วันอังคารที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2555
วันเสาร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2555
น้ำหมักชีวภาพผักโขมสูตรมหาพอเพียง
สวัสดีครับพี่น้องชาวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องชาวตระกูลสมพงษ์ สำบายดีพี่น้องชาวลาว หาวคั้นหล่อกั้ว พี่น้องไทดำ แดง ขาว อยู่เวียดนาม อยู่หลีกินหวานพี่น้องไทลือสิบสองปันนาเมืองจีน ใหม่สูงครับพี่น้องไทใหญ่รัฐฉานพม่า พี่ไทคำตี ไทอาหม รัฐอัสสัม อินเดีย
มาพบกันอีกครั้งครับสำหรับรายการ"มหาทำกินวิถีพอเพียง" การทำเกษตรอินทรย์หรือพืชออแกนนิคนั้นจะต้องรู้จักการทำน้ำหมักชีวภาพ และปุ๋ยจุลินทรีย์แห้ง ซึ่งก็จะมีอยู่หลายสูตรเหมือนกัน ตามสูตรที่ทางสวนเกษตรดาดฟ้าสำนักงานเขตหลักสี่ที่มีชื่อก็จะมีน้ำหมักสูตรเร่งต้นเร่งใบหรือจุลินทรีย์ตัวแม่ ก็จะมีส่วนผสมคือ
1.กวางตุ้ง ผักบุ้ง คะน้า 3 กิโลกรัม 2.กากน้ำตาล 1 กิโลกรัม
วิธีทำก็คือนำผักมาสับเป็นชิ้นเล็กๆหนาประมาณ 1 เซนติเมตร ใส่ลงในถัง ใส่กากน้ำตาล คลุกเคล้าให้เข้ากัน ปิดฝาใว้ 15 วัน แล้วเติมน้ำ 10 ลิตร ปิดฝาหมักต่ออีก 1 เดือน แล้วรินเอาน้ำหมักเก็บไว้ในขวดปิดฝาให้สนิดเก็บไว้ วิธีใช้ก็คือ น้ำ 10 ลิตรต่อน้ำหมัก 2 ช้อนโต๊ะใช้รดผักทุก 3-5 วัน
และน้ำหมักสูตรเร่งดอกเร่งผลหรือจุลินทร์ตัวพ่อ ก็จะประกอบด้วย กล้วย สับปะรด แคนตาลูป 3 กิโลกรัม และกากน้ำตลาดแล้วทำเหมือนสูตรแรก
แต่เมื่อทำจริงๆก็ต้องมีการดัดแปลงครับ อย่างผักสีเขียวก็ใช้ผักโขมที่เกิดตามธรรมชาติใกล้บ้านริมถนนซอยกันตนา จะเรียกว่าน้ำหมักชีวภาพผักโขมก็คงจะได้ นอกจากนี้ยังได้รับการอนุเคราะห์จากร้านหมูกะทะริเวอร์พลอยข้างบ้านที่จะนำเศษผักที่ใช้ประกอบกับเครื่องเคียงหมูกะทะที่ใช้ไม่ได้ให้ทุกวันก็จะมีผักบุ้งฝักกาด ส่วนกากน้ำตาลก็ใช้น้ำแดงที่ทางร้านซื้อมาไหว้ลูกกรอกแทน ขณะที่หัวเชื้อจุลินทรีย์ก็ไปเอามาจากเทศบาลตำบลบางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพราะที่เทศบาลตำบลบางใหญ่คำนวนแล้วไม่คุ้มกับค่ารถ
เมื่อผมได้ผักที่จะนำมาทำน้ำหมักชีวภาพก็จะมานั่งสับทุกวันครับ การสับก็ต้องอาศัยความชำนาญอยู่บ้างเพราะเคยทำงานอยู่ร้านสะดวกซื้ออยู่พักหนึ่งและต้องระวังไม่เช่นนั้นอาจจะสับมือตัวเองได้ เสร็จแล้วก็ทำตามวิธีดังกล่าวตอนนี้ผมก็ได้น้ำหมักไว้รดผักแล้วครับ ก็คิดว่าจะทำจำหน่ายอยู่เหมือนกันเพราะว่าเริ่มจะเยอะแล้ว ... สวัสดี
มาพบกันอีกครั้งครับสำหรับรายการ"มหาทำกินวิถีพอเพียง" การทำเกษตรอินทรย์หรือพืชออแกนนิคนั้นจะต้องรู้จักการทำน้ำหมักชีวภาพ และปุ๋ยจุลินทรีย์แห้ง ซึ่งก็จะมีอยู่หลายสูตรเหมือนกัน ตามสูตรที่ทางสวนเกษตรดาดฟ้าสำนักงานเขตหลักสี่ที่มีชื่อก็จะมีน้ำหมักสูตรเร่งต้นเร่งใบหรือจุลินทรีย์ตัวแม่ ก็จะมีส่วนผสมคือ
1.กวางตุ้ง ผักบุ้ง คะน้า 3 กิโลกรัม 2.กากน้ำตาล 1 กิโลกรัม
