วันที่ 26 ธันวาคม 2563 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ไดกำหนดนโยบายผลักดันให้ประเทศไทยเป็นผู้นำในการผลิตและส่งออกสินค้าอาหารและผลผลิตเกษตรมาตรฐานฮาลาลสู่ตลาดโลกตามนโยบายนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้เข้าประเทศอย่างมหาศาล โดยในปี 2563 ตลาดอาหารและเครื่องดื่มฮาลาลทั่วโลกมีมูลค่า 1,533,280 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 48,004,350 ล้านบาท และคาดการณ์ว่าในปี 2569 จะเพิ่มมูลค่าสูงถึง 2,285,190 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 71,545,354 ล้านบาท ขณะที่ประเทศไทยมีผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองฮาลาลประมาณ 150,000 รายการ
โดยกระทรวงเกษตรฯ ได้จัดทำวิสัยทัศน์และนโยบายการส่งเสริมสินค้าและผลิตผลเกษตรมาตรฐานฮาลาล ประกอบด้วย 1.นโยบายเพิ่มศักยภาพหน่วยงานรับรองมาตรฐานฮาลาล 2.นโยบายยกระดับความได้เปรียบในการแข่งขันให้กับสินค้าเกษตรและอาหาร 3.นโยบายเสริมสร้างองค์ความรู้ในการผลิตและการบริหารจัดการ ตั้งแต่ระดับฟาร์มจนถึงผู้บริโภค 4.นโยบายเพิ่มศักยภาพทางตลาดและโลจิสติกส์ 5.นโยบายยกระดับความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ซึ่ง 5 นโยบายนี้มีแนวทางการดำเนินงานสำคัญๆ อาทิ การจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้า (Halal Hub) การจัดตั้งสถาบันฮาลาล การส่งเสริมฐานข้อมูลวัตถุดิบฮาลาล (H Number) ระบบศูนย์ข้อมูลกลางการแลกเปลี่ยนทรัพยากรอิเล็กทรอนิกส์ด้านฮาลาล (System Protocol for Halal Electronic Resources Exchange) วิสัยทัศน์ฮาลาลนี้ถือเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนเกษตรกร สถาบันเกษตรกร ภาคเอกชน ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ในการผลิตและการค้าสินค้าเกษตรและอาหารมาตรฐานฮาลาลอย่างครบวงจร รวมถึงจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค
รองโฆษกฯ กล่าวว่า ควบคู่ไปกับการทำงานของกระทรวงเกษตรฯ มุ่งเป้าสู่การเป็นครัวฮาลาลโลก ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กำลังขับเคลื่อนแผนงานส่งเสริมการผลิตกับการพัฒนาคุณภาพของเนื้อไก่ที่เป็นวัตถุดิบสำคัญของอาหารฮาลาล รวมถึงผลักดันการแปรรูปไก่ฮาลาลเพื่อการส่งออก ทั้งนี้ ศอ.บต.ได้ร่วมมือกับหลายภาคส่วนในการส่งเสริมฟาร์มเลี้ยงไก่ให้กระจายทั่วพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลี้ยงไก่ KKU-1 ที่เป็นผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ไก่พันธุ์นี้ทั้งเลี้ยงง่าย และดีต่อสุขภาพของผู้บริโภคด้วย เพราะมีกรดยูริคและโคเลสเตอรอลต่ำ ไขมันน้อย เนื้อเหนียวแน่นและนุ่ม เรื่องนี้จึงถือว่าเป็นสร้างประโยชน์อย่างมากต่อการส่งเสริมมาตรฐานอาหารฮาลาล รวมถึงการสร้างอาชีพและรายได้แก่ประชาชนในจังหวัดชายแดนใต้
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์มีแผนการผลักดันการส่งออกไทยในปี 2564 คาดว่าจะขยายตัว 4% หลังจากเศรษฐกิจของหลายๆ ประเทศเริ่มฟื้นตัว และในด้านการต่างประเทศ รัฐบาลได้ผลักดันแผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle: IMT-GT) ที่กำหนดแนวทางความร่วมมือในการพัฒนาระบบนิเวศอุตสาหกรรมฮาลาลให้มีความเข้มแข็ง ซึ่งจะช่วยสร้างการยอมรับมาตรฐานฮาลาล และการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลในอนุภูมิภาคให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น