เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยระบุว่าตนได้รับญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญจำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ (1) ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของนายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และคณะ และ (2) ร่างของนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และคณะ ซึ่งเป็นร่างจากพรรคร่วมรัฐบาล
นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า หลังจากการหารือกับวิปสามฝ่ายและผู้แทนคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้มีข้อสรุปให้บรรจุญัตติทั้งสองเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมร่วมของรัฐสภาในวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์นี้ โดยกำหนดกรอบเวลาพิจารณารวม 19 ชั่วโมง
เกี่ยวกับข้อกังวลว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องทำประชามติก่อนหรือไม่ รวมถึงอาจมีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนั้น นายวันมูหะมัดนอร์ระบุว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของความคิดเห็นและยังไม่ทราบว่ากลุ่มใดจะเป็นผู้ยื่น หากเป็นสมาชิกรัฐสภาจะต้องมีการเข้าชื่อไม่น้อยกว่า 40 คน และต้องผ่านการพิจารณาในที่ประชุมร่วมของรัฐสภาก่อนว่าควรส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความหรือไม่ หากเสียงข้างมากเห็นควรส่ง ประธานรัฐสภาก็จะดำเนินการตามกระบวนการ
เมื่อถูกถามถึงความจำเป็นของการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาก่อนดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า ความเห็นในเรื่องนี้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละฝ่าย อย่างไรก็ตาม ความเห็นของประธานรัฐสภาคือการบรรจุญัตติทั้งสองเข้าสู่วาระการประชุม เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีการหารือในที่ประชุมที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของประธานสภาฯ แล้ว และเสียงข้างมากเห็นว่าควรดำเนินการได้
นายวันมูหะมัดนอร์ยังกล่าวถึงแนวทางการดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า หากรัฐสภามีมติรับหลักการในวาระแรกโดยเสียงข้างมากมากกว่า 1 ใน 3 และมีเสียงสนับสนุนจากวุฒิสภาไม่ต่ำกว่า 67 คน ญัตติก็จะเดินหน้าต่อ แต่หากไม่ผ่านเกณฑ์ดังกล่าว ญัตติจะตกไปโดยอัตโนมัติและไม่ต้องทำประชามติ อย่างไรก็ตาม หากวาระแรกผ่าน ประธานรัฐสภาจะเสนอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดำเนินการทำประชามติเพื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชนต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ
ประธานรัฐสภาย้ำว่า การทำประชามติแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 3,000 ล้านบาท ดังนั้น การจัดลำดับขั้นตอนโดยให้รัฐสภาตัดสินใจก่อน จะช่วยลดความสูญเปล่าของงบประมาณ หากรัฐสภาไม่เห็นชอบตั้งแต่แรกก็ไม่จำเป็นต้องทำประชามติให้สิ้นเปลืองงบประมาณโดยไม่จำเป็น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น