วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2556

กลุ่มนักเขียน-สื่อโดดร่วม! 'เดินด้วยใจปากบารา-จะนะ'

              ปรากฏการณ์เดินเท้าต้านโครงการยักษ์ของรัฐที่มีผลต่อสิ่งแวดล้อมอย่างโครงการสร้างเขือนแม่วงก์ จ.นครสวรรค์ ภายใต้การนำของนายศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียรและที่ปรึกษาสมาคมรักษ์ทะเลไทย ได้มีหลายภาคส่วนกระโดดลงมาร่วมเดินด้วย

              และวิธีการเดินเท้านี้ก็ขยายวงออกไป อย่างเช่นล่าสุดขบวนของเครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล-สงขลา แสดงพลังต่อต้านโครงการเมกะโปรเจกต์ชุดใหญ่คือ  “แลนด์บริดจ์สงขลา-สตูล” หรือโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือน้ำลึกปากบารา อ.ละงู จ.สตูล และเส้นทางรถไฟสงขลา-ปากบารา ถือเป็นบิ๊กโปรเจกท์ใช้เงินลงทุนมหาศาล สำหรับการปฏิรูประบบโลจิสติกส์ในพื้นที่ภาคใต้เพื่อเชื่อมไปยังมาเลเซีย และสิงคโปร์

              หลังจากรัฐบาลได้แนบท้ายโครงการดังกล่าวในบัญชีพระราชบัญญัติเงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท นั้นแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลภายใต้การนำของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กำลังเร่งผลักดันทั้งสองโครงการนี้

              ภายใต้ชื่อ "เดินด้วยใจปากบารา-จะนะ" โดยเริ่มออกเดินเท้าจากท่าเรือท่องเที่ยวปากบารา ตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค. จนถึงปลายทางที่บ้านสวนกง อ.จะนะ จ.สงขลา ด้วยระยะทาง 220 กม.ในวันที่ 28 ต.ค.นี้ ซึ่งก็มีประชาชนเข้าร่วมอย่างต่อเนื่อง
       
              เมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านเป็นวันที่ 4 ของขบวน"เดินด้วยใจปากบารา-จะนะ" ได้เดินไปถึงจุดพักที่บ้านหูแร่ ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ จ.สงขล ทั้งนี้ในช่วงบ่ายนายระพินทร์ พุฒิชาติ หรือน้าซู แห่งวงซูซู และนายศศินได้เข้าร่วมเดินเท้าด้วย ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักขึ้น

              นายสมบูรณ์ คำแหง ผู้ประสานงานเครือข่ายฯกล่าวว่าตั้งแต่เดินเท้าเข้าเขตสงขลารู้สึกยินดีมากที่ได้รับการต้อนรับอบอุ่นจากประชาชนยิ่งขึ้น โดยมีผู้นำอาหารและน้ำดื่มมาร่วมสมทบและให้กำลังใจบ่อยเป็นระยะๆ และคิดว่าในวันที่ 26 เมื่อถึงอำเภอหาดใหญ่จะมีประชาชนเข้าร่วมมากขึ้น

              ด้านนายไกรวุฒิ ชูสกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาดบริษัทหลีเป๊ะเฟอรี่แอนสปีชโบ้ท ซึ่งร่วมในขบวนเดินเท้ากล่าวว่า ผู้ประกอบการเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในหลีเป๊ะและตะรุเตาต่างก็ไม่เห็นด้วยกับโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา ทุกคนต่างช่วยกันบริจาคเงินลงขันสำหรับทำกิจกรรมมาอย่างต่อเนื่อง

              และวันที่ 26 ตุลาคมนี้ซึ่งเป็นวันที่ 5 ขบวน"เดินด้วยใจปากบารา-จะนะ" ได้เดินเข้าสู่ตัวเมืองหาดใหญ่ จ.สงขลา  ได้มีชาวหาดใหญ่ร่วมต้อนรับเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้อนุญาตใช้วิทยุของมหาลัยสื่อสารกับสังคมด้วย

              พร้อมกันนี้เครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล-สงขลายังได้เปิดเฟซบุ๊กนาม "เดินด้วยรัก ปกป้องปากบาราจะนะ" ขึ้นมา เพื่อเป็นช่องทางหนึ่งในการสื่อสารให้กับสังคมได้ทราบการเคลื่อนไหว ปรากฏว่าวันที่ 26 ตุลาคมนี้ ได้มีกลุ่มนักเขียน สื่อมวลชน ได้ออกมาสนับสนุนพร้อมกับร่วมกันเขียนบทกวีเพื่อแสดงท่าที 13 คนแล้วอาทิ "พิเชฐ แสงทอง" "ธัช ธาดา" "นายทิวา" "ประมวล มณีโรจน์" "ชนะ เสียงหลาย" โดยมี "โสพล โสภณอักษรเนียม" อดีตนักสื่อสารมวลชน เป็นผู้จุดประเด็น

