วันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

ทัททรชาดก คนอกตัญญู ไม่รู้จักบุญคุณคนอื่น

วิเคราะห์ ทัททรชาดก ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่  19  ขุททกนิกาย  ชาดก นวกนิบาตชาดก     ที่ประกอบด้วย  

 ๑๒. ทัททรชาดก คนอกตัญญู ไม่รู้จักบุญคุณคนอื่น

             [๑๓๑๐] ผู้ใดเจ้าให้ข้าวหุงกิน กลับกินลูกทั้งสองของเจ้าซึ่งมิได้มีความผิดเลย

                          เจ้าจงวางเขี้ยวลงบนผู้นั้น อย่าปล่อยให้มันมีชีวิตอยู่ต่อไปเลย.

             [๑๓๑๑] บุรุษผู้มีความหยาบช้าร้ายแรง ผู้ลบหลู่ชิ้นผ้าที่ตนนุ่งอยู่ ฉันไม่ขอเห็น

                          มันเลย ฉันจะวางเขี้ยวลงในบุรุษใดเล่า?

             [๑๓๑๒] อันบุรุษผู้อกตัญญู มักคอยแสวงหาโอกาสอยู่เป็นนิตย์ ถึงจะพึงให้แผ่น

                          ดินทั้งปวง ก็ไม่พึงทำให้บุรุษนั้นชื่นชมยินดีได้เลย.

             [๑๓๑๓] ดูกรเสือโคร่งชื่อสุพาหุ เพราะเหตุไรหนอท่านจึงรีบด่วนกลับมาพร้อมกับ

                          มาณพ กิจที่เป็นประโยชน์อะไรของท่านมีอยู่ในที่นี้ เราขอถามท่านถึง

                          กิจอันเป็นประโยชน์นั้น ท่านจงบอกแก่เรา?

             [๑๓๑๔] นกกระทาผู้มีรูปงามตัวใด ซึ่งเป็นสหายของท่าน เราสงสัยว่านกกระทา

                          ตัวนั้นจะถูกฆ่าเสียแล้วในวันนี้ เราได้ฟังเหตุอันเกี่ยวเนื่องด้วยการ

                          กระทำของบุรุษนั้น จึงมิได้สำคัญว่านกกระทาตัวนั้นจะอยู่เป็นสุขในวันนี้.

             [๑๓๑๕] ท่านได้ฟังเหตุอะไรอันเกี่ยวเนื่องด้วยการกระทำของบุรุษนี้ ในความ

                          ประพฤติเลี้ยงชีพของบุรุษนี้ หรือท่านได้ฟังคำปฏิญาณอะไรของบุรุษนี้

                          จึงสงสัยว่า นกกระทาถูกมาณพนี้ ฆ่าเสียแล้ว

             [๑๓๑๖] การค้าขายอันเป็นของชาวเมืองกลิงครัฐ บุรุษนี้ก็ได้ประพฤติมาแล้ว แม้

                          หนทางที่มีหลักตอ บุรุษนี้ก็ได้ประพฤติท่องเที่ยวไปด้วยการรับจ้าง การ

                          ฟ้อนรำขับร้องร่วมกับคนฟ้อนทั้งหลาย บุรุษนี้ก็ได้ประพฤติมา ถึงการ

                          รบกันด้วยท่อนไม้ในท่ามกลางมหรสพ บุรุษนี้นี้ก็ได้เคยรบมาแล้ว.

             [๑๓๑๗] นกทั้งหลายบุรุษนี้ก็ได้ดักมาแล้ว การตวงข้าวเปลือกด้วยเครื่องตวง บุรุษ

                          นี้ก็ได้ตวงมาแล้ว สกาบุรุษนี้ก็ได้ชนะมาแล้ว ความสำรวมระวังบุรุษนี้

                          ก็ก้าวล่วงเสีย เลือดที่ไหลออกมาตั้งครึ่งคืนบุรุษนี้ก็คัดให้หยุดได้ มือ

                          ทั้งสองของบุรุษนี้มีความร้อนในเวลารับก้อนข้าว.

             [๑๓๑๘] เราได้ฟังเหตุทั้งหลาย อันเกี่ยวเนื่องด้วยการกระทำของบุรุษนี้ ในความ

                          ประพฤติเลี้ยงชีวิตของบุรุษนี้มาดังนี้ว่า กลุ่มขนนกกระทาก็ยังปรากฏอยู่

                          บนชฎาของบุรุษนี้ วัวทั้งหลายบุรุษนี้ก็ได้ฆ่ากินแล้ว ไฉนจะไม่ฆ่านก

                          กระทากินเล่า.

ในปริบทพุทธสันติวิธี: หลักธรรม ประยุกต์ใช้" โดยใช้สาระสำคัญของ ทัททรชาดก  ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่  19  ขุททกนิกาย  ชาดก    นวกนิบาตชาดก  วิเคราะห์ ทัททรชาดก ในปริบทพุทธสันติวิธี: หลักธรรมและการประยุกต์ใช้

บทนำ

ทัททรชาดกเป็นชาดกที่ปรากฏในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 19 ขุททกนิกาย ชาดก นวกนิบาตชาดก ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เน้นย้ำถึงคุณค่าของความกตัญญูกตเวทีและผลเสียของความอกตัญญู ชาดกนี้สะท้อนให้เห็นถึงหลักธรรมทางพุทธศาสนาเกี่ยวกับคุณธรรม ความซื่อสัตย์ และการตอบแทนบุญคุณ ในบทความนี้จะวิเคราะห์เนื้อหาของทัททรชาดก และเชื่อมโยงกับหลักพุทธสันติวิธีเพื่อเสนอแนวทางการประยุกต์ใช้ในบริบทสังคมปัจจุบัน

