เพลง: สายใยแห่งสันติ (The Threads of Peace)
ท่อน 1:
สายลมพัดผ่านกลางใจคน
แผ่วเบาเหมือนธรรมหลั่งไหล
เมล็ดแห่งธรรม หว่านลงกลางใจ
หยั่งรากลึกไกลสู่สันติเอย
ท่อน 2:
แสงเทียนริบหรี่ในคืนมืดมน
เปรียบปัญญานำทางส่องไป
แสงอ่อนโยนนำสู่ทางไกล
สู่สันติในใจนิรันดร์เอย
คอรัส:
สายใยแห่งสันติสานใจคน
ด้วยเมตตาหลอมรวมเป็นหนึ่ง
ให้ทาน ปัญญา อภัยมั่นคง
เป็นแสงส่องทางแห่งรักนิรันดร์
ท่อน 3:
หากมีโกรธแค้นจงวางลง
ปล่อยวางดั่งสายน้ำไหล
หากใจสั่นไหวจงหลับตาไป
เจริญสติรู้เท่าทันตน
คอรัส:
สายใยแห่งสันติสานใจคน
ด้วยเมตตาหลอมรวมเป็นหนึ่ง
ให้ทาน ปัญญา อภัยมั่นคง
เป็นแสงส่องทางแห่งรักนิรันดร์
ท่อนจบ:
เสียงกลองศึกดับลงแผ่วเบา
เหลือเพียงสายลมพัดไกล
เมื่อใจคนพบทางเข้าใจ
สันติจะเบ่งบานตลอดกาลเอย
วิเคราะห์อภิชชมานเปตวัตถุ ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 26 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 18 ขุททกนิกาย เปตวัตถุ จูฬวรรคที่ ๓
อภิชชมานเปตวัตถุเป็นหนึ่งในเรื่องราวสำคัญในพระไตรปิฎก ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับบุพกรรมและผลกรรมของเปรต โดยเรื่องราวนี้เกี่ยวข้องกับโกสิยมหาอำมาตย์ของพระเจ้าพิมพิสาร ซึ่งสนทนากับเปรตตนหนึ่ง
โครงเรื่องและเนื้อหาสำคัญ เปรตในเรื่องนี้มีสภาพเปลือยกาย มีร่างกายเป็นเปรตครึ่งหนึ่ง แต่ประดับดอกไม้และตกแต่งร่างกายบางส่วน โกสิยมหาอำมาตย์ได้ถามถึงสาเหตุที่เปรตมีสภาพเช่นนั้น และได้ทราบว่าเป็นผลจากบุพกรรมในอดีตที่เปรตเคยประพฤติด้วยความตระหนี่ ไม่ทำบุญและไม่ให้ทาน
เปรตเล่าว่าเมื่อครั้งยังมีชีวิต ได้ประพฤติในทางที่ไม่เหมาะสม เช่น มีข้าวและน้ำมากแต่ไม่ยอมแจกจ่ายให้ทาน ไม่ทำบุญกับบรรพชิต แม้มีโอกาสทำความดี แต่กลับละเลยและมีพฤติกรรมตระหนี่ถี่เหนียว ทำให้เมื่อสิ้นชีวิตไปแล้วต้องตกอยู่ในภาวะเปรตที่ทุกข์ทรมาน
หลักธรรมในอภิชชมานเปตวัตถุ
กฎแห่งกรรม
บุคคลใดกระทำกรรมอันไม่ดี ย่อมได้รับผลแห่งกรรมนั้น
ความตระหนี่และการละเลยการทำบุญนำไปสู่ความทุกข์ในปรโลก
ความสำคัญของทานบารมี
การให้ทานช่วยเกื้อหนุนผู้ล่วงลับ
โกสิยมหาอำมาตย์ได้ถวายทานและมอบผ้าอาภรณ์แก่เปรต ส่งผลให้เปรตพ้นจากความทุกข์บางส่วน
สังสารวัฏและผลแห่งบุญกรรม
ผู้ที่ไม่ทำบุญจะได้รับความทุกข์ในภพหน้า
ผู้ที่สร้างกุศลกรรม ย่อมได้ไปสู่สุคติภูมิ เช่น สวรรค์
การประยุกต์ใช้ในสันติวิธี อภิชชมานเปตวัตถุสื่อถึงหลักการพื้นฐานในพุทธสันติวิธี ซึ่งเน้นการสร้างสังคมที่เต็มไปด้วยความเมตตาและการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน โดยการ
ปลูกฝังจิตสำนึกแห่งการให้ทานและการช่วยเหลือผู้อื่น
การละเว้นจากความโลภและความตระหนี่
การส่งเสริมความเข้าใจเรื่องกรรมและผลกรรม เพื่อให้สังคมอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข
สรุป อภิชชมานเปตวัตถุในพระไตรปิฎกนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับบุพกรรมและผลกรรมที่ชัดเจน โดยแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการทำบุญและการให้ทาน เพื่อหลีกเลี่ยงความทุกข์ทรมานในปรโลก หลักธรรมในเรื่องนี้สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในแนวทางสันติวิธีของสังคมปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นการส่งเสริมความเมตตาและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ในสังคม
https://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=26&A=3988
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น