วันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

สังขชาดกว่าด้วยอานิสงส์ถวายรองเท้า

วิเคราะห์ สังขชาดก  ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่  19  ขุททกนิกาย  ชาดก ทสกนิบาตชาดก   ที่ประกอบด้วย  

๔. สังขชาดกว่าด้วยอานิสงส์ถวายรองเท้า

             [๑๓๕๗] ข้าแต่สังขพราหมณ์ ท่านเป็นพหูสูต ได้ฟังธรรมมาแล้ว และสมณะ

                          พราหมณ์ทั้งหลาย ท่านก็ได้เห็นมาแล้ว เหตุไร ท่านจึงแสดงคำพร่ำเพ้อ

                          ในขณะอันไม่สมควร คนอื่นนอกจากข้าพเจ้า ใครเล่าที่จะมาเจรจากับ

                          ท่านได้?

             [๑๓๕๘] นางเทพธิดามีหน้างาม เลอโฉม ประดับเครื่องประดับทอง ยกถาดทอง

                          เต็มด้วยอาหารทิพย์ มาร้องเชิญให้ข้าพเจ้าบริโภค นางเป็นผู้มีศรัทธา

                          และปลื้มใจ ข้าพเจ้าตอบกะนางว่า ไม่บริโภค.

             [๑๓๕๙] ข้าแต่ท่านพราหมณ์ บุรุษผู้ปรารถนาความสุขได้พบเห็นเทวดาเช่นนั้นแล้ว

                          ควรถามให้ได้ความ ขอท่านจงลุกขึ้นประนมมือ ถามเทวดานั้นว่า ท่าน

                          เป็นเทวดาหรือมนุษย์?

             [๑๓๖๐] เพราะเหตุว่า ท่านมามองดูข้าพเจ้าด้วยสายตาอันแสดงความรัก ร้อง

                          เชิญให้ข้าพเจ้าบริโภคอาหาร ดูกรนางผู้มีอานุภาพมาก ข้าพเจ้าขอถาม

                          ท่าน ท่านเป็นเทวดาหรือมนุษย์?

             [๑๓๖๑] ข้าแต่ท่านสังขพราหมณ์ ข้าพเจ้าเป็นเทวดาผู้มีอานุภาพมากมาในกลาง

                          สมุทรนี้ ก็เพราะเป็นผู้มีความเอ็นดู จะได้มีจิตประทุษร้ายก็หาไม่

                          ข้าพเจ้ามาในที่นี้เพื่อประโยชน์แก่ท่านนั่นเอง.

             [๑๓๖๒] ข้าแต่ท่านสังขพราหมณ์ ในสมุทรนี้มีข้าวน้ำ ที่นอน ที่นั่ง และยาน

                          พาหนะ มากมายหลายอย่าง ใจของท่านปรารถนาสิ่งใด ข้าพเจ้าจะให้

                          สิ่งนั้นทุกอย่างแก่ท่าน.

             [๑๓๖๓] ข้าแต่เทพธิดาผู้มีร่างกายสวยงาม ตะโพกผึ่งผาย คิ้วงาม เอวบางร่างน้อย

                          ยัญ และการเซ่นสรวงของข้าพเจ้าอย่างใด อย่างหนึ่งที่มีอยู่ ท่านเป็น

                          ผู้สามารถรู้วิบากแห่งกรรมของข้าพเจ้าทุกอย่าง การที่ข้าพเจ้าได้ที่พึ่งใน

                          มหาสมุทรนี้ เป็นวิบากแห่งกรรมอะไร?

             [๑๓๖๔] ข้าแต่ท่านสังขพราหมณ์ ท่านได้ถวายรองเท้ากะพระภิกษุรูปหนึ่ง ผู้เดิน

                          กระโหย่งเท้า เดินสะดุ้งลำบากในหนทางอันร้อน ทักขิณานั้นอำนวยผล

                          สิ่งที่น่าปรารถนาแก่ท่านในวันนี้.

             [๑๓๖๕] ขอเรือต่อด้วยแผ่นกระดาน น้ำไม่รั่ว มีใบสำหรับพาเรือให้แล่นไป

                          จงบังเกิดมี เพราะในสมุทรนี้ ไม่มีพื้นที่สำหรับยานพาหนะอย่างอื่น

                          ขอท่านได้ส่งข้าพเจ้าให้ถึงเมืองโมลินีในวันนี้เถิด.

             [๑๓๖๖] นางเทพธิดานั้น มีจิตชื่นชมโสมนัสปราโมทย์ นิรมิตเรืออันงดงามแล้ว

                          พาสังขพราหมณ์กับบุรุษคนใช้มาส่งถึงเมืองอันเป็นที่รื่นรมย์ยินดีอย่างยิ่ง.

