เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2566 น.ต.ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรคไทยสร้างไทย และจินนี่ - น.ส.ยศสุดา ลีลาปัญญาเลิศ ผู้ช่วยหาเสียง ลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 10 เขต รศ.สืบพงศ์ ธรรมชาติ เขต 1 เบอร์ 4 นายอนุชา ขวัญคาวิน เขต 2 เบอร์ 9 นายเริงบพิธ เพชรคง เขต 3 เบอร์ 11 ร.ต.อ.สมคิด ไทรแก้ว เขต 4 เบอร์ 2 น.ส.นงเยาว์ ประชุมทอง เขต 5 เบอร์ 3 นายภูมิไท ดีเป็นแก้ว เขต 6 เบอร์ 3 นายศุภชัย เครือจันทร์ เขต 7 เบอร์ 4 น.ส.กชพร ราชรักษ์ เขต 8 เบอร์ 5 นายพชร สรงประเสริฐ เขต 9 เบอร์ 3 และนายภูริณัฐ ใจสนุก เขต 10 เบอร์ 2
คณะพรรคไทยสร้างไทย เดินทางไปสักการะตาพรานบุญ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดยางใหญ่ อ.ท่าศาลา และมนัสการพระประธาน และสักการะไอ้ไข่ ที่วัดเจดีย์ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช
น.ต.ศิธา กล่าวว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชสามารถเป็นเมืองหลวงของการท่องเที่ยวสายมูได้เลย ยกตัวอย่างช่วงโควิดที่สายการบินแทบจะปิดกิจการกันหมด แต่นครศรีธรรมราชมีเที่ยวบินเต็มเที่ยววันละประมาณ 10 เที่ยวบินมาลงที่นี่ จนตอนนี้มีสนามบินนานาชาติสร้างแล้วด้วย เราลงทุนไปเยอะในจังหวัดที่มีศักยภาพ แต่การสนับสนุนจากภาครัฐยังไม่เพียงพอ ถ้ารัฐบาลปรับให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงวัฒนธรรม ส่งเสริมการท่องเที่ยวสายมู ซึ่งมีนักท่องเที่ยวทั้งในไทยและต่างชาติพร้อมจะมาเที่ยว
จินนี่ ยศสุดา กล่าวว่า การท่องเที่ยวสายมูกำลังเป็นกระแสในหมู่คนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะจากในโซเชียลมีเดียที่มักจะแชร์ วาปสถานที่มูเตลูที่โด่งดัง
น.ต.ศิธา กล่าวเสริมว่า รัฐบาลที่หาเงินไม่เป็นต้องมาดูงานที่วัดไอ้ไข่ การเอาวัฒนธรรมไทยมาเป็นอินเตอร์ให้คนต่างชาติมีความสนใจที่จะมาเที่ยว ในต่างประเทศมีการเผยแพร่วัฒนธรรมผ่านหนัง หรือการ์ตูน แต่ไทยลงทุนแค่สิ่งปลูกสร้าง แล้วปล่อยให้รกร้าง คนไทยที่มีความสามารถก็ต้องใช้ทั้งพรสวรรค์และพรแสวงผลักดันตัวเองถึงจะสำเร็จ แต่ถ้าไทยสร้างไทย เบอร์ 32 ได้เป็นรัฐบาลจะส่งเสริมตรงนี้ จัดอีเวนต์ระดับโลก 12 เดือน ทุกจังหวัดมีจุดขายโปรโมทความเป็นไทยในแบบของตัวเอง และปลดล็อกกฎหมายที่เป็นอุปสรรคในการทำมาหากิน เช่น โรงแรมเล็ก และใบอนุญาตค้าขายสินค้าต่างๆ เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น