วิธีทำก็คือนำผักมาสับเป็นชิ้นเล็กๆหนาประมาณ 1 เซนติเมตร ใส่ลงในถัง ใส่กากน้ำตาล คลุกเคล้าให้เข้ากัน ปิดฝาใว้ 15 วัน แล้วเติมน้ำ 10 ลิตร ปิดฝาหมักต่ออีก 1 เดือน แล้วรินเอาน้ำหมักเก็บไว้ในขวดปิดฝาให้สนิดเก็บไว้ วิธีใช้ก็คือ น้ำ 10 ลิตรต่อน้ำหมัก 2 ช้อนโต๊ะใช้รดผักทุก 3-5 วัน
และน้ำหมักสูตรเร่งดอกเร่งผลหรือจุลินทร์ตัวพ่อ ก็จะประกอบด้วย กล้วย สับปะรด แคนตาลูป 3 กิโลกรัม และกากน้ำตลาดแล้วทำเหมือนสูตรแรก
แต่เมื่อทำจริงๆก็ต้องมีการดัดแปลงครับ อย่างผักสีเขียวก็ใช้ผักโขมที่เกิดตามธรรมชาติใกล้บ้านริมถนนซอยกันตนา จะเรียกว่าน้ำหมักชีวภาพผักโขมก็คงจะได้ นอกจากนี้ยังได้รับการอนุเคราะห์จากร้านหมูกะทะริเวอร์พลอยข้างบ้านที่จะนำเศษผักที่ใช้ประกอบกับเครื่องเคียงหมูกะทะที่ใช้ไม่ได้ให้ทุกวันก็จะมีผักบุ้งฝักกาด ส่วนกากน้ำตาลก็ใช้น้ำแดงที่ทางร้านซื้อมาไหว้ลูกกรอกแทน ขณะที่หัวเชื้อจุลินทรีย์ก็ไปเอามาจากเทศบาลตำบลบางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพราะที่เทศบาลตำบลบางใหญ่คำนวนแล้วไม่คุ้มกับค่ารถ
เมื่อผมได้ผักที่จะนำมาทำน้ำหมักชีวภาพก็จะมานั่งสับทุกวันครับ การสับก็ต้องอาศัยความชำนาญอยู่บ้างเพราะเคยทำงานอยู่ร้านสะดวกซื้ออยู่พักหนึ่งและต้องระวังไม่เช่นนั้นอาจจะสับมือตัวเองได้ เสร็จแล้วก็ทำตามวิธีดังกล่าวตอนนี้ผมก็ได้น้ำหมักไว้รดผักแล้วครับ ก็คิดว่าจะทำจำหน่ายอยู่เหมือนกันเพราะว่าเริ่มจะเยอะแล้ว ... สวัสดี
ยลปลูกผักลงเรือถั่วฝักยาวไต่เชือก
สวัสดีครับพี่น้องชาวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องชาวตระกูลสมพงษ์ สำบายดีพี่น้องชาวลาว หาวคั้นหล่อกั้ว พี่น้องไทดำ แดง ขาว อยู่เวียดนาม อยู่หลีกินหวานพี่น้องไทลือสิบสองปันนาเมืองจีน ใหม่สูงครับพี่น้องไทใหญ่รัฐฉานพม่า พี่ไทคำตี ไทอาหม รัฐอัสสัม อินเดีย
มาพบกันอีกครั้งครับสำหรับรายการ"มหาทำกินวิถีพอเพียง" ตอนนี้ก็จะมาลงรายละเอียดในแปลงผักที่ผมปลูกผ่านมาประมาณ 2 เดือนกว่าแล้ว ก็ได้ความคิดครับว่าสิ่งสำคัญในการปลูกพืชผักนั้นอยู่ที่การวางแผนวางแปลนก่อน เพราะว่าเรามีเนื้อที่ในการปลูกน้อย ตอนแรกๆก็ไม่เข้าใจหรอกครับก็ค่อยๆคิดค่อยๆทำไป โดยจะใช้สิ่งของที่มีอยู่มาเป็นอุปกรณ์ในการปลูกให้ได้มากที่สุด จะใช้เงินซื้อในสิ่งที่มีความจำเป็นจริงๆ
อย่างเช่นเรือนี้ครับ ที่ได้รับการอนุเคราะห์จากกระทรวงวัฒนธรรมภายใต้การแนะนำของนายสุรศักดิ์ เตชะทัศน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและเพื่อนๆ เมื่อน้ำลดแล้วก็ไม่รู้ว่าจะไปเก็บไว้ที่ไหนครับ ตอนแรกนำมาวางแล้วก็เอาน้ำใส่ ก็เกิดประชามติครับคือเพื่อนบ้านก็งงครับว่ามหาสำราญจะทำอะไรจะเลี้ยงปลาหรือจะปลูกบัวดี
