วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายต่อหลักสูตรสันติศึกษา "มจร"

 


หลักสูตรสันติศึกษาของ มจร มีศักยภาพในการสร้างวิทยากรต้นแบบสันติภาพที่สามารถนำพุทธสันติวิธีไปใช้ในการสร้างสันติภาพทั้งในระดับบุคคลและระดับสังคม การปรับหลักสูตรให้เข้ากับยุคสมัยและการสนับสนุนจากภาครัฐจะช่วยเสริมสร้างความยั่งยืนให้กับหลักสูตรและเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาสังคมไทยในระยะยาว

หลักสูตรสันติศึกษาของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) ถือเป็นหลักสูตรที่มีความสำคัญในการส่งเสริมสันติภาพภายใต้บริบทของพุทธศาสนา ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาวิทยากรเพื่อสร้างสันติภายในตนและส่งผลต่อสังคมไทย การวิเคราะห์หลักสูตรนี้จะเจาะลึกในเรื่องของหลักการ อุดมการณ์ วิธีการ ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี วิสัยทัศน์ แผนงาน โครงการ และอิทธิพลต่อสังคมไทย รวมถึงข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการพัฒนาหลักสูตรให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

หลักการและอุดมการณ์

หลักสูตรนี้ยึดหลักการตามแนวทางพุทธสันติวิธี (Buddhist Peace) ซึ่งเน้นการเข้าใจตนเองเพื่อเข้าใจผู้อื่น ใช้ธรรมะเป็นเครื่องมือในการสลายความขัดแย้ง และสร้างสันติภาพในระดับต่าง ๆ ตั้งแต่ระดับบุคคลจนถึงระดับองค์กร อุดมการณ์หลักคือการสร้างบุคคลที่มีฉันทะในการพัฒนาตนเองและช่วยเหลือสังคมเพื่อให้เกิดสันติสุข

วิธีการและยุทธศาสตร์

กระบวนการพัฒนาในหลักสูตรนี้แบ่งออกเป็น 3 ภาคการเรียนรู้ ได้แก่

ภาคทฤษฎี - การเรียนรู้วิธีออกแบบกิจกรรมและเครื่องมือพุทธสันติวิธีสำหรับการจัดการความขัดแย้ง

ภาคปฏิบัติ - ฝึกปฏิบัติการเป็นวิทยากรต้นแบบตามแนวพุทธศาสนาและศาสตร์สมัยใหม่

ภาคสนาม - ทดลองการเป็นวิทยากรในสถานการณ์จริง และเข้าร่วมเครือข่ายวิทยากรสันติภาพ

วิธีการพัฒนาอิงตามแนวทางของ Model Research ซึ่งผ่านการวิจัยในระดับปริญญาเอก มุ่งเน้นการเรียนรู้ผ่านการทำกิจกรรม การพูดคุย และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมีความเข้าใจและสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการสร้างสันติภายในและภายนอก

วิสัยทัศน์

หลักสูตรนี้มุ่งหวังให้ผู้เข้าอบรมได้พัฒนาตนเองจนกลายเป็น “วิทยากรต้นแบบสันติภาพ” ที่สามารถออกแบบกระบวนการเรียนรู้และกิจกรรมที่ตอบโจทย์การสร้างสันติภาพอย่างยั่งยืน โดยเน้นการพัฒนาสังคมผ่านการใช้หลักการและเครื่องมือพุทธสันติวิธี ผสานกับศาสตร์สมัยใหม่

แผนงานและโครงการ

หลักสูตรนี้ประกอบด้วยแผนงานและโครงการที่หลากหลาย เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความพร้อมทั้งด้านทฤษฎีและปฏิบัติ มีการแบ่งออกเป็น 6 ด้าน ได้แก่

ด้านวิทยากรกระบวนการ

ด้านการฝึกอบรมธรรมะโอดี

ด้านการพัฒนาองค์กร

ด้านเครื่องมือพุทธสันติวิธี

ด้านการสร้างสันติภายใน

ด้านการพัฒนาชีวิตและความสุข

อิทธิพลต่อสังคมไทย

หลักสูตรสันติศึกษา มจร ส่งเสริมให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถนำความรู้ด้านพุทธสันติวิธีไปประยุกต์ใช้ในองค์กรและชุมชน ซึ่งมีอิทธิพลเชิงบวกต่อสังคมไทยในด้านการลดความขัดแย้ง สร้างความเข้าใจ และเสริมสร้างคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะในบริบทที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและความเชื่อ

ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย

เพื่อให้หลักสูตรสันติศึกษา มจร สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรพิจารณาข้อเสนอแนะเชิงนโยบายดังนี้

พัฒนาหลักสูตรให้ยืดหยุ่น - เพื่อให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล หลักสูตรควรมีการปรับปรุงเนื้อหาและวิธีการสอนที่ทันสมัย เน้นการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมเชิงโต้ตอบและการใช้สื่อดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายทอดความรู้

สนับสนุนเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญและองค์กรพันธมิตร - การร่วมมือกับองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญในการฝึกอบรมด้านพุทธสันติวิธีจะช่วยให้ผู้เข้าอบรมมีโอกาสเรียนรู้จากประสบการณ์จริงและเสริมสร้างเครือข่ายในการทำงานด้านสันติภาพ

ส่งเสริมการประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน - ควรจัดทำกิจกรรมหรือโครงการที่ช่วยให้ผู้เข้าอบรมสามารถนำเครื่องมือที่ได้เรียนรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันและในชุมชนของตนเองอย่างมีประสิทธิภาพ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ชาวพุทธเฮ! ครม.แต่งตั้ง “ดร.มหานิยม” เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีขับเคลื่อนพระพุทธศาสนา -กิจการคณะสงฆ์

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 256 7 ที่ทำเนียบรัฐบาล มีรายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติแต่งตั้ง ดร.นิยม เวชกามา (ดร.มหานิยม) อดีต ส.ส.พ...