั้งมั่นสถาพรของพระพุทธศาสนา เพื่อเป็นพุทธปัญญาของชาวโลกต่อไปตราบนิจนิรันดร์ฯ

เจ้าคณะปทุมธานีสนอง"มส."เปิดกิจกรรมสร้างปรองดองด้วยหมู่บ้านรักษาศีล ๕




วันเสาร์ที่ ๒๘ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๑ เวลา ๐๙.๐๐ น. ณ หอประชุมฯ เฉลิมพระเกียรติฯ วัดเขียนเขต (พระอารามหลวง) อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี พระเดชพระคุณพระเทพรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี และเจ้าอาวาสวัดเขียนเขต (พระอารามหลวง) เมตตาเป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาผู้นำสร้างความสุขด้วย ๗ กิจวัตรความดี ในโครงการสถานประกอบการสว่าง ด้วยศีลและธรรม รุ่นต้นแบบ ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๑ ที่ดำเนินการโดยคณะสงฆ์จังหวัดปทุมธานี, สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดปทุมธานี, วัฒนธรรมจังหวัดปทุมธานี, สภาอุตสาหกรรมจังหวัดปทุมธานี, หอการค้าจังหวัดปทุมธานี, ชมรมรักษ์บวร รักษ์ศีล ๕ ปทุมธานี ในอุปถัมภ์พระเทพรัตนสุธี, ศูนย์ส่งเสริมศีลธรรมจังหวัดปทุมธานี และชมรมบ้านแสงสว่าง ครอบครัวอบอุ่น แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นการดำเนินการตามแผนงานยกระดับโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา สถานประกอบการรักษาศีล ๕ ตามแผนยุทธศาสตร์การปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นนโยบายของมหาเถรสมาคม และยังเป็นการสานต่อโครงการชุมชนชนคุณธรรม ตามนโยบายของกระทรวงวัฒนธรรม อีกด้วย

การจัดสัมมนาฯ ในครั้งนี้ เป็นขั้นตอนที่ ๒ ต่อเนื่องหลังจากที่มีการเปิดโครงการฯ และคณะทำงานฯ ได้ลงพื้นที่จัดสัมมนาฯ ขั้นที่ ๑ ณ สถานประกอบการ โดยการสัมมนาฯ ขั้นที่ ๒ นี้ มีแกนนำผู้มีจิตอันเป็นกุศลของแต่ละสถานประกอบการเข้าร่วมเสริมสร้างศักยภาพแห่งตนต่อยอดสู่การทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการสร้างความสุขจาก ๕ ต้นแบบสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ เข้าร่วมการสัมมนาฯ ประกอบด้วย บริษัท บางกอกแคน แมนนูแฟคเจอริ่ง จำกัด, บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด, บริษัท ไทย ซูซูกิ มอร์เตอร์ จำกัด, บริษัท เอเชียน สแตนเลย์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และโรงพยาบาลเปาโล รังสิต

สำหรับกิจกรรมตามหลักสูตรการสัมมนาฯ นั้น นอกจากจะมุ่งเน้นการปฏิบัติธรรม และฟังธรรม ประกอบกิจกรรมพิเศษ ในหัวข้อต่างๆ จากพระวิทยากร และวิทยากรที่น่าสนใจ อาทิ ทุกข์ ๔ VS ความฉลาดทั้ง ๔, ปกิณกะเรื่องความสะอาด, เสียงในหัว เสียงแห่งการพร่ำบ่น, เสียงแห่งเหตุผลข้ออ้าง, วิถีชีวิตโปรแอคทีฟ, ปลดปล่อยข้อผูกมัดในใจ, ศีล ๕ กับชีงิตประจำวัน, พีระมิดแห่งความสงบสุข, สู่ชีวิตที่ดีกว่า ด้วยนิสัยรักความสะอาดและความเป็นระเบียบ, กฎสากลของชีวิตที่ทุกคนควรรู้ แล้ว ยังมีรูปแบบกิจกรรมที่หลากหลายให้ผู้เข้าร่วมฯ ได้เรียนรู้ และฝึกฝนพัฒนาศักยภาพ อาทิ กิจกรรมสันทนาการ, เวิร์คชอป จากความคิด...สู่โชคชะตา, กิจกรรมประชุมกลุ่มแลกเปลี่ยนสนนากับพี่เลี้ยงผู้มีประสบการณ์จากสถานประกอบการ/องค์กรต่างๆ, กิจกรรมพัฒนาทักษะการฟัง เป็นต้น

พระเทพรัตนสุธี   กล่าวถึงรายละเอียดของโครงการฯ ว่า ด้วยคณะสงฆ์จังหวัดปทุมธานี ได้มีมติร่วมกันที่จะสนองนโยบายตามแนวทางของมหาเถรสมาคม ในการยกระดับโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา หมู่บ้านรักษาศีล ๕ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการดำเนินงาน คือ รณรงค์ให้ประชาชนมีศีล มีสุข มีปรองดอง มีสมานฉันท์ มีสามัคคี มีสันติสุข ปลอดยาเสพติด อีกทั้งยังมุ่งสานต่อโครงการชุมชนคุณธรรม ตามแนวนโยบายของกระทรวงวัฒนธรรม ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ให้กว่างขวางยิ่งขึ้น จึงมีความตั้งใจยกระดับการดำเนินงานจากที่ได้ดำเนินการในระยะแรกผ่านเครือข่ายบวร คือ บ้าน วัด โรงเรียน และราชการ ด้วยรูปแบบกิจกรรมรักษ์บวร รักษ์ศีล ๕ มาอย่างต่อเนื่อง สู่เป้าหมายการขยายผลไปยังประชาชนที่ปฏิบัติงานอยู่ในสถานประกอบการของจังหวัดปทุมธานี 

ทั้งนี้ เพื่อประสานความร่วมมือกับสถานประกอบการในการจัดกระบวนการสร้างเสริมคนเก่งและดี มีศีลธรรม อันจะนำมาซึ่งประโยชน์ส่วนตน คือ ได้รับสวัสดิการเติมเต็มความสุขในชีวิตตามพุทธวิธี และส่งผลต่อประโยชน์องค์กรและสังคมส่วนรวม คือ ได้บุคลากรที่มีศีลและธรรมประจำใจต่อยอดเติมเต็มความสำเร็จยิ่งๆ ขึ้นไป ภายใต้ชื่อโครงการสถานประกอบการสว่าง ด้วยศีลและธรรม โดยในระยะแรกนี้กำหนดเป้าหมายการดำเนินงานในสถานประกอบการฯ ต้นแบบ จำนวน ๕ แห่ง ให้เสร็จสิ้นภายในปีพุทธศักราช ๒๕๖๑ จากนั้นคณะสงฆ์จะร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อขับเคลื่อนขยายผลการดำเนินการในเขตพื้นที่ทั้ง ๗ อำเภอของจังหวัดปทุมธานีต่างๆ ของจังหวัดปทุมธานีสืบไป”

.............

