เพลง: "กุศลอุทิศให้ใจสงบ"
ทำนอง: เชิงเพลงพื้นบ้านหรือเพลงธรรมะร่วมสมัย
(ท่อนแรก)
(ช้า)
จูฬเสฏฐีผู้เคยมั่งมี แต่ใจตระหนี่ไม่รู้ให้
ผลกรรมตามทันในภพใหม่ เปลือยกายระหกระเหิน
พระราชาถามด้วยใจเมตตา
"ทุกข์นี้เกิดมาเพราะเหตุใด?"
เปรตบอกเล่ากรรมไว้เตือนใจ
"ตระหนี่สิ้นไป หิวโหยทุกครา"
(ท่อนฮุก)
(เร็วขึ้น)
ทำบุญเถิดหนา อย่าได้ประมาท
ผลแห่งทานนั้นจะคืนกลับมา
อุทิศบุญไป ด้วยใจศรัทธา
ช่วยจรรโลงฟ้า ให้สันติยืนยง
(ท่อนสอง)
(ช้า)
พราหมณ์ผู้ไม่มีศีลธรรม บาปนั้นผลกรรมยังคงหนักหนา
ให้บุญตกถึงต้องพร้อมศรัทธา ศีลทานนำพาสู่ทางสว่างไกล
พระราชาจัดถวายทานใหญ่
แด่พระพุทธสงฆ์อย่างตั้งใจ
อุทิศบุญนั้นเพื่อเปรตที่ไกล
เปรตกลับสดใส เทวดายิ้มมา
(ท่อนฮุก)
(เร็วขึ้น)
ทำบุญเถิดหนา อย่าได้ประมาท
ผลแห่งทานนั้นจะคืนกลับมา
อุทิศบุญไป ด้วยใจศรัทธา
ช่วยจรรโลงฟ้า ให้สันติยืนยง
(ท่อนจบ)
(ช้าและสงบ)
จูฬเสฏฐีเปรตกลายเป็นสุข ทุกข์จางหายไปเพราะกรรมดี
มนุษย์ทั้งหลายโปรดจงดูสิ ธรรมะชี้นำ สันติในใจ... วิเคราะห์เรื่อง “จูฬเสฏฐีเปตวัตถุ” ในพระไตรปิฎก เล่มที่ 26 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 18 ขุททกนิกาย เปตวัตถุ
บทนำ
“จูฬเสฏฐีเปตวัตถุ” เป็นเรื่องหนึ่งใน “เปตวัตถุ” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงผลของกรรมโดยละเอียด ผ่านเหตุการณ์ที่พระเจ้าอชาตศัตรูทรงพบกับเปรตผู้มีความทุกข์อย่างใหญ่หลวง อันเป็นผลจากการกระทำในอดีต เรื่องนี้มีคุณค่าสำคัญในเชิงพุทธสันติวิธี โดยแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างกรรม การแก้ไขกรรม และการอุทิศบุญที่เป็นปัจจัยในการสร้างความสุขและความสงบทั้งในภพนี้และภพหน้า
เนื้อเรื่องโดยสังเขป
พระเจ้าอชาตศัตรูทรงพบเปรตซึ่งเคยเป็นเศรษฐีผู้มั่งคั่งในพระนครพาราณสี แต่ตระหนี่ ไม่เคยให้ทานแก่ผู้ใด เปรตตนนี้เล่าถึงความทุกข์ที่ตนได้รับจากผลกรรมในอดีตและชี้แจงว่า แม้ตนต้องการบริโภคผลบุญที่ญาติทำอุทิศให้ แต่ไม่ได้รับเนื่องจากพราหมณ์ผู้รับทานนั้นไม่บริสุทธิ์ พระเจ้าอชาตศัตรูจึงทรงจัดถวายทานแด่พระพุทธเจ้าและพระสงฆ์ด้วยพระองค์เอง และอุทิศส่วนบุญนี้ให้แก่จูฬเสฏฐีเปรต เมื่อได้รับบุญ เปรตนั้นกลายเป็นเทวดาผู้มีฤทธิ์และความสุขอย่างยิ่ง
วิเคราะห์เชิงพุทธสันติวิธี
