ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กรกฎาคม, 2022

"อธิการบดีมจร" หนุนนำโคกหนองนาโมเดลเป็นฐานแก้จน คือเทรนด์การพัฒนาของโลก

วันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม 2565   ในการสัมมนาและงานปฐมนิเทศนิสิตสาขาการพัฒนาสังคม คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย  ประจำปี 2565 พระธรรมวัชรบัณฑิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) กล่าวว่า พระพุทธศาสนาเพื่อสังคม ที่จัดการเรียนการสอนในสาขาวิชาการพัฒนาสังคม ของมหาจุฬา เป็นหนึ่งในศาสตร์สาขาที่สำคัญของมหาวิทยาลัยในการพัฒนาสังคมในระดับโลก ด้วยเหตุว่า  พระพุทธศาสนาเพื่อสังคม Engaged Buddhism เป็นหลักการสำคัญของการพัฒนาของโลก ที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals ) ของสหประชาชาติ (UN) และการพัฒนาของประเทศไทย ที่เน้นเรื่อง BCG ที่เป็นการพัฒนาบนฐานทุนทางวัฒนธรรม ซึ่งปรากฏในการพัฒนาของไทย เช่น การพัฒนาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โคกหนองนาโมเดล การพัฒนาเศรษฐกิจฐากรากวิถีพุทธ การเกษตรวิถีพุทธ หรือการพัฒนาเชิงวัฒนธรรมสร้างสรรค์ การแก้ปัญหาความยากจน เป็นต้น ดังนั้น การศึกษาพระพุทธศาสนาเพื่อสังคม จึงเป็นสิ่งสำคัญ  สำหรับการศึกษาพระพุทธศาสนาในระดับสากลนั้น มีรูปแบบการเรียนรู้ใน 3 มิติที่สำคัญ คือ  1) การเรียนรู้พระพุทธศาสนาแบบวิชาการ (

"พช.-มจร ขอนแก่น" เอามื้อสามัคคีปลูกต้นไม้แก้จน ที่แปลง "โคก หนองนา พุทธอารยเกษตร"

เมื่อวันอังคารที่ 19 กรกฎาคม 2565  เวลา 09.30 น. พระโสภณพัฒนบัณฑิต, รศ.ดร. รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) วิทยาเขตขอนแก่น, รองเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น  มอบหมายให้ พระมหาพิสิฐ วิสิฏฺฐปญฺโญ,ดร. ผู้อำนวยการหลักสูตร พุทธบริหารการศึกษาระดับดุษฐีบัณฑิต เป็นประธานฝ่ายสงฆ์พิธีเปิดโครงการ "แบกจอบ เสียม หิ้วปิ่นโต ร่วมสารสัมพันธ์ เอามือสามัคคี"  ที่แปลง โคก หนองนา พุทธอารยเกษตร มจร วิทยาเขตขอนแก่น ภายใต้ความร่วมมือระหว่างพัฒนาชุมชนจังหวัดขอนแก่นกับ มจร วิทยาลัยเขตขอนแก่น  พร้อมด้วยนายพนม  สิงห์สาย มอบหมายให้นายชัยณรงค์  กาญจะนะกันโห ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน พร้อมด้วยนายประดิษฐ์  นัดทะยาย ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาชุมชน  และทีมงานนักวิชาการพัฒนาชุมชน สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดขอนแก่น ลงพื้นที่แปลงโคก หนอง นา พุทธอารยเกษตร มจร ขอนแก่น เพื่อร่วมกิจกรรมโครงการ 130 ปี กระทรวงมหาดไทย : ความสุขสร้างได้ ด้วยใจอาสา "แบกจอบ เสียม หิ้วปิ่นโต ร่วมสานสัมพันธ์เอามื้อสามัคคี"  โคก หนอง นา พุทธอารยเกษตร มจร ขอนแก่น โดยมีนายประจวบ  รักแพทย์ นายอำเภอ

กมธ.ศึกษางบฯสภาฯตั้งคณะทำงานดำเนินการพิจารณางบฯจัดตั้งธนาคารพระพุทธศาสนา

วันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม 2565  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไชยา พรหมา ส.ส. หนองบังลำภู พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ได้ลงนามในคำสั่งของคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร เรื่อง ตั้งคณะทำงานดำเนินการพิจารณางบประมาณเพื่อการจัดตั้งธนาคารพระพุทธศาสนา ความว่า  

