วันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

ปูติมังสชาดก โทษของการมองในเวลาที่ไม่ควรมองสุนัขจิ้งจอก

    ช่วยเขียนบทความทางวิชาการ  เรื่องวิเคราะห์ ปูติมังสชาดก ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่  19  ขุททกนิกาย  ชาดก นวกนิบาตชาดก     ที่ประกอบด้วย  

 ๑๑. ปูติมังสชาดก โทษของการมองในเวลาที่ไม่ควรมอง

             [๑๓๐๑] ดูกรสหาย การมองดูของสุนัขจิ้งจอกชื่อว่าปูติมังสะ เราไม่พอใจ

                          เสียเลย พึงละเว้นจากสหายเช่นนี้เสียให้ห่างไกล.

             [๑๓๐๒] นางสุนัขจิ้งจอกชื่อว่าเวนินี้เป็นบ้าไปได้ ย่อมพรรณนาถึงนางแพะ

                          ผู้เป็นสหายให้ผัวฟัง ครั้นนางแพะถอยหลังกลับไปไม่มา ก็นั่งซบเซา

                          ถึงนางแพะผู้มาแล้วถอยหลังกลับไปเสีย.

             [๑๓๐๓] ดูกรสหาย ท่านนั้นแหละบ้า มีปัญญาทราม ไม่มีปัญญาเครื่องใคร่

                          ครวญ ท่านทำอุบายล่อลวงว่าตาย ย่อมมองดูโดยกาลอันไม่ควร.

             [๑๓๐๔] บัณฑิตไม่ควรมองดูในกาลอันไม่ควร ควรมองดูแต่ในกาลอันควร ผู้ใด

                          มองดูในกาลอันไม่ควร ผู้นั้นย่อมซบเซา ดังสุนัขจิ้งจอกชื่อปูติมังสะ

                          ฉะนั้น.

             [๑๓๐๕] ดูกรสหาย ฉันมีความรัก ท่านจงให้ความอิ่มแก่ฉัน  สามีของฉัน

                          กลับฟื้นขึ้น ถ้าท่านรักฉันจงมาไปกับฉันเถิด.

             [๑๓๐๖] ดูกรสหาย ท่านมีความรักฉันจริง ฉันจะให้ความอิ่มเอิบแก่ท่าน

                          ฉันจักมาพร้อมด้วยบริวารเป็นอันมาก ท่านจงจัดแจงโภชนาหารไว้เถิด.

             [๑๓๐๗] บริวารของท่านเช่นไร ฉันจักจัดแจงโภชนาหารเพื่อบริวารเหล่าใด ก็

                          บริวารเหล่านั้นทั้งหมดมีชื่อว่าอย่างไร ฉันถามท่านถึงบริวารท่าน จงบอก

                          ฉันไปเถิด.

             [๑๓๐๘] บริวารของฉันเช่นนี้ คือ สุนัขชื่อมาลิยะ ๑ ชื่อจตุรักขะ ๑ ชื่อปิงคิยะ

                          ๑ ชื่อชัมพุกะ ๑ ท่านจงจัดแจงโภชนาหารไว้เพื่อบริวารเหล่านั้นเถิด.

             [๑๓๐๙] เมื่อท่านออกจากเรือนไป แม้สิ่งของก็จักพินาศหมด คำพูดของสหาย

                          มิได้มีความรังเกียจ ท่านจงอยู่ในที่นี้เถิด อย่าไปเลย.


ในปริบทพุทธสันติวิธี: หลักธรรม ประยุกต์ใช้" โดยใช้สาระสำคัญของ ปูติมังสชาดก  ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่  19  ขุททกนิกาย  ชาดก    นวกนิบาตชาดก  

วิเคราะห์ปูติมังสชาดกในปริบทพุทธสันติวิธี: หลักธรรมและการประยุกต์ใช้

บทนำ ปูติมังสชาดกเป็นหนึ่งในชาดกที่บรรจุอยู่ในพระไตรปิฎก เล่มที่ 27 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 19 ขุททกนิกาย ชาดก นวกนิบาตชาดก ซึ่งนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับโทษของการมองในเวลาที่ไม่ควรมอง และผลกระทบของการกระทำที่ขาดปัญญา บทความนี้มุ่งเน้นการวิเคราะห์เนื้อหาของปูติมังสชาดกในบริบทของพุทธสันติวิธี โดยเน้นที่หลักธรรมและการประยุกต์ใช้ในบริบทสังคมปัจจุบัน