(หมายเหตุ : ขอบคุณภาพจาก : Facebook pages ชมรมบ้านแสงสว่าง ครอบครัวอบอุ่น)

ชาวอินเดีย๕๐๐คนแสดงตนเป็นพุทธมามกะเทศกาลวันวิสาขบูชาโลก



วันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๖๑ เวลา ๑๐.๓๐ น. เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก (ตรงกับประเทศอินเดีย ๓๐ เมษายน ๒๕๖๒) พระสงฆ์วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ พร้อมด้วยพระสงฆ์นานาชาติเมืองกุสินารา เดินทางไปในพิธีแสดงตนเป็นพุทธมามกะ ของชาวอินเดียท้องถิ่นกว่า ๕๐๐ คน ที่ริ่มฝั่งแม่น้ำกกุธานที เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก ซึ่งตรงกับวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประสูติ ตรัสรู้ และเสด็จดับขันธปรินิพพาน โดยในปีนี้เมืองกุสินารา ได้จัดงานเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชา ๓ วัน ระหว่างวันที่ ๒๘-๓๐ เมษายน ๒๕๖๑ กิจกรรมบิณฑบาต กิจกรรมทำความสะอาดแม่น้ำหิรัญวดี กิจกรรมเจริญพระพุทธมนต์ เวียนเทียน กิจกรรมแสดงตนเป็นพุทธมามกะ แสดงพระธรรมเทศนา และขบวนแห่พุทธยาตรา สนติภาพโลกรอบเมืองกุสินารา-เมืองกยา ๘ กิโลเมตร



ในมหาปรินิพพานสูตรกล่าวว่า หลังจากที่พระพุทธองค์ทรงเสวยภัตตาหารมื้อสุดท้ายจากบ้านนายจุนทะแล้ว ทรงกระหายน้ำ จึงรับสั่งให้พระอานนท์ตักน้ำมาถวาย พระอานนท์กราบทูลให้พระองค์ทรงไปที่แม่น้ำกกุธานทีซึ่งมีน้ำจืด ใสเย็น ทั้งมีท่ารื่นรมย์ ซึ่งพระพุทธองค์ทรงเสวยน้ำและสรงชำระพระกาย ก่อนจะเดินทางถึงสาลวโนทยาน สถานที่เสด็จดับขันธปรินิพพาน

..........

(หมายเหตุ : ขอบคุณข้อมูลจากเฟซบุ๊กวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์)

สำราญสรรค์สร้างสันติ์ลำนำชีวิต-"ดูด"คือครรลองประชาธิปไตย




ดูดดื่มดำดิ่งดุจโด่ง
ดิ้นด้นดงดอนเดียวดาย
ดึงเดี่ยวดีแดงด้องด้าย
แด่เดลดิรัจฉานสมสู่กัน

อย่ารังเกียจเลยหนาคำว่าดูด

มันเป็นบทพิสูจน์เริ่มขาดขลัง
ใช้เล่ห์ทุนสามานย์แล้วกระมัง
หวังอำนาจเพื่ออยู่ต่อแค่นั้นเอง

วันหนึ่งงานไม่ทำดูดมูลเหม็น

เขี่ยอุจจาระฟุ้งกระเด็นดูน่าขัน
ทำตัวเป็นเทศบาลสูบไม่เว้นวัน
หาสะอาดทุกคลอกจะมีหรือไร 

ดูด

ปฏิรูปการเมือง4.0?

ภาษาการเมือง

สัญจรหมายถึงไปดูด

โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง!

"ดูด"
เป็นครรลองประชาธิปไตยจำไว้

ดูด ส.ส. เป็นปกติของครรลองประชาธิปไตยไทย

แล้วต่างจากซื้อตัวส.ส.ตรงไหน

ถ้าคิดว่า "ดูดปกติ" แล้วปฏิรูปการเมืองทำไม


"ดูด"

จงดีใจว่าเป็นสัญญาณถึงฤดูกาลใกล้เลือกตั้งแล้ว

ทหารหนุนรัฐบาลนั้นถูกต้อง

แต่ทหารหนุนพฤติกรรมที่ได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมืองนั้น
ถือว่าไม่ถูกต้อง

จริงใจจริงจังปราบคอร์รัปชั่น

ฝ่ายตรงกันข้ามล้านเปอร์เซนต์

คนเป็นการเมือง

เขาดูอาการ
ดูเหลี่ยมการเมืองออก

การเมืองเรื่องอำนาจ

ต้องพิฆาตให้อาศัล
ใช่พวกพ้องต้องจาบัน
ต้องห่ำหั่นอริให้บรรลัย

ตอนนี้นักการเมือง 

นักอยากเป็นนักการเมือง 
นักเลือกตั้ง 
มีสภาพเหมือนกันแล้ว 555

มีอะไรที่เหมือนกันบ้าง 

ดูด 
พูดความจริงครึ่งเดียว 
โกหก 
ชมแต่พวกเดียวกัน
ด่าฝ่ายตรงข้ามเลว 
เอาเปรียบ 
พูดอย่างหนึ่งแต่ทำอีกอย่างหนึ่ง 
สองมาตรฐาน 
ขุดของเก่ามาด่ากัน
ไม่เคยเสนอแนวทางแก้ไข
โพสต์รูปทุกวันเพื่อดึงคะแนนเสียงไว้
ที่บอกนักการเมืองรุ่นใหม่ 
แล้วใหม่ตรงไหน 
ก็เห็นเดินตามนักการเมืองรุ่นเก่าอยู่
นี่คือสภาพเมืองสาระขัน 
ที่อยู่ในดินแดนไม่ไกลเท่าไร

เลือกคนดีแต่ไม่มีวินัย

ก็วุ่นวายเหมือนเดิม

ธรรมชาติแมลงวันมักตอมอุจจาระ

ธรรมชาติผึ้มมักตอมดอกไม้หอม
แล้วคนเป็นแบบไหนกัน


ใช้น้ำกรด

ชักผ้าให้ขาว
555

อย่าทำให้คนไทยเหลืออด

อย่าให้น้ำไหลเดี๋ยวสวะจะไม่เหลือ

คำว่าชั่วไม่มีใครเห็นด้วยแน่

ที่มันแยทำเป็นอวดดีดูน่าขัน
เฝ้าเขียนเสือปราบชั่วทำตึงตัง
ดูขึงขังนั้นสรุปแล้วออเจ้าก็ชั่วเอย