ก็เกิดความคิดที่จะทำเป็นแปลงปลูกผักครับ โดยได้แนวความคิดมาจากหนังสือสวนผักคนเมืองสวนผักดาดฟ้า ตอนสวนครัวกลางน้ำครับที่นำต้นธูปฤาษีมากองทับกันในคลองและสามารถทำเป็นแปลงปลูกผักได้ ผมก็เอาเศษอิฐิจากอิฐิบล็อกที่นำมาก่อป้องกันน้ำท่วมบ้านแต่ไม่ได้ผลนั้นแหละครับมาลองพื้นก่อน แล้วก็นำเคลื้อบานบุรีที่มีคนนำมาทิ้งมาวางแล้วก็เอาดินปุ๋ยชีวภาพมาเททับก็ได้แปลงปลูกผักอีก 1 แปลง ก็คงจะเรียกว่าเป็นผักลงเรือได้นะครับ
ส่วนถั่วฝักยาวไต่เชือกนี้ก็ได้แนวความคิดมาจากน้องชายแฟนที่มาจากต่างจังหวัดมาช่วยปรับปรุงบ้านให้ฝีมือก็อยู่ระดับช่างก่อสร้างหละครับ ว่าสามารถนำเชือกฟางมาผูกให้ถั่วฝักยาวไต่แทนไม้รวกได้ก็อย่างที่เห็นนี่หละครับ ประกอบกับได้ข้อมูลจากหนังสือว่าชาวออสเตรเลียก็ใช้เชือกในโรงเรือนปลูกผักเหมือนกัน ก็ถือว่าเป็นความรู้ใหม่หละครับ นี้ก็ต้องเรียกว่าฝักยาวไต่เชือกได้เช่นเดียวกันครับ
นอกจากนี้ยังได้นำเชืือกที่เก็บมาจากคนทิ้งเพราะน้ำท่วม มาทำตาข่ายให้ผักพันธุ์ไม้เลื้อยได้ไต่ก็อย่างที่เห็นนี้หละครับ ... สวัสดี
มาพบกันอีกครั้งครับสำหรับรายการ"มหาทำกินวิถีพอเพียง" ตอนนี้ก็จะมาลงรายละเอียดในแปลงผักที่ผมปลูกผ่านมาประมาณ 2 เดือนกว่าแล้ว ก็ได้ความคิดครับว่าสิ่งสำคัญในการปลูกพืชผักนั้นอยู่ที่การวางแผนวางแปลนก่อน เพราะว่าเรามีเนื้อที่ในการปลูกน้อย ตอนแรกๆก็ไม่เข้าใจหรอกครับก็ค่อยๆคิดค่อยๆทำไป โดยจะใช้สิ่งของที่มีอยู่มาเป็นอุปกรณ์ในการปลูกให้ได้มากที่สุด จะใช้เงินซื้อในสิ่งที่มีความจำเป็นจริงๆ
อย่างเช่นเรือนี้ครับ ที่ได้รับการอนุเคราะห์จากกระทรวงวัฒนธรรมภายใต้การแนะนำของนายสุรศักดิ์ เตชะทัศน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและเพื่อนๆ เมื่อน้ำลดแล้วก็ไม่รู้ว่าจะไปเก็บไว้ที่ไหนครับ ตอนแรกนำมาวางแล้วก็เอาน้ำใส่ ก็เกิดประชามติครับคือเพื่อนบ้านก็งงครับว่ามหาสำราญจะทำอะไรจะเลี้ยงปลาหรือจะปลูกบัวดี
ก็เกิดความคิดที่จะทำเป็นแปลงปลูกผักครับ โดยได้แนวความคิดมาจากหนังสือสวนผักคนเมืองสวนผักดาดฟ้า ตอนสวนครัวกลางน้ำครับที่นำต้นธูปฤาษีมากองทับกันในคลองและสามารถทำเป็นแปลงปลูกผักได้ ผมก็เอาเศษอิฐิจากอิฐิบล็อกที่นำมาก่อป้องกันน้ำท่วมบ้านแต่ไม่ได้ผลนั้นแหละครับมาลองพื้นก่อน แล้วก็นำเคลื้อบานบุรีที่มีคนนำมาทิ้งมาวางแล้วก็เอาดินปุ๋ยชีวภาพมาเททับก็ได้แปลงปลูกผักอีก 1 แปลง ก็คงจะเรียกว่าเป็นผักลงเรือได้นะครับ
ส่วนถั่วฝักยาวไต่เชือกนี้ก็ได้แนวความคิดมาจากน้องชายแฟนที่มาจากต่างจังหวัดมาช่วยปรับปรุงบ้านให้ฝีมือก็อยู่ระดับช่างก่อสร้างหละครับ ว่าสามารถนำเชือกฟางมาผูกให้ถั่วฝักยาวไต่แทนไม้รวกได้ก็อย่างที่เห็นนี่หละครับ ประกอบกับได้ข้อมูลจากหนังสือว่าชาวออสเตรเลียก็ใช้เชือกในโรงเรือนปลูกผักเหมือนกัน ก็ถือว่าเป็นความรู้ใหม่หละครับ นี้ก็ต้องเรียกว่าฝักยาวไต่เชือกได้เช่นเดียวกันครับ
นอกจากนี้ยังได้นำเชืือกที่เก็บมาจากคนทิ้งเพราะน้ำท่วม มาทำตาข่ายให้ผักพันธุ์ไม้เลื้อยได้ไต่ก็อย่างที่เห็นนี้หละครับ ... สวัสดี