สาระสำคัญของปูติมังสชาดก เนื้อเรื่องของปูติมังสชาดกกล่าวถึงพฤติกรรมของสุนัขจิ้งจอกชื่อปูติมังสะ ซึ่งมองดูในกาลที่ไม่ควรและส่งผลให้ตนเองประสบกับความทุกข์ บัณฑิตในชาดกชี้ให้เห็นว่าการมองหรือกระทำสิ่งใดในเวลาที่ไม่เหมาะสมอาจนำไปสู่ผลเสียที่ร้ายแรง ดังพระพุทธดำรัสว่า “บัณฑิตไม่ควรมองดูในกาลอันไม่ควร ควรมองดูแต่ในกาลอันควร ผู้ใดมองดูในกาลอันไม่ควร ผู้นั้นย่อมซบเซา ดังสุนัขจิ้งจอกชื่อปูติมังสะฉะนั้น” (พระไตรปิฎก เล่มที่ 27)

พุทธสันติวิธีและหลักธรรมจากปูติมังสชาดก

  1. หลักสัปปุริสธรรม: การรู้กาละ (กาลัญญุตา) เป็นคุณธรรมสำคัญที่ช่วยให้บุคคลสามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ชาดกนี้เตือนให้เรารู้จักเลือกเวลาในการกระทำและการพูดเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในทางลบ

  2. หลักอัปปมาทะ: การไม่ประมาทเป็นหัวใจสำคัญของการดำรงชีวิตในสังคม ชาดกนี้แสดงให้เห็นว่าความประมาทและการกระทำที่ขาดปัญญานำไปสู่ความล้มเหลวและความทุกข์

  3. หลักสมานฉันท์: เรื่องราวในปูติมังสชาดกสามารถประยุกต์ใช้กับแนวคิดเรื่องความขัดแย้งและสันติวิธีได้ โดยเฉพาะในแง่ของการเลือกเวลาที่เหมาะสมในการสื่อสารและแก้ไขปัญหา เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดและความขัดแย้ง

การประยุกต์ใช้ในบริบทปัจจุบัน

  1. ด้านสังคมและการสื่อสาร: ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อสังคมออนไลน์ทำให้การเผยแพร่ข้อมูลเป็นไปอย่างรวดเร็ว การเลือกเวลาที่เหมาะสมในการสื่อสารและการไตร่ตรองก่อนโพสต์หรือแสดงความคิดเห็นสามารถช่วยลดความขัดแย้งและเสริมสร้างสังคมที่สงบสุข

  2. ด้านการบริหารและการตัดสินใจ: ในภาคธุรกิจและการบริหาร หลักการรู้กาละมีความสำคัญต่อการตัดสินใจของผู้นำ การพิจารณาเวลาที่เหมาะสมในการดำเนินนโยบายหรือเจรจาสามารถช่วยสร้างเสถียรภาพและลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

  3. ด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล: ในชีวิตประจำวัน การเลือกเวลาที่เหมาะสมในการพูดหรือทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งสามารถช่วยลดความเข้าใจผิดและเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างบุคคล

สรุป ปูติมังสชาดกเป็นชาดกที่ให้ข้อคิดสำคัญเกี่ยวกับโทษของการกระทำที่ไม่เหมาะสมกับเวลา ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในพุทธสันติวิธีและการดำเนินชีวิตในสังคมปัจจุบัน หลักธรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น กาลัญญุตา อัปปมาทะ และสมานฉันท์ ช่วยให้เรามีสติในการดำเนินชีวิตและสามารถสร้างสังคมที่สงบสุขได้ การรู้กาละจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินชีวิตอย่างมีปัญญาและเป็นไปตามหลักพุทธสันติวิธี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บัณฑิตสมบูรณ์: พุทธจิตวิทยาก้าวข้ามอคติ 4

การวิเคราะห์เชิงปรากฏการณ์วิทยาและพุทธจิตวิทยา: กระบวนทัศน์ "บัณฑิตสมบูรณ์" และการก้าวข้ามอคติ 4 ประการ กรณีศึกษา: ดุษฎีสัมโมทนียก...