วันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

มัณฑัพยชาดกว่าด้วยความรักที่มีต่อบุตร

วิเคราะห์ มัณฑัพยชาดก  ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่  19  ขุททกนิกาย  ชาดก ทสกนิบาตชาดก   ที่ประกอบด้วย  

 ๖. มัณฑัพยชาดกว่าด้วยความรักที่มีต่อบุตร

             [๑๓๘๐] เราเป็นผู้ต้องการบุญ ได้มีจิตเลื่อมใสประพฤติพรหมจรรย์อยู่เพียง ๗ วัน

                          เท่านั้น ต่อจากนั้นมา แม้เราจะไม่มีความใคร่บรรพชา ก็ได้ประพฤติ

                          พรหมจรรย์ของเราอยู่ได้ถึง ๕๐ ปีกว่า ด้วยความสัจนี้ ขอความสวัสดี

                          จงมีแก่ยัญญทัตตกุมาร พิษจงคลาย ยัญญทัตตกุมาร จงรอดชีวิตเถิด.

             [๑๓๘๑] เพราะเหตุที่เราเห็นแขกในเวลาที่มาถึงบ้าน เพื่อจะพักอยู่ บางครั้งไม่

                          พอใจจะให้เลย แม้สมณพราหมณ์ผู้เป็นพหูสูต ก็ไม่ทราบความไม่พอใจ

                          ของเรา แม้เราไม่ประสงค์จะให้ก็ให้ได้ ด้วยความสัจนี้ ขอความสวัสดี

                          จงมีแก่ยัญญทัตตกุมาร พิษจงคลาย ยัญญทัตตกุมาร จงรอดชีวิตเถิด.

             [๑๓๘๒] ลูกรัก อสรพิษที่ออกจากโพรงกัดเจ้านั้น มีเดชมาก ไม่เป็นที่รักของ

                          แม่ในวันนี้เลย อสรพิษนั้นกับบิดาของเจ้า ไม่แปลกอะไรกันเลย ด้วย

                          ความสัจนี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่ยัญญทัตตกุมาร พิษจงคลาย ยัญญ-

                          ทัตตกุมาร จงรอดชีวิตเถิด.

             [๑๓๘๓] ก็นักพรตทั้งหลายเป็นผู้สงบระงับ ฝึกฝนตนแล้ว ย่อมเว้นรอบ นอก

                          จากท่านกัณหะแล้วที่จะเป็นผู้ทนฝืนใจ ประพฤติพรหมจรรย์ ไม่มีเลย

                          ดูกรท่านทีปายนะ ท่านเกลียดชังอะไร จึงสู่ฝืนใจประพฤติพรหมจรรย์

                          อยู่ได้.

             [๑๓๘๔] บุคคลออกบวชด้วยศรัทธาแล้ว กลับเข้าบ้านอีก เป็นคนเหลวไหล

                          เป็นคนกลับกลอก เราเกลียดต่อถ้อยคำเช่นนี้ จึงสู้ฝืนใจ ประพฤติ

                          พรหมจรรย์อยู่ นี้เป็นฐานะที่วิญญูชนสรรเสริญ และเป็นฐานะของ

                          สัตบุรุษทั้งหลาย เราเป็นผู้กระทำบุญด้วยเหตุนี้แหละ.

             [๑๓๘๕] ท่านเลี้ยงสมณะ พราหมณ์และคนเดินทาง ให้อิ่มหนำสำราญด้วยข้าว

                          และน้ำ เรือนของท่าน บริบูรณ์ด้วยข้าวและน้ำเป็นเหมือนบ่อน้ำ เออ

                          ก็ท่านเกลียดต่อถ้อยคำอะไร แม้ไม่ประสงค์ ก็ให้ทานนี้ได้?

             [๑๓๘๖] มารดาบิดาและปู่ย่าตายายของดิฉัน เป็นผู้มีศรัทธา เป็นทานบดี รู้ความ

                          ประสงค์ของผู้ขอ ดิฉันอนุวัตรตามธรรมเนียมของตระกูลนั้น กำหนดใจ

                          ไว้ว่า อย่าได้เป็นคนตัดธรรมเนียมแห่งตระกูลนี้เสียเลย ดิฉันเกลียด

                          ถ้อยคำเช่นนี้ แม้ไม่ประสงค์ก็ให้ทานนี้ได้.

             [๑๓๘๗] ดูกรนางผู้มีร่างกายงาม เรานำเจ้าผู้ยังเป็นสาวน้อย ฯ ยังไม่มีปัญญา

                          สามารถที่จะจับจ่ายมาแต่ตระกูลญาติ แม้เจ้าไม่ได้แสดงความไม่รักใคร่เรา

                          เจ้าปฏิบัติเราเว้นจากความรักใคร่ เออก็นางผู้เจริญ การที่เจ้าอยู่ร่วมกับ

                          เราเห็นปานนี้ได้ เพราะเหตุอะไร?

             [๑๓๘๘] ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา อันภรรยาที่มีสามีบ่อยๆ มิได้มีอยู่ในตระกูลนี้

                          ดิฉันได้อนุวัตรตามธรรมเนียมของตระกูลนั้น กำหนดใจไว้ว่า ขออย่า

                          ให้เป็นคนตัดธรรมเนียมของตระกูลในภายหลังเลย ดิฉันเกลียดต่อถ้อย

                          คำเช่นนี้ แม้ไม่ประสงค์ก็ปฏิบัติท่านได้.