น้ำท่วมเปลี่ยนนิสัยใฝ่ใจเกษตรพอเพียง
สวัสดีครับพี่น้องชาวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องชาวตระกูลสมพงษ์ สำบายดีพี่น้องชาวลาว หาวคั้นหล่อกั้ว พี่น้องไทดำ แดง ขาว อยู่เวียดนาม อยู่หลีกินหวานพี่น้องไทลือสิบสองปันนาเมืองจีน ใหม่สูงครับพี่น้องไทใหญ่รัฐฉานพม่า พี่ไทคำตี ไทอาหม รัฐอัสสัม อินเดีย
มาพบกันอีกครั้งครับสำหรับรายการ"มหาทำกินวิถีพอเพียง" สืบเนื่องจากตอนแนะนำรายงานนั้นแหละครับ ปัจจัยหลักที่มาของรายงานนี้ก็คือจากมหาอุทกภัยใหญ่ปี 2554 ที่ผ่านมาสร้างความเสียหายให้กับคนไทยไม่น้อยไม่เว้นแม้นแต่มหาสำราญ สมพงษ์ ที่บ้านท่วมถึงหน้าอกเหมือนกัน
เงินเยียวยา 5,000 บาทจากรัฐบาลนั้นก็ไม่พอกับค่าใช้จ่ายในการซ่อมบ้านหรอกครับ ส่วนที่บอกว่าจะชดเชยให้ตามความเป็นจริงแต่ไม่เกิด 3 หมื่นบาทนั้นก็ไม่รู้จะได้เมื่อใด เพราะนี้ก็เข้าเดือนเมษายนแล้วยังไม่มีวี่แวว และที่บอกว่าใบเสร็จค่าใช่จ่ายในการซ่อมบ้านสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ ก็ต้องรอปีหน้าคือปี 2556 เพราะนำไปยื่นแสดงการเสียภาษีแล้ว เจ้าหน้าที่บอกว่าใช้ไม่ได้เพราะในใบเสร็จระบุเป็นปี 2555 ก็ไม่รู้ว่าตอนยื่นแสดงการเสียภาษีปี 2555 ในปี 2556 นั้นใบเสร็จเหล่านี้ก็ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหนแล้ว
แต่ก็ไม่เป็นไรครับ เพราะว่าน้ำท่วมทำให้เปลี่ยนแนวความคิดหรือเปลี่ยนนิสัยให้หันมาสนใจเกี่ยวกับการเกษตรมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรอินทรีย์หรือเกษตรพอเพียง ตอนนี้ก็เริ่มอยากจะทำอย่างจริงๆจังๆแล้ว แต่ก็ต้องหาที่เสียก่อนอย่างน้อยก็ประมาณ 1 ไร่ เพราะในอนาคตคนมากขึ้นที่เพาะปลูกน้อยลง อาหารก็จะหายากและขาดแคลนหากไม่เตรียมความพร้อม คนรุ่นต่อไปคงจะลำบากครับ ก็ต้องขอขอบคุณน้ำท่วมครับที่สามารถเปลียนนิสัยมหาสำราญ สมพงษ์ได้ ... สวัสดี
มาพบกันอีกครั้งครับสำหรับรายการ"มหาทำกินวิถีพอเพียง" สืบเนื่องจากตอนแนะนำรายงานนั้นแหละครับ ปัจจัยหลักที่มาของรายงานนี้ก็คือจากมหาอุทกภัยใหญ่ปี 2554 ที่ผ่านมาสร้างความเสียหายให้กับคนไทยไม่น้อยไม่เว้นแม้นแต่มหาสำราญ สมพงษ์ ที่บ้านท่วมถึงหน้าอกเหมือนกัน
เงินเยียวยา 5,000 บาทจากรัฐบาลนั้นก็ไม่พอกับค่าใช้จ่ายในการซ่อมบ้านหรอกครับ ส่วนที่บอกว่าจะชดเชยให้ตามความเป็นจริงแต่ไม่เกิด 3 หมื่นบาทนั้นก็ไม่รู้จะได้เมื่อใด เพราะนี้ก็เข้าเดือนเมษายนแล้วยังไม่มีวี่แวว และที่บอกว่าใบเสร็จค่าใช่จ่ายในการซ่อมบ้านสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ ก็ต้องรอปีหน้าคือปี 2556 เพราะนำไปยื่นแสดงการเสียภาษีแล้ว เจ้าหน้าที่บอกว่าใช้ไม่ได้เพราะในใบเสร็จระบุเป็นปี 2555 ก็ไม่รู้ว่าตอนยื่นแสดงการเสียภาษีปี 2555 ในปี 2556 นั้นใบเสร็จเหล่านี้ก็ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหนแล้ว