เพราะแน่จึงต้องแน่สิ่งที่แน่

เพราะไม่แย่ดุจแย้อยู่รูไฉน
เพราะจิตนิ่งหยุดดูสิ่งเป็นไป
เพราะเหตนี้จึงรู้เจ้าเล่นละคร

โกงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 

เงินคนจนพม.
เงินคนอยากไร้พม.
กองทุนเสมาพัฒนาชีวิตศธ.
อควาเรียมหอยสังข์ศธ.
ทุจริตMoeNetศธ.
ทุจริตสร้างหลังคาร.ร.ใต้ศธ.
รถดูดโคลน-ขยะมท.
เงินทอนวัดพศ.
เจ้าหนี้นอกระบบ หลายหน่วยงานเกี่ยวข้อง 
เอาเท่านี้ก่อนยังมีอีกเยอะ
แล้ว ดีเอสไอ ป.ป.ท. ป.ป.ช. ไหวหรือนี่ มีเจ้าหน้าที่กี่คน

โลกมุ่งสร้างสันติภาพ

ไทยมุ่งสร้างสงคราม
กันเอง

บ้านเรามีวัด บ้าน ชื่อ สันติ มากมาย แต่ก็ยังไม่สันติเท่าที่ควรเนาะ

ลดทิฐิลงบ้างแล้วมานั่งคุยกันจะเอาอย่างไรแบบไม่เป็นทางการ
ที่ผ่านมาใช้ระบบราชการมากเกิดไป วันหยุดก็พากันหยุดทำงาน แต่ปัญหามันไม่ได้หยุดตามวันหยุด พูดได้คำเดียวคือเสียของ

ขุนศึกไร้เสบียง

ก็คงไปได้ไม่กี่น้ำ
แต่เสบียงที่สำคัญสุด
คือกำลังใจ

ขอบคุณเธอทำให้ฉันเข้มแข็ง

มีเรี้ยวแรงเดินต่อมหาศาล
รู้กลวิธีชนะมวลหมู่มาร
ได้สังหารหอกทิ่มปักดวงใจ

พบเธอทุกคราใจไหวหวั่น

ตะลึงงันลีลาอันฉ่ำหวาน
ทั้งท่วงท่าชั่งแสนงดงาม
นมแมวต้นหน้าบ้านเอย!!

หาเพื่อนแล้วจะไม่ทุกข์

ถ้าหารักสักวันมันก็ทุกข์

ใบไม้ไร้ซึ่งก้านกิ่ง

ไร้รากอิงรัดรึงไว้
ปล่อยรมณ์พัดไป
ไร้จุดไร้ซึ่งราคา

ปัญญาภิญโญ

Digital Disruption 
ปัญญา
ญี่ปุ่น อิตาลี ไทย อดีต อนาคต ปัญญาหนึ่งถึงร้อยหมื่น 
สัมมาทิฏฐิ
ตลาดหุ้น 
ตลาดนัด 
เปรมชัยเสือ
context ของสังคมที่พร้อมที่จะลุกขึ้นมาเป็นไฟ 
ประเทศไทยตอนนี้จุดที่ติดไฟมันเต็มไปหมดเลย
เสาบ้านไม่เท่ากัน
ภาวะผู้นำ 
ความรับผิดชอบ
ความสามารถและวิสัยทัศน์
ความถอดใจนั้นเองคือสิ่งที่คนเล็กคนน้อยจะปล่อยให้เกิดขึ้นไม่ได้

ความกล้าหาญที่จะเปลี่ยนตัวเอง

การลงมือทำคือการพิสูจน์ว่าทฤษฎีที่คุณอุตส่าห์เรียนรู้มาทั้งชีวิต มันจริงหรือเปล่า
สันติภายใน แก้ปัญหาข้างนอก
คาร์ล ยุง (นักจิตบำบัดผู้ก่อตั้งสำนักจิตวิทยาวิเคราะห์) 
ไอน์สไตน์
จักรวาลไม่มีนอก-ไม่มีใน มันเป็นหนึ่งเดียวกัน
http://optimise.kiatnakinphatra.com/cover_story_12.php - Optimise Magazine

INN สังคมผู้สูงอายุปฏิบัติธรรม

ฉันร่วมกลุ่มกันเป็นเครือข่าย
อุดมปัญญาฺBPAI ทำความดีเป็นเครดิต
กู้เงินได้

มีความภูมิใจลึกๆ

ใช้เงินขาวสร้างคน
โดยไม่คิดที่จะใช้เงินดำเลย





เตรียมเงี่ยหูฟัง!นายกฯภูฏาน "TED TALK" งานฉลองวิสาขบูชาโลกเมืองไทย



วันที่ 28 เม.ย.2561 เฟซบุ๊ก Hansa Dhammahaso ได้เผยแพร่ข้อความว่า ฯพณฯ เชอริ่ง ต๊อบเกย์ นายกรัฐมนตรีภูฏาน เสียงแห่งความสุขจากดินแดนแห่งความสุข 

ครั้งแรกที่ได้ฟังผู้ชายคนหนึ่งพูดบนเวที TED TALK ตามลิ้งค์ https://youtu.be/eIogHJC3qe0 ในราวเดือนมีนาคม 2559 ยอมรับตามตรงว่า ไม่ทราบจริงๆ ว่าผู้ชายที่กำลังพูดถึงวิถีชีวิต วัฒนธรรม รอยยิ้ม และความสุขของชาวภูฏาน คือ นายเชอริ่ง ต๊อบเกย์ นายกรัฐมนตรีภูฏาน ซึ่งเป็นอดีตหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน ปัจจุบันเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปไตยประชาชน จบด้านวิศวกรรมศาสตร์จากประเทศสหรัฐอเมริกา แล้วกลับมายังดินแดนมาตุภูมิทำงานรับใช้แผ่นดินบ้านเกิด

หลังจากที่ได้ฟังท่านพูดบนเวที TED TALK เมื่อสองปีก่อน รู้แต่เพียงว่า ผู้ชายคนนี้ สามารถถอดสมการแห่งความสุขออกมาอธิบายขยายความได้อย่างออกรสออกชาติ และเป็นการพูดถึงความสุขที่เป็นธรรมชาติอย่างมาก ชัดแจ้งว่า ความสุขเป็นธรรมชาติที่ลึกซึ้งแต่เรียบง่าย ฉะนั้น การพูดถึงความสุขจึงต้องเป็นอะไรที่เรียบง่าย ไม่มีการปรุงแต่งหรือฉาบทา รวมไปถึงการใส่สีตีไข่ ที่สำคัญยิ่งคือ ความสุขจึงไม่ใช่สิ่งที่จะต้องไปประดิษฐ์ประดอยให้น่าสนใจ เพราะในเนื้อตัวของความสุขมันเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงนัยในตัวของมันเองอยู่แล้ว

