ควันก็คงจะจางลงบ้างแล้ว สำหรับศึกแดงเดือดอยู่ฝ่ายเดียว ที่ทีมลิเวอร์พูลยัดเยียดความปราชัยให้กับทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในถิ่นแอนฟิลด์ 4-0 เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา รวมสองนัดด้วยสกอร์ 9-0
แม้ว่าความเดือดจะลุกท่วมให้สนามก็ทว่ารอบสนามในนาที 7 ให้เห็นความงดงามของวงการกีฬาที่ยากจะมีให้เห็นในวงการการเมืองทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ที่แฟนฟุตบอลทั้งสองทีมให้ลุกขึ้นปรบมือใส่กำลังใจสให้กับ "คริสเตียโน โรนัลโด" จากทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หมายเลข 7 ที่สูญเสียลูกชายฝาแฝดก่อนวันแข่งขัน จึงทำให้ "คริสเตียโน โรนัลโด" ไม่สามารถลงแข่งช่วยทีมให้นัดนี้ได้ ทำให้ "คริสเตียโน โรนัลโด" ซาบซึ้งให้ใจที่วงการกีฬามีให้เขา โดยโพสต์ขอบคุณด้วยข้อความว่า "หนึ่งโลก หนึ่งกีฬา หนึ่งครอบครัวใหญ่" ก็คงจะสอดคล้องกับอมตวาจาของมหาตมะ คานธีที่ว่า "โลกทั้งผ่องเป็นที่น้องกัน"
สำหรับบรรยากาศและผลการแข่งขันคงจะมีผู้วิพากษ์วิจารณ์ไปมากแล้ว แต่มีสิ่งหนึ่งที่สังเกตเห็นในเกมนัดนี้เกี่ยวกับการแสดงความยินดีดีใจของผู้ที่ทำประตูคู่ต่อสู้ได้ ก็จะมีทางท่าแตกต่างกันออกไป
ที่สังเกตเห็นในนัดนี้คือการแสดงความดีใจของ "โมฮาเหม็ด ซาลาห์" จากทีมลิเวอร์พูล ที่ยิงลูกแรกที่สุดสวยได้ ก็วิ่งไปที่กองเชียร์พร้อมกับยกมือขึ้นไหว้ ก่อนที่เพื่อนร่วมทีมจะวิ่งเข้ามากอดแสดงความยินดีด้วย แต่พอลูกที่สองหรือลูกที่สี่ของทีม ปรากฏว่า "โมฮาเหม็ด ซาลาห์" ได้แสดงความดีใจเหมือนเดิมแต่มีความพิเศษเพิ่มขึ้นก็คือท่ายืนด้วยขาข้างเดียวเหมือนกับท่าโยคะ
จึงได้ค้นข้อมูลจึงได้ทำให้ทราบว่า ท่าที่ "โมฮาเหม็ด ซาลาห์" แสดงความดีใจนั้นก็คือท่าโยคะที่เรียกว่า "ท่าต้นไม้" แม้ว่าในยูทูปภาษาอังกฤษจะมีการประมวลท่าแสดงความยินดีของ "โมฮาเหม็ด ซาลาห์" ในนัดต่างๆ แต่ท่าที่ "โมฮาเหม็ด ซาลาห์" ให้แสดงในครั้งนี้แม้จะใช้ภาพท่าไม้ต้นไม้แต่ก็ไม่ได้อธิบายว่าเป็นท่าโยคะที่เรียกว่า "ท่าต้นไม้" แต่อย่างใด
ทั้งนี้สำหรับท่าโยคะที่เรียกว่า "ท่าต้นไม้" นั้นดีอย่างไรนั้น ได้รับทราบข้อมูลจาก :Khongrit Somchai จากเว็บไซต์ https://www.sanook.com/health/26285/ ได้เผยแพร่ไว้ว่า