แต่ก็ไม่เป็นไรครับ เพราะว่าน้ำท่วมทำให้เปลี่ยนแนวความคิดหรือเปลี่ยนนิสัยให้หันมาสนใจเกี่ยวกับการเกษตรมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรอินทรีย์หรือเกษตรพอเพียง ตอนนี้ก็เริ่มอยากจะทำอย่างจริงๆจังๆแล้ว แต่ก็ต้องหาที่เสียก่อนอย่างน้อยก็ประมาณ 1 ไร่ เพราะในอนาคตคนมากขึ้นที่เพาะปลูกน้อยลง อาหารก็จะหายากและขาดแคลนหากไม่เตรียมความพร้อม คนรุ่นต่อไปคงจะลำบากครับ ก็ต้องขอขอบคุณน้ำท่วมครับที่สามารถเปลียนนิสัยมหาสำราญ สมพงษ์ได้ ... สวัสดี
ดินปุ๋ยชีวภาพสุดฮิตตลาดไม้ดอกไม้ประดับ
สวัสดีครับพี่น้องชาวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องชาวตระกูลสมพงษ์ สำบายดีพี่น้องชาวลาว หาวคั้นหล่อกั้ว พี่น้องไทดำ แดง ขาว อยู่เวียดนาม อยู่หลีกินหวานพี่น้องไทลือสิบสองปันนาเมืองจีน ใหม่สูงครับพี่น้องไทใหญ่รัฐฉานพม่า พี่ไทคำตี ไทอาหม รัฐอัสสัม อินเดีย
มาพบกันอีกครั้งครับสำหรับรายการ"มหาทำกินวิถีพอเพียง" .... สวัสดี
มาพบกันอีกครั้งครับสำหรับรายการ"มหาทำกินวิถีพอเพียง" .... สวัสดี
พบช่างแกะสลักลงรักฝังมุกตระกูลดังเทียนทอง
สวัสดีครับพี่น้องชาวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องชาวตระกูลสมพงษ์ สำบายดีพี่น้องชาวลาว หาวคั้นหล่อกั้ว พี่น้องไทดำ แดง ขาว อยู่เวียดนาม อยู่หลีกินหวานพี่น้องไทลือสิบสองปันนาเมืองจีน ใหม่สูงครับพี่น้องไทใหญ่รัฐฉานพม่า พี่ไทคำตี ไทอาหม รัฐอัสสัม อินเดีย
มาพบกันอีกครั้งครับสำหรับรายการ"มหาทำกินวิถีพอเพียง" ผมได้นำท่านมาพบกับอาชีพๆหนึ่งที่มีส่วนสำคัญในการสืบสานศิลปวัฒนธรรมไทยไม่ให้เสื่อมสูญ นั้นก็คืออาชีพ "แกะสลักลงรักฝังมุก"
นายช่างที่ผมจะพามาพบนี้ก็ไม่ใช่คนธรรมดาครับ แต่เป็นช่างจากตระกูลดังฝั่งตะวันออกนั้นก็คือตระกูล"เทียนทอง" คือนายสำเริญ เทียนทอง ซึ่งเป็นคนจังหวัดหวัดสุรินทร์เป็นชาวเขมรสุรินทร์ครับ และได้อพยพมาอยู่ที่หมู่บ้านวิรากร ซอยกันตนา ต.-อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี
นายสำเริญบอกว่ายึดอาชีพนี้มา 20 ปีกว่าแล้ว ช่วงที่บูมๆ ก็มีรายงานเข้ามาประมาณ 5-6 หมื่นบาท แต่ช่วงน้ำท่วมมานี้ก็ไม่ค่อยดีเท่าใด ก็อยู่ที่ประมาณ 2-3 หมื่นบาท งานที่สั่งให้ทำก็จะเป็นการแกะสลักลงรักฝังมุกบานประตูโบสถ์ ตู้พระธรรม กรอบใบประกาศพัตรยศ และขาตั้งพัตรยศ
หากวัดหรือท่านใดจะใช้บริการนายช่างสำเริญ เทียนทอง ก็สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทร 085-1210760 หรือที่ 082-4900068.... สวัสดี
มาพบกันอีกครั้งครับสำหรับรายการ"มหาทำกินวิถีพอเพียง" ผมได้นำท่านมาพบกับอาชีพๆหนึ่งที่มีส่วนสำคัญในการสืบสานศิลปวัฒนธรรมไทยไม่ให้เสื่อมสูญ นั้นก็คืออาชีพ "แกะสลักลงรักฝังมุก"
