วันจันทร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2565

"มจร" จัดประชาพิจารณ์ครั้งใหญ่ (ร่าง) แผนพัฒนามหาวิทยาลัยฯ ระยะที่ 13 มุ่งสร้างชุมชนและสังคมสันติสุข



เมื่อวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 พระเมธีธรรมาจารย์ (เจ้าคุณประสาร) รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) ในฐานะประธานคณะทำงานยกร่างแผนพัฒนามหาวิทยาลัยฯระยะที่ 13 ได้กล่าวว่า วันที่ 7-10 มีนาคม 2565 นี้คณะทำงานยกร่างแผนพัฒนามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้กำหนดจัดประชาพิจารณ์(ร่าง) แผนพัฒนามหาวิทยาลัยฯ ระยะที่ 13 ทั่วประเทศผ่านระบบ ซูม ออนไลน์ โดยกำหนดดังนี้   วันที่ 7 มีนาคม 2565  มจร  โซนภาคใต้ วันที่ 8 มีนาคม 2565  โซนภาคเหนือ  วันที่ 9 มีนาคม 2565  มจร  โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วันที่ 10 มีนาคม 2565 มจร   โซนภาคกลาง      

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้ดำเนินการ จัดทำแผนพัฒนามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ระยะที่ 13  ตามพันธกิจ  ยุทธศาสตร์ เป้าประสงค์ของมหาวิทยาลัยฯ ซึ่งก็เป็นไปตามการจัดกลุ่มมหาวิทยาลัย กลุ่มที่ 4  คือกลุ่มพัฒนาปัญญาและคุณธรรมด้วยหลักศาสนา 


พระเมธีธรรมาจารย์ กล่าวว่า คณะทำงาน  ได้ดำเนินการระดมความคิดภายใต้หลักการ  engaged Buddhist university  ประกอบด้วย 1. บริการวิชาการทุกรูปแบบ สร้างหลักสูตรระยะสั้น ระยะยาว เหมาะแก่การเรียนรู้แต่ละวัยจากประชาคม 2. สร้างนวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหา พัฒนาจิตใจและสังคม 3. สร้างสาธารณประโยชน์ อยู่ดีมีสุขรับผิดชอบต่อสังคม และรวมทั้งแนวคิด 13  หมุดหมายพลิกโฉมประเทศไทยเป็นองค์ประกอบในการจัดทำแผนในครั้งนี้

ในการประชาพิจารณ์ในครั้งนี้ เริ่มต้นจากการระดมความคิดเห็น จาก ทุกภาคส่วนของมหาวิทยาลัย ประกอบด้วย

ครั้งที่ 1  ส่วนงานภาคเหนือ ระหว่างวันที่ 14 - 17 มีนาคม 2564  ณ วิทยาลัยสงฆ์นครน่านเฉลิมพระเกียรติฯ โดยมีส่วนงานที่เข้าร่วมจำนวน 9  ส่วนงาน ได้แก่ วิทยาเขตเชียงใหม่ วิทยาเขตแพร่ วิทยาเขตพะเยา วิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช วิทยาลัยสงฆ์ลำพูน  วิทยาลัยสงฆ์เชียงราย วิทยาลัยสงฆ์ลำปาง วิทยาลัยสงฆ์นครน่านเฉลิมพระเกียรติ วิทยาลัยสงฆ์พ่อขุนผาเมือง 

ครั้งที่ 2  ส่วนงาน ส่วนกลาง ภาคกลาง ภาคใต้ ระหว่างวันที่ 30  - 31  มีนาคม 2564  และวันที่  1  เมษายน 2564    ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โดยมีส่วนงานที่เข้าร่วมจำนวน 15  ส่วนงาน ได้แก่ ส่วนกลาง วิทยาเขตบาฬีศึกษาพุทธโฆส วิทยาเขตนครศรีธรรมราช วิทยาเขตนครสวรรค์ วิทยาลัยสงฆ์พุทธโสธร วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี  วิทยาลัยสงฆ์ราชบุรี วิทยาลัยสงฆ์ปัตตานี วิทยาลัยสงฆ์สุราษฏร์ธานี วิทยาลัยสงฆ์สุพรรณบุรีศรีสุวรรณภูมิ วิทยาลัยสงฆ์ระยอง วิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์ วิทยาลัยสงฆ์พิจิตร วิทยาลัยสงฆ์เพชรบุรี วิทยาลัยสงฆ์ชลบุรี

