วันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

กัณหชาดกว่าด้วยขอพร

เรื่องวิเคราะห์ กัณหชาดก   ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่  19  ขุททกนิกาย  ชาดก ทสกนิบาตชาดก  ที่ประกอบด้วย  

 ๒. กัณหชาดกว่าด้วยขอพร

             [๑๓๒๙] บุรุษนี้ดำจริงหนอ บริโภคโภชนะก็ดำ อยู่ในภูมิประเทศก็ดำ ไม่เป็น

                          ที่ชอบใจของเราเลย.

             [๑๓๓๐] คนไม่ชื่อว่าเป็นคนดำเพราะผิวหนัง เพราะคนที่มีแก่นภายในจึงชื่อว่าเป็น

                          พราหมณ์ ผู้ใดมีบาปกรรม ผู้นั้นแหละชื่อว่าเป็นคนดำ นะท้าวสุชัมบดี.

             [๑๓๓๑] ดูกรท่านพราหมณ์ คำนั้นท่านกล่าวดีแล้ว สมควรเป็นสุภาษิต ข้าพเจ้าจะ

                          ให้พรแก่ท่านอย่างหนึ่ง ตามแต่ใจท่านปรารถนา.

             [๑๓๓๒] ข้าแต่ท้าวสักกะผู้เป็นใหญ่กว่าภูตทั้งปวง ถ้าจะโปรดประทานพรแก่

                          ข้าพระองค์ ข้าพระองค์ปรารถนาให้ความประพฤติของตน อย่าให้มี

                          ความโกรธ อย่าให้มีโทสะ อย่าให้มีความโลภ อย่าให้มีความสิเนหา

                          ขอได้ทรงโปรดประทานพร ๔ ประการนี้แก่ข้าพระองค์เถิด.

             [๑๓๓๓] ดูกรท่านพราหมณ์ ท่านเห็นโทษในความโกรธ ในโทสะ ในโลภะ

                          และในสิเนหาเป็นอย่างไรหรือ ข้าพเจ้าขอถามความนั้น ขอท่านจงบอก

                          แก่ข้าพเจ้าเถิด?

             [๑๓๓๔] ความโกรธเกิดแต่ความไม่อดทน ทีแรกเป็นของน้อย แต่ภายหลังเป็น

                          ของมาก ย่อมเจริญขึ้นโดยลำดับ ความโกรธมักทำความเกี่ยวข้อง มี

                          ความคับแค้นมาก เพราะฉะนั้น ข้าพระองค์จึงไม่ชอบใจความโกรธ.

             [๑๓๓๕] วาจาของผู้ประกอบด้วยโทสะ เป็นวาจาหยาบคาย ถัดจากนั้นก็เกิด

                          ปรามาสถูกต้องกัน ต่อจากนั้นก็ชกต่อยกันด้วยมือ ต่อไปก็หยิบท่อน

                          ไม้เข้าทุบตีกัน จนถึงจับศาตราเข้าฟันแทงกันเป็นที่สุด โทสะเกิดแต่

                          ความโกรธ เพราะฉะนั้น ข้าพระองค์จึงไม่ชอบใจโทสะ.

             [๑๓๓๖] ความโลภเป็นอาการหยาบ เป็นเหตุให้เที่ยวปล้นขู่เอาสิ่งของแสดงของ

                          ปลอมเปลี่ยนเอาของคนอื่น ทำอุบายล่อลวง บาปธรรมทั้งหลายนี้ มี

                          ปรากฏอยู่เพราะโลภธรรม เพราะฉะนั้น ข้าพระองค์จึงไม่ชอบใจโลภะ.

             [๑๓๓๗] กิเลสเครื่องร้อยรัดทั้งหลาย อันสิเนหาผูกรัดเข้าอีก เป็นของสำเร็จด้วย

                          ใจ นอนเนื่องอยู่เป็นอันมาก ย่อมทำให้บุคคลเดือดร้อนยิ่งนัก เพราะ

                          ฉะนั้น ข้าพระองค์จึงไม่ชอบใจความสิเนหา.