นายช่างที่ผมจะพามาพบนี้ก็ไม่ใช่คนธรรมดาครับ แต่เป็นช่างจากตระกูลดังฝั่งตะวันออกนั้นก็คือตระกูล"เทียนทอง" คือนายสำเริญ เทียนทอง ซึ่งเป็นคนจังหวัดหวัดสุรินทร์เป็นชาวเขมรสุรินทร์ครับ และได้อพยพมาอยู่ที่หมู่บ้านวิรากร ซอยกันตนา ต.-อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี
นายสำเริญบอกว่ายึดอาชีพนี้มา 20 ปีกว่าแล้ว ช่วงที่บูมๆ ก็มีรายงานเข้ามาประมาณ 5-6 หมื่นบาท แต่ช่วงน้ำท่วมมานี้ก็ไม่ค่อยดีเท่าใด ก็อยู่ที่ประมาณ 2-3 หมื่นบาท งานที่สั่งให้ทำก็จะเป็นการแกะสลักลงรักฝังมุกบานประตูโบสถ์ ตู้พระธรรม กรอบใบประกาศพัตรยศ และขาตั้งพัตรยศ
หากวัดหรือท่านใดจะใช้บริการนายช่างสำเริญ เทียนทอง ก็สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทร 085-1210760 หรือที่ 082-4900068.... สวัสดี
วันพฤหัสบดีที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2555
"มหาทำกินวิถีพอเพียง"ตอนแนะนำรายการ
สวัสดีครับพี่น้องชาวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องชาวตระกูลสมพงษ์ สำบายดีพี่น้องชาวลาว หาวคั้นหล่อกั้ว พี่น้องไทดำ แดง ขาว อยู่เวียดนาม อยู่หลีกินหวานพี่น้องไทลือสิบสองปันนาเมืองจีน ใหม่สูงครับพี่น้องไทใหญ่รัฐฉานพม่า พี่ไทคำตี ไทอาหม รัฐอัสสัม อินเดีย
มาพบกันอีกครั้งครับสำหรับคลิปหลังจากที่หายไปหลายเดือนช่วงน้ำท่วม ก็เพราะกล้องตัวนี้แหละครับ (โชว์กล้อง) ที่จมน้ำเสียก่อน ไม่เช่นนั้นก็คงจะได้นำสิ่งที่สนใจนำมาเหล่าสู่กันเป็นระยะๆ แต่ก็ทนไม่ไหวครับจึงได้ตัดสินใจถอยกล้องตัวใหม่ใสกว่าเก่าแบบผ่อนนะครับ จะรอใช้ของฟรีคงอีกนาน
เมื่อมีกล้องแล้วก็คงจะต้องใช้งานให้คุ้มกับเงินหละครับ คราวนี้คงจะมีเนื้อหาเป็นเรื่องเป็นราวมากขึ้น บวกกับความอิจฉาตาร้อนหละครับ ที่ตอนนี้เห็นเพื่อนๆได้ดีมีความก้าวหน้าเป็นถึงบก.ทีวีก็มี ก็อดที่จะทำเลียบแบบไม่ได้
ก็เพราะน้ำท่วมนั้นหละครับที่ทำให้มีความคิดที่จะทำเนื้อหาเป็นเรื่องเป็นราว จึงได้เกิดแนวความคิดที่จะทำเป็นลักษณะรายการขึ้น ไหนๆเพื่อนๆก็เรียกชื่อเล่นว่า "มหา" แล้ว ตามวุฒิศึกษาด้านภาษาบาลีมา เว็บส่วนตัวก็ให้ชื่อว่า "mhanation.net" เมื่อทำรายการจึงให้ชื่อว่า "มหาทำกินวิถีพอเพียง" โดยขอรับอาสาเป็นพิธีกรเองออกหน้าออกตากันหน่อยแม้นองค์ประกอบตอนนี้จะไม่สมบูรณ์ไปบ้าง (แก่แล้ว) เพราะจะจ้างพิธีกรดังอย่างแนวไหนหน้าช่องสองช่องสามนามสกุลสมพงษ์ๆเหมือนกันนี่ก็ไม่มีเงินจ้างหละครับ
ทำไมถึงให้ชื่อรายการว่า "มหาทำกินวิถีพอเพียง" หรือครับ ก็เพราะว่าที่ผ่านมาได้ใช้ชีวิตอยู่กับหม้อข้าวของคนอื่นมาตลอดเกือน 40 ปี จนไม่รู้จักวิธีปลูกพืชผักกินเอง ไม่รู้ว่าอาหารที่กินนั้นมีสารพิษอะไรหรือไม่ มีประโยชน์หรือมีโทษอย่างไร
