วันพฤหัสบดีที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2560

พระธรรมทูตไทยร่วมต้านก่อการร้ายสวีเดิน


พระธรรมทูตไทยร่วมต้านก่อการร้ายสวีเดิน พร้อมกับรัฐบาล องค์การทางศาสนา และหน่วยงานต่างๆ  แนะถึงเวลาโลกต้องให้ความสำคัญความเสมอภาค มีเมตตา ให้อภัยต่อกัน   นี่คือสันติวิธีวิถีสันติภาพ


จากกรณีเกิดเหตุรถบรรทุกพุ่งชนชนฝูงชนบนถนนคนเดินและเข้าห้างสรรพสินค้าใจกลางกรุงสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เกิดไฟลุกไหม้ หลังจากนั้นมีการยิงกันเกิดขึ้นด้วย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต  3 รายและบาดเจ็บอีกหลายคน  ซึ่งประธานาธิบดีสวีเดนได้ออกมายืนยันแล้วว่า กรณีดังกล่าวเป็นการก่อการร้าย และมีการจับกุมผู้ต้องสงสัยได้  1 ราย เมื่อวันที่ 7 เมษายน และเหตุการณ์เกิดเหตุรุนแรงเกิดขึ้นในพื้นที่ในทั่วทุกมุมโลก

หลังนั้นรัฐบาลสวีเดน สถาบันพระมหากษัตริย์ หน่วยงานต่างๆได้ออกมาแสดงความเสียใจและให้กำลังใจทุกคนที่ได้ช่วยทำให้เหตุการณ์สงบลงได้ด้วยเวลาอันรวดเร็ว รวมทั้งองค์การทางศาสนา สหภาพชาวพุทธในสวีเดน และทุกศาสนา จึงได้ออกมารวมกันแสดงความเสียใจไว้อาลัยและต่อต้านการก่อการร้ายดังกล่าว

ผู้แทนสหภาพชาวพุทธในสวีเดนที่เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวคือพระวิเทศปุญญาภรณ์ (พระมหาบุญทิน) ประธานสมาคมชาวพุทธไทยในสวีเดน เจ้าอาวาสวัดพุทธาราม สวีเดน กรรมการบริหารสหภาพพระธรรมทูตไทยในทวีปยุโรป และเป็นเจ้าของรางวัลทูตสันติภาพ UPF ประเทศสวีเดน

พระโสภณวชิราภรณ์ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) ได้นำกิจกรรมมาเผยแพร่ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว "Deputy Rector Phrasophonvachirabhorn" โดยได้ระบุึว่า   ยามที่ประเทศเดือนร้อนต้องการความสงบ สติปัญญา ทางประธานองค์กรจัดงานจึงได้ได้นิมนต์พระวิเทศปุญญาภรณ์ร่วมกิจกรรม เพราะเป็นพระสงฆ์ที่ชาวไทย ชาวสวีเดนและยุโรปรู้จักดี เนื่องจากมีบทบาทและหน้าที่ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีบทบททผู้นำด้านสันติภาพโลก

"ท่านได้ออกมาแสดงวิสัยทัศน์ ท่ามกลางผู้นำศาสนาประชาชนและสื่อมวลชนที่กำลังรวมตัวกันไว้อาลัย วางดอกไม้ ยืนไว้อาลัย ในใจกลางสตอกโฮล์ม เป็นที่ประทับใจของทุกชาติศาสนาว่า บัดนี้ถึงเวลาแล้วที่โลกเราต้องหันมาให้ความสำคัญของความเสมอภาคต่อกันโดยไม่จำกัด เชื้อชาติ ศาสนา และหยุดความรุนแรงต่างๆ ช่วยกันป้องกันเหตุการณ์ร้ายทุกรูปแบบ ด้วยการใช้หลักเมตตาธรรมค้ำจุนโลก และให้ดูความรักความสามัคคีของชาวสวีเดนเป็นแบบอย่าง ความสงบสุข จะเกิดได้ต่อเมื่อทุกคนหยุดระงับความโลภ โกรธ หลง และการมีเมตตาขั้นสูงสุด นี่เป็นทางแห่งสันติภาพ และเป็นแนวทางที่จะพ้นทุกข์โดยแท้จริง"

รองอธิการบดี มจร ยังระบุด้วยว่า  แข็งแกร่งในอุดมการณ์ อ่อนโยนในกระบวนการ (We are stronger through inner peace) คือประสานได้ในทุกสถานการณ์ โลกเกิดภัยสงคราม ภัยก่อการร้าย,ภัยธรรมชาติ และภัยจากสิ่งที่เราไม่คาดคิด ว่ามันจะเกิดขึ้นใน แต่ในยุคนี้มันได้เกิดขึ้นแล้ว นอกเหนือจาก digital ที่มนุษย์พัฒนามันขึ้นมา ยังรวมถึงอาวุธที่ร้ายแรงต่างๆอีกมากมาย การก่อการร้ายคือการตายได้ทุกที่ทุกเวลาแม้แต่ในที่เขียนไว้ว่าห้ามเกิด ผู้บริสุทธิ์ คือเหยื่อของคำว่า "อาฆาต พยาบาท" วิธีการที่จะยุติ ความอาฆาต พยาบาท คือคำว่า ให้อภัย (Forgiveness is keep forward) การให้อภัยคือการก้าวไปข้างหน้า เราไม่ได้อ่อนแอลงแต่เราปลูกพลังแห่งสันติภาพให้หยั่งลึกลงไปในดินเพื่อให้รากแก้วของสันติภาพนั้น มั่นคงและแข็งแรงกว่าเดิม (We are growth and we are stronger) ดังนั้นพระธรรมทูตนอกจากจะเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณแล้ว ยังเป็นที่พึ่งและเป็นขวัญกำลังใจ. และเป็นแบบอย่างให้ผู้คนได้ตื่นตัว ร่วมรักสามัคคี และเป็นผู้นำให้คนหันมาร่วมมือร่วมใจในต่อต้านความรุนแรงด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"มจร"สีเขียวยุคAI! จัดกิจกรรม "รักษ์ มจร รักษ์สิ่งแวดล้อม คืนขยะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน"

กิจกรรม “รักษ์ มจร รักษ์สิ่งแวดล้อม” เป็นตัวอย่างที่ดีของการผสมผสานระหว่างจริยธรรมและเทคโนโลยีเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในยุคปัจจุบัน ด้วยหล...