สิ่งดีที่ถูกมองข้าม! วันเข้าพรรษาต้นแบบสร้างปรองดองในสังคมไทย

  สิ่งดีที่ถูกมองข้าม! วันเข้าพรรษาต้นแบบสร้างปรองดองในสังคมไทย ดร.สำราญ สมพงษ์  สาขาสันติศึกษา มจร รายงาน วันเข้าพรรษาคือเป็นวันที่พระภิกษุและสามเณรในพระพุทธศาสนาจะทำพิธีกล่าวคำอธิษฐานเข้าพรรษาที่วัดใดวัดหนึ่ง ส่วนใหญ่จะประกอบพิธีในช่วงเย็น ญาติโยมทั้งหลายต้องการได้บุญเพิ่มทั้งข้อทานมัยบุญสำเร็จด้วยการบริจาคทานคือถวายดอกไม้แก่พระภิกษุและสามเณร เพื่อที่ท่านจะนำไปบูชาพระหรือใช้ประกอบในการแสดงสามีจิกรรมก่อนที่จะกล่าวคำอธิษฐานพรรษา หากญาติโยมทั้งหลายต้องการจะได้บุญเพิ่มมากขึ้นไปอีกในข้อ "ธัมมัสสวนมัย" คือการฟังธรรมช่วงที่พระภิกษุและสามเณรทำวัตรเย็นก็จะได้บุญข้อนี้อีกคือทำให้เกิดสมาธิมีจิตใจสงบจะขั้นไหนนั้นก็แล้วแต่ความสามารถของแต่ละบุคคล แต่หากฟังพระภิกษุและสามเณรทำวัตรเย็นเป็นภาษาบาลีนั้นรู้เรื่องก็เท่ากับว่าได้บุญข้อ "ภาวนามัย" อีกคือทำให้เกิดปัญญา หรือตั้งสติรู้เท่าทันเสียงที่พระภิกษุและสามเณรทำวัตรเย็นก็เป็นการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานโดยกำหนดว่ารู้หนอหรือได้ยินหนอ ส่วนศีลนั้นก็คงจะได้รับกันในโอกาสต่างๆ หรือไม่ละเมิดก็คือว่ามีศีลแล้ว เท่ากับว่าเป็นการได้บุญครบทั้ง ทาน

“สุดารัตน์” สั่งว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อิสานลุยทำงานเพื่อพลิกชีวิตคนอิสาน “ให้หายจน หมดหนี้ มีรายได้อย่างยั่งยืน”

“สุดารัตน์” สั่งว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อิสานลุยทำงานเพื่อพลิกชีวิตคนอิสาน “ให้หายจน หมดหนี้ มีรายได้อย่างยั่งยืน” เดินหน้าแคมเปญ “สู้เพื่อคนตัวเล็ก” ด้านว่าที่ผู้สมัครเผยชาวอิสานสนับสนุนคุณหญิงสุดารัตน์ เป็น “นายกฯคนอิสาน”   วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม 2565  ที่จังหวัดร้อยเอ็ด คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วย คณะผู้บริหารพรรค ได้จัดประชุมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคอีสานโซน 2,3   โดยเป็นการประชุมเพื่อเตรียมการสู่การเลือกตั้งใหญ่ ที่กำลังจะมาถึง  โดยคุณหญิงสุดารัตน์ ขอให้ว่าที่ผู้สมัครฯ ทุกคนได้ทุ่มเททำงานให้ประชาชนอย่างเต็มที่ โดยยึดหลักการและอุดมการณ์ของพรรคไทยสร้างไทยอย่างมั่นคง คือ  -ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข -ไม่สนับสนุนเผด็จการอย่างเด็ดขาด -มุ่งมั่นทำงานโดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง มุ่งแก้ความเหลื่อมล้ำโดยเฉพาะ ”คนตัวเล็ก” ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ ด้วยนโยบาย”สร้างโอกาส” และ”กำจัดอุปสรรค” ที่กดทับประชาชน ที่เกิดจากรัฐราชการรวมศูนย์ และกฎหมาย ผู้สมัครทุกคนที่อาสามาเป็นผู้รับใช้ประชาชน ในนามพรรคไทยสร้างไทย ต้องทำงาน และลงพื้นที่อย่างต

“อุตตม” เตรียมจัดทำนโยบาย “คาร์บอนเครดิต” รุกสร้างเศรษฐกิจใหม่-รองรับการแข่งขันภาคเอกชนบนเวทีโลก