โยคะ (Yoga) เป็นกิจกรรมที่เสริมสมาธิ และสร้างความยืดหยุ่นให้แก่ร่างกายได้เป็นอย่างดี ทั้งยังช่วยลดความเครียดและลดความเสี่ยงต่อโรคซึมเศร้า ทั้งยังส่งผลดีต่อสุขภาพหัวใจ และการหายใจอีกด้วย แต่โยคะก็มีท่าทางที่หลากหลาย สำหรับคนที่ทำโยคะเป็นประจำสามารถที่จะเลื่อนระดับไปทำท่าที่ยากๆ ได้ แต่สำหรับผู้ที่กำลังสนใจ และกำลังมองหาจังหวะดีๆ เล่นโยคะ แต่ก็อาจจะยังไม่มีเวลาไปเข้าคอร์สอย่างเต็มรูปแบบ วันนี้ Hello คุณหมอ มีท่าโยคะง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้มาฝาก เป็นท่าที่ประหยัดทั้งพื้นที่ ประหยัดทั้งเวลา ทำง่าย แล้วก็ยังได้ประโยชน์ต่อร่างกายอีก เรามารู้จักกับ โยคะท่าต้นไม้ กันค่ะ
โยคะท่าต้นไม้ คืออะไร ท่าต้นไม้ (Tree Pose หรือ Vrikshasana)
ท่าต้นไม้ หรือโยคะท่าต้นไม้ เป็นหนึ่งในท่าโยคะที่ถือว่าง่ายที่สุดสำหรับเน้นฝึกการทรงตัว โดยจะเป็นการฝึกยืนด้วยขาเดียว และปรับสมดุลในการทรงตัวทั้งช่วงแขน ขา ไหล่ สะโพก อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่เริ่มฝึก โยคะ ใหม่ๆ จะรู้สึกว่าท่าต้นไม้นี้ยากและน่าหงุดหงิด เพราะว่าหลายคนจะล้มบ่อย เนื่องจากยังทรงตัวได้ไม่ดี แต่เมื่อฝึกจนคล่องแล้ว จะพบว่ามีการโน้มถ่วงร่างกายได้ดีขึ้น ยืดหยุ่นร่างกายดีขึ้น และมีสมาธิดีขึ้นด้วย
ประโยชน์ของการทำ โยคะท่าต้นไม้
โยคะท่าต้นไม้ แม้จะเป็นท่าที่สามารถทำได้ง่ายๆ แต่ก็มีประโยชน์ต่อร่างกายในหลายๆ แง่ อย่างประโยชน์ข้อแรกซึ่งถือว่าเป็นข้อดีที่โดดเด่นของการเล่น โยคะ เลยก็คือ การสร้างความยืดหยุ่นให้กับร่างกาย เนื่องจากในการทำโยคะแต่ละท่านั้น ต้องมีทั้งการทรงตัวและการโน้มถ่วงร่างกายตั้งแต่แขน ขา เอว บ่า ไหล่
มากไปกว่านั้น การทำท่าต้นไม้ที่ดูไม่หวือหวาเท่าไหร่นี้ ยังเป็นท่าโยคะที่ดีต่อสะโพกด้วย เพราะช่วยเสริมความแข็งแรงที่ช่วงขาทั้งหมด และเพิ่มความสมดุลให้กับสะโพก เป็นอีกหนึ่งท่าโยคะที่ดีสำหรับผู้ที่มีอาการปวดสะโพก เพราะช่วยบรรเทาอาการปวดสะโพกให้ดีขึ้นได้
นอกจากประโยชน์ทางด้านกายภาพแล้ว การทำ โยคะ ท่าต้นไม้ก็ยังให้ประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพจิตด้วย เพราะมีส่วนช่วยเสริมสร้างสมาธิและสร้างสมดุลของสุขภาพจิตได้เป็นอย่างดี หากกำลังมองหากิจกรรมที่ทำง่าย แต่ให้ความรู้สึกสงบนิ่ง กระปรี้กระเปร่าและสดชื่นขึ้นล่ะก็ การทำโยคะท่าต้นไม้เป็นประจำ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมดีๆ ที่ไม่ควรพลาด
วิธีทำโยคะท่าต้นไม้
โยคะท่าต้นไม้สามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้
ก่อนเริ่มทำโยคะ ให้สูดหายใจเข้าออกลึกๆ
ยืดตัวตรงและยืนขึ้น แขนทั้งสองข้างแนบกับลำตัว งอเข่าข้างขวาขึ้น ให้อยู่เหนือต้นขาซ้าย หรืออยู่ตรงบริเวณโคนขาซ้าย จังหวะนี้จะเหลือเท้าซ้ายเป็นตัวรับน้ำหนักทั้งหมด พยายามทรงตัวด้วยเท้าซ้าย อย่าให้ล้ม
