ภาวะหิวแสงนิยมเป็นปรากฏการณ์ที่มีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อสังคมไทย โดยส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและความสัมพันธ์ทางสังคม รวมถึงเปลี่ยนแปลงค่านิยมของสังคมไปในทิศทางที่ให้ความนิยม
ภาวะหิวแสงนิยม หรือการแสวงหาการยอมรับและความสนใจจากสังคม ได้กลายเป็นปรากฏการณ์ที่พบได้มากในสังคมไทยยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะในยุคดิจิทัลที่สื่อสังคมออนไลน์กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของผู้คน ภาวะนี้เป็นที่สนใจของนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ถึงแนวคิด แนวปฏิบัติ และอิทธิพลที่เกิดขึ้นต่อสังคมไทย บทความนี้จะพิจารณาถึงภาวะหิวแสงนิยมในมิติที่ลึกซึ้งขึ้น และเสนอแนะแนวทางนโยบายเพื่อสร้างความตระหนักรู้และการใช้สื่อในทางที่เหมาะสมในสังคมไทย
แนวคิดของภาวะหิวแสงนิยม
ภาวะหิวแสงนิยม หมายถึงความปรารถนาของบุคคลที่จะได้รับการยอมรับ ชื่นชม หรือการยกย่องจากคนรอบข้างหรือสังคมโดยรวม พฤติกรรมนี้มักแสดงออกผ่านการโพสต์หรือแสดงความคิดเห็นในลักษณะที่มุ่งหวังความสนใจจากผู้อื่น เช่น การแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวที่แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จ ความมั่นคง หรือชีวิตที่มีคุณภาพผ่านสื่อออนไลน์ แนวคิดนี้มีรากฐานจากปัจจัยทางจิตวิทยา เช่น การแสวงหาความสำคัญ (self-worth) และการสร้างภาพลักษณ์ให้สอดคล้องกับมาตรฐานทางสังคมที่พึงประสงค์
ภาวะหิวแสงนิยมยังสะท้อนความเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างสังคมและการสื่อสารในยุคดิจิทัล ที่ความเป็นตัวตน (identity) และสถานะทางสังคมมักจะถูกกำหนดจากปฏิกิริยาของคนอื่นบนโลกออนไลน์ การกด "ถูกใจ" การแชร์ การคอมเมนต์ ล้วนกลายเป็นสิ่งที่ผู้คนแสวงหา เพื่อให้เกิดความรู้สึกถึงการมีคุณค่าและการเป็นที่ยอมรับ
แนวปฏิบัติของภาวะหิวแสงนิยมในสังคมไทย
ในสังคมไทย ภาวะหิวแสงนิยมสามารถเห็นได้ชัดจากพฤติกรรมการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ที่หลากหลาย ตั้งแต่การโพสต์เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ ชีวิตส่วนตัว ความสำเร็จส่วนตัว ไปจนถึงการสร้างคอนเทนต์ที่ดึงดูดความสนใจมากที่สุด แนวปฏิบัติของภาวะหิวแสงนิยมสามารถแบ่งออกได้เป็นสองประเภทหลัก ได้แก่:
การสร้างตัวตนออนไลน์ (Online Identity Creation) – บุคคลมักแสดงออกในโลกออนไลน์ผ่านการสร้างตัวตนที่อาจแตกต่างจากตัวตนจริงๆ ของตน โดยเน้นให้เห็นถึงความมั่นคงทางการเงิน ความมีคุณค่าในสังคม หรือความสุขสมบูรณ์ ทั้งนี้เพื่อแสวงหาการยอมรับจากคนอื่นและเพิ่มการมีส่วนร่วมในชีวิตสังคมของตนเอง
การเรียกร้องความสนใจผ่านการสร้างคอนเทนต์ (Content Creation for Attention) – การผลิตเนื้อหาที่มีลักษณะสร้างสรรค์หรือแม้แต่การแสดงทัศนคติที่รุนแรง กลายเป็นทางเลือกหนึ่งของผู้ที่ต้องการเป็นที่รู้จักและยอมรับในสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะผู้ที่มุ่งหวังให้ผู้อื่นหันมาสนใจและติดตามคอนเทนต์ของตน
อิทธิพลของภาวะหิวแสงนิยมต่อสังคมไทย
ภาวะหิวแสงนิยมส่งผลกระทบหลายประการต่อสังคมไทย ดังนี้:
