วันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

วิเคราะห์ขันติญาณปริโยคาหณญาณนิทเทส

 วิเคราะห์ขันติญาณปริโยคาหณญาณนิทเทส ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 31 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 23 ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค มหาวรรค ญาณกถา ในปริบทพุทธสันติวิธี: หลักธรรมและการประยุกต์ใช้

บทคัดย่อ

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ "ขันติญาณปริโยคาหณญาณนิทเทส" ซึ่งปรากฏในพระไตรปิฎกเล่มที่ 31 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 23 ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค มหาวรรค ญาณกถา โดยมุ่งเน้นศึกษาความหมายของขันติญาณและปริโยคาหณญาณในบริบทของพุทธสันติวิธี รวมถึงวิเคราะห์การประยุกต์ใช้หลักธรรมดังกล่าวในชีวิตประจำวันและสังคมร่วมสมัย การศึกษานี้ใช้แนวทางวิเคราะห์เชิงพุทธปรัชญาและเปรียบเทียบแนวคิดทางศาสนากับหลักสันติวิธีสากล ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่าขันธ์ติญาณและปริโยคาหณญาณเป็นองค์ประกอบสำคัญของปัญญาในพุทธศาสนา โดยขันติญาณหมายถึงความอดทนต่อความทุกข์และปริโยคาหณญาณหมายถึงความสามารถในการขจัดอารมณ์ที่เป็นอกุศล การประยุกต์ใช้แนวคิดดังกล่าวสามารถช่วยส่งเสริมสันติภาพภายในจิตใจและนำไปสู่การแก้ไขความขัดแย้งในสังคม

บทนำ

ขันติ (ความอดทน) และญาณ (ปัญญา) เป็นองค์ธรรมที่มีความสำคัญในพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค ซึ่งเป็นพระสูตรที่อธิบายถึงคุณสมบัติของปัญญาหลากหลายลักษณะ บทความนี้จะศึกษาขันธ์ติญาณและปริโยคาหณญาณ โดยเน้นความหมายและบทบาทขององค์ธรรมทั้งสองนี้ในบริบทพุทธสันติวิธี ซึ่งหมายถึงวิถีทางแห่งสันติที่อาศัยหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นพื้นฐาน

ขันธ์ติญาณและปริโยคาหณญาณในพระไตรปิฎก

ความหมายและบทบาทของขันติญาณ

ขันติญาณเป็นปัญญาที่เกี่ยวข้องกับความสามารถในการอดทนต่อสิ่งที่เป็นทุกข์ ไม่ว่าจะเป็นทางกายหรือทางใจ โดยขันติญาณเป็นปัญญาที่ช่วยให้บุคคลสามารถรักษาความสงบในจิตใจแม้เผชิญกับอุปสรรค ซึ่งเป็นคุณธรรมสำคัญของพุทธสันติวิธี

ความหมายและบทบาทของปริโยคาหณญาณ

ปริโยคาหณญาณหมายถึงปัญญาที่สามารถขจัดอกุศลวิตกหรือความคิดที่เป็นอกุศลได้ เป็นญาณที่ช่วยให้บุคคลสามารถปล่อยวางจากสิ่งที่เป็นเครื่องร้อยรัดจิตใจ เช่น ความโกรธ ความเกลียดชัง หรือความโลภ ซึ่งเป็นรากฐานของความขัดแย้งในสังคม

พุทธสันติวิธี: การประยุกต์ใช้ขันติญาณและปริโยคาหณญาณ

การใช้ขันติญาณในชีวิตประจำวัน

ขันติญาณสามารถนำมาใช้ในการเผชิญกับความทุกข์และความไม่พอใจในชีวิตประจำวัน เช่น ในสถานการณ์ที่เกิดความขัดแย้งภายในครอบครัว หรือในที่ทำงาน หากบุคคลสามารถพัฒนาขันติญาณได้ เขาจะสามารถอดทนต่อคำพูดหรือพฤติกรรมที่ไม่เป็นมิตรได้ดีขึ้น ลดการตอบโต้ทางอารมณ์ และทำให้บรรยากาศรอบข้างสงบขึ้น

การใช้ปริโยคาหณญาณในสังคมร่วมสมัย

ปริโยคาหณญาณเป็นปัญญาที่ช่วยให้บุคคลสามารถขจัดอกุศลวิตกออกจากจิตใจ ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทหรือการสร้างสันติภาพในระดับสังคม เช่น ในกรณีที่มีความขัดแย้งทางศาสนาหรือการเมือง หากผู้นำหรือผู้เกี่ยวข้องสามารถใช้ปริโยคาหณญาณในการขจัดอคติและความโกรธได้ ก็จะสามารถเปิดโอกาสให้เกิดการสนทนาและการแก้ไขปัญหาอย่างสันติ

บทสรุป

ขันติญาณและปริโยคาหณญาณเป็นองค์ธรรมที่สำคัญในพุทธสันติวิธี โดยขันติญาณช่วยให้บุคคลสามารถอดทนต่อความทุกข์ได้ ส่วนปริโยคาหณญาณช่วยให้สามารถขจัดอกุศลวิตกออกจากจิตใจ ทั้งสององค์ธรรมนี้สามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อส่งเสริมสันติภาพในระดับบุคคลและสังคม การศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าพระไตรปิฎกไม่ได้เป็นเพียงคัมภีร์ศาสนาเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งข้อมูลที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อแก้ไขปัญหาสังคมและเสริมสร้างสันติสุขในโลกปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แนะนำหนังสือนิยายอิงธรรมะ "ลายสันติ"

เพลง: ลายพิราบแห่งสันติ ເນື້ອເພງ : ດຣສົມພົງສ໌,AI ທຳນອງ - ຮ້ອງໂດຍ : suno  คลิกฟังเพลงที่นี่(1) คลิกฟังเพลงที่นี่(2) ตอนที่ 1: บทเริ่มต้นของลา...