“สร้างอนาคตไทย” เปิดบ้านแลกเปลี่ยนความรู้บริหารจัดการคาร์บอน  ชี้ กระแสโลกร้อน เปลี่ยนกติกาขีดการแข่งขันภาคเศรษฐกิจ ต้องวางนโยบาย-กฎหมายให้สอดรับ เพื่อแก้ปัญหาเชิงรุก-เสริมศักยภาพการแข่งขันภาคธุรกิจไทยทั้งใน-ต่างประเทศ วันพุธที่ 13 กรกฎาคม 2565  พรรคสร้างอนาคตไทย จัดสัมมนา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่อง อนาคตตลาดคาร์บอน (Carbon Market) แนวทาง และวิธีการดำเนินการจัดการคาร์บอน โดยได้รับเกียรติจากนายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ร่วมบรรยาย ซึ่งมีผู้เข้าร่วมฟังการบรรยายและร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ประกอบด้วย ผู้บริหารพรรค อาทิ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายวิเชียร ชวลิต ผู้อำนวยการพรรค นายนริศ เชยกลิ่น โฆษกพรรค น.ส.โชนรังสี เฉลิมชัยกิจ รองโฆษก นายธันวา ไกรฤกษ์ รองโฆษกพรรค รวมถึงภาคเอกชน และหน่วยงานระหว่างประเทศ นายอุตตม กล่าวว่า การบริหารจัดการคาร์บอนเป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์ที่ทั่วโลกต้องให้ความสนใจ ซึ่งประเทศไทยได้ตอบรับเงื่อนไขหลาย ๆ อย่างมาจากเวทีโลก โดยการพัฒนาประเทศหลังจากนี้ ในส่วนของนโยบายเศรษฐกิจไม่สามารถละเลยเรื่องดังกล่าวได้ เนื่องจากมีผลกระทบต่อทุ

"ไทยสร้างไทย" จัดใหญ่ชู Soft Power ของดีอีสาน ดึงหมอลำดังรัตนศิลป์อีสานนิวเจนโชว์เต็มวง @ทุ่งกุลามาเดอร์เกษตรวิสัย

พรรคไทยสร้างไทย จัดใหญ่ “มหกรรมคืนความสุข” ให้คนไทย ภายใต้แนวคิด “คนตัวเล็ก…คิดใหญ่” สร้างคนตัวเล็กให้เป็นคนตัวใหญ่ ดึงหมอลำวงดังร่วมโชว์  ชู Soft Power ของดีอีสาน ทั้งดนตรีพื้นบ้าน อาหาร วัฒนธรรม เครื่องแต่งกาย มาเป็นพลังสร้างโอกาส สร้างรายได้ให้คนตัวเล็ก โดยมีพี่น้องพ่อค้าแม่ขาย ประชาชน แห่ร่วมงานแน่น  ช่วงค่ำวันที่ 12 กรกฎาคม 2565  ที่ทุ่งกุลามาเดอร์ อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด พรรคไทยสร้างไทย นำโดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรค นายชัชวาล แพทยาไทย ว่าที่ผู้สมัครส.ส.จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมผู้สมัครส.ส.โซนอีสานกลางกว่า 60 คน จัดงาน "มหกรรมคืนความสุข" ครั้งที่ 1 เป็นประธานเปิดงานงานมหกรรม “คืนความสุข”ให้ประชาชน ภายใต้แนวคิด “คนตัวเล็ก…คิดใหญ่”  ซึ่งถือเป็นงานแฟร์ที่ยิ่งใหญ่เป็นการนำ Soft Power หมอลำวงดังอย่าง รัตนศิลป์อีสานนิวเจนเต็มวงมาจัดแสดง นอกจากนี้ยังมีดนตรีพื้นบ้าน อาหาร วัฒนธรรม เครื่องแต่งกาย เสื้อผ้ารวมถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในแต่ละพื้นที่ของภาคอีสานมาจัดแสดง เป็นการรวมพลังคนตัวเล็ก สร้างความสุขและการสร้างรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคอีสาน หลังต้องประสบกับมรสุมโค