             [๑๓๓๘] ดูกรท่านพราหมณ์ คำนั้นท่านกล่าวดีแล้ว สมควรเป็นสุภาษิต ข้าพเจ้า

                          จะให้พรแก่ท่านอย่างหนึ่ง ตามแต่ใจท่านปรารถนา.

             [๑๓๓๙] ข้าแต่ท้าวสักกะผู้เป็นใหญ่กว่าภูตทั้งปวง ถ้าจะโปรดประทานพรแก่

                          ข้าพระองค์ ขออาพาธทั้งหลายอันเป็นของร้ายแรง ซึ่งจะทำอันตรายตบะ

                          กรรมได้ อย่าพึงบังเกิดแก่ข้าพระองค์ผู้อยู่ในป่า ซึ่งอยู่แต่ผู้เดียว

                          เป็นนิตย์.

             [๑๓๔๐] ดูกรท่านพราหมณ์ คำนั้นท่านกล่าวดีแล้ว สมควรเป็นสุภาษิต ข้าพเจ้า

                          จะให้พรแก่ท่านอย่างหนึ่ง ตามแต่ใจท่านปรารถนา.

             [๑๓๔๑] ข้าแต่ท้าวสักกะผู้เป็นใหญ่กว่าภูตทั้งปวง ถ้าจะโปรดประทานพรแก่ข้า

                          พระองค์ ขอใจหรือร่างกายของข้าพระองค์ อย่าเข้าไปกระทบกระทั่ง

                          ใครๆ ในกาลไหนๆ เลย ขอได้ทรงโปรดประทานพรนี้เถิด.


ในปริบทพุทธสันติวิธี: หลักธรรม ประยุกต์ใช้" โดยใช้สาระสำคัญของ กัณหชาดก    ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่  19  ขุททกนิกาย  ชาดก    ทสกนิบาตชาดก

วิเคราะห์ กัณหชาดก ในปริบทพุทธสันติวิธี: หลักธรรม และการประยุกต์ใช้

บทนำ

กัณหชาดกเป็นหนึ่งในชาดกที่ปรากฏในพระไตรปิฎก เล่มที่ 27 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 19 ขุททกนิกาย ชาดก ทสกนิบาตชาดก เนื้อหาของชาดกนี้เน้นการแสดงหลักธรรมเกี่ยวกับการพิจารณาคุณค่าของบุคคลโดยไม่ยึดติดกับลักษณะภายนอก และการขอพรที่สะท้อนถึงแนวคิดพุทธสันติวิธีที่เน้นความสงบภายในและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ

เนื้อเรื่องโดยสังเขป

กัณหชาดกเป็นเรื่องราวของพราหมณ์รูปหนึ่งที่ได้รับโอกาสขอพรจากท้าวสักกะ แต่พรที่เขาขอกลับมิใช่ทรัพย์สมบัติหรืออำนาจ แต่เป็นการขอให้ตนปราศจากความโกรธ โทสะ โลภะ และสิเนหา รวมถึงการไม่ให้มีโรคภัยไข้เจ็บ และขอให้ตนเองไม่เข้าไปกระทบกระทั่งผู้อื่น พรที่พราหมณ์ขอสะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจในธรรมชาติของกิเลส และเป็นตัวอย่างของการดำเนินชีวิตที่นำไปสู่สันติสุขแท้จริง

การวิเคราะห์กัณหชาดกในบริบทพุทธสันติวิธี

1. การไม่ตัดสินคนจากภายนอก

ข้อความในพระสูตรระบุว่า “คนไม่ชื่อว่าเป็นคนดำเพราะผิวหนัง เพราะคนที่มีแก่นภายในจึงชื่อว่าเป็นพราหมณ์” นั่นหมายความว่าพุทธศาสนาเน้นให้พิจารณาคุณค่าของบุคคลจากจริยธรรมและการกระทำ มากกว่าลักษณะทางกายภาพ แนวคิดนี้สามารถนำไปใช้ในบริบทของสังคมปัจจุบัน เช่น การลดอคติทางชาติพันธุ์ ศาสนา และวัฒนธรรม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของการสร้างสังคมที่สงบสุข

