เพลง: เปรตบอกธรรม
ทำนอง: เพลงช้า แนวธรรมะสะเทือนใจ
(ท่อน 1)
กลางเวสาลี ณ เมืองใหญ่
พระอัมพสักขระตรัสถามไถ่
เปรตเปลือยผู้ทุกข์ทน
เหตุใดเล่าเจ้าต้องเป็นเช่นนี้
(ท่อน 2)
เปรตตอบชัด เหตุแห่งกรรม
เพราะข้าทำชั่วไว้ในชาติปางหลัง
กายเปื้อนเลือด ทรมาน
ผลแห่งบาปช่างหนักหนาเกินใคร
(ท่อนฮุค)
"ขอจงมีชีวิตอยู่เถิด" เปรตกล่าวไว้
ความทุกข์นี้ยังเบากว่านรกไฟ
เมื่อชีพดับ บาปเผาใจ
กรรมชั่วนั้นจะตามล่าทุกเวลา
(ท่อน 3)
รัศมีส่องจากเปรตตน
ผลบุญเก่าที่เคยสร้างไว้อย่างดี
แม้เปลือยกาย ทุกข์ยังมี
เพราะลักขโมยผิดธรรมในหนหลัง
(ท่อนฮุค)
"ขอจงมีชีวิตอยู่เถิด" เปรตกล่าวไว้
ความทุกข์นี้ยังเบากว่านรกไฟ
เมื่อชีพดับ บาปเผาใจ
กรรมชั่วนั้นจะตามล่าทุกเวลา
(ท่อนจบ)
กษัตริย์ถวายผ้า อุทิศบุญ
ให้เปรตพ้นทุกข์ระทมในความฝัน
บทเรียนธรรมที่ตรึงใจ
อย่าทำชั่ว แล้วโลกนี้จักสดใส
(ซ้ำฮุค)
"ขอจงมีชีวิตอยู่เถิด" เปรตกล่าวไว้
ความทุกข์นี้ยังเบากว่านรกไฟ
เมื่อชีพดับ บาปเผาใจ
กรรมชั่วนั้นจะตามล่าทุกเวลา
(Outro)
ธรรมเตือนใจ อย่าลืมตรอง
กรรมดีสร้างสุข กรรมชั่วสร้างทุกข์ทวี
เวียนว่ายในวัฏฏะนี้
จำไว้เถิด ธรรมนำชีวิตเรา
การวิเคราะห์ "อัมพสักขรเปตวัตถุ"
บทนำ
"อัมพสักขรเปตวัตถุ" เป็นเรื่องราวในพระไตรปิฎก เล่มที่ 26 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 18 ขุททกนิกาย เปตวัตถุ มหาวรรคที่ 4 เนื้อหาว่าด้วยการสนทนาระหว่างพระเจ้าอัมพสักขระ กษัตริย์แห่งนครเวสาลี และเปรตเปลือยในบริเวณพระนคร เรื่องนี้มีความสำคัญในเชิงปรัชญาและศีลธรรม โดยนำเสนอความสัมพันธ์ระหว่างกรรม วิบาก และโอกาสในการแก้ไขพฤติกรรมของมนุษย์ผ่านบุคคลและเหตุการณ์ในอดีตชาติ
เนื้อเรื่องโดยสังเขป
พระเจ้าอัมพสักขระทอดพระเนตรเห็นเปรตตนหนึ่งผู้ต้องทุกข์ทรมานอย่างยิ่งในสภาพเปลือยเปล่าและถูกเสียบด้วยหลาว เมื่อพระองค์ตรัสถาม เปรตได้เล่าเรื่องราวถึงผลแห่งกรรมที่นำเขาสู่สภาพดังกล่าว โดยอธิบายถึงการกระทำในชาติก่อน ทั้งกรรมดีที่ให้ผลเป็นรัศมีทิพย์และความเป็นอยู่บางส่วน และกรรมชั่วที่ทำให้ต้องเปลือยกายและประสบทุกข์โทษ
ประเด็นการวิเคราะห์
ความหมายของเปรต
เปรตในพระพุทธศาสนาหมายถึงผู้ที่ได้รับผลกรรมชั่วในรูปแบบของความทุกข์ทรมานในสัมปรายภพ เปรตในเรื่องนี้สะท้อนถึงภาวะการตกอยู่ในทุกข์อย่างยาวนานซึ่งเกิดจากการกระทำที่เป็นอกุศลความเชื่อมโยงของกรรมกับวิบาก
เรื่องราวนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของกรรมที่ทำไว้ในอดีต และผลของกรรมที่ส่งผลในภพชาติถัดไป โดยกรรมดีและกรรมชั่วของเปรตในอดีตชาติมีผลต่อทั้งความสุขและทุกข์ในปัจจุบัน- กรรมดี: การมีจิตเลื่อมใสในพระรัตนตรัย และการช่วยเหลือผู้อื่น เช่น การนำศีรษะโคมาวางเป็นสะพาน
- กรรมชั่ว: การกระทำเล็กๆ เช่น การลักผ้าของผู้อื่น แม้จะไม่มีเจตนาทุจริตเต็มที่ แต่ยังส่งผลเป็นทุกข์ทรมานในชาติปัจจุบัน
บทบาทของพระเจ้าอัมพสักขระ
พระเจ้าอัมพสักขระทรงเป็นผู้แสวงหาความจริงเกี่ยวกับกรรมและวิบาก โดยทรงแสดงความสงสัยต่อคำกล่าวของเปรตและขอคำยืนยันผ่านพฤติกรรมที่มีเหตุผลการแสดงธรรมของเปรต
เปรตแสดงธรรมแก่พระเจ้าอัมพสักขระ โดยชี้ให้เห็นว่าผลของกรรมดีและกรรมชั่วมีอยู่จริง และมนุษย์ควรตระหนักถึงผลแห่งการกระทำในปัจจุบันคุณค่าของการอุทิศบุญ
เปรตได้เสนอให้พระเจ้าอัมพสักขระถวายผ้าแก่พระอรหันต์และอุทิศบุญให้ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการสร้างกุศลเพื่อช่วยเหลือสัตว์ผู้ประสบทุกข์
บทสรุป
"อัมพสักขรเปตวัตถุ" เป็นตัวอย่างของวรรณกรรมพุทธที่สะท้อนหลักธรรมเรื่องกรรมและวิบากได้อย่างชัดเจน เรื่องนี้ชี้ให้เห็นว่าทั้งกรรมดีและกรรมชั่วล้วนส่งผลในสัมปรายภพ และเสนอแนวทางให้มนุษย์ใช้โอกาสในชีวิตปัจจุบันสร้างบุญกุศลเพื่อหลีกเลี่ยงทุกข์โทษในอนาคต นอกจากนี้ยังเน้นถึงความสำคัญของศรัทธา ความกรุณา และการสละสิ่งของเพื่อประโยชน์ต่อผู้อื่นในการส่งเสริมชีวิตที่ดีในทางธรรม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น