              เริ่มจาก เดินด้วยรัก ฯ # 1


สู้เท่าที่สูจักสู้ได้

สู้เท่าที่ไหว ยังพอหวัง

สู้เท่าที่แรงแห่งกายยัง

สู้ทั้งที่ฝั่ง ช่างแสนไกล

เท่าที่ยุคสมัยของคนยาก

ถูกฝังฝากรอยทนซึ่งหม่นไหม้

เท่าที่หลุมความโลภอันจัญไร

ถูกกระชากลากไส้เนื้อในทราม

เรี่ยวแรงน่าดูแคลนเพียงแขนขา

หาญท้าอำนาจบาปอันหยาบหยาม

ดุ่มเดินเชื่องช้าพยายาม

กลางดงสงครามลุกลามไฟ

ปลีน่องทอดแน่วสู่แนวหน้า

แผ่นดินปู่ย่าแบกบนไหล่

ทุกรอยย่ำย่างหนทางไกล

เท่ากับย่ำหัวใจเนรคุณ

พลัง เพียงพิรุฬ
กวี-นักเขียน
ผู้เข้ารอบสุดท้ายรางวัลซีไรต์ ปี 2556


              เดินด้วยรักฯ # 10


"ปากบารา" ถึง "จะนะ" : ตอบด้วยหัวใจ

๏ เราจะมุ่งหน้าเดินสู่หนใด

ถ้าหัวใจทุกใจถูกยีย่ำ

ไปสู่หุบเหวที่มืดดำ

โดยการกระทำที่ย่ำยี

๏ ปลายทางหายนะคือพัฒนา ?

เสียงจาก "ปากบารา" ถามทุกที่

เสียงจาก "จะนะ" ถามชั่วดี

ต่อการกระทำนี้เพื่อตอบตน

๏ บ้านของเราเมืองของเราคนของเรา

ควรหรือปล่อยให้เขาเข้ามาปล้น

อำนาจที่แท้ประชาชน

ใช่อำนาจใครบางคนข่มขืนใคร

๏ บ้านของเราเมืองของเราคนของเรา

ใครก็ไม่มีสิทธิ์ยึดเอา, ใช่-ไม่ใช่ ?

จาก "ปากบารา" ถึง "จะนะ" เพื่ออะไร

เพื่อสนองตัณหาหรือไม่ ? ช่วยตอบที

๏ บ้านของเราเมืองของเราคนของเรา

สิทธิ์นี้ไม่ใช่ของเขาทุกพื้นที่

สิทธิ์นี้เป็นของเราเท่าที่มี

เพื่อไม่ให้ใครย่ำยีอย่างริยำ

๏ เราจะมุ่งหน้าเดินสู่หนใด

ตอบได้ด้วยใจทุกใจถูกยีย่ำ

ไม่ยินยอมสู่หุบเหวที่มืดดำ

และไม่ให้ใครกระทำเพื่อย่ำยี !.

นายทิวา
กวีผู้เข้ารอบสุดท้ายรางวัลซีไรต์ ปี 2553


              เดินด้วยรักฯ #11


“พายุครืนข่มคุกคาม

เดือนลับยามแผ่นดินมืดหม่น

ดาวศรัทธายังส่องแสงเบื้องบน

ปลุกหัวใจ...ปลุกคน...

อยู่มิวาย....

ขอเยาะเย้ย...ทุกข์ยากขวากหนามลำเค็ญ

คน...ยังคงยืนเด่นโดยท้าทาย

แม้ผืนฟ้ามืดดับ...

เดือนลับละลาย

ดาวยังพรายศรัทธาเย้ยฟ้าดิน...”

อยากร้องเพลงนี้ขับกล่อมให้ทุกย่างก้าว...ชัดเจน...มั่นคง...

และด้วยเจตนาที่จะให้รู้ว่า...

คุณจะไม่เดียวดาย...ด้วยหัวใจที่เสรี

ขอพลังอยู่คู่คุณ

จุฬาลักษณ์ ทองย้อย
ครูสอนร้องเพลง
เจ้าของกิจการร้านเบเกอรี่


              เดินด้วยรักฯ # 13

อาจดูเหมือนคำใหญ่คำโตเกินไป

แต่เมื่อพิจารณาถึง ‘หัวใจ’

และเนื้อหาสาระของคณะเดินเท้าฯแล้ว

ถ้าผมขออนุญาตหยิบยืมถ้อยคำ

ของนีล อาร์มสตรอง

ที่พูดไว้เมื่อคราเหยียบเยือนดวงจันทร์ว่า

‘นี่คือก้าวเล็กๆ ของมนุษย์ (กลุ่มหนึ่ง)

แต่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ’

ก็ดูจะไม่ใช่สิ่งที่เกินเลยไปนักครับ


โสพล โสภณอักษรเนียม
อดีตนักสื่อสารมวลชน

              นับได้ว่าการเดินเป็นวิถีหนึ่งในระบอบประชาธิปไตย เพื่อแสดงออกให้ผู้ใช้อำนาจรัฐฟังเสียงรากหญ้าบ้าง ไม่ใช้ว่ามีเสียงข้างมากแล้วจะตัดสินทำอะไรได้ตามอำเภอใจ ไม่เช่นนั้นแล้วเขาเรียกว่า "เผด็จการ" หาใช่ประชาธิปไตยไม่

........................................

(กลุ่มนักเขียน-สื่อโดดร่วม! 'เดินด้วยใจปากบารา-จะนะ' : สำราญ สมพงษ์รายงานFB-samran sompong)






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สันติศึกษา"มจร"เทรนสุดยอดผู้นำภาคเอกชนและภาครัฐไกล่เกลี่ยข้อพิพาทมืออาชีพ

  วันที่ ๒   พฤษภาคม   ๒๕๖๗๒   พระปราโมทย์ วาทโกวิโท, ดร.โค้ชสันติ  กระบวนกรธรรมะโอดี วิทยากรต้นแบบสันติภาพ  Buddhist Peace Facilitator ผู้อ...