วันที่ 13 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา ที่วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล รองประธานกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนายทองแดง เบ็ญจะปัก กรรมาธิการ นายสัมพันธ์ เสริมชีพ อนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาด้านพระพุทธศาสนาฯ นายณพลเดช มณีลังกา อนุกรรมาธิการฯ นายประกรเกียรติ ญาณหาร เลขานุการคณะกรรมาธิการฯ , นายธัชกร แต้ศิริเวช ที่ปรึกษากรรมาธิการศาสนาฯ , นางสาวสิริมน โฉมจันทร์ เลขานุการคณะกรรมาธิการฯ และคณะ ได้เข้าร่วมประชุมกับรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ตัวแทนกรมศิลปากร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ที่ดินจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประชุมกับส่วนราชการในจังหวัดอุดรธานีและจังหวัดบึงกาฬ ใน 4 วาระประชุมคือ 1) เรื่องติดตามความคืบหน้าของถนนสาธารณะที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ซึ่งประชาชนทำประชาพิจารณ์มอบให้วัดเกษรศีลคุณ (วัดป่าบ้านตาด) 2) ติดตามการขอใช้พื้นที่ป่าของวัดถ้ำกกตู่ 3) ติดตามข้อพิพาทที่ดินที่พักสงฆ์ดินดำ 4) แนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องที่พักสงฆ์ถ้ำสัจจะบารมี จ.บึงกาฬ
นายเพชรวรรต เปิดเผยว่า สำหรับที่ถนนที่ผ่ากลางวัดป่าบ้านตาดในขณะนี้เป็นการดูแลจากส่วนงานท้องถิ่น ซึ่งทราบมาว่าหลังจากที่ได้รับโอนจากทางหลวงก็มิได้ใช้แต่อย่างใด จนประชาชนเห็นว่าควรยกที่ดินที่เป็นถนนถวายให้แก่วัดป่าบ้านตาด จึงได้ทำประชาพิจารณ์ (Public Hearings) ตามขั้นตอนของกฎหมายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1305 เพื่อเสนอเป็นลำดับชั้นต่อ ครม. เพื่อออกพระราชกฤษฎีกาต่อไป
ทั้งนี้วัดป่าบ้านตาดได้สร้างถนนขึ้นมาอีกหนึ่งเส้นเพื่อมอบให้กับชุมชนด้วย และกรณีวัดถ้ำกกตู่ เนื่องจากที่ผ่านมาเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าพระสงฆ์เมื่อเข้าไปอยู่ในป่าจะช่วยดูแลป่าจากการลอบตัดไม้เป็นอย่างดี จึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูข้อกฎหมายที่จะส่งผลให้พระสงฆ์ดูแลป่าได้ตามกรอบของกฎหมาย สำหรับที่พักสงฆ์ดินดำนั้นประชาชนได้ล้อมรั้ววัดเพื่อกันเขต ส่วนจะเป็นแนวเขตของวัดตรงไหนอย่างไรให้ชัดเจนนั้น ทางกรมศิลปากรจะใช้ดาวเทียมเพื่อสำรวจใต้พื้นดินเพื่อสำรวจวัดซึ่งมีอายุ 400 - 100 ปี ล่าสุดสำนักงานพระพุทธศาสนาได้ดำเนินการประสานงานกับสำนักงานที่ดินให้ออกโฉนดไปส่วนหนึ่งแล้ว และที่พักสงฆ์ถ้ำสัจจะบารมี ได้เสนอให้ใช้การขอใช้พื้นที่ป่าไปแล้ว หลังจากนั้นคณะกรรมาธิการ ได้ติดตามความคืบหน้าของพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ ที่วัดป่าบ้านตาด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น