ครั้งที่ 3  ส่วนงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ วิทยาเขตขอนแก่น ระหว่างวันที่ 7 - 9  เมษายน 2564  โดยมีส่วนงานที่เข้าร่วมจำนวน 12  ส่วนงาน ได้แก่ วิทยาเขตหนองคาย วิทยาเขตขอนแก่น วิทยาเขตนครราชสีมา วิทยาเขตอุบลราชธานี วิทยาเขตสุรินทร์ วิทยาลัยสงฆ์เลย วิทยาลัยสงฆ์นครพนม วิทยาลัยสงฆ์บุรีรัมย์ วิทยาลัยสงฆ์ศรีสะเกษ วิทยาลัยสงฆ์ชัยภูมิ วิทยาลัยร้อยเอ็ด และวิทยาลัยสงฆ์มหาสารคาม

หลังจากนั้นคณะทำงานฯ ได้ประชุมเพื่อทำการวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลจากการประชุมเชิงปฏิบัติการดังกล่าว ไม่น้อยกว่า 10  ครั้ง เมื่อได้ร่างแผนพัฒนาแล้ว ได้นำเสนอผู้บริหารระดับสูงของมหาวิทยาลัย รวมถึงผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก จึงได้กำหนดยุทธศาสตร์ เป้าประสงค์ ตัวชี้วัด และกลยุทธ์  เพื่อให้สามารถนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จตามวิสัยทัศน์ที่ได้กำหนดไว้  จำนวนทั้งสิ้น 5  ประเด็นยุทธศาสตร์ 17  เป้าประสงค์ 32  ตัวชี้วัด 29   กลยุทธ์ โดยมีรายละเอียดดังนี้

วิสัยทัศน์         

“มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาที่สร้างพุทธนวัตกรรมเพื่อพัฒนาจิตใจและสังคม” Buddhist university with Buddhist innovation for mental and social development

ประเด็นยุทธศาสตร์ 5  ประเด็น

ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 1 การพัฒนาบัณฑิตให้มีคุณภาพและคุณธรรม ประกอบด้วย 4 เป้าประสงค์ 16  ตัวชี้วัด 11  กลยุทธ์

ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 2  พัฒนางานวิจัยหรือสร้างพุทธนวัตกรรมให้มีคุณภาพทั้งในระดับชาติและนานาชาติ ประกอบด้วย 4  เป้าประสงค์ 9 ตัวชี้วัด 7 กลยุทธ์

ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 3  เป็นศูนย์กลางการบริการวิชาการด้านพระพุทธศาสนาและปรัชญาเพื่อสร้างชุมชนและสังคมสันติสุข ประกอบด้วย 2  เป้าประสงค์ 4 ตัวชี้วัด 4 กลยุทธ์

ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 4 อนุรักษ์ สืบสาน ส่งเสริมและพัฒนาศิลปะวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างยั่งยืน ประกอบด้วย 2 เป้าประสงค์ 2 ตัวชี้วัด 2 กลยุทธ์

ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 5 การพัฒนาระบบการบริหารจัดการองค์กรเชิงพุทธบูรณาการ  ประกอบด้วย 2 เป้าประสงค์ 5 ตัวชี้วัด 5 กลยุทธ์

พระเมธีธรรมาจารย์ กล่าวในตอนท้ายว่า การประชาพิจารณ์ในครั้งนี้ เป็นการประชาพิจารณ์ (ร่าง) แผนพัฒนาระยะที่ 13  เพื่อให้เกิดความรอบคอบ สมบูรณ์และให้ทุกองคาพยพมีส่วนร่วม ซึ่งจะนำไปสู่ภาคปฏิบัติและบรรลุผลได้อย่างแท้จริง และแผนพัฒนามหาวิทยาลัยนั้นจะต้องอยู่บนพื้นฐานของการมีส่วนร่วม คือร่วมคิด ร่วมทำ เข้าใจและตรงกับบริบทที่แท้จริงของมหาวิทยาลัย ไม่ใช่เขียนไว้สวยงาม เลิศหรูแต่ยากต่อการปฎิบัติ ไม่บรรลุผล จากนี้ไปก็จะนำแผนพัฒนาฯดังกล่าวเสนอสภามหาวิทยาลัยเพื่อขออนุมัติและประกาศใช้ต่อไป



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"วราวุธ" เผย พม.จับมือ พศ.- กรมการศาสนา ตั้งศูนย์คุ้มครองเด็กและสามเณร สร้างพื้นที่ปลอดภัยแก่เด็กและเยาวชนหากถูกละเมิด

เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2567  นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมยุษย์ (รมว.พม.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเด็ก ...