"My country is very poor... ประเทศผมเป็นประเทศยากจน ผมมีชีวิตง่ายๆ การต้อนรับผมในฐานะองค์ปาฐกถาพิเศษในงานวิสาขบูชาโลก ขอให้เป็นไปแบบง่ายๆ" นั่นคือคำกล่าวของบุคคลที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำทางการเมืองสูงสุดของประเทศภูฏาน แต่ในฐานะสมณทูตของมหาจุฬาฯ ที่พระเดชพระคุณพระพรหมบัณฑิต,ศ.ดร. อธิการบดี ได้บัญชาให้ถือหนังสือไปเรียนเชิญเจริญพรมาเป็นองค์ปาฐกถาพิเศษนั้น จึงได้เจริญพรตอบไปว่า "ไม่ใช่หรอก ประเทศของท่านเป็นประเทศที่ร่ำรวยต่างหาก... รวยด้วยความสุข จนคนทั่วโลกเรียกประเทศของท่านว่า Land of Happiness"

ยิ่งได้สนทนาธรรม และแลกเปลี่ยนในช่วงระยะเวลาเกือบ 30 นาที ยิ่งทำให้พบว่า ชาวภูฏานนั้น นอกจากจะโชคดีที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเอาใจใส่สุขทุกข์จนเป็นที่รักของประชาชนแล้ว ยังมีนายกรัฐมนตรีที่นอกจากจบวิศวกรแล้วได้ใช้ความรู้มาพัฒนาประเทศแล้ว ยังผันตัวเองมาเป็น "วิศวกรสร้างความสุข" ให้แก่ประชาชนชาวภูฏานด้วย แม้จะเป็นประเทศเล็กๆ ที่มีประชากรราวๆ 700,000 ถึง 1,000,000 คน แต่กลับเป็นประเทศที่มีความสุขอย่างยิ่งใหญ่

คำถามคือ "ประชาชาวไทยจะได้อะไรจากการมาของนายกรัฐมนตรีภูฏานท่านนี้??" คำตอบคือ "พวกเราจะได้ฟังเสียงแห่งความสุขจากบุคคลที่มาจากดินแดนแห่งความสุข" ถามต่อว่า "แล้วประเทศไทยไม่มีความสุขหรืออย่างไร?? จึงต้องมานั่งฟังเสียงแห่งความสุขจากคนอื่น" ใครจะตอบคำถามนี้ได้ ถ้ามิใช่คนไทยทั้งมวล คนไทยที่ครั้งหนึ่งเคยได้รับการเรียกขานว่า "ดินแดนแห่งรอยยิ้ม" ฉะนั้น การที่คนไทยจะใช้เวลาสัก 1 ชั่วโมง เงี่ยหูฟังนายกรัฐมนตรีภูฏาน ฯพณฯ เชอริ่ง ต๊อบเกย์ พูดถึงความสุขของประชาชนในประเทศภูฏาน อาจจะเป็นสะพานชักพาเราให้เข้าถึงความสุข จนเป็นเหตุให้หวนระลึกถึงดินแดนแห่งรอยยิ้ม แล้วเดินกลับไปอาศัยอยู่ในดินแดนแห่งรอยยิ้มดังเช่นที่เคยมีและปรากฏในสังคมไทย


พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส
ผู้อำนวยการวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
www.vesak.org

"มจร"เตรียมมอบปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แม่ทัพน้อยที่ 2




วันที่ 28 เม.ย.2561 ตามที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) เป็นมหาวิทยาลัยในคณะสงฆ์ไทย กำหนดจัดพิธีประสาทปริญญาบัตรระหว่างวันที่ 12-13 พ.ค. 2561 ที่ มจร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุทธยา โดยมีผู้สำเร็จการศึกษาในระดับต่างๆ จนถึงระดับปริญญาเอกทั้งระดับประเทศและระดับนานาชาติรวมทั้งสิ้น 5,062 รูปคน โดยแบ่งเป็น



1. ระดับปริญญาตรี บรรพชิต 1,983 คฤหัสถ์ 1,810  รวม 3,793 รูป/คน


2. ระดับปริญญาโท บรรพชิต 588 คฤหัสถ์ 243       รวม 831 รูป/คน


3. ระดับปริญญาเอก บรรพชิต 135 คฤหัสถ์ 162      รวม 297 รูป/คน


รวมทั้งหมด บรรพชิต 2,706 คฤหัสถ์ 2,215          เป็น 4,921 รูป/คน




และเข็ม ป.เอก ป.โท กิตติมศักดิ์ รวม 141 คน    



จากจำนวนผู้ที่ได้รับปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (พธ.ด.) นั้นมีพลโทสนธยา ศรีเจริญ แม่ทัพน้อยที่ ๒ (ภาคอีสาน) รวมอยู่ด้วย 



..............


โพสต์นิวส์ :รายงาน, กองวิชาการ มจร :ข้อมูล, MGR Online : ภาพ

วันศุกร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2561

สุดยอด!พระราชาคณะชั้นเทพจบป.ตรีกฎหมาย"มจร"คะแนนสูงสุด




วันที่ 28 เม.ย.2561 ตามที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) เป็นมหาวิทยาลัยในคณะสงฆ์ไทย กำหนดจัดพิธีประสาทปริญญาบัตรระหว่างวันที่ 12-13 พ.ค. 2561 ที่ มจร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุทธยา โดยมีผู้สำเร็จการศึกษาในระดับต่างๆ จนถึงระดับปริญญาเอกทั้งระดับประเทศและระดับนานาชาติรวมทั้งสิ้น 5,062 รูปคน โดยแบ่งเป็น



1. ระดับปริญญาตรี บรรพชิต 1,983 คฤหัสถ์ 1,810  รวม 3,793 รูป/คน


2. ระดับปริญญาโท บรรพชิต 588 คฤหัสถ์ 243       รวม 831 รูป/คน


3. ระดับปริญญาเอก บรรพชิต 135 คฤหัสถ์ 162      รวม 297 รูป/คน


รวมทั้งหมด บรรพชิต 2,706 คฤหัสถ์ 2,215          เป็น 4,921 รูป/คน



และเข็ม ป.เอก ป.โท กิตติมศักดิ์ รวม 141 คน    



จากจำนวนดังกล่าวพบว่า พระเทพปริยัติเมธี,รศ.ดร. รองอธิการบดี มจร.วิทยาเขตนครสวรรค์ สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี สาขาวิชานิติศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มจร อีก 1 ใบ โดยได้เกรดสูงสุด 3.85 เป็นอันดับ 1  ของนิสิต ป.ตรี (เทียบโอน) จากทั้งหมดรวม 3,793 รูป/คน



..............