ในปริบทพุทธสันติวิธี: หลักธรรม ประยุกต์ใช้" โดยใช้สาระสำคัญของ สังขชาดก ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่  19  ขุททกนิกาย  ชาดก  ทสกนิบาตชาดก

วิเคราะห์สังขชาดก: หลักธรรมและการประยุกต์ใช้

บทนำ สังขชาดกเป็นหนึ่งในชาดกที่ปรากฏในพระไตรปิฎก เล่มที่ 27 แห่งพระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทสกนิบาตชาดก เนื้อหาของชาดกนี้สะท้อนถึงอานิสงส์ของการให้ทาน โดยเฉพาะการถวายรองเท้าแก่พระภิกษุผู้ลำบาก ซึ่งส่งผลให้ผู้ให้ได้รับความช่วยเหลือในภายหลัง หลักธรรมสำคัญที่ปรากฏในชาดกนี้ ได้แก่ กรรมและวิบาก ศรัทธา และเมตตาธรรม ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันและสังคมปัจจุบันได้

เนื้อเรื่องโดยสังเขป สังขพราหมณ์เป็นผู้พหูสูต มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา วันหนึ่งขณะที่เขาประสบภัยในมหาสมุทร นางเทพธิดาผู้มีอานุภาพปรากฏกายขึ้น พร้อมทั้งนำอาหารทิพย์มาถวาย เขาสงสัยถึงสาเหตุที่ตนได้รับความช่วยเหลือ เทพธิดาอธิบายว่าผลบุญจากการถวายรองเท้าแก่พระภิกษุในอดีต เป็นเหตุให้เขาได้รับความช่วยเหลือในยามลำบาก นางได้เนรมิตเรือให้สังขพราหมณ์เดินทางกลับเมืองโมลินีได้อย่างปลอดภัย

หลักธรรมที่ปรากฏในชาดก

  1. กฎแห่งกรรม (กมฺมสุตตํ)

    • ชาดกเรื่องนี้เน้นย้ำถึงหลักแห่งกรรมและวิบาก บุคคลที่ประกอบกรรมดีจะได้รับผลดี เช่นเดียวกับสังขพราหมณ์ที่เคยถวายรองเท้าแก่พระภิกษุ จึงได้รับผลบุญช่วยให้รอดพ้นจากภัยในทะเล

  2. ศรัทธาและการให้ทาน

    • สังขพราหมณ์มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาและปฏิบัติตามหลักแห่งทาน ผลบุญที่เกิดจากการให้ทานแม้เพียงสิ่งเล็กน้อย ย่อมให้ผลดีอย่างมหาศาล

  3. เมตตาธรรมและความกรุณา

    • เทพธิดาที่ช่วยเหลือสังขพราหมณ์มีความเมตตาโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการช่วยเหลือกันโดยไม่เลือกที่รักมักที่ชัง

การประยุกต์ใช้ในสังคมปัจจุบัน

  1. ส่งเสริมการให้และการช่วยเหลือกัน

    • การบริจาคและช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก เช่น การให้รองเท้าแก่ผู้ยากไร้ สามารถนำหลักการนี้ไปใช้ในโครงการสังคมสงเคราะห์ได้

  2. หลักกรรมและความรับผิดชอบในชีวิต

    • การกระทำของเราในอดีตมีผลต่อปัจจุบันและอนาคต ดังนั้นควรดำรงตนอยู่ในศีลธรรมและความซื่อสัตย์ เพื่อให้เกิดผลดีต่อชีวิตและสังคม

  3. การสร้างเครือข่ายแห่งเมตตาและความร่วมมือ

    • การช่วยเหลือกันในสังคมสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เช่น องค์กรการกุศลที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย สามารถเป็นตัวอย่างของหลักเมตตาธรรม

สรุป สังขชาดกสอนให้ตระหนักถึงคุณค่าของการให้ทานและกรรมดี ซึ่งเป็นหลักธรรมสำคัญในพระพุทธศาสนา เรื่องราวของสังขพราหมณ์แสดงให้เห็นว่าผลบุญจากการกระทำที่ดี แม้เพียงเล็กน้อย สามารถนำพาชีวิตไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองและความปลอดภัยในภายหน้า หลักธรรมจากชาดกนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อสร้างสังคมที่มีเมตตาและกรุณา ตลอดจนเสริมสร้างจิตสำนึกแห่งคุณธรรมในหมู่มนุษย์


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทบาท ดร.นิยม เวชกามา กับกฎหมายคุ้มครองพุทธ

บทบาทการผลักดันกฎหมายเกี่ยวกับการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาของ ดร.นิยม เวชกามา: การวิเคราะห์เชิงโครงสร้าง พลวัตทางการเมือง และนัยต่อรัฐ...