ต้องยอมรับความจริงกันว่าสังคมไทยปัจจุบันนี้เล่นกีฬาสีกันอย่างเข้มข้นไม่มีแนวโน้มที่จะถอดเสื้อกันเสียที แบ่งฝ่ายกันเล่นอย่างชัดเจน ประกาศให้ชัดกันไปเลยว่าสังกัดค่ายไหน และพฤติกรรมดังกล่าวนี้ก็ลามไปถึงในวัด บางรูปก็ลงสนามเล่นกับเขาด้วยไปร่วมจัดรายการกับสีนั้นสีนี้ บางรูปก็ถูกหมายหัวจากอีกสีหนึ่ง แล้วจะอยู่กันแบบนี้อีกนานหรือไม่หรือว่าสนุกดี เป็นแนวทางที่ถูกต้องแล้ว ก็ยากที่จะหาทางปรองดองกันได้ เลิกเล่นกีฬาสีกันเสียที
แนวทางในการเลิกเล่นกีฬาสีก็มีอยู่เป็นแต่เพียงว่าจะปฏิบัติกันหรือไม่เท่านั้น อย่างเช่นแนวทาง "ปัญจสดมถ์" ของพระมหาหรรษา ธมฺมหาโส ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิชาการมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย นักศึกษาหลักสูตรการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยสำหรับนักบริหารระดับสูง (ปปร.) รุ่นที่ 15 สถาบันพระปกเกล้า ที่กลั่นออกมาเป็นหนังสือเล่มหนึ่ง (ดูรายละเอียดได้ที่ http://www.undv.org/vesak2012/book/national_values.pdf)
ขณะเดียวกันนักศึกษา ปปร. รุ่นที่15 นี้มีทั้งส.ส. ส.ว. ผู้บริหาร นักวิชาการ โดยได้ตั้งชื่อกลุ่มว่า "กลุ่มดอกบัว" และเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2555 พระมหาหรรษาได้แจ้งทางเฟซบุ๊คระบุว่า อาจารย์มนตรี ตันวิรัตน์ สภาวิชาการสถาบันพระปกเกล้า ในฐานะที่ปรึกษา ได้นัดนักศึกษา ปปร. 15 กลุ่มดอกบัวมา สรุปรายงานกลุ่ม เรื่อง "ค่านิยมแห่งชาติต่อการสื่อสารทางการเมืองเพื่อสร้างความปรองดอง" ณ สถาบันพระปกเกล้า เพื่อนำเสนองานกลุ่มในวันที่ 31 มิ.ย. - ๒ ก.ค.2555 และมีการแนบลิ้งค์หนังสือดังกล่าว
ได้เข้าไปอ่านเนื้อหาแล้วก็ต้องยอมรับว่าถูกพาดพิงอยู่ไม่น้อย และก็ต้องรับความจริงว่าเป็นเช่นนั้นจริง ส่วนจะมีเปอร์เซ็นเท่าไรนั้นก็ยากที่จะทราบได้ เพราะหนึ่งก็ถือว่าเป็นอาชีพที่ต้องปฏิบัติงาน แต่พื้นฐานจิตจองการปฏิบัติงานเข้าใจว่าตัวเองตั้งอยู่ในหลักของสัมมาทิฏฐิ หวังความสงบสุขเป็นที่ตั้ง และก็เห็นว่าเนื้อหาแห่งหนังสือนี้น่าจะเป็นทางออกได้ถ้าลดทิฐิ ลดสี ลดแบ่งภาค ลดแบ่งพรรค แล้วปฏิบัติจริง จึงขอเชิญชวนได้เข้าไปอ่านกันตางลิ้งค์ดังกล่าวเถิด ส่วนที่พาดหัวเป็น "มจร." ก็เพราะพระมหาหรรษาเป็นผลผลิตแห่ง มจร.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น