โพสต์นิวส์ :รายงาน, สำนักทะเบียนและวัดผล มจร : ข้อมูล

อาเซียนครั้งที่32ดันนวัตกรรมดิจิทัลให้สมาร์ท




เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 61 เวลา 19.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 32 ช่วงการประชุมเต็มคณะ (Plenary) ที่ทำเนียบประธานาธิบดี สาธารณรัฐสิงคโปร์  มีประเด็นดังนี้

ความมั่นคงทางไซเบอร์ นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ และรับผิดชอบสังคมยุคใหม่  ยุทธศาสตร์โครงข่ายที่ตอบโจทย์  ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง 
ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี บูรณาการห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาค ส่งเสริมเสถียรภาพทาง เศรษฐกิจและการใช้นวัตกรรมให้เกิดพลวัตสูงสุด 

เห็นชอบการสร้างเครือข่ายเมืองอัจฉริยะอาเซียนตามข้อริเริ่มของสิงคโปร์ในการใช้เมืองหลักและรองขับเคลื่อนประชาคมอาเซียน ซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่ไทยกำลังผลักดัน Smart Economy, Smart Governance, Smart Agriculture และ Smart Energy ,Environment เป็นต้น โดยมีโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล  เป็นตัวกลางการขับเคลื่อน อาเซียนควรให้ความสำคัญกับการสร้างเมืองที่ยั่งยืนควบคู่ไปกับการส่งเสริมความเข้าใจด้านวัฒนธรรมระหว่างกัน ซึ่งจะช่วยให้เครือข่ายเมืองอัจฉริยะอาเซียนเป็นพลังในการขับเคลื่อนประชาคมอาเซียนที่มีความเข้มแข็งและนวัตกรรม

ยิ่งใหญ่!"มจร"จับมือ"UNESCAP"เตรียมจัดงานฉลองวิสาขบูชาโลก




ยิ่งใหญ่!"มจร"จับมือ"UNESCAP"เตรียมจัดงานฉลองวิสาขบูชาโลก  27 พ.ค.นี้่ที่ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ พร้อมงานสัมมนานานาชาติที่มหาจุฬาฯ อ.วังน้อย คาดมีชาวพุทธทั่วโลกประมาณ 1,500 รูป/คนร่วมงาน ประกาศท่าทีพุทธต่อการรักษาอัตลักษณ์ที่แตกต่างกันในสังคมยุคดิจิทัล



วันที่ 27 เมษายน 2561  ที่ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ ราชดำเนินนอก กรุงเทพมหานคร  พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส,รศ.ดร. ผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) ผู้อำนวยการวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ ผู้อำนวยการหลักสูตรปริญญาโท และปริญญาเอก สาขาสันติศึกษา ในฐานะทีมเลขานุการคณะกรรมการเตรียมการจัดงานเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชาโลก ครั้งที่ 15  ตามที่ประชุมคณะกรรมการสภาสากลวันวิสาขบูชาโลก และกรรมการสมาคมมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนานานาชาติจาก 18 ชาติ  ที่มีพระพรหมบัณฑิต,ศ.ดร. กรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) อธิการบดี มจร ประธานกรรมการสมาคมฯ และประธานสภาสากลวันงวันวิสาขบูชาโลก เป็นประธาน ได้มีมติให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ เปิดเผยว่า 




ตามที่องค์การสหประชาชาติได้รับรองวันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญสากลของสหประชาชาติ หรือเรียกว่า "United Nations Day of Vesak" นั้น  ทำให้เกิดวัฒนธรรมของชาวพุทธทั่วโลกว่าด้วยการร่วมมือกับองค์การสหประชาชาติเพื่อจัดงานเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชาโลก ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ (United Nations Conference Centre:UNCC) ประเทศไทยเป็นประจำทุกปี ไม่ว่าประเทศใดจะรับเป็นเจ้าภาพในการจัดงานก็ตาม




"วันนี้(27 เมษายน) มหาจุฬาฯร่วมกับเจ้าหน้าที่องค์การสหประชาชาติที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศไทย ได้ประชุมปรึกษาหารือเกี่ยวกับรูปแบบในการจัดงาน ณ ศูนย์ประชุมสหประชาติ ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2561 ตั้งแต่เวลา 08:30 ถึง 16:30 โดยรูปแบบการจัดงานจะเชิญผู้นำทางศาสนาและผู้นำทางการเมือง รวมถึงผู้อำนวยการของ  UN และ UNESCO ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศไทย พร้อมด้วยชาวพุทธจากทั่วโลกประมาณ  1,500 รูป/คน เดินทางมาร่วมพิธีเฉลิมฉลองครั้งนี้ พร้อมทั้งร่วมงานสัมมนานานาชาติที่มหาจุฬาฯ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ระหว่าง 25-26 พฤษภาคม 2561" พระมหาหรรษา กล่าวและว่า



สำหรับงานสัมมนานานาชาติที่มหาจุฬาฯ อ.วังน้อย ระหว่าง 25-26 พฤษภาคม 2561 นั้น นายกรัฐมนตรีประเทศภูฏาน ฯพณฯ เชอริง ล็อปเกย์ จะเดินทางมาเป็นองค์ปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ "คุณูปการพระพุทธศาสนาต่อการพัฒนามนุษย์" หลังจากนั้นจะมีการสัมมนาทางวิชาการโดยเชิญนักวิชาการระดับโลกจาก 5 ทวีปมานำเสนอพุทธปัญญา เพื่อตอบคำถามว่า พระพุทธศาสนาใช้การศึกษามาพัฒนาเยาวชนอย่างไร? พระพุทธศาสนามีรูปแบบที่เหมาะสมต่อการสร้างสวัสดิการทางสังคมอย่างไร? และพระพุทธศาสนามีท่าทีต่อการรักษาอัตลักษณ์ที่แตกต่างกันในสังคมยุคดิจิทัลอย่างไร? จึงจะไม่ทำให้เกิดสงครามและความรุนแรง



พระมหาหรรษา กล่าวด้วยว่า การจัดงานเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชาโลก จึงเป็นการเชื่อมโยงทั้งพิธีการกับวิชาการให้ประสานสอดคล้องกัน พิธีการเป็นการเฉลิมฉลองจึงเป็นอามิสบูชาต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในขณะที่วิชาการเป็นปฏิบัติบูชาต่อพระปัญญาอันทรงค่าที่พระองค์ทรงค้นพบกฏธรรมชาติแล้วนำมาเปิดเผยแก่มนุษยชาติ เพื่อใช้เป็นหลักชัยในการดำเนินชีวิตด้วยความรู้ ตื่น และเบิกบานต่อไป





