วันเสาร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

พระแจง!แพทย์ติงสร้างแต่วัดไม่หนุนสร้างรพ.!

พระแจง!แพทย์ติงสร้างแต่วัดไม่หนุนสร้างรพ.!  ย้อนถามจะให้พระเป็นนักเทศน์หรือจะให้เป็นนักก่อสร้าง แนะความหาสถิติพระหนุนสร้างรพ.ดูบ้าง


วันที่ 29 ก.ค.2560 เฟซบุ๊กองค์ม่อน ธรรมะอารมณ์ดี ได้โพสต์ข้อความว่า #พึ่งเห็นข่าว ขอแสดงความเห็นนิดหนึ่ง


กรณีมีคุณหมอท่านหนึ่ง ทราบว่าเป็น "ศาสตราจารย์" ได้โพสข้อความและรูปเรื่อง #ความขาดแคลนการบริหารการจัดการโรงพยาบาล" พร้อมกับตั้งคำถามว่า #สร้างวัดได้แต่ทำไมช่วยกันสร้างโรงพยาบาลไม่ได้" ก็ประมาณนี้ พอดีหารูปข้อความมาได้แค่ข้อความเดียว (ใครสนใจก็ค้นหาดูนะครับ)


พอได้เห็นข่าว ก็ไม่ได้รู้สึกโกรธหรือหงุดหงิดอะไร เพียงแต่พยายามทำความเข้าใจเรื่องที่คุณหมอโพสแสดงความเห็น และก็มองว่า ถ้าคนในสังคมโซเซียล อ่านข้อความของคุณหมอแล้ว เราควรตั้งหลักก่อนจะแสดงความเห็น และ รู้สึก อย่างไรดี


ในส่วนตัวจึงอยากแสดงความเห็นว่า


๑. การที่มีข้อความออกมาเช่นนี้ ก็สร้างความสะเทือน และ ฉุกความคิดของคนได้เยอะจริงๆ (ดังคอมเม้นต่างๆ) แต่ในขณะเดียวกัน ก็ทำให้คนส่วนหนึ่ง รู้สึกไม่ดีและไม่สบายใจกับข้อความนี้มากพอๆกัน


ซึ่งจริงๆแล้ว คุณหมอมีเป้าหมาย จะสื่อสารอย่างไรก็คนส่วนมาก ก็ควร #คิดให้รอบด้าน นิดหนึ่ง โดยเฉพาะในช่วงที่ "องค์กรสงฆ์" กำลังเผชิญกับวิกฤต ด้านภาพลักษณ์ พอมีประเด็นเรื่องนี้ขึ้นมาอีก ก็เหมือนเติมเชื้อไฟ ให้สังคมที่กำลัง "คุกรุ่น" กับองค์กรสงฆ์


เช่น คุณหมอควรลองหาสถิติ #การสร้างโรงพยาบาลโดยมีพระสงฆ์เป็นผู้นำ ว่ามีประมาณมากเท่าใดในประเทศไทย และสำรวจว่า #ตึกสงฆ์ในโรงพยาบาลทั่วประเทศ ที่พระสงฆ์เป็นผู้นำในการสร้าง มีจำนวนเท่าใด และลองไปสำรวจ #อุปกรณ์การแพทย์ ที่พระสงฆ์เป็นผู้นำในการระดมทุนบริจาค มีจำนวนเท่าใด


ที่เสนอแบบนี้ #ไม่ใช่ว่าต้องการจะอวด ว่าพระสร้างโรงพยาบาลไปเท่าไหร่ แต่อยากจะสื่อสารกับ "คุณหมอ" และ "คนในสังคม" ว่า "องค์กรสงฆ์และงานสาธารณสุข" ทั่วประเทศนั้น มีความเอื้อเฟื้อ และ ช่วยเหลือกันอยู่ไม่น้อย ดังรูปตัวอย่างที่ลงในสเตตัสนี้ ที่ #หลวงพ่อกัญหา สุขกาโม ท่านกำลังระดมทุนสร้าง #อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพฯ โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา อยู่ในขณะนี้


แทนที่ "คุณหมอ" จะนำเสนอด้วยการเปรียบเทียบแบบนี้ คุณหมอน่าจะ นำเสนอด้วยเนื้อหา ที่สร้างความรู้สึกที่เป็นมิตร และให้ทุกคนรู้สึกอยากสร้างโรงพยายาล โดยไม่รู้สึก "ไม่ดี" กับวัด กับองค์กรสงฆ์


๒. ประเด็นต่อมา การสร้างวัดที่คุณหมอบอกว่าหมดไป หลายล้าน แต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่านั้น #ก็เป็นจริงแค่ครึ่งเดียว วัดทั่วประเทศไม่ได้รวยและมีเงินเป็นร้อยล้าน พันล้านเหมือนกันหมด #เป็นความจริงอยู่ ที่ว่าวัดบางวัด ก็สร้างวัตถุที่ใหญ่โตเกินความจำเป็น #อันนี้พระและวัด ตลอดถึงองค์กรสงฆ์ ก็ต้องยอมรับและกลับมาทบทวนบทบาทและความจำเป็นในการสร้างวัตถุ #เท่าที่จำเป็น


ซึ่งมันเป็น "ปัญหาเชิงระบบ" ของคณะสงฆ์ และ "ศรัทธา" ของพุทธศาสนิกชน กล่าวคือ ในศวรรษนี้ คณะสงฆ์ควรเน้น "งานสาธารณประโยชน์" ให้มากกว่า "งานสาธารณูปการ" (ก่อสร้าง) คณะสงฆ์ต้องมองออกไปข้างนอกวัดให้มากขึ้น อย่าอยู่แบบ "ปัจเจกบุคคล" ต้องสัมพันธ์และเกื้อกูลกับชาวบ้านมากขึ้น


ในแง่ของ "ศรัทธา" ของชาวบ้าน ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญ เราปลูกฝังคำสอนและความเชื่อในการทำบุญในพระศาสนามาก จนบางที ชาวบ้านลืม "ทำบุญกับชุมชน" อันนี้แม้เป็นเรื่องที่ลำบาก ในการสร้าง "ความเชื่อ" ใหม่ แต่ก็เป็นการท้าทาย ที่เราจะ "ปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา" เพื่อกลับมามีบทบาทและเป็นที่พึ่งของสังคมได้อีกครั้ง


ยาวไป จะไม่มีคนอ่าน !!!


เอาเป็นว่า อยากให้ทุกคนใช้สติในการเสพข่าว และการแสดงความคิดเห็นอะไร ก็ศึกษาให้รอบด้าน และมีเมตตาต่อกัน เอื้อเฟื้อต่อกัน อย่างความเป็น "กัลยาณมิตร" ฝากโยม Samran Sompong ช่วยอีกช่องทางนะครับ


องค์ม่อน ธรรมะอารมณ์ดี"

1 ความคิดเห็น:

วิเคราะห์ 3. สุนทรวรรค ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 24 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 16 อังคุตตรนิกาย ทสกนิบาต จตุตถปัณณาสก์

  วิเคราะห์ 3. สุนทรวรรค ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 24 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 16 อังคุตตรนิกาย ทสกนิบาต จตุตถปัณณาสก์ ในปริบทพุทธสันติวิธี บทนำ สุน...