ก็ช่วงน้ำท่วมนั้นหละครับเป็นแรงบรรดาลใจที่สำคัญเพราะเห็นพืชผักในช่วงนั้นราคาแพงมาก เอ้เหมือนกับตอนนี้หรือเปล่าหว้อ แตง มะเขือกิโลละ 50-60 บาท โอ้แม่เจ้า มะนาวลูกละ 15 บาท โอ้โน และก็ไม่มีที่จะซื้อด้วย จึงได้เกิดความคิดที่จะปลูกผักกินเอง หลังจากช่วงน้ำท่วมก็หาผักบุ้ง ผักกระเฉดมาปลูกอย่างที่เห็นในคลิปที่ทำก่อนหน้านี้ ก็ไม่ได้กินหรอกครับน้ำแห้งก่อน แต่ก็ยังดีได้ดูเล่นเพลินๆๆ
เมื่อน้ำลดดินแห้งแล้ว ก็ได้ทำแปลงปลูกพืชผักหน้าบ้านทาวน์เฮ้าส์พื้นที่ประมาณ 10 ตารางวาได้ครับ(แพลนแปลงปลูกผักวงกว้าง) อยากปลูกอะไรก็ปลูกครับ ก็มีกล้วย 2 ต้น (ชี้ที่ต้นกล้วย) ที่เก็บหน่อมาช่วงน้ำท่วม มะระ บวบ ถั่วผักขาว ผักกาดต่างๆ หอมแบ่ง ผักชีโรยหน้า (ถ่ายผักที่ปลูกชี้ให้เห็น) เมื่อปลูกไประยะหนึ่งครับก็มีทั้งที่เกิดและไม่เกิด บางที่ก็โตบางที่ก็ไม่โตเป็นเพราะอะไรหว่า แล้วพันธุ์ไม้เลื่อยจะทำอย่างไร สรุปก็คือว่าเราปลูกผักกินไม่เป็นเลย จึงจำเป็นต้องหาความรู้เพิ่มเติม หนังสือที่เกี่ยวกับการเกษตรต่างๆหลายๆสำนักซื้อมาหมดครับ (โชว์หนังสือ) นี้คือห้องสมุดส่วนตัวครับมีมากอยู่เหมือนกัน
เมื่อหาความรู้เกี่ยวกับการเกษตรไปเรื่อยๆ ถามผู้รู้ต่างๆ บ้าง ทดลองปลูกแก้ปัญหาไปด้วย ก็มาฉุกคิดอีกหละครับว่าเราปลูกพืชผักหรือทำการเกษตรแบบไหนที่ไม่มีโทษต่อร่างกายหรือไม่มีสารพิษเจือปน ก็ได้คำตอบแล้วครับว่าจะต้องเป็นเกษตรอินทรีย์หรือพืชออแกนนิค โดยปลูกผสมผสานตามหลักทฤษฎีใหม่เศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างปุ๋ยก็ต้องปุ๋ยอินทรีย์ครับ
หลังจากที่ได้ทดลองปลูกมาประมาณ 2 เดือนตอนนี้ก็เห็นผลแล้วครับ มื้อเช้าก็ไม่จำเป็นต้องฝากท้องไว้กับคนอื่นเหมือนแต่ก่อน เก็บผักกาด ยอดถั่ว บวบ สะเดา มาลวกจิ้มน้ำพริก ก็ลดค่าใช้จ่ายได้บ้าง
ท่านที่ชมรายการนี้แล้วจะเอาเป็นแบบอย่างก็ไม่ว่ากันนะครับ ส่วนผู้ที่ทำมาก่อนหน้านี้ผมก็ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ด้วยก็แล้วกันยินดีขอรับคำแนะนำ เพราะจะต้องหาความรู้ด้านการเกษตรอีกมากเลยทีเดียว หรือใครจะแวะมาเยี่ยวชมสวนเกษตรพอเพียงของมหาสำราญ สมพงษ์ หมู่บ้านวิรากร ซอยกันตนา บางใหญ่ จ.นนทบุรีก็ยินดีนะครับ
ก็พอรู้เป้าหมายของรายการแล้วนะครับ ก็ขอได้รับความปรารถนาจากผู้อุปถัมภ์ใจดี เออยังไม่หรอกครับเพิ่งเริ่มต้น ส่วนท่านใดเห็นว่ารายการนี้มีประโยชน์จะสนับสนุนบ้างก็ยินดีนะครับ.....สวัสดี
วันพุธที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2555
วันอังคารที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2555
วันจันทร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2555
วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2555
วันเสาร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2555
วันพฤหัสบดีที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555
วันพุธที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2555
