วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

#มายาคติจริยธรรมสื่อ ซับซ้อน และซ่อนเงื่อน

วันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563    จักร์กฤษ เพิ่มพูล
4 ชม. ·
#มายาคติจริยธรรมสื่อ
ซับซ้อน และซ่อนเงื่อน

ปรากฎการณ์การรายงานข่าวในสถานการณ์อ่อนไหว ที่จังหวัดนครราชสีมา เสนอคำถามว่าด้วยจริยธรรมสื่อที่แหลมคมยิ่ง ขณะเดียวกัน ก็มีข้อเสนอที่หลากหลายจากสังคม ทั้งนักจิตวิทยา นักอาชญาวิทยา สื่อมวลชน นักวิชาการ ทั้งข้อเสนอในแง่ทฤษฎี แนวปฎิบัติ รวมทั้งกฎหมายที่มี “สภาพบังคับ” และเป็นประเด็นที่สื่อมวลชนปฎิเสธมาโดยตลอด

ในขณะที่ยังไม่มีกฎหมายเฉพาะในการกำกับการทำงานของสื่อ ก็มีข้อเสนอให้ใช้สถานะคู่สัญญาระหว่างคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)กับสถานีโทรทัศน์ดิจิตอล ตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.๒๕๕๑ จัดการสื่อที่ละเมิด

โดยเฉพาะมาตรการเข้มให้สั่งพักใช้ เพิกถอนใบอนุญาต หรือระงับการออกอากาศชั่วคราว

ตามกฎหมายมีเพียงกรณีเดียวที่จะใช้อำนาจตามมาตรการนี้ คือเนื้อหาที่เกี่ยวกับความมั่นคง และต้องเป็นกรณีที่เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง แต่หากเป็นกรณีที่คาบเกี่ยวกับจริยธรรม ไม่ใช่ความผิดตามกฎหมายโดยตรง เช่น การรายงานข่าวที่เป็นปัญหาในการปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจ การซ้ำเติมชะตากรรมของผู้สูญเสีย การเสนอภาพข่าวที่สยดสยอง หรือการเสนอข่าวที่เป็นการลดทอนเกียรติยศ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของบุคคลอื่น กฎหมาย กสทช.ให้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการองค์กรวิชาชีพพิจารณา

แปลว่า ถ้าเป็นเรื่องผิดจริยธรรม ก็ยังต้องกลับมาที่องค์กรวิชาชีพ ที่เป็นองค์กรออกคำเตือนไม่ให้สื่อละเมิดจริยธรรมในตอนต้น และเป็นองค์กรเดียวกับที่กรรมการเป็นผู้ปฎิบัติงานในองค์กรสื่อที่ละเมิดจริยธรรมนั้นเอง

ดังนั้น จึงไม่ควรคาดหวัง กสทช.ว่าจะเป็นยาวิเศษแก้โรคร้ายเรื่องการละเมิดจริยธรรมของสื่อได้

คำถามจึงมีว่า เช่นนั้น ควรมีกฎหมายมากำกับ ดูแลจริยธรรมสื่อโดยตรงหรือไม่

โดยหลักการกำกับ ดูเรื่องเรื่องจริยธรรมสื่อ ไม่มีประเทศไหนในโลกใช้กฎหมายกำกับสื่อ นอกจากประเทศสังคมนิยม แต่สำหรับประเทศไทย บทเรียนการละเมิดจริยธรรมของสื่อที่ผ่านมา โดยเฉพาะในยุคที่ภูมิทัศน์สื่อเปลี่ยนไป มีสื่อที่หลากหลายมากขึ้น คนๆเดียวที่มีสมาร์ทโฟนอยู่ในมือก็อ้างความเป็นสื่อได้ เป็นเจ้าของเพจที่ไม่เคยเรียนรู้เรื่องหลักการที่มีความรับผิดชอบก็เป็นสื่อได้ อาจมีความจำเป็นต้องมีกฎหมายกำกับสื่อ แต่เป็นกฎหมายที่เป็นเพียง “กลไกเสริม”มิใช่ “กลไกหลัก” ในการกำกับสื่อ

การกำกับดูแลโดยมาตรการทางสังคม ยังเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับเรื่องจริยธรรม และการกำกับโดยองค์กรวิชาชีพ หรือการกำกับกันเอง ก็ยังเป็นวิธีที่ดีที่สุดในบริบทของสังคมไทย การส่งเสริมการรวมกลุ่ม โดยให้แต่ละกลุ่มจัดทำมาตรฐานทางจริยธรรมขึ้นมาดูแลกันเอง ผลักให้ผู้ที่แอบแฝงมาใช้สถานะความเป็นสื่อ ออกไปอยู่นอกวง และใช้กฎหมายกำกับโดยตรงอย่างเข้มงวด คือวิธีการที่อาจเป็นความหวังในการกำราบสื่อนอกคอกได้

หาไม่แล้ว เราก็จะวิพากษ์วิจารณ์ ถกเถียงกันไม่รู้จบ ในเรื่องที่ต่างคน ต่างมอง ต่างคน ต่างคิด ตามความรู้และพื้นฐานข้อมูลที่แตกต่างกัน ซึ่งไม่มีใครผิด ใครถูก

ผมขอเสนอให้ ทบทวนร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ...ซึ่งได้เสนอให้คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ) พิจารณา และผ่านความเห็นชอบแล้ว มาทบทวน และเสนอเป็นทางออกอีกทางหนึ่งให้กับสังคมไทย ในยามที่เรามองว่าสถาบันสื่อคือจำเลยของสังคมวันนี้

มีสื่ออีกจำนวนมาก ที่เป็นสื่อน้ำดี และทำงานตามวิชาชีพอย่างเคร่งครัด ไม่ต้องชื่นชมยินดีก็ได้ แต่ขอให้เข้าใจเขาและใช้ความเมตตาหาทางออกสำหรับสื่อที่ละเมิด มากกว่าจะเพ่งโทษคนอื่นแต่ฝ่ายเดียว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พระเครื่องเสริมโชคลาภ: เคล็ดลับความเชื่อและการบูชาสำหรับธุรกิจรุ่งเรือง

ความเชื่อและการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่มีมาเนิ่นนานและเป็นที่นิยมสำหรับธุรกิจค้าขาย โดยเจ้าของกิจการมักนำเครื่องรางมาบูชาเพื่อเสริมความเจริญ...