2. การป้องกันและขจัดกิเลส

พราหมณ์ในชาดกได้ขอพรให้ตนไม่มีความโกรธ โทสะ โลภะ และสิเนหา ซึ่งเป็นรากเหง้าของปัญหาความขัดแย้งในระดับบุคคลและสังคม หลักธรรมนี้สอดคล้องกับพุทธสันติวิธีที่เน้นการลดละกิเลสภายในเพื่อสร้างสันติสุขอย่างยั่งยืน ตัวอย่างของการนำหลักนี้ไปใช้ในสังคมคือการอบรมจิตใจผ่านการปฏิบัติสมาธิและวิปัสสนาเพื่อลดอารมณ์รุนแรงและเสริมสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน

3. การขอพรเพื่อสันติสุขที่แท้จริง

พรที่พราหมณ์ขอเกี่ยวข้องกับสุขภาพที่ดีและการไม่ทำร้ายผู้อื่น ซึ่งเป็นแนวคิดของ “อหิงสา” หรือการไม่เบียดเบียนกัน หลักการนี้สามารถประยุกต์ใช้ในระดับนโยบายของรัฐ โดยส่งเสริมสังคมที่เคารพสิทธิและเสรีภาพของกันและกัน ลดความขัดแย้งที่เกิดจากการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว และสร้างระบบสาธารณสุขที่เข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม

การประยุกต์ใช้ในสังคมปัจจุบัน

  1. ด้านการศึกษา: การสอนหลักธรรมจากกัณหชาดกในโรงเรียนสามารถช่วยให้นักเรียนพัฒนาความสามารถในการคิดเชิงวิพากษ์และมีทัศนคติที่เปิดกว้างต่อความแตกต่างของบุคคล

  2. ด้านสันติวิธี: แนวคิดเรื่องการลดโทสะและความโลภสามารถนำไปใช้ในการเจรจาไกล่เกลี่ยข้อขัดแย้งทั้งในระดับบุคคลและระดับสังคม

  3. ด้านสาธารณสุข: การขอพรให้ไม่มีโรคร้ายแรงสามารถสะท้อนถึงความสำคัญของการสร้างระบบสุขภาพที่ดี ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานของสังคมสงบสุข

สรุป

กัณหชาดกเป็นตัวอย่างของคำสอนในพระพุทธศาสนาที่เกี่ยวข้องกับพุทธสันติวิธี โดยเน้นให้บุคคลพิจารณาคุณค่าจากภายใน ลดละกิเลส และสร้างสังคมที่สงบสุขผ่านการไม่เบียดเบียนกัน หลักธรรมจากชาดกนี้สามารถประยุกต์ใช้ในสังคมปัจจุบันเพื่อเสริมสร้างสันติสุขและความเข้าใจระหว่างกันในระดับบุคคล ชุมชน และโลกโดยรวม

บรรณานุกรม

  • พระไตรปิฎก ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ 27 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 19 ขุททกนิกาย ชาดก ทสกนิบาต

  • สุมาลี สมบูรณ์, "การประยุกต์ใช้พุทธสันติวิธีในสังคมไทย," วารสารพุทธศาสตร์ศึกษา, 2564.

  • สมภาร พรมทา, "อหิงสาและสันติวิธีในพระพุทธศาสนา," สำนักพิมพ์มหาจุฬาลงกรณ์, 2558.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บัณฑิตสมบูรณ์: พุทธจิตวิทยาก้าวข้ามอคติ 4

การวิเคราะห์เชิงปรากฏการณ์วิทยาและพุทธจิตวิทยา: กระบวนทัศน์ "บัณฑิตสมบูรณ์" และการก้าวข้ามอคติ 4 ประการ กรณีศึกษา: ดุษฎีสัมโมทนียก...