มติมส.เดือด!ซัดพศ.ไม่ป้องภาพลักษณ์สงฆ์



มหาเถรสมาคม มีมติตั้งคณะทำงานแก้ปัญหากรณีแจ้งความดำเนินคดีพระสงฆ์ พร้อมดูข้อกฎหมายแนวทางแก้ไขต่อมหาเถรเถรสมาคม ชี้ที่ผ่านมาไม่มีใครออกมาชี้แจงให้สังคมเข้าใจ จนเกิดความเสียหายต่อสถาบันพุทธศาสนา ขณะที่"พงศ์พร–ผู้บริหารพศ."ปิดปากเงียบไม่ยอมให้ข่าวต่อสังคม 

วันที่  27 เม.ย.2561 ที่อาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อัมพร อมฺพโร)  ทรงเป็นประธานการประชุมมหาเถรสมาคม(มส.) โดยมีกรรมการมหาเถรสมาคม พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ฐานะเลขาธิการมหาเถรสมาคม เข้าร่วมประชุม  

ทั้งนี้ที่ประชุมมส.ได้มีมติเห็นชอบให้ตั้งคณะทำงานเพื่อประสานงาน และแก้ไขปัญหาที่สำคัญ ซึ่งมีผลกระทบต่อพระพุทธศาสนา มีนายจำนงค์ สวมประคำ อดีตเลขาธิการวุฒิสภาและอดีตสมาชิกวุฒิสภา นายพิสิฏชัย สว่างวัฒนากร พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ นายสมเกียรติ ธงศรี รองผอ.พศ.เป็นคณะทำงาน มีอำนาจหน้าที่ ดังนี้ 

1. รวบรวมข้อเท็จจริง,ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกรณีที่มีการแจ้งความดำเนินคดีกับพระสงฆ์ 2.เสนอแนะข้อกฎหมายและแนวทางแก้ไขปัญหาต่อมส. เนื่องจากที่ผ่านมา เวลาเกิดข่าวที่มีผลกระทบต่อมส.และคณะสงฆ์ ไม่มีใครออกมาชี้แจงให้สาธารณชนได้ทราบข้อเท็จจริง กระทั่งเกิดความเสียหายต่อสถาบันพระพุทธศาสนา ดังนั้น มส.จึงตั้งคณะทำงานดังกล่าวขึ้นมา เพื่อทำหน้าที่ในการรวบรวมข้อมูลปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด ข้อกฎหมาย ในการสนับสนุนแก่คณะสงฆ์ รวมทั้งสร้างความเข้าใจต่อสังคมด้วย         

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้สอบถามความคืบหน้าต่อกรณีการตรวจสอบเงินทอนวัดต่อพ.ต.ท.พงศ์พร โดยพ.ต.ท.พงศ์พร ได้เพียงแต่ยิ้ม และตอบสั้นๆว่า ขอบคุณครับเท่านั้น โดยที่ทางโฆษกพศ.มีเพียงแถลงผลการประชุมเกี่ยวกับ การลงพื้นที่ตรวจโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 เท่านั้น และไม่ยอมแถลงถึงมติการตั้งคณะทำงานดังกล่าวแต่อย่างใด

วันเดียวกัน ดร.วิศร์ อัครสันตติกุล ประธานองค์กรเครือข่ายชาวพุทธ จังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า จากการประชุมร่วมกับพุทธสมาคมจังหวัดขอนแก่น สมัชชาชาวพุทธเพื่อความมั่นคงของชาติจังหวัดขอนแก่น ประธานรวมพลคนพุทธจังหวัดขอนแก่น ได้มีมติออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1/2561 องค์กรชาวพุทธ จังหวัดขอนแก่น ความว่า ปัจจุบันได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระพุทธศาสนา อันเป็นสถาบันหลักของชาติ เป็นการบริหารที่มุ่งหวังทำสถาบันพระมหากษัตริย์และทำลายประเทศชาติ ผ่านการทำลายสถาบันพระพุทธศาสนา โดยกล่าวร้ายต่อพระสงฆ์ผู้เป็นพระมหาเถระและผู้บริหารสถาบันสงฆ์ไทยให้เสื่อมศรัทธา ดังนั้น ขอออกแถลงการณ์ ถึงชาวพุทธไทยและทั่วโลก ดังต่อไปนี้ 1.ไม่เห็นด้วย กับการสนับสนุนการทำงานของผอ.พศ.ทุกกรณี ขอสนับสนุนการยื่นหนังสือของสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย กลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดิน และองค์กรชาวพุทธอื่นๆ
          
2.ขอเรียกร้องให้รัฐบาล คสช. รับผิดชอบการบริหารงานที่สร้างความเสียหายและความแตกแยกให้ชาวพุทธไทยและทั่วโลก ด้วยการปลดผอ.พศ.ให้พ้นจากตำแหน่งอย่างเร่งด่วน 3.ขอเรียกร้องให้รัฐบาล คสช.ดำเนินการตามกฎหมายต่อบุคคลที่บลหลู่ ดูหมิ่นสถาบันพระพุทธศาสนา ไม่ว่ากรณีใดๆ อย่างเคร่งครัดจนถึงที่สุด และ4.ขอเรียกร้องให้รัฐบาล คสช. ส่งเสริม สนับสนุนกิจการทางพระพุทธศาสนาอย่างจริงจัง และจริงใจ เพราะพระพุทธศาสนาได้ร่วมสร้างและพัฒนาชาติ จนมีบทบาทสำคัญต่อชีวิตและจิตวิญญาณของสังคมไทย เป็นศาสนาที่ประชาชนส่วนใหญ่นับถือและสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน




วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2561

ปิดทองหลังพระ!"มจร"หนุนการศึกษาสงฆ์อนัมนิกาย มุ่งพัฒนาศาสนทายาท สานปณิธานสมเด็จเกี่ยว








วันที่ 27 เมษายน 2561 พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส,รศ.ดร. ผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) ผู้อำนวยการวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ ผู้อำนวยการหลักสูตรปริญญาโท และปริญญาเอก สาขาสันติศึกษา เปิดเผยว่า  เปิดเผยว่า พระเดชพระคุณหลวงพ่อสมเด็จพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถระ)  อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร มีวิสัยทัศน์ที่ยาวไกล จึงดำริให้จัดตั้ง "มหาปัญญาวิทยาลัย" ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาของสงฆ์ฝ่ายอนัมนิกาย โดยให้เข้าเป็นสถาบันสมทบของมหาจุฬาฯ และมอบหมายให้พระเดชพระคุณพระพรหมบัณฑิต,ศ.ดร. มส. อธิการบดี มจร สนับสนุนและส่งเสริม เพื่อให้เป็นแหล่งพัฒนาศาสนทายาทของคณะสงฆ์อนัมนิกาย แล้วออกไปสนองงานคณะสงฆ์และสังคม มาบัดนี้พระมหาคณานัมธรรมปัญญาธิวัตร ( เจริญ กิ๊นเจี๊ยวมหาเถระ) อดีตเจ้าคณะใหญ่อนัมนิกายแห่งประเทศไทย ที่เคยเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งวิทยาลัย ได้มรณภาพลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา



ในฐานะมหาวิทยาลัยของรัฐ มหาจุฬาฯ ที่สมเด็จพระปิยมหาราชสถาปนาขึ้นเพื่อให้เป็นแหล่งศึกษาพระไตรปิฏกและวิชาชั้นสูง จึงใช้บทบาทและสถานะดังกล่าว เข้าไปช่วยสนับสนุน และส่งเสริมการจัดการศึกษาของคณะสงฆ์ฝ่ายอนัมนิกายซึ่งสืบเชื้อสายมาจากประเทศเวียดนาม เพื่อใช้การศึกษาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาศาสนทายาทประกาศพุทธธรรมในนามคณะสงฆ์ฝ่ายอนัมนิกายให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป อีกทั้งใช้การศึกษาเป็นเครื่องมือในการศึกษาวิจัยการบริหารจัดการคณะสงฆ์เพื่อให้เอื้อต่อการตอบสนองความต้องการของสังคมโลกภายใต้บริบทที่เปลี่ยงแปลงไป




มหาจุฬาฯ เข้าไปช่วยสนับสนุนมหาปัญญาวิทยาลัยมาเกือบ 20 ปีแล้ว โดยช่วยพัฒนาหลักสูตรปริญญาตรี สาขามหายานศึกษา เปิดการศึกษา ณ วัดถาวรวราราม หาดใหญ่ สงขลา โดยมีท่านองพจนกรโกศล (บุญส่ง เหยี่ยวหาย) ทำหน้าที่กำกับ และดูแลการบริหารจัดการ และเพื่อให้การจัดการศึกษามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มหาจุฬาฯ นำโดยวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ จึงได้เข้าไปช่วยปรับปรุงหลักสูตรให้เป็นหลักสูตรนานาชาติ อีกปรับให้สอดรับกับเกณฑ์ปี 58 บัดนี้สภามหาวิทยาลัยได้อนุมัติหลักสูตรปรับปรุง เพื่อให้เสนอ สกอ. รับทราบต่อไป

"ขณะเดียวกัน เพื่อให้การบริหารจัดการมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ฝ่ายประกันคุณภาพการศึกษา นำโดยพระศรีศาสนบัณฑิต ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายประกันคุณภาพ และกองวิชาการ จึงได้เข้ามาช่วยกำกับและดูแลคุณภาพให้เป็นไปตามเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา โดยมีสำนักทะเบียนและวัดผลเข้ามาช่วยดูแลระบบและกลไกทะเบียนข้อมูลนิสิตทั้งหมด ทั้งไทยและต่างประเทศ" 

"ผลัดและช่วยกันดี ดีทุกคน ชิงกันดี ไม่ดีสักคน” พระเดชพระคุณพระพรหมบัณฑิต,ศ.ดร. อธิการบดีมหาจุฬาฯ ย้ำเตือนผู้บริหารยุคใหม่ของ มจร ให้ตระหนักรู้ และเข้าไปช่วยกันสนับสนุนส่งเสริมซึ่งกันและกัน เพื่อพัฒนาให้สิ่งต่างๆ เจริญเติบโตในทางที่ดี ด้วยเหตุนี้ จึงจำเป็นต้องช่วยคนดี ช่วยกันดี เพื่อให้ความดี และคนดีได้ขยายพื้นที่การทำงานให้กว้างขวางออกไปรับใช้พระพุทธศาสนา ชุมชน และสังคมโลก ดังพุทธประสงค์ที่ว่า "เธอทั้งหลาย จงเที่ยวไป เพื่อกูล เพื่ออนุเคราะห์ เพื่อความสุขแก่ชาวโลก"

พศ.รัฐบาลไทยไม่ดูแล-ร.ร.สวีเดนมั่นใจพระธรรมทูตไทย​!ส่งนร.ฝึกวิปัสสนาปีละ500คน




ร.ร.สวีเดนมั่นใจพระธรรมทูตไทยส่งนร.กว่า500คนฝึกวิปัสสนากรรมฐานและใช้ชีวิตพหุวัฒนธรรมสร้างสันติภาพอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ภายใต้การนำของเจ้าคุณสวีเดน โอดพศ.รัฐบาลไทยไม่ดูแล


วันที่ 27 เม.ย.61 พระวิเทศปุญญาภรณ์ (เจ้าคุณสวีเดน) เจ้าอาวาสวัดดพุทธารามประเทศสวีเดน เลขานุการสหภาพพระธรรมทูตไทยในทวีปยุโรป เปิดเผยว่า  ระหว่างวันที่ 10-25 เมษายน ที่ผ่านมา ได้มีนักเรียนจากโรงเรียนภาครัฐของประเทศสวีเดนซึ่งมีทุกศาสนา ได้มาอบรมศึกษาเรื่องพระพุทธศาสนาที่ประเทศสวีเดน โดยได้นำฝึกวิปัสสนากรรมฐานและการใช้ชีวิตประจำวันเพื่อสร้างสันติภาพในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข 


"โครงการดังกล่าวได้ดำเนินการติดต่อกันมาจนปัจจุบัน 10 ปีแล้ว โดยโรงเรียนในภาครัฐของประเทศสวีเดนจะส่งนักศึกษาเข้าอบรมปีละประมาณ 500 คน  โดยนักเรียนทั้งหมดที่มาเป็นโรงเรียนในภาครัฐที่มาด้วยความสมัครใจ และทุกครั้งจะมีครูชาวสวีเดนเดินทางมาด้วยและในครั้งนี้มีเยาชนจากประเทศไทยร่วมด้วย โดยได้แสดงวัฒนธรรมให้นักเรียนชาวต่างประเทศได้ชม" พระวิเทศปุญญาภรณ์ กล่าวและว่า   

ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับการอำนวยความสะดวกทั้งอาหารและที่พักไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น และนักเรียนที่เข้ารับการอบรมมาจากโรงเรียนต่างๆ นอกจากต่างศาสนาต่างวัฒนธรรมแล้วก็มาจากหลายประเทศ ซึ่งเป็นโครงการที่สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติและรัฐบาลไทยควรเข้าไปดูและให้การสนับสนับสนุน เพราะเป็นการเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่นำสันติภาพสู่ชาวโลกอย่างแท้จริง นี่เป็นอีกบทบาทหนึ่งของพระธรรมทูตไทยที่ทำงานสวนกระแสสังคม ที่สังคมยุโรปกำลังให้ความสนใจเพราะเป็นการสร้างสันติภาพอย่างยั่งยืน จึงเป็นที่ยอมของสังคมโลกทำให้ได้รับการยอมรับให้เป็นผู้นำในการจัดงานประชุมสันติภาพโลกที่ประเทศสวีเดนในเดือนมิถุนายนนี้ 

"พุทธะอิสระ"ฉุนองค์กรพุทธ!ไล่บี้แต่ผอ.พศ. เมินนักร้องแต่งพระ



วันที่ 26 เม.ย.2561 เฟซบุ๊ก หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara) ได้โพสต์ข้อความโดยให้ชื่อเรื่องว่า "นักร้องสายเหลือง ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนา ว่าอย่างไร"  ซึ่งพาดพิงถึงนักร้องที่แต่งกายเลียนแบบพระร้องเพลงที่จังหวัดกำแพงเพชร และมีการเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์เมื่อคืนวันที่ 22 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา
โดระบุว่า "นักร้องสายเหลือง ถ้ามันมีพฤติกรรมน่าเกียจมากๆ ถือว่าพวกเขาขาดความรับผิดชอบต่อพฤติกรรมของตนเอง และสิ่งที่ตนเคารพศรัทธาก็เป็นที่น่าแปลกใจว่า ทีเรื่องแบบนี้ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนา และกลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดินที่เดินสายไปแจ้งความจับคุณพงศ์พร ผอ.สำนักพุทธ ทำไมคนกลุ่มนี้ถึงไม่คิดทำอะไรบ้าง ไหนอ้างนักอ้างหนาว่าพวกตนมีหน้าที่ปกป้องพระพุทธศาสนา ทีเรื่องแบบนี้เป็นการดูหมิ่นภาพลักษณ์ของพระสงฆ์กับไปทำอะไรแต่เรื่องมีคนไปแจ้งความเอาผิดกรรมการมหาเถรข้อหาทุจริตดันออกมาปกป้อง สรุปแล้วจักปกป้องพุทธศาสนาหรือปกป้องอลัชชีกันแน่"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความจริงแล้วเมื่อพฤติกรรมของนักร้องคนดังกล่าวเมื่อได้เปิดเผยทางสื่อออนไลน์แล้วปรากฏว่าเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรซึ่งเป็นจังหวัดที่นักร้องคนดังกล่าวมีภูมิลำเนาอยู่ประสานไปยังเจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชรให้ประสานไปยังผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาประจำจังหวัดกำแพงเพชร จึงเป็นที่มา นางศิริพร เรืองวงศ์ ผอ.พศ.กำแพงเพชร มอบหมายให้นายวชิรกรณ์ วันนู นักวิชาการศาสนาชำนาญการ เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดในข้อหา “แต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์” ขณะเดียวกันนักร้องคนดังกล่าวพร้อมบิดาเข้าพบนายธัชชัย สีสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร และได้ทำหนังสือบันทึกข้อความ ขอแสดงความรับผิดชอบและกราบขออภัยในการกระทำต่อพระธรรมภาณพิลาส เจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร และผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชรเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันเมื่อวันที่ 25 เม.ย.นายประสิทธิ์ วิชัย ตัวแทนองค์กรพิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งชาติ (อพช.) ได้เข้ายื่นหนังสือถึง พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ผอ.พศ.)  ผ่านแก่ ผอ.พศ.เชียงใหม่ ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินการตามกฎหมายกับนักร้องคนดังกล่าวด้วย

เปิดรับสมัครแล้ว!ป.โท-เอก สันติศึกษามหาจุฬาฯ พัฒนาชีวิตและสังคมอุดมสันติ





วันที่ 26 เม.ย.2561 พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส,รศ.ดร. ผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) ผู้อำนวยการวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ ผู้อำนวยการหลักสูตรปริญญาโท และปริญญาเอก สาขาสันติศึกษา เปิดเผยว่า สงครามและความรุนแรงมีจุดเริ่มต้นจากใจ ฉันใด สันติภาพก็เริ่มต้นจากใจ ฉันนั้น   แต่สิ่งเดียวที่จะทำหน้าที่คลี่คลาย ระงับ และดับสงครามและความรุนแรง คือ "สันติภาพ"  ยิ่งหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งสันติภาพออกไปได้อย่างกว้างขวางมากเพียงใด ยิ่งทำให้เชื้อร้ายแห่งสงครามและความรุนแรงหยุดชงัก และเสื่อมสลายตายลงมากเพียงนั้น 


"การเปิดหลักสูตรปริญญาโท และปริญญาเอก สาขาสันติศึกษา ทั้งภาคภาษาไทย และนานาชาติ  เพื่อให้มนุษยชาติเข้ามาศึกษา เรียนรู้ และพัฒนา จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการปิดโอกาสมิให้เชื้อร้ายแห่งสงครามและความรุนแรงเข้ามาทำเกาะกัดกินจิตใจ แล้วหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งสันติภาพลงสู่จิตใจ ให้เมล็ดพันธุ์แห่งสันติสุขได้เจริญเติบโตและงอกงามขึ้นในทุกวินาทีแห่งลมหายใจ" ผู้อำนวยการหลักสูตรปริญญาโทและปริญญาเอก สาขาสันติศึกษา มจร กล่าวและว่า 

"สันติ"  หรือ "ความสุข สงบเย็น"  จากการเรียนหลักสูตรสันติศึกษา จึงเป็นสิ่งที่จะทำหน้าที่เติมเต็มเพื่อสร้างคุณค่าและความหมายแก่ชีวิต สันติศึกษาจึงไม่ใช่วิชาชีพ แต่เป็นวิชาชีวิต  ชีวิตที่เปี่ยมล้นด้วยความสุข สงบ เย็น  ชีวิตที่พร้อมจะหยิบยื่นลมหายใจที่เยือกเย็น และใช้ชีวิตให้เป็นประโยชน์แก่มวลมนุษยชาติ บนพื้นฐานของ "สติ ขันติ และสันติ" 

ทั้งนี้สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ https://www.facebook.com/peace.mcu/posts/2076884512583946

กรมพัฒน์ ร่วม NECTEC ดันแผนพัฒนาแรงงานด้าน AI เป้า 3 ปี 10,000 คน

กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ร่วมกับ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ ดันแผนพัฒนากำลังคนด้านปัญญาประดิษฐ์ เป้าหมาย 10,000 คน ในระยะ...