เมื่อสามารถทรงตัวได้ดีโดยไม่โอนเอนแล้ว ค่อยๆ สูดหายใจเข้าลึกๆ ค่อยๆ ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะ โดยแยกแขนออกทางข้างลำตัว แล้วยกขึ้นอย่างช้าๆ ให้มือทั้งสองข้างประกบกันอยู่เหนือศีรษะ มองตรงไปข้างหน้า ห้ามก้มหรือเงย ให้เพ่งสายตาไปยังวัตถุใดวัตถุหนึ่งที่อยู่ตรงหน้าไกลออกไป การเพ่งมองวัตถุไกลๆ ที่อยู่นิ่ง จะช่วยให้สามารถรักษาสมดุลในการทรงตัวได้
การทำโยคะ ท่านี้ ต้องคอยสังเกตให้หลังตรงอยู่เสมอ ไม่ควรงอหลัง หรือห่อไหล่ จากนั้นหายใจเข้ายาวๆ อย่างช้าๆ และหายใจออกยาวๆ อย่างช้าๆ ประมาณ 5-10 ครั้ง เพื่อให้ร่างกายผ่อนคลาย
ค่อยๆ ลดมือลงข้างลำตัว แล้วลดขาขวาลงอยู่ในท่ายืนปกติ ยืนตัวตรง ไม่ห่อไหล่ และไม่งอหลัง แบบเดียวกับตอนที่เริ่มต้น จากนั้นสลับทำเช่นเดียวกันกับขาข้างซ้าย
คำแนะนำสำหรับการทำโยคะท่าต้นไม้
บางคนไม่สามารถที่จะยกขาทั้งสองข้างขึ้นมาได้เท่ากัน เช่น ขาข้างขวาอาจสามารถยกมาถึงโคนขาได้ แต่ขาข้างซ้ายยกขึ้นมาไม่ถึง หากเป็นเช่นนี้ สามารถวางเท้าซ้ายไว้ที่น่องขาขวา หรือบนนิ้วเท้าข้างขวา และสามารถทำเช่นเดียวกันนี้กับเท้าอีกข้างได้
ในระยะแรกของการทำ โยคะ ท่าต้นไม้ หากไม่สามารถทรงตัวได้จริงๆ หรือทำแล้วแต่ล้มบ่อย สามารถใช้ผนังเป็นตัวช่วยได้ ลองทำท่าต้นไม้โดยให้หลังติดกับหนังห้องเพื่อสร้างความสมดุล ป้องกันไม่ให้ล้ม
เวลาที่ยกขาข้างใดข้างหนึ่งขึ้นมาแตะไว้ที่โคนขาอีกข้าง สะโพกฝั่งเดียวกับขาข้างที่ยกขึ้นมา จะต้องอยู่ในตำแหน่งเดิมเหมือนตอนที่ยืนสองขา ไม่ควรให้สะโพกเฉออกไปข้างใดข้างหนึ่ง
เวลาวางยกขามาวางไว้ที่ขาอีกข้าง ระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการวางเท้าในตำแหน่งหัวเข่าโดยตรง เพราะเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ หรือสร้างความเจ็บปวดต่อข้อเข่าได้ คอยดูให้เข่าซ้ายหันไปทางซ้ายเสมอ ระวังอย่าให้หันเข้าจุดกึ่งกลาง
สามารถเพิ่มความท้าทายในการทำ โยคะ ท่าต้นไม้ ด้วยการหลับตา แล้วลองดูว่ายังสามารถทรงตัวขณะที่หลับตาแม้จะยืนขาเดียวอยู่ได้หรือไม่
หากไม่นำมือมาประกบกัน สามารถแยกแขนทั้งสองข้างออกเป็นรูปตัววีได้
การเตรียมตัวก่อนเริ่มโยคะ
หากเรียนโยคะแบบเป็นคลาส ห้องเรียนอาจจะมีความร้อนที่ทำให้เหงื่อออก ดังนั้นก่อนเริ่มเรียนคลาสโยคะประมาณ 2 ชั่วโมง ควรดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อป้องกันอาการขาดน้ำ
ก่อนเริ่มทำโยคะหรือเรียนโยคะ ไม่ควรปล่อยให้ท้องว่าง ควรรับประทานอาหารอย่างน้อย 20 นาที ถึง 1 ชั่วโมง
ก่อนเริ่มทำโยคะ เพื่อให้มีพลังงานเพียงพอขณะทำโยคะ ป้องกันการสูญเสียสมาธิเนื่องจากรู้สึกหิว
สวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะกับการทำโยคะ เช่น สปอร์ตบรา กางเกงโยคะ เพื่อให้เหมาะแก่การเคลื่อนไหวร่างกาย
