เพลง "ทางแห่งสันติ"
ท่อนแรก
เมื่อใจทุกข์ทน ถูกมืดมนโอบล้อม
ดั่งพายุพัดห้อม ล่องลอยอย่างเดียวดาย
แสงธรรมนำทาง คือสัจธรรมความหมาย
ปล่อยวางในใจ คลี่คลายความเจ็บช้ำ
ท่อนสร้อย
สันติแท้อยู่กลางใจเรา
เมื่อเมตตาแผ่วเบา คลายโทษทัณฑ์
เหมือนสายน้ำหลั่งไหลไม่แบ่งแยกกัน
ดับเพลิงแห่งความฝัน ด้วยความเข้าใจ
ท่อนสอง
อภัยในใจ คือทางให้ใจพ้นผ่าน
เหมือนดั่งแสงตะวัน ส่องฟ้าหลังพายุร้าย
วจีอ่อนโยน ยกโทษด้วยความสบาย
สานไมตรีเรียงราย ปลดปล่อยความเจ็บจำ
ท่อนสร้อย (ซ้ำ)
สันติแท้อยู่กลางใจเรา
เมื่อเมตตาแผ่วเบา คลายโทษทัณฑ์
เหมือนสายน้ำหลั่งไหลไม่แบ่งแยกกัน
ดับเพลิงแห่งความฝัน ด้วยความเข้าใจ
ท่อนจบ
หนทางแห่งธรรม นำใจสู่ความเย็น
สันติแท้เป็น เช่นดอกบัวบานไสว
เมื่อใจสงบ ละวางซึ่งแรงอภัย
โลกนี้จะสดใส ด้วยใจบริสุทธิ์งาม
วิเคราห์อุพพรีเปตวัตถุในพระไตรปิฎกเล่มที่ 26 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 18 ขุททกนิกาย เปตวัตถุ อุพพรีวรรคที่ 2
บทนำ
อุพพรีเปตวัตถุในพระไตรปิฎก เป็นเรื่องราวในพระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 18 ขุททกนิกาย เปตวัตถุ ที่แสดงถึงความเศร้าโศกและการหลุดพ้นจากความทุกข์ของพระนางอุพพรี หลังจากการสิ้นพระชนม์ของพระเจ้าพรหมทัตต์ เรื่องราวนี้สะท้อนหลักธรรมทางพุทธศาสนาว่าด้วยการปล่อยวางและความไม่เที่ยงแห่งสังขาร
เนื้อเรื่องโดยสังเขป
เรื่องเริ่มต้นเมื่อพระเจ้าพรหมทัตต์ผู้ครองแคว้นปัญจาลราชเสด็จสวรรคต พระนางอุพพรี พระมเหสี ทรงโศกเศร้าและคร่ำครวญถึงพระสวามีอยู่ที่พระเมรุมาศ ดาบสผู้บรรลุจรณญาณผ่านมาพบและตั้งคำถามกับพระนางว่า เหตุใดจึงโศกเศร้า ทั้งๆ ที่พระราชาผู้มีพระนามว่าพรหมทัตต์นั้นได้สิ้นพระชนม์มาหลายพระองค์แล้ว
การแสดงหลักธรรมและการปลอบโยน
ดาบสได้กล่าวสอนพระนางอุพพรีว่า ความโศกเศร้าที่เกิดขึ้นเป็นเพราะความยึดติดในอดีต พระราชาทุกพระองค์ต่างมีพระนามเดียวกันและเวียนว่ายตายเกิดไม่สิ้นสุด พระนางเองก็เคยเกิดเป็นทั้งหญิง ชาย และสัตว์เดรัจฉาน ซึ่งสอดคล้องกับหลักธรรมเรื่อง "สังสารวัฏ" และ "อนัตตา" การสอนนี้ทำให้พระนางเข้าใจถึงความไม่เที่ยงของชีวิตและสามารถปล่อยวางความเศร้าได้
การบรรลุธรรมของพระนางอุพพรี
เมื่อได้ฟังโอวาทจากดาบส พระนางอุพพรีจึงสามารถปล่อยวางความทุกข์ และในเวลาต่อมาได้ออกบวชและเจริญเมตตาจิตจนบรรลุสภาวะจิตบริสุทธิ์และเข้าถึงพรหมโลก
การวิเคราะห์ในมุมมองพุทธสันติวิธี
อุพพรีเปตวัตถุแสดงถึงการนำหลักธรรมทางพุทธศาสนามาใช้ในการแก้ไขความขัดแย้งภายในจิตใจและปลอบโยนความทุกข์:
หลักความไม่เที่ยง (อนิจจัง) – ทุกสรรพสิ่งล้วนไม่เที่ยง พระราชาและพระนางเองล้วนเปลี่ยนผ่านไปตามกาลเวลา
หลักความไม่ยึดติด (อนัตตา) – สรรพสิ่งไม่ใช่ของเรา ความเศร้าเกิดจากการยึดติดกับอดีตและตัวตน
หลักการปล่อยวาง (วิราคะ) – ดาบสใช้คำสอนเพื่อช่วยให้พระนางสามารถละความโศกและก้าวข้ามความยึดมั่นในอดีต
สรุป
อุพพรีเปตวัตถุเป็นเรื่องราวที่แสดงให้เห็นถึงพลังของคำสอนทางพุทธศาสนาในการเยียวยาความทุกข์ทางใจได้อย่างลึกซึ้ง โดยเน้นการปล่อยวางและความไม่เที่ยง เป็นตัวอย่างสำคัญของการประยุกต์ใช้พุทธสันติวิธีในการแก้ไขความทุกข์ภายในจิตใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
https://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=26&A=3931
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น