วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

โยมม็อบตร.ล้อมรั้ว!พระทุกข์'ทำอาหารฉันเอง'


              ทุกครั้งที่มีการชุมนุมประท้วงที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อเรียกร้องกรณีต่างๆ และจะมีการปักหลักอยู่รอบทำเนียบฯ บ้างครั้งก็จะยาวไปตามถนนราชสีมาถึงวัดเบญจมบพิตร ย่อมส่งผลกระทบกับพระและสามเณรไม่มากก็น้อย แต่พระและสามเณรก็อดทนไม่เคยที่จะแสดงออก

              การชุมนุมเพื่อคัดค้านร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมสุดซอยเหมาเข่งครั้งนี้ ที่สภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบผ่านวาระ 3 แล้วแต่วุฒิสภาลงมติคว่ำต้องชะลอไว้ 180 วันค้างสภาอยู่ เมื่อครบ 180 วันแล้ว สภาผู้แทนราษฎรถึงจะสามารถยกขึ้นมาพิจารณายืนยันได้ แม้นว่าทางฝ่ายรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยยืนยันจะไม่ยกขึ้นมาเห็นชอบเพื่อลดกระแสการชุมนุมประท้วงตลอดถนนราชดำเนิน โดยมาสิ้นสุดที่สะพานมัฆวานฯ

              แต่การป้องกันกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ให้เข้าเขตที่ประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงป้องกันทำเนียบฯและรัฐสภาครั้งนี้ ตำรวจได้กั้นรั้วลวดหนามและแผ่นซิเมนต์แท่งล้อมรอบรวมถึงล้อมวัดเบญจมบพิตรด้วย เวลาผ่านไปเดือนกว่าพระและสามเณรที่วัดแห่งนี้ประสบกับความเดือดร้อนเนื่องจากมีญาติโยมไปทำบุญใส่บาตรลดลง ส่งผลต้องให้สามเณรทำภัตตาหารฉันกันเอง

              ความเดือดร้อนของพระและสามเณรวัดเบญจมบพิตรดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านทางเฟซบุ๊กของพระมหาอภิชาติ ปุณฺณจนฺโท หัวหน้าพระวิทยากรวัดเบญจมบพิตร ได้โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพเมื่อวันที่ 12 พ.ย.ความว่า "ลูกสามเณรวัดเบญจมบพิตรต้องมาช่วยกันทำภัตตาหารฉันกันเอง เพราะวัดถูกพวกตำรวจปิดทางเข้าออก ญาติโยมเข้ามาทำบุญใส่บาตรไม่ได้  เพราะกั้นรั้วลวดหนามและแผ่นซิเมนต์แท่งล้อมรอบวัดเอาไว้ ผลก็คือพระคุณเจ้าต้องเข้าครัวทำกับข้าวฉันกันเองเพื่อจะได้มีแรงเล่าเรียนพระปริยัติธรรม"

              พร้อมกันนี้ยังระบุว่า "ขอให้ผบช.น.อ่านดูบ้างก็ดีน่ะจะได้ทราบว่าสะสมบาปกรรมไปถึงขุมไหนแล้ว เพราะพระเณรทนมาเดือนหนึ่งเต็มๆแล้ว จนขนาดนี้ข้าวสารหมดถังแล้ว ทั้งวัดมี 80 รูปน่ะ ไม่ใช่ 4-5 รูป"

              เมื่อข้อมูลข่าวสารดังนี้กระจายออกไปทางผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่นำภัตตราหารไปถวายเป็นการบรรเทาความทุกข์จนกว่าสถานการณ์จะปกติ แต่ในส่วนของตำรวจและรัฐบาลยังไม่ได้เข้าไปเยียวยาแต่อย่างใด