ผลกระทบต่อสุขภาพจิต – การแสวงหาความยอมรับในโลกออนไลน์อาจส่งผลให้เกิดภาวะซึมเศร้า ความวิตกกังวล และความเครียดในบุคคลที่ไม่ได้รับความสนใจหรือยอมรับตามที่คาดหวัง ผู้คนอาจเผชิญกับความรู้สึกไร้ค่าเมื่อปฏิสัมพันธ์ทางสังคมที่ต้องการไม่ได้ผลตามที่คาดหวัง
การสร้างมาตรฐานทางสังคมที่ไม่สมจริง – ภาวะหิวแสงนิยมกระตุ้นให้เกิดมาตรฐานทางสังคมที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง เช่น ความสำเร็จ ความมั่นคงในชีวิต และรูปลักษณ์ที่เป็นที่นิยม ซึ่งมีผลต่อการประเมินคุณค่าของตัวเองและความเชื่อมั่นในตัวเองของบุคคล
ความสัมพันธ์ทางสังคมที่เปราะบาง – ความสนใจและการยอมรับในสื่อออนไลน์อาจสร้างความสัมพันธ์ที่เปราะบางหรือไร้สาระ เนื่องจากการสร้างตัวตนออนไลน์ที่อาจไม่ตรงกับตัวตนที่แท้จริง ทำให้ผู้คนมองข้ามความสัมพันธ์ที่แท้จริงในชีวิตและหันไปเน้นความสัมพันธ์ในโลกเสมือนแทน
การเปลี่ยนแปลงในค่านิยมของสังคม – สังคมไทยที่เคยให้คุณค่ากับความสุภาพเรียบร้อย ความพอเพียง และการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ให้ความสำคัญกับความสำเร็จและการยอมรับในเชิงวัตถุแทน
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย
เพื่อจัดการกับผลกระทบของภาวะหิวแสงนิยมในสังคมไทย ควรมีนโยบายที่ส่งเสริมความเข้าใจและการใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างรับผิดชอบ และส่งเสริมสุขภาพจิตในระดับสังคม ดังนี้:
การรณรงค์สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้สื่อออนไลน์อย่างรับผิดชอบ – หน่วยงานภาครัฐและเอกชนควรดำเนินการรณรงค์เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบของภาวะหิวแสงนิยมและการสร้างตัวตนออนไลน์ที่สมดุล โดยเฉพาะกับเยาวชนที่เป็นกลุ่มเปราะบางที่มักมีความเสี่ยงในการรับแรงกดดันทางสังคม
ส่งเสริมการเรียนรู้ด้านสุขภาพจิตและการสร้างเสริมความมั่นคงทางจิตใจ – สถาบันการศึกษาและสถานพยาบาลควรให้ความสำคัญกับการสร้างเสริมสุขภาพจิตและความมั่นคงทางจิตใจของเยาวชน รวมถึงให้คำแนะนำในการจัดการความรู้สึกและการรับมือกับแรงกดดันจากสังคมออนไลน์
การสร้างพื้นที่เสวนาสำหรับการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ – รัฐควรส่งเสริมการสร้างพื้นที่เสวนาและกิจกรรมที่สนับสนุนการแสดงออกของเยาวชนในทางที่สร้างสรรค์ เช่น กิจกรรมศิลปะ กีฬา และการพัฒนาทักษะชีวิต เพื่อให้เยาวชนสามารถแสดงออกโดยไม่ต้องพึ่งพาสื่อออนไลน์ในการแสวงหาการยอมรับ
การสนับสนุนการวิจัยและการพัฒนาความรู้เกี่ยวกับภาวะหิวแสงนิยม – หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรสนับสนุนการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบของภาวะหิวแสงนิยมต่อสุขภาพจิตและค่านิยมในสังคมไทย เพื่อนำมาพัฒนาแนวทางการดูแลและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของคนในสังคม
การกำกับดูแลเนื้อหาออนไลน์ที่เสี่ยงต่อการสร้างค่านิยมที่ไม่เหมาะสม – ควรมีกฎหมายหรือข้อบังคับที่ส่งเสริมการสร้างเนื้อหาออนไลน์ที่สร้างสรรค์และรับผิดชอบ โดยการกำกับดูแลเนื้อหาที่อาจสร้างผลกระทบต่อเยาวชนและสังคมในทางลบ เช่น การเน้นการแสดงตัวตนในทางที่ผิดๆ หรือการส่งเสริมค่านิยมที่ไม่เหมาะสม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น