             [๑๓๘๙] ดูกรท่านมัณฑัพยะ วันนี้ดิฉันพูดถ้อยคำที่ไม่ควรจะพูด ขอท่านจงอด

                          โทษถ้อยคำนั้นให้แก่ดิฉัน เพราะเหตุแห่งบุตรเถิด สิ่งอื่นอะไรๆ ใน

                          โลกนี้ ที่จะรักยิ่งไปกว่าบุตรมิได้มี ยัญญทัตตกุมารของเรานี้รอดชีวิตแล้ว.

ในปริบทพุทธสันติวิธี: หลักธรรม ประยุกต์ใช้" โดยใช้สาระสำคัญของ มัณฑัพยชาดก ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่  19  ขุททกนิกาย  ชาดก  ทสกนิบาตชาดก

วิเคราะห์มัณฑัพยชาดกในปริบทพุทธสันติวิธี: หลักธรรมและการประยุกต์ใช้

บทนำ มัณฑัพยชาดก เป็นหนึ่งในชาดกที่ปรากฏในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 19 ขุททกนิกาย ชาดก ทสกนิบาตชาดก เรื่องราวในชาดกนี้เน้นไปที่ความรักที่มีต่อบุตรและคุณธรรมของการเสียสละ ซึ่งเกี่ยวข้องกับหลักพุทธสันติวิธีที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน บทความนี้จะวิเคราะห์เนื้อหาของมัณฑัพยชาดกและการนำไปใช้ในบริบทของสังคมปัจจุบัน

สาระสำคัญของมัณฑัพยชาดก มัณฑัพยชาดกกล่าวถึงพระดาบสผู้หนึ่งซึ่งแม้จะใช้ชีวิตในพรหมจรรย์มาเป็นเวลานาน แต่เมื่อบุตรของตนถูกอสรพิษกัด พระดาบสได้อธิษฐานด้วยสัจจะวาจาเพื่อช่วยชีวิตบุตรให้รอดจากภัยพิบัติ เรื่องราวนี้สะท้อนให้เห็นถึงพลังของความรักและความเสียสละที่บิดามารดามีต่อบุตร นอกจากนี้ยังกล่าวถึงหลักธรรมในพุทธศาสนาเกี่ยวกับการให้ทานและการรักษาประเพณีของตระกูล

ชาดกนี้ชี้ให้เห็นว่าความรักต่อบุตรเป็นสิ่งที่ลึกซึ้งและเป็นแรงผลักดันให้บุคคลทำสิ่งที่เหนือกว่าความต้องการส่วนตัว ดังที่พระดาบสกล่าวถึงการดำรงอยู่ในพรหมจรรย์ของตนเอง และการให้ทานแม้ในยามที่ตนเองไม่ประสงค์ ซึ่งล้วนเป็นการเสียสละเพื่อคุณค่าและประโยชน์ที่สูงกว่า

พุทธสันติวิธีในมัณฑัพยชาดก มัณฑัพยชาดกสามารถเชื่อมโยงกับหลักพุทธสันติวิธีได้ในหลายแง่มุม:

  1. สัจจะบารมี (การรักษาสัจจะ) – พระดาบสใช้สัจจะวาจาเพื่อช่วยบุตรของตนให้รอดจากภัยพิบัติ แสดงให้เห็นถึงพลังของความจริงใจและความมั่นคงในหลักธรรม

  2. เมตตาและกรุณา – ความรักและความเมตตาของพ่อแม่ที่มีต่อบุตรเป็นตัวอย่างของกรุณาที่แท้จริง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของพุทธสันติวิธี

  3. ความเสียสละเพื่อประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่กว่า – การให้ทานและการเสียสละแม้ในยามที่ไม่เต็มใจ เป็นการแสดงถึงจิตใจที่กว้างขวางและการยึดมั่นในศีลธรรม

  4. การรักษาธรรมเนียมของตระกูล – การปฏิบัติตามธรรมเนียมที่ดีงามของตระกูล เป็นการรักษาค่านิยมที่นำไปสู่ความสงบสุขในสังคม

การประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน มัณฑัพยชาดกสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ดังนี้:

  • การรักษาสัจจะวาจา – พึงรักษาคำพูดและปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับผู้อื่น

  • ความเมตตาต่อครอบครัวและสังคม – แสดงความรักและความเมตตาต่อบุตรและบุคคลรอบข้าง

  • การเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวม – พัฒนาความสามารถในการให้ทานและช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน

  • การดำรงไว้ซึ่งคุณธรรมของตระกูล – ปลูกฝังคุณธรรมและจริยธรรมที่ดีให้กับลูกหลาน เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของสังคม

สรุป มัณฑัพยชาดกเป็นตัวอย่างของเรื่องราวที่เน้นให้เห็นถึงความรักที่มีต่อบุตรและคุณธรรมของการเสียสละ ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการดำรงชีวิตประจำวันได้โดยยึดหลักพุทธสันติวิธี หากบุคคลสามารถปฏิบัติตามหลักธรรมที่ปรากฏในชาดกนี้ ย่อมนำไปสู่ความสงบสุขในระดับบุคคล ครอบครัว และสังคมโดยรวม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

  การวิเคราะห์เชิงลึก: การออกแบบนโยบายสวัสดิการสังคมของประเทศไทยในอนาคต (ระยะเปลี่ยนผ่าน 2568-2573) เอกสารประกอบการพิจารณา: การเสวนาเชิงวิชา...