ท่อน 1
(ช้าและเศร้า)
เสียงแห่งเวรกรรม ดังก้องในใจ
เพลิงที่เผาไหม้ ไม่เคยเลือนหาย
เคยหลงผิดไป ทำให้ใครต้องช้ำ
วันนี้จึงต้องรับ เวรที่ก่อเอาไว้
ท่อนฮุก
(ทำนองเน้นหนัก)
สัตตปุตตา ลมหายใจสิ้นลง
ทุกข์ที่ไม่พ้น วนเวียนในกรรม
หิวโหยทุกครา โทษทัณฑ์ที่ทำ
เวียนว่ายในช้ำ เพราะคำสาบาน
ท่อน 2
(บอกเล่าความผิดในอดีต)
วันนั้นใจร้าย ดูหมิ่นสามี
เผลอทำร้ายชีวี ของลูกในครรภ์
พูดคำสบถ ท้าทายสวรรค์
วันนี้จึงต้องเจอ ผลกรรมเช่นนี้
ท่อนฮุก (ซ้ำ)
สัตตปุตตา ลมหายใจสิ้นลง
ทุกข์ที่ไม่พ้น วนเวียนในกรรม
หิวโหยทุกครา โทษทัณฑ์ที่ทำ
เวียนว่ายในช้ำ เพราะคำสาบาน
ท่อนจบ
(ช้าและอ่อนโยน)
ทุกสิ่งสะท้อน ศีลธรรมในใจ
ขอทุกคนได้ยึดมั่น ไม่หลงผิดไป
อย่าให้กรรมลามถึงภพใหม่
เพื่อได้พ้นทุกข์ ไปสู่สุขอันงดงาม
วิเคราะห์ "สัตตปุตตขาทิกเปตวัตถุ" ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 26 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 18 ขุททกนิกาย เปตวัตถุ
บทนำ
“สัตตปุตตขาทิกเปตวัตถุ” เป็นเรื่องราวในพระไตรปิฎกที่สะท้อนถึงผลแห่งกรรมในเปตภูมิ โดยเนื้อหานี้อยู่ในขุททกนิกาย เปตวัตถุ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 18 ซึ่งเน้นการอธิบายบุพกรรมและผลแห่งกรรมที่ทำให้เกิดความทุกข์ในภพภูมิของเปรต เรื่องราวนี้มีจุดเด่นในการชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของศีลธรรม การกระทำ และผลของการพูดเท็จ (มุสาวาท) อันเป็นตัวอย่างของพุทธสันติวิธีที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในปัจจุบันได้
วิเคราะห์เนื้อหา
1. ลักษณะของเปรตใน "สัตตปุตตขาทิกเปตวัตถุ"
เปรตในเรื่องนี้มีลักษณะพิเศษ คือเปลือยกาย มีผิวพรรณเลวทราม ส่งกลิ่นเหม็นฟุ้ง มีแมลงวันตอม และต้องประสบทุกข์อย่างแสนสาหัสจากการคลอดบุตรครั้งละ 7 ตนในเวลาเช้าและเย็น และกินบุตรทั้งหมดด้วยความหิวโหย นี่เป็นภาพสะท้อนความน่าสะพรึงกลัวของผลแห่งกรรมในเปตภูมิ ซึ่งอธิบายถึงความทุกข์ทรมานที่เกิดขึ้นจากการกระทำในอดีต
2. บุพกรรมของเปรต
หญิงเปรตในเรื่องเล่าถึงกรรมที่ตนได้กระทำไว้ คือ
การคิดร้ายและทำให้ภรรยาใหม่ของสามีแท้งบุตร โดยภรรยาใหม่มีครรภ์ได้เพียง 3 เดือนเท่านั้น
การกล่าวมุสาวาทเพื่อปกปิดความผิดของตน โดยสบถว่าหากตนเป็นผู้ทำให้ภรรยาใหม่แท้งบุตร ขอให้ต้องกินบุตรของตนเองในภายหน้า
ผลกรรมจากการกระทำดังกล่าว ทำให้หญิงผู้นี้ต้องเกิดในเปตภูมิและประสบความทุกข์ตามคำสบถที่ได้กล่าวไว้
3. การสะท้อนหลักธรรม
เรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงหลักธรรมสำคัญหลายประการ ได้แก่:
ผลของกรรม (กัมมวิบาก): การกระทำที่ไม่ดีทั้งทางกาย วาจา และใจ ล้วนส่งผลต่อการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏ
ความสำคัญของศีล: การรักษาศีล 5 โดยเฉพาะข้อ 4 (มุสาวาทา เวรมณี) เป็นสิ่งสำคัญยิ่ง หากละเมิดศีลนี้ ย่อมก่อให้เกิดผลกรรมร้ายแรง
อำนาจของความคิดและคำพูด: การคิดร้ายต่อผู้อื่นและการกล่าวคำสบถที่ไม่ดี สามารถกลายเป็นผลกรรมที่ย้อนกลับมาส่งผลต่อผู้กล่าวเอง
4. พุทธสันติวิธีในปริบทของ "สัตตปุตตขาทิกเปตวัตถุ"
พุทธสันติวิธีสามารถนำมาใช้ในบริบทนี้ได้ดังนี้:
การป้องกันและลดความขัดแย้ง: หากหญิงในเรื่องได้ปฏิบัติตามหลักการเมตตา กรุณา และอภัยทาน ความขัดแย้งระหว่างเธอและภรรยาใหม่ของสามีคงไม่เกิดขึ้น ผลกรรมร้ายแรงจึงอาจหลีกเลี่ยงได้
การปฏิบัติธรรมเพื่อแก้ไขความผิด: การยอมรับความผิดและปฏิบัติบูชา เช่น การบำเพ็ญศีล ทาน และภาวนา สามารถช่วยลดผลกระทบจากกรรมและนำไปสู่ความสงบในจิตใจ
บทสรุป
“สัตตปุตตขาทิกเปตวัตถุ” เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของผลแห่งกรรมในพระพุทธศาสนา เรื่องนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงผลของการกระทำในทางลบ แต่ยังเป็นการเตือนให้ตระหนักถึงความสำคัญของศีลธรรมในชีวิตประจำวัน พุทธสันติวิธีสามารถนำมาใช้เป็นแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในสังคม โดยเน้นการปลูกฝังคุณธรรมและการสร้างความสามัคคี ทั้งนี้ การนำหลักธรรมเหล่านี้มาประยุกต์ใช้ จะช่วยให้เกิดความสงบสุขในชีวิตและสังคมโดยรวม
https://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=26&A=3077
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น