วันอังคารที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2555
วันเสาร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2555
วันศุกร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2555
วันพุธที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2555
วันอังคารที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2555
วันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2555
สูตรการดองผักเสี้ยนหน้าบ้านมหาสำราญ สมพงษ์
หลังจากน้ำท่วมทำให้เกิดความคิดที่จะหาเมล็ดพันธุ์ผักมาปลูกเอาไว้รับประทาน และเตรียมความพร้อมหากเกิดน้ำท่วมอีกจะได้มีผักกินไม่ต้องหาซื้อในราคาแพง ในจำนวนนั้นก็มีผักเสี้ยนรวมอยู่ด้วยและก็โตพอที่จะนำมาดองได้ประมาณ 1 กำมือแล้ว
ก็เกิดปัญหาว่าเราไม่เคยทำเพราะโดยปกติแล้วเราอยากกินก็หาซื้อเอาก็ได้ราคาไม่แพงมากนัก หรือไม่ก่อนหน้านี้เราก็เห็นแต่อยู่ในถ้วยที่โยมนำมาถวาย เราก็ต้องหาวิธีทำก็คือถามเพื่อนบ้าน หรือไม่ก็หาข้อมูลในกูเกิ้ลก็ได้สูตรและวิธีทำเป็นที่เรียบร้อย เชื่อแน่ว่าอีกสองวันคงจะเปรี้ยวแล้วนำมาจิ้มน้ำพริกปลาสองตัวก็จะอร่อยน้อย
ต้นทุนก็ไม่มากซื้อเมล็ดมาจากงานมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ซองละยี่สิบบ้าน ที่ทำครั้งนี้ถ้าขายก็ราคาสิบบาทแล้ว แต่นี่ตัดแค่ยอดมาทำ ต่อไปต้นต่อมันก็คงจะโตให้เก็บได้อีกหลายรอบ ลดต้นทุนค่าอาหารไปได้หลายบาทเลยทีเดียว ใครจะเลียนแบบก็ไม่ว่ากันนะ
การเมืองไม่ยุ่ง จะแก้รัฐธรรมนูญอย่างไรก็แก้ไป ดองผักเสี้ยนกินดีกว่า พวกที่ตั้งหน้าตั้งตาด่ากัน เลิกด่าแล้วมาช่วยข้าพเจ้าดอกผักเสี้ยนก็จะดีนะ
ตอนนี้ยังไม่มีกล้องเลยไม่ได้ถ่ายการทำให้ดูเดี๋ยวจะหาว่าโม้ เพราะกล้องตัวเดิมจมน้ำท่วมเรียบร้อยไปแล้ว
วันศุกร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2555
วันพฤหัสบดีที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2555
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
"มจร"สีเขียวยุคAI! จัดกิจกรรม "รักษ์ มจร รักษ์สิ่งแวดล้อม คืนขยะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน"
กิจกรรม “รักษ์ มจร รักษ์สิ่งแวดล้อม” เป็นตัวอย่างที่ดีของการผสมผสานระหว่างจริยธรรมและเทคโนโลยีเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในยุคปัจจุบัน ด้วยหล...
-
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 พระราชวัชรสารบัณฑิต หรือ “เจ้าคุณประสาร” รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(...
-
วิจารณ์สนั่นหลักสูตรบาลีป.ธ.1-2 ถึงป.ธ. 9 เรียนพระไตรปิฎก 149 หน้า "เจ้าคุณหรรษา" ยกสามเณร 2 รูป หนึ่งจบ ป.ธ. 9 อายุ 17 ปี หนึ่งจบ...
-
พระปิดตายันต์ยุ่งมหาอุตโม หลวงปู่ทิม อิสริโก จัดสร้างเพื่อหารายได้ สร้างหอฉันอุตตโม ออกแบบโดยช่างเกษม มงคลเจริญ ประกอบด้วย เนื้...