วันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

นายก อบจ.อุดรฯ"งง! วัดถูกล้อมลวดหนามเข้าไม่ได้ กมธ.ศาสนาฯสภาฯรุดเคลียร์

 


วันที่ 14 พฤศจิกายน 2564 ที่ที่พักสงฆ์ดินดำ (ธ) ต.บ้านโคก จ.อุดรธานี นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล รองประธานกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร , นายทองแดง เบ็ญจะปัก กรรมาธิการ , นายสัมพันธ์ เสริมชีพ อนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาด้านพระพุทธศาสนาฯ , นายณพลเดช มณีลังกา อนุกรรมาธิการฯ , นายประกรเกียรติ ญาณหาร เลขานุการคณะกรรมาธิการฯ , นายธัชกร แต้ศิริเวช ที่ปรึกษากรรมาธิการศาสนาฯ , นางสาวสิริมน โฉมจันทร์ เลขานุการคณะกรรมาธิการฯ พร้อมด้วยหน่วยงานราชการโดย เจ้าคณะอำเภอสร้างคอม (ธ) นายอำเภอสร้างคอม กรมศิลปากร พร้อมหน่วยงานราชการ ทั้งนี้ผู้ร้องเรียนโดยหม่อมหลวง กร กมลาศน์ และ นายวิเชียร ขาวขำ นายกองค์กรบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ได้เข้าร่วมประชุมด้วย


นายเพชรวรรต กล่าวว่า วัดถือเป็นศาสนสมบัติที่ประชาชนทั่วโลกให้การเคารพกราบไหว้ ถือเป็นสมบัติของชาวพุทธทั่วโลก กฎหมายของประเทศไทยจึงได้บัญญัติให้คุ้มครองศาสนสถานไว้ หากพิสูจน์ได้ว่าวัดมีก่อนกฎหมายที่ดินก็จะเป็นนหลักฐานว่ามีวัดของประชาชนปักหลักในสถานที่แห่งนั้น ทั้งนี้ตัวแทนกรมศิลปากรกล่าวว่า จากได้ลงพื้นที่เมื่อปี พ.ศ.2561ได้พบหลักฐานสำคัญว่าพื้นที่แห่งนี้เป็นวัดมาก่อน พ.ศ.2484 โดยพบเจดีย์และพระพุทธรูปโบราณ คาดว่าอายุของวัดแห่งนี้จะอยู่ราวพุทธศตวรรษ 2100-2400 หรือราว 400 - 100 ปีก่อน ซึ่งกรมศิลปากรได้จัดงบประมาณในการสำรวจผ่านดาวเทียมเพิ่มเติม ซึ่งจะสำรวจเร็วๆ นี้ หากขอบเขตของวัดกว้างยาวขนาดไหนก็จะแสดงว่าวัดมีพื้นที่ตามการสำรวจนั้น

นายวิเชียร  กล่าวต่อที่ประชุมว่าตนต้องขออภัยที่เข้าร่วมประชุมช้า ด้วยเพราะทางเข้าถูกปิดโดยล้อมลวดหนามขวางกั้นไว้ ตนจึงต้องอ้อมมาอีกทาง ซึ่งเป็นเพียงคันนาเข้ามา หากจะสามารถขยายที่โดยมีการบริจาคงบประมาณในการขยายถนนและบริจาคเป็นถนนสาธารณะตนก็พร้อมที่จะผลักดันงบประมาณในการสร้างถนนเข้ามาในวัดได้ ทั้งนี้ตนอยากจะให้นายอำเภอสร้างคอม ประสานกับกำนันผู้ใหญ่บ้านประสานและคุยกันให้ลงตัวเสีย ก่อนที่จะมีความยุ่งยากมากขึ้นกว่านี้

ด้านหม่อมหลวงกร กมลาศน์ กล่าวต่อไปว่า จากการที่ตนได้รับการร้องเรียน ได้ทราบถึงการที่มีอดีตนักการเมืองท้องถิ่น มีความพยายามผันเอาที่ดินแห่งนี้ซึ่งตกสำรวจและผลักดันให้มีการออกเอกสารสิทธิ์ให้ภรรยา จนเจ้าอาวาสองค์เก่าอยู่ไม่ได้ และมีการกระชับพื้นที่ ข่มขู่พระ รวมถึงมีการทำร้ายพระตลอดมา ตนจึงเห็นว่าเป็นความอยุติธรรมต่อพระพุทธศาสนา จึงได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการเพื่อเข้ามาตรวจสอบดังกล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

การวิเคราะห์ “มหาวรรค” ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 22 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 14 อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต ทุติยปัณณาสก์

  การวิเคราะห์ “มหาวรรค” ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 22 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 14 อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต ทุติยปัณณาสก์ ในปริบทพุทธสันติวิธี บทนำ พร...