หลักธรรมเรื่องกรรมและผลของกรรม เรื่องนี้สะท้อนถึงกฎแห่งกรรมอย่างชัดเจน จูฬเสฏฐีเปรตแสดงให้เห็นว่าความตระหนี่และการไม่ให้ทานนำไปสู่ความทุกข์ในโลกหน้า ขณะเดียวกัน การทำบุญและอุทิศส่วนกุศลด้วยความบริสุทธิ์ใจสามารถช่วยแก้ไขผลของกรรมได้บางส่วน
การอุทิศส่วนบุญ การอุทิศบุญเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างผู้ให้และผู้รับในมิติของจิตวิญญาณ ญาติมิตรสามารถช่วยเหลือผู้ล่วงลับได้ผ่านการทำบุญที่ถูกต้องและเหมาะสม ดังที่พระเจ้าอชาตศัตรูทรงทำในเรื่องนี้
บทบาทของผู้นำในพุทธสันติวิธี พระเจ้าอชาตศัตรูทรงเป็นตัวอย่างของผู้นำที่ใช้หลักธรรมในการแก้ไขปัญหา ทรงรับฟังเรื่องราวด้วยปัญญาและดำเนินการแก้ไขอย่างเหมาะสมผ่านการถวายทานแด่พระพุทธเจ้าและพระสงฆ์ การกระทำนี้แสดงให้เห็นว่าผู้นำสามารถสร้างสันติสุขในสังคมได้โดยใช้หลักธรรมเป็นเครื่องมือ
ความสำคัญของศีลในฐานะปัจจัยรองรับบุญ เรื่องนี้ชี้ให้เห็นว่าผู้รับทานต้องมีศีลจึงจะเป็นเนื้อนาบุญที่สมควรแก่ทักษิณา หากผู้รับไม่มีศีล ผลบุญที่อุทิศไปย่อมไม่เกิดผลแก่ผู้ล่วงลับ ดังที่จูฬเสฏฐีเปรตกล่าวถึงพราหมณ์ผู้ไม่มีศีลซึ่งไม่สามารถส่งผลบุญให้ถึงตนได้
ผลของการบำเพ็ญกุศลในเชิงจริยธรรมและสังคม การถวายทานและการอุทิศบุญในเรื่องนี้มีผลทั้งในมิติของจริยธรรมและสังคม โดยผู้กระทำกุศลได้รับความสุขในปัจจุบัน ขณะเดียวกันยังช่วยส่งเสริมความเชื่อมั่นในกฎแห่งกรรมและการทำความดีในหมู่ชน
ข้อคิดจากเรื่องจูฬเสฏฐีเปตวัตถุ
การให้ทาน เป็นเครื่องลดละความตระหนี่ และเป็นหนทางสร้างสุขในทั้งสองโลก
ศีล เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การทำบุญและการอุทิศส่วนกุศลสัมฤทธิ์ผล
การใช้หลักธรรมแก้ไขปัญหา เช่น การอุทิศบุญและการทำกุศลอย่างถูกต้อง เป็นแนวทางสร้างสันติสุขในสังคม
บทบาทของผู้นำที่ยึดธรรม แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของปัญญาและเมตตาในการบริหารจัดการปัญหา
บทสรุป
“จูฬเสฏฐีเปตวัตถุ” เป็นตัวอย่างที่ดีของการประยุกต์ใช้หลักธรรมในพระพุทธศาสนาเพื่อสร้างความสงบสุขในมิติส่วนบุคคลและสังคม เรื่องนี้ชี้ให้เห็นความสำคัญของการทำบุญ การอุทิศส่วนกุศล และการมีศีลธรรมในชีวิตประจำวัน เพื่อให้เกิดความสุขและสันติสุขที่ยั่งยืน ทั้งในภพนี้และภพหน้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น