วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

18ก.ค.พระราชทานเพลิงศพ'เจ้าคุณรุ่น' พระผู้สานปณิธานหลวงพ่อปัญญา


             ส่งมอบเป็นที่เรียบร้อยแล้วพระอุโบสถกลางน้ำที่ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร)  อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา หนึ่งในปณิธานของพระพรหมมังคลาจารย์ (ปัญญานันทภิกขุ) อดีตเจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์ จ.นนทบุรี ที่ละสังขารไปแล้วถึง 6 ปีแล้ว เมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา

              พระอุโบสถกลางน้ำแห่งนี้ก่อสร้างเสร็จได้สมปณิธานสวยงามและสะท้อนให้เห็นภาพของสังคมไทยปัจจุบันที่แบ่งออกเป็นสีต่างๆ ภาพส่วนหนึ่งสื่อออกมาเป็นมือตบ ตีนตบ ปืน รวมทั้งเครื่องตรวจวัตถุระเบิดทางภาคใต้นั้น บุคคลหนึ่งที่เป็นแรงผลักดันที่สำคัญยิ่งนั้นก็คือพระธรรมวิมลโมลี (รุ่น ธีรปญฺโญ ป.ธ.๙)  อดีตเจ้าคณะภาค 17 อดีตหัวหน้าพระธรรมทูตสายที่ 9  อดีตเจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษดิ์  โดยได้ร่วมแถลงข่าวเปิดให้ประชาชนได้เข้าชมเมื่อวันที่ 29 ต.ค.2555ด้วย

              แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด หลังจากนั้นไม่นานพระธรรมวิมลโมลีได้ล้มป่วยเข้ารับการรักษาอาการปอดติดเชื้อที่โรงพยาบาลชลประทานในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2556 จากนั้นได้ย้ายไปรักษายังโรงพยาบาลศิริราช กระทั่งมรณภาพในที่สุดในวันที่ 7 เมษายน พ.ศ.2556 โดยอาการติดเชื้อในกระแสโลหิตรวมสิริอายุ 66 ปี พรรษาที่ 46

              ทั้งนี้สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ คณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆ์ราช กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการามได้กล่าวถึงพระธรรมวิมลโมลีในโอกาสเป็นประธานส่งมอบพระอุโบสถกลางน้ำแก่ มจร ว่า "งานพิธีส่งมอบอุโบสถกลางสระน้ำขนาดใหญ่ที่สุดในโลก จะยิ่งใหญ่และสมบูรณ์ที่สุด ถ้าวันนี้พระธรรมวิมลโมลีผู้สืบสานมโนปณิธานสร้างอุโบสถหลังนี้จนแล้วเสร็จ มายืนอยู่ ณ จุดนี้ด้วย แต่น่าเสียดายที่ท่านต้องมาจากไปก่อนวัยอันควร ขอดวงวิญญาณของพระเดชพระคุณอาจารย์ จงสู่สุคติเถิด"            

             หลังจากพระธรรมวิมลโมลีมรณภาพลง คณะศิษยานุศิษย์ได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดชลประทานรังสฤษดิ์ตลอดมา  และได้กำหนดที่จะประกอบพิธีฌาปนกิจและได้รับพระราชเพลิงศพเวลา 15.00น.ของวันที่ 18 ก.ค.นี้โดยมีพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ทรงเป็นประธาน ทั้งนี้วันที่ 15 ก.ค.คณะศิษยานุศิษย์ได้อัญเชิญโกศศพพระธรรมวิมลโมลีบำเพ็ญกุศล ณ เมรุมาศ วัดชลประทานฯ ก่อนประกอบพิธีพระราชทานเพลิง

              พระธรรมวิมลโมลี มีนามเดิมว่า รุ่น นามสกุล รักษ์วงศ์ เกิดวันที่ 24 มกราคม 2490 ที่บ้านลำภายตีน ตำบลโคกชะงาย อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุงบรรพชาอุปสมบท เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2510 ณ วัดธาราสถิตย์ ตำบลโคกชะงาย อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง ในปี 2512 สอบได้ นักธรรมชั้นเอก สำนักเรียนคณะจังหวัดตรัง ปี2523 สอบได้ ป.ธ.9 สำนักเรียนวัดราชสิทธาราม กรุงเทพมหานคร ปี 2549 สำเร็จการศึกษาศาสนศาสตรมหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย กทม.

              ตำแหน่งทางการปกครอง ในปี 2516 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองเจ้าอาวาสวัดกุฏยาราม จังหวัดตรัง  ปี 2527 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะอำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ และได้ขอลาออก เมื่อปี 2532 เพื่อไปรับตำแหน่ง รองเจ้าคณะภาค 17  ปี 2551ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์สมณศักดิ์ ในปี 2527 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่ "พระเมธีวราภรณ์"  ปี 2539ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ที่ "พระราชวิสุทธิโมลี"  ปี 2545 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ที่ “พระเทพปริยัติเมธี” ปี2552ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ที่ "พระธรรมวิมลโมลี"

              "พฤกษภผกาสร อีกกุญชรอัดปลดปลง โททนเสน่ห์คง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรี สถิตย์ทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา"

 ............................

(หมายเหตุ : 18ก.ค.พระราชทานเพลิงศพ'เจ้าคุณรุ่น' พระผู้สานปณิธานหลวงพ่อปัญญา : สำราญ สมพงษ์รายงาน เว็บคมชัดลึกวันที่ 17 ก.ค.2556)



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

การวิเคราะห์ “มหาวรรค” ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 22 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 14 อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต ทุติยปัณณาสก์

  การวิเคราะห์ “มหาวรรค” ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 22 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 14 อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต ทุติยปัณณาสก์ ในปริบทพุทธสันติวิธี บทนำ พร...