              ทั้งนี้เวลาต่อมาในเฟซบุ๊กของพระมหาอภิชาติได้ยังระบุด้วยว่า  "โพสต์ที่เกี่ยวกับผลกระทบของการปิดถนนบริเวณแยกหน้าวัดเบญจมบพิตรและการปิดกันทางเข้าวัด ปิดทางบิณฑบาตของพระเณร ตัดการสัญจรของประชาชนที่มาเข้าวัดทำบุญ จนพระเณรในวัดเดือดร้อนอย่างหนัก จะไปมหาวิทยาลัยหรือทำกิจของสงฆ์ก็ไม่ได้ บางรูปที่ออกไปได้ก็กลับเข้ามาไม่ได้ถึงขนาดต้องเดินกลับวัดเพราะรถแท็กซี่ไม่ยอมมาแถวนี้ หลายรูปถึงขั้นเกิดอาการเครียดตามๆกัน แต่บางคนที่แชร์ภาพของหลวงพี่และยังไปโพสต์ว่าพระเณรขาดความเมตตา ไปว่าร้ายตำรวจ อย่างโน้นอย่างนี้

              เรื่องนี้หลวงพี่ไม่อยากจะไปตอบโต้อะไรมาก เพราะเหมือนที่เคยบอกไปแล้วว่า "พวกตำรวจไม่ได้ไปปิดกันทางเข้าบ้านของคุณนี่" แล้วคุณจะรับรู้ความรู้สึกของพวกเราผู้ได้รับความเดือดร้อนได้อย่างไร เราอดทนมาเป็นเดือนแล้ว ยอมอยู่แบบอดๆ อยากๆ ไปไหนก็ลำบาก ตอนนี้ขาดแต่เราไม่ได้ออกมาประท้วงขับไล่ตำรวจเท่านั้น แต่อนาคตเราไม่รู้ สุดท้ายนี้ขอให้พวกท่านที่บอกว่าพระขาดเมตตากรุณาเปิดตากว้างๆดูภาพประกอบเหล่านี้ด้วยว่าใครกันแน่ที่ขาดเมตตาตัวจริง อย่าทำตัวเป็นบัฟฯให้มากนักเจริญพร"

              ขณะที่ผู้ใช้นามว่า Sue Chan ได้แนะนำว่า กรณีทีตำรวจปิดกั้นทางสัญจรและใช้ที่บริเวณวัดซ้อมการฝึกฝนต่างๆนั้น ควรจะทำวิกฤตให้เป็นโอกาส คือพระอาจารย์เปิดลำโพงเทศน์เรื่องบาปบุญคุณโทษ สั่งสอนคุณธรรมตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า จะได้ทราบว่าคนที่บอกว่ามีหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของประชาชนนั้นเป็นมนุษย์ที่เสมือนบัวชนิดใดในบัวสี่เหล่า คงจะได้รับรสพระธรรมกันบ้างไม่มากก็น้อย จะเทศน์สดหรือเปิดเป็นเทปก็แล้วแต่เหตุการณ์ทั้งนี้เป็นเพียงข้อสังเกตโดยเจตนาอันบริสุทธิ์เพื่อได้โปรดพิจารณาตามควรเท่านั้น

              ด้าน Thai Thon ขยายความว่า รอบๆวัดเบญจมบพิตรจะเป็นที่ตั้งหน่วยราชการทั้งหมด ไม่มีบ้านเรือนประชาชนอาศัย ชาวพุทธส่วนใหญ่ที่มาตักบาตรมักจะเดินทางมาโดยรถยนต์ส่วนตัวมา พระก็จะออกมารอรับบิณฑบาตรหน้าโบถส์ทุกเช้า

              นับได้ว่าสถานการณ์การเมืองครั้งนี้ทำให้พระและสามเณรวัดเบญจมบพิตรสุดที่จะอดทนจริงๆ จึงได้ระบายให้สาธารณชนและผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทราบ หากจะทำอะไรก็ขอให้นึกถึงหัวอกพระและสามเณรบ้าง และจะย้ายวัดหนีก็คงไม่ได้

 : สำราญ สมพงษ์รายงาน



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อาจารย์หนู กันภัย เปิดสำนักสักยันต์ จัดพิธีไหว้ครู ในรอบ 5 ปี

  อาจารย์หนู กันภัย เปิดสำนักสักยันต์ จัดพิธีไหว้ครู ในรอบ 5 ปี พร้อมเชิญ พระเกจิคณาจารย์ผู้ทรงบารมี ร่วมทำพิธีปลุกเสกตระกรุด “โครตรวย”   นา...