เตรียมตัวให้พร้อม! 16 ธ.ค. นี้ "คลัง" เปิดระบบ "www.คนละครึ่ง.com" ให้ลงทะเบียน "คนละครึ่งเฟส 2" ให้ประชาชนที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขลงทะเบียนเพื่อรับเงินใช้จ่ายผ่าน "เป๋าตัง" 3,500 บาท/คน
ใกล้เข้ามาทุกที สำหรับการลงทะเบียน "คนละครึ่งเฟส 2" โครงการที่รัฐบาลให้ขวัญ "ปีใหม่" กับประชาชน โดยเปิดให้ลงทะเบียนจำนวน 5 ล้านสิทธิ์ ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ของวันที่ 16 ธ.ค. 63ผ่าน "www.คนละครึ่ง.com"
ก่อนที่จะเปิดให้ลงทะเบียน "กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" พาไปทำความเข้าใจกับคุณสมบัติของที่สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ "คนละครึ่งเฟส 2" ครั้งนี้ได้ ดังนี้
ใครมีสิทธิ์ "ลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 2" บ้าง?
1. มีบัตรประจำตัวประชาชนและเป็นบุคคลสัญชาติไทย
2. อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
3. ยังไม่เคยได้สิทธิ์คนละครึ่งมาก่อน หรือผู้ที่เคยได้รับสิทธิ์แล้วแต่ยังไม่ได้ใช้สิทธิ์ภายใน 14 วันจนถูกตัดสิทธิ์ ก็สามารถลงทะเบียนได้ทั้งนี้ คนที่ได้รับสิทธิ์คนละครึ่งเฟสแรกมาแล้วจะได้รับเงินเพิ่ม 500 บาท เหมือนกับผู้ที่เพิ่งลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 2
ใครไม่มีสิทธิ์ลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 2
1. ผู้ที่ได้รับสิทธิโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทั้งนี้ผู้ได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถตรวจสอบมาตรการสนับสนุนเพิ่มเติมจากภาครัฐฯ ได้ที่ www.cgd.go.th
2.ผู้ที่ได้ใช้สิทธิ์ในมาตรการ "ช้อปดีมีคืน"
วิธีลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 2 วันที่ 16 ธ.ค. นี้
วิธีลงทะเบียน "คนละครึ่งเฟส 2" ต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์คนละครึ่ง (www.คนละครึ่ง.com) ให้ได้รับสิทธิ์ให้สำเร็จ ก่อนที่จะไปใช้เงิน 3,500 บาทผ่านแอพพลิเคชั่น "เป๋าตัง" โดยการลงทะเบียนรับสิทธิ์จากwww.คนละครึ่ง.comสามารถทำได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้
1) เข้าไปที่เว็บไซต์คนละครึ่ง เพื่อลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ
2) กดปุ่มสีแดงที่ระบุว่า "ลงทะเบียนรับสิทธิ์สำหรับประชาชน"
3) อ่านรายละเอียดข้อตกลงและความยินยอมก่อนเข้าร่วมโครงการ หากต้องการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งกดตกลงยินยอม
4) กรอกข้อมูลส่วนตัว เพื่อใช้ยืนยันลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง
ชื่อ-นามสกุล
เลขบัตรประจำตัวประชาชน
รหัสหลังบัตรประจำตัวประชาชน
วันเดือนปีเกิด
เบอร์โทรศัพท์
5) กรอกรหัส OTP ที่จะส่งเข้ามายังเบอร์มือถือของผู้ที่ลงทะเบียน
6) เมื่อระบบได้รับข้อมูลแล้วให้ผู้ลงทะเบียนรอรับผลผ่าน SMS
วิธีใช้เงิน "คนละครึ่งเฟส 2" ผ่านแอพฯ "เป๋าตัง"
ผู้ที่จะใช้จ่ายผ่านโครงการ "คนละครึ่งเฟส 2" จะต้องดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น "เป๋าตัง" ไว้ในโทรศัพท์มือถือ โดยต้องทำการลงทะเบียน และยืนยันตัวตนให้เรียบร้อยก่อน จากนั้นเมื่อต้องการใช้จ่ายในแต่ละครั้งสามารถทำตามขั้นตอนตามภาพด้านล่างนี้
อย่างไรก็ตามผู้ที่ได้รับสิทธิ์จะต้องใช้จ่ายตามเงื่อนไขของ "คนละครึ่งเฟส 2" นั่นคือสูงสุดวันละไม่เกิน 300 บาท (รัฐ 150 บาท ประชาชน 150 บาท) จนกว่าจะครบ 3,500 บาท โดยจะต้องใช้สิทธิ์ครั้งแรกหลังจากที่ได้รับการยืนยันไม่เกิน 14 วัน และใช้ได้ไม่เกินวันที่ 31 มี.ค. 64
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ศบศ.เคาะคนละครึ่งเฟส 2 ให้สิทธิเพิ่ม 5 ล้านราย ลงทะเบียน 16 ธ.ค