สาระสำคัญของทัททรชาดก

ทัททรชาดกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลผู้มีนิสัยอกตัญญู โดยใช้ตัวละครหลัก ได้แก่ เสือโคร่งชื่อสุพาหุ มาณพ และนกกระทา เนื้อหาของชาดกนี้แสดงให้เห็นถึงผลกระทบของความอกตัญญู ผ่านการสนทนาและการกระทำของตัวละคร เช่น มาณพผู้มีพฤติกรรมที่ไม่ซื่อสัตย์และไร้ศีลธรรม จนทำให้เกิดการตั้งคำถามเกี่ยวกับจริยธรรมและการกระทำที่เป็นธรรม

ข้อความสำคัญจากชาดกสามารถสรุปได้ดังนี้:

  1. ความอกตัญญูเป็นสิ่งร้ายแรง – มาณพที่ได้รับความช่วยเหลือจากผู้อื่นกลับกระทำสิ่งที่เลวร้ายต่อผู้มีพระคุณ

  2. คนอกตัญญูไม่รู้จักพอใจ – ไม่ว่าผู้มีพระคุณจะให้สิ่งใดก็ยังไม่เพียงพอ และอาจทรยศผู้มีพระคุณได้

  3. ผลของการกระทำ – พฤติกรรมของบุคคลที่ไร้ศีลธรรมจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เลวร้ายต่อตัวเองในที่สุด

ทัททรชาดกกับหลักพุทธสันติวิธี

พุทธสันติวิธีเป็นแนวทางในการสร้างสันติภาพและความสมานฉันท์ในสังคม โดยเน้นการใช้หลักธรรมทางพุทธศาสนาเพื่อแก้ไขความขัดแย้งและเสริมสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน หลักธรรมที่เกี่ยวข้องกับทัททรชาดกสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ดังนี้:

  1. หลักกตัญญูกตเวที (Kataññu-Katavedī) – การสำนึกในบุญคุณของผู้ที่เคยช่วยเหลือ เป็นรากฐานของสังคมที่มีความมั่นคง หากสังคมขาดหลักธรรมข้อนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลจะเปราะบางและนำไปสู่ความแตกแยก

  2. หลักศีล 5 และการควบคุมตนเอง (Sīla & Saṃvara) – บุคคลพึงรักษาศีลเพื่อให้เกิดสันติสุขแก่ตนเองและผู้อื่น การละเมิดศีล เช่น การโกหกหรือการทำร้ายผู้มีพระคุณ เป็นการกระทำที่นำไปสู่ความขัดแย้ง

  3. หลักเมตตาและกรุณา (Mettā & Karuṇā) – แม้ว่าจะมีบุคคลที่อกตัญญู การใช้เมตตาในการแก้ไขปัญหาย่อมดีกว่าการใช้ความรุนแรง พุทธสันติวิธีเน้นการใช้ปัญญาและความเข้าใจเพื่อนำไปสู่การปรับปรุงพฤติกรรมของบุคคล

  4. หลักกรรมและผลของกรรม (Kamma & Vipāka) – ชาดกแสดงให้เห็นว่าผู้ที่ทำกรรมชั่วจะได้รับผลกรรมในที่สุด หลักธรรมข้อนี้เป็นเครื่องเตือนใจให้บุคคลกระทำแต่ความดีเพื่อให้เกิดสันติสุขในระยะยาว

การประยุกต์ใช้ทัททรชาดกในสังคมปัจจุบัน

  1. การส่งเสริมคุณธรรมในครอบครัว – พ่อแม่และครูควรปลูกฝังความกตัญญูแก่เยาวชน เพื่อสร้างรากฐานของสังคมที่มีความมั่นคง

  2. การพัฒนาผู้นำที่มีจริยธรรม – ผู้นำทางการเมืองและสังคมควรมีคุณธรรมและจริยธรรม ไม่ใช่เพียงแค่แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน

  3. การใช้พุทธสันติวิธีในความขัดแย้ง – ในกรณีของความขัดแย้งทางสังคมหรือการเมือง การใช้หลักเมตตาและสันติวิธีสามารถช่วยลดความรุนแรงและสร้างความปรองดอง

บทสรุป

ทัททรชาดกเป็นเรื่องราวที่ให้ข้อคิดเกี่ยวกับความกตัญญูและผลเสียของความอกตัญญู ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับหลักพุทธสันติวิธีเพื่อเสริมสร้างสังคมที่สงบสุข การรักษาคุณธรรมเหล่านี้จะช่วยให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นระหว่างบุคคล ลดความขัดแย้ง และนำไปสู่สันติภาพที่แท้จริง ทั้งในระดับบุคคล ครอบครัว และสังคมโดยรวม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บัณฑิตสมบูรณ์: พุทธจิตวิทยาก้าวข้ามอคติ 4

การวิเคราะห์เชิงปรากฏการณ์วิทยาและพุทธจิตวิทยา: กระบวนทัศน์ "บัณฑิตสมบูรณ์" และการก้าวข้ามอคติ 4 ประการ กรณีศึกษา: ดุษฎีสัมโมทนียก...