ลงทุนกับเสื่อโยคะดีๆ สักผืน เพราะเวลาเล่นโยคะมักจะมีเหงื่อออก หากเหงื่อออกที่เท้า อาจจะทำให้ลื่นล้มได้
การใช้เสื่อโยคะจึงช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นขณะเล่นโยคะ ทั้งยังช่วยในเรื่องความสะอาดเวลาเหงื่อออกและเกิดคราบเหงื่อที่ฝ่าเท้าด้วย
เชื่อแน่ว่าหาก "โมฮาเหม็ด ซาลาห์" ได้ฝึกโยคะ "ท่าต้นไม้" มาก่อนหน้านี้ คงจะทำให้เขามีจิตใจสงบเป็นสมาธิ สามารถผ่านความผิดหวังจากการที่ไม่สามารถช่วยทีมอียิปต์คว้าแชมป์แอฟริกาคัพปีนี้และไม่สามารถพาทีมเข้าไปแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งต่อไปได้
คงต้องติดตามกันในนัดต่อไปไปว่าเมื่อ "โมฮาเหม็ด ซาลาห์" ยิงประตูได้แล้วจะแสดงท่าต้นไม้เป็นท่าดีใจอีกหรือไม่
แต่สำหรับคนไทยที่เป็นแฟนทีมลิเวอร์พูลรวมถึงผู้เขียนด้วยก็คงจะต้องติดตามในนัดแดงเดือดระหว่างทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกับทีมลิเวอร์พูลที่ประเทศไทยในเดือนกรกฎาคมนี้อย่างแน่นอน
เพราะว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 22 เมษายน 2565 นายวินิจ เลิศรัตนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด และ นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา สองหัวเรือใหญ่ผู้จัดศึกฟาดแข้งระหว่างสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ สโมสรลิเวอร์พูล "THE MATCH Bangkok Century Cup 2022" ศึกแดงเดือดในประเทศไทย ตอบรับคำเชิญของทั้งสองสโมสร ล่าสุด เดินทางไปเยี่ยมชมสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และสโมสรลิเวอร์พูล โดยได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากทั้งสองทีม
ไฮไลท์อยู่ที่คณะผู้บริหารของทั้งสองสโมสรได้พาไปเยี่ยมชมสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด และสนามแอนฟิลด์ อาทิ จุดสัมภาษณ์ ห้องล็อกเกอร์ของนักเตะ และระบบการรักษาความปลอดภัยซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด นอกจากนี้ยังได้มีการหารือถึงความคืบหน้า และการแปลงโฉมสนามราชมังคลากีฬาสถานให้ผู้บริหารทั้ง 2 ทีมรับทราบอีกด้วย
นายวินิจ เปิดเผยว่า “การเดินทางไปเยือนสองสโมสรในครั้งนี้ ยอมรับว่าตื่นเต้นมาก เพราะมีโอกาสได้ชมแมตซ์การแข่งขันพรีเมียร์ลีกระหว่าง สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ สโมสรลิเวอร์พูล อย่างใกล้ชิด โดยมีผู้บริหารของทั้งสองทีมมาร่วมชมด้วย นายวินิจกล่าวสรุปว่า บรรยากาศการเชียร์บอลระดับโลกแบบนี้ จะเกิดขึ้นกับแฟนบอลชาวไทยอย่างแน่นอน”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น