"สมเด็จพระสังฆราช" ประทานพระคติธรรม "วันอาสาฬหบูชา" 2565

วันพุธที่ 13 กรกฎาคม 2565 เจ้าพระคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระคติธรรม เนื่องในวันอาสาฬหบูชา โดยมีใจความว่า ดิถีอาสาฬหบูชาได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่งแล้ว ควรที่สาธุชนจักได้น้อมรำลึกถึงเหตุการณ์ที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงปฐมเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์ ณ อิสิปตนมฤคทายวัน อันเป็นการเริ่มประกาศพระศาสนา ทั้งนี้ท่ามกลางภาวการณ์ปัจจุบัน อันเต็มไปด้วยภยันตรายอันน่าหวาดหวั่นที่หลายคนคิดว่าคงไม่อาจเกิดมีขึ้นแล้ว ก็กลับบังเกิดมีขึ้นอีกทั่วไปในโลก เช่น ภัยสงคราม ทุพภิกขภัย และภัยอาชญากรรมร้ายแรงต่างๆ เป็นต้น ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสวัสดิภาพของผู้คนในวงกว้าง ท่านทั้งหลายพึงหันมาพิจารณาทบทวนอริยมรรค โดยใช้หนทางแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุสำคัญประการหนึ่ง ได้แก่ “สัมมาสังกัปปะ” ซึ่งหมายถึง “ความคิดที่ถูกต้อง” กล่าวคือ ความคิดที่จะลดละความอยากได้อยากมีจนเกินประมาณ ความคิดที่จะไม่พยาบาทจองเวรกัน และความคิดที่จะไม่เบียดเบียนกัน ขอจงช่วยกันระดมความคิดเห็นในทางสันติ ฉลาดในการปรึกษาหารือกันด้วยสัมมาวาจา เพื่อแก้ไขปัญหาของสังคมในทุกระดับ ให้คลี่คลายไปได้ด้วยความอดทนอดกลั้น รู้

ครม.เห็นชอบแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการสภาการศึกษา 28 รูป/คน อาทิ "พระพรหมบัณฑิต"

วันที่ 12 กรกฎาคม 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการสภาการศึกษา คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการสภาการศึกษา จำนวน 28 รูป/คน ดังนี้ 1.นายบุญเลี้ยง ไขษรศักดิ์ กรรมการที่เป็นผู้แทนองค์กรเอกชน 2.นายนุชากร มาศฉมาดล กรรมการที่เป็นผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 3.ศาสตราจารย์เกียรติคุณอมร ลีลารัศมี กรรมการที่เป็นผู้แทนองค์กรวิชาชีพ 4.พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) กรรมการที่เป็นพระภิกษุซึ่งเป็นผู้แทนคณะสงฆ์ 5.พระธรรมวิสุทธาจารย์ (แสวง ธมฺเมสโก) กรรมการที่เป็นพระภิกษุซึ่งเป็นผู้แทนคณะสงฆ์ 6.นายสมัย เจริญช่าง กรรมการที่เป็นผู้แทนคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย 7.นายชัชวัสส์ เศรษฐี กรรมการที่เป็นผู้แทนองค์กรศาสนาอื่น 8.นางสาวกรองทอง บุญประคอง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการศึกษา) 9.ศาสตราจารย์บังอร เสรีรัตน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการศึกษา) 10.นายบุญรักษ์ ยอดเพชร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการศึกษา) 11.นายอำนาจ วิชยาน

"หญิงหน่อย" นำทีมไทยสร้างไทย กราบดร.หลวงพ่อแดง ชมแหนแดงตลาดพุทธเกษตร

"คุณหญิงสุดารัตน์" นำทีมไทยสร้างไทย สมุทรสงคราม  ถกแผนขับเคลื่อนจังหวัด ชูแม่กลองเมืองแห่งการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ทั้งวิถีชีวิต วัฒนธรรม วัดวาอาราม อาหารการกิน ดึงรายได้มหาศาลพัฒนาจังหวัด  เมื่อวันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม 2565   ช่วงค่ำวานนี้ (10ก.ค.) ที่วัดอินทาราม คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย นำทีมงานของพรรค และนายนิทรารัตน์ แพทย์วงษ์ ประธานสภาทยานความ จ.สมุทรสงคราม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคไทยสร้างไทย เดินทางไปที่วัดอินทาราม ต.เหมืองใหม่ อ.อัมพวา เข้านมัสการพระครูพิศิษฏ์ประชานาถ (ดร.หลวงพ่อแดง นันทิโย) รองเจ้าคณะอำเภออัมพวา เจ้าอาวาสวัดอินทาราม เพื่อหารือและรับฟังคำแนะนำต่างๆในการพัฒนาจังหวัดสมุทรสงคราม  ก่อนจะเข้ากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัด เช่น หลวงพ่อโตซำปอกงอายุ 300 ปีภายในโบสถ์มหาอุด พระอรหันต์ 1,650 รูปบริเวณรอบโบสถ์หินอ่อน และกราบไหว้ขอพรท้าวเวสสุวรรณ ซึ่งบนเกตุบรรจุผงพระสมเด็จวัดระฆัง นอกจากนี้ยังชมตลาดพุทธเกษตรและให้อาหารปลาตะเพียนในคลองแควอ้อมหน้าวัดและชมหิ่งห้อยบนบกบริเวณท่าน้ำวัดอินทารามอีกด้วย คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า จ.สมุทร

เพื่อไทยเดินหน้าแลนด์สไลด์ เปิดตัว 21 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.

วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม 2565  นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมาและเลขาธิการพรรค นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รองประธานยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง นายพิชัย นริพทะพันธ์ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม. และนางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรค ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. พรรคเพื่อไทยจำนวน 21 คน ที่จะมาเป็นตัวแทนของพรรคในการทำงานร่วมกับพี่น้องประชาชนในแต่ละพื้นที่ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว กล่าวว่า การเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ของพรรคเพื่อไทยในวันนี้ เพื่อต้องการบอกกับพี่น้องประชาชนเจ้าของอำนาจที่แท้จริงว่าพรรคพร้อมทำงานกับพี่น้องประชาชนเพื่อนำพาทุกท่านให้พ้นวิกฤต ด้วยการนำเสนอบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในการที่จะเป็นผู้แทนของพี่น้องประชาชนมาทำงานในระดับประเทศ และหลังจากนี้ก็จะมีการเปิดตัวในส่วนของภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ โดยตั้งใจจะดำเนินการให้แล้วเสร็จในช่วง 2-3 เดือนนี้ หลังจากนั้นก็ตัวแทนของพรรคจะล

เยือนเมืองดอกบัว “มหานคร” แห่ง โคก หนอง นา

“ทีมข่าวพิเศษ”  รับรู้เรื่องราวการทำ  “โคก หนอง นา”  ตั้งแต่ สุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ครั้งดำรงตำแหน่งเป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนแล้วว่า “จังหวัดอุบลราชธานี” เป็นจังหวัดที่ขับเคลื่อนโครงการ โคก หนอง นา หรือชื่อเต็มว่า “โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา" อย่างเข้มข้นและได้ผลมากมีประชาชนให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมมากที่สุดในประเทศไทยถึง  4,044 แปลง แบ่งออกขนาด 15 ไร่จำนวน 71 แปลง ขนาด 1 ไร่จำนวน 3,973 แปลง รวมพื้นที่ 9,474 ไร่  การขับเคลื่อนที่มีผลสัมฤทธิ์แบบนี้ นอกจากมีการบูรณาการภาครัฐที่เข้มแข็งแล้ว ยังมีภาคีเครือข่ายภาคประชาสังคมที่เข้าร่วมทำงานกับภาครัฐอย่างเข้มแข็งด้วย โดยเฉพาะจังหวัดอุบลราชธานีมีที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นพระภิกษุถึง 2 รูป ทั้งจากคณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุติกนิกายและคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย คือ พระปัญญาวชิรโมลี และ พระพิพัฒน์วชิโรภาส ซึ่งทั้ง 2 รูปถือว่าเป็นพระที่ขับเคลื่อนเรื่องเศรษฐกิจฐานรากในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้ประชาชนอยู่ดีกินดี อันตั้งอยู่บนฐานเศรษฐกิจพอเพียงเจริญตามรอยศาสตร์ของพระราชาอย่างได้มรรคได้ผ

"สร้างอนาคตไทย" จัดใหญ่ ระดมกูรู กู้วิกฤตเศรษฐกิจ ชี้ "โลกเปลี่ยนไทยต้องปรับ"

"พรรคสร้างอนาคตไทย" เปิดเวทีถกทางออกวิกฤตเศรษฐกิจ  “บัณฑิต” ชี้แก้เงินเฟ้อด่วนก่อนเศรษฐกิจติดหล่ม ด้านเอกชนมั่นใจเอกชนไทยยังมีศักยภาพสูงขอเพียงรัฐบาลสนับสนุนให้ตรงจุด ขณะที่เอสเอ็มอีและภาคท่องเที่ยว วอนช่วยเร่งแก้ปัญหาการเข้าถึงแหล่งทุนที่ยังไม่มีประสิทธิภาพ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2565 ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ พรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) จัดเสวนา “เจาะลึกวิกฤติร่วมคิดทางออก” ถกนักวิชาการ นักธุรกิจชั้นนำ ประกอบด้วย ดร.บัณฑิต นิจถาวร ประธานมูลนิธินโยบายสาธารณะเพื่อสังคมและธรรมาภิบาล นายกิตติ พรศิวะกิจ  ประธาน Smart Tourism สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย น.ส.จรีพร จารุกรสกุล ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น และนายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย โดยมีนายสันติ กีรนันทน์ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย เป็นผู้ดำเนินรายการ เพื่อหาทางออกของวิกฤติเศรษฐกิจประเทศ สะท้อนปัญหา และเสนอแนะแนวทางแก้ถึงรัฐบาล  โดยนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานครั้งนี้ว่า งานวันนี้เราตั้งใจให้

"อนุชา" เข้าวัดหนองป่าพง เชิญร่วมปฎิบัติธรรม วันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม 2565 นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถวายเทียนจำนำพรรษา ผ้าอาบน้ำฝน และกระติกต้มน้ำร้อนแด่พระเทพวชิรญาณ (เลี่ยม ฐิตธมฺโม) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 10 เจ้าอาวาสวัดหนองป่าพง เนื่องในเทศกาลวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ประจำปี 2565 ณ วัดหนองป่าพง ตำบลโนนผึ้ง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมกันนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังได้ร่วมแกะลายเทียน ติดพิมพ์บนต้นเทียน ณ วัดมหาวนาราม พระอารามหลวง ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดอุบลราชธานี นายอนุชาฯ กล่าวว่า ในปีนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ลดความรุนแรงลง โดยภาครัฐได้ผ่อนปรนหลายมาตรการเพิ่อให้ประชาชนกลับมาใชัชิวิตได้ใกล้เคียงสถานการณ์ปกติมากที่สุด เนื่องในเทศกาลวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษานี้ ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนได้น้อมระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย และได้เข้าวัดปฏิบัติธรรม บำเพ็ญจิตตภาวนา รักษาศีล ลด ละ เลิกอบายมุข สืบทอดพระพุทธศาสนา และมีส่วนร่วมทำกิจกรรมทางศาสนาร่วมกับครอบครัว ซึ่งทุกวัดทั่วประเทศไทย ได้เปิดให้ป

“อลงกรณ์” เชื่อมั่น“12 ก้าวใหม่ที่กล้าเดิน”คือคานงัดปฏิรูปสร้างจุดเปลี่ยนนำไทยสู่เกษตรมูลค่าสูงตอบโจทย์Next Normal

   วันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม 2565 นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ เขียนบทความเผยแพร่ในโลกโซเชียลมีเดีย วันนี้(9 ก.ค.)เรื่อง “12 ก้าวใหม่ที่กล้าเดิน มิติใหม่การปฏิรูปภาคเกษตรของไทย” โดยเชื่อมั่นว่าเป็นคานงัดการปฏิรูปภาคเกษตรกรรมและกระทรวงเกษตรฯ.ยุค”รัฐมนตรีเฉลิมชัย”เพื่อสร้างจุดเปลี่ยนในมิติต่างๆอย่างน่าสนใจ “12 ก้าวใหม่ที่กล้าเดิน มิติใหม่การปฏิรูปภาคเกษตรของไทย โดย อลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ. รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ 9 กรกฎาคม 2565     ท่ามกลางวิกฤติโควิด19และสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ส่งผลกระทบกว้างไกลทำให้เศรษฐกิจประเทศต่างๆชะลอตัว ราคาน้ำมัน ราคาปุ๋ยและอาหารสัตว์แพงขึ้น กระทบต่อราคาและระบบผลิตอาหารทั่วโลก เกิดภาวะเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น    นับเป็นวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่ที่ยาวนานมากว่า2ปีที่ยังไม่มีใครคาดเดาว่าจบลงเมื่อใด    แต่ในวิกฤติมีโอกาสเสมอ    องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ(FAO)วิเคราะห์ว่าโลกกำลังเผชิญกับภาวะขาดแคลนอาหารที่รุนแรงมากขึ้นโดยเฉพาะประเทศที่ขาดความมั่นคงทางอาหาร และนี่คือโอกาสของไทยในฐานะประเทศผู้ส่งออกอาหารอันดับ13ของโลกที่จะปฏิรูปตัวเ