วันเสาร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2568

เพลง: "ปลดปล่อยด้วยปัญญา"

 เพลง: "ปลดปล่อยด้วยปัญญา"

(ทำนอง: แบบเพลงบรรเลงไทยเดิมหรือโทนที่สงบ นุ่มนวล)

ท่อน 1
(ช้าๆ สงบ)
โอ้พ่อเอย เหตุใดจึงทุกข์หนักหนา
ร้องไห้ถึงกระดูกปู่นานา
สิ่งล่วงไปอย่าถือไว้ในใจ

ท่อน 2
(ทำนองเสริมขึ้น)
โคตัวนี้ยังนอนนิ่ง ไม่ไหวกาย
แต่เหตุใดพ่อร้องไห้ไม่คลาย
ข้าสอนพ่อด้วยถ้อยคำจริงแท้
ให้พ่อแลความจริงในทางธรรม

ท่อนฮุก
(เร่งจังหวะนิดหน่อย ให้คลายความเศร้า)
ปลดปล่อยทุกข์ด้วยปัญญา
ดั่งไฟไหม้จงดับด้วยธารา
ความเศร้าโศกดั่งลูกศรปักอกมา
ถอนมันด้วยใจเข้าใจธรรม

ท่อน 3
(ช้าลง สงบ อ่อนโยน)
อย่ายึดมั่นในสิ่งลวงตา
อนิจจังธรรมดาอย่ากังวล
พ่อเอ๋ยจงฟังคำของลูกคน
ปัญญาดลให้ใจเย็นเป็นสุขเอย

ซ้ำฮุก (จบ)
(ทำนองสงบ สรุป)
ปลดปล่อยทุกข์ด้วยปัญญา
ดั่งไฟไหม้จงดับด้วยธารา
ความเศร้าโศกดั่งลูกศรปักอกมา
ถอนมันด้วยใจเข้าใจธรรม

วิเคราะห์ ๘. โคณเปตวัตถุ ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 26 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 18 ขุททกนิกาย เปตวัตถุ ในปริบทพุทธสันติวิธี: หลักธรรมประยุกต์ใช้

บทนำ

“โคณเปตวัตถุ” เป็นวรรคสำคัญในพระไตรปิฎก ขุททกนิกาย เปตวัตถุ ที่สอดแทรกหลักธรรมเกี่ยวกับการปลอบประโลมและการแก้ทุกข์ให้กับผู้เศร้าโศก โดยเนื้อหาเน้นไปที่บทสนทนาระหว่างสุชาตกุมารกับบิดา ซึ่งช่วยคลี่คลายความทุกข์ทางใจผ่านการใช้เหตุผลและคำสอนทางธรรม บทนี้สะท้อนถึงพุทธสันติวิธีที่นำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างลึกซึ้ง

สาระสำคัญของโคณเปตวัตถุ

เหตุการณ์หลัก:

ในโคณเปตวัตถุ กุฎุมพีผู้เป็นบิดากำลังเศร้าโศกเสียใจต่อการสูญเสียบิดาของตน สุชาตกุมาร ผู้เป็นบุตร พยายามปลอบโยนบิดาโดยตั้งคำถามที่กระตุ้นให้บิดาพิจารณาความไม่สมเหตุสมผลของการยึดติดในสิ่งที่ผ่านพ้นไปแล้ว

บทสนทนาเด่น:

  1. คำถามของกุฎุมพี: กุฎุมพีเห็นสุชาตกุมารให้อาหารโคที่ตายแล้ว จึงกล่าวตำหนิเพราะเห็นว่านั่นเป็นการกระทำที่ไร้ประโยชน์และขาดปัญญา

  2. คำตอบของสุชาตกุมาร: สุชาตกุมารตอบกลับด้วยเหตุผลว่า การร้องไห้คร่ำครวญถึงกระดูกของผู้ล่วงลับไปแล้วนั้น เป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์เช่นกัน พร้อมทั้งเปรียบเทียบให้เห็นชัดเจนถึงความไม่สมเหตุสมผลในพฤติกรรมของบิดา

  3. ผลลัพธ์: กุฎุมพีตระหนักถึงความจริง และยอมรับคำสอนของสุชาตกุมาร เขารู้สึกผ่อนคลายจากความโศกเศร้า เปรียบเสมือนลูกศรแห่งความทุกข์ถูกถอนออกจากใจ

การประยุกต์พุทธสันติวิธีในโคณเปตวัตถุ

  1. การใช้เหตุผลแทนการตำหนิ: สุชาตกุมารเลือกใช้วิธีอธิบายด้วยเหตุผลและการเปรียบเทียบที่ชัดเจนเพื่อให้บิดาเข้าใจถึงความจริง โดยไม่ใช้คำพูดที่รุนแรงหรือบั่นทอนจิตใจ

  2. การแก้ทุกข์ด้วยปัญญา: พุทธสันติวิธีเน้นการปลดเปลื้องความทุกข์ผ่านปัญญา การตั้งคำถามของสุชาตกุมารช่วยให้กุฎุมพีเกิดการไตร่ตรองและตระหนักถึงความไม่เที่ยงของชีวิต

  3. การแสดงความกตัญญู: สุชาตกุมารปฏิบัติต่อบิดาด้วยความเคารพและหวังดี แม้ในยามที่บิดากำลังหลงอยู่ในความเศร้าโศก ซึ่งแสดงถึงบทบาทของบุตรที่มีความกตัญญูในสังคมพุทธ

หลักธรรมที่ปรากฏในโคณเปตวัตถุ

  1. อริยสัจ 4: • ทุกข์: ความเศร้าโศกของกุฎุมพีต่อการสูญเสียบิดา • สมุทัย: การยึดติดในอดีตและความไม่ยอมรับความจริง • นิโรธ: การดับทุกข์ผ่านการปล่อยวางและใช้ปัญญาพิจารณา • มรรค: การใช้เหตุผลและคำสอนทางธรรมเพื่อแก้ปัญหา

  2. ไตรลักษณ์: การยอมรับความไม่เที่ยง (อนิจจัง) และความว่างเปล่าของสังขารช่วยให้กุฎุมพีหลุดพ้นจากความทุกข์

  3. กตัญญูกตเวที: สุชาตกุมารแสดงบทบาทของผู้มีปัญญาที่ช่วยชี้ทางแห่งความสุขสงบให้แก่บิดา

บทสรุป

“โคณเปตวัตถุ” แสดงให้เห็นถึงพุทธสันติวิธีในมิติของความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและการแก้ไขปัญหาทางจิตใจ โดยใช้ปัญญา ความเมตตา และความเข้าใจในหลักธรรมเป็นเครื่องมือ ความสำคัญของเรื่องนี้ไม่เพียงอยู่ที่การปลอบโยนผู้เศร้าโศก แต่ยังเป็นตัวอย่างของการประยุกต์ใช้ธรรมะในชีวิตประจำวันเพื่อความสงบสุขในสังคมอีกด้วย

https://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=26&A=3104

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพลง: นางเปรตเคยมาเป็นมารดพระสารีบุตร

เพลง: กฎแห่งกรรมและสายใยบุญ (ท่อนขึ้นต้น) ฟังเถิดโยม ฟังเรื่องราวแห่งกรรม แม่ผู้หลงผิดทำกรรมหนักเกิน เคยแต่สร้างบาป ไม่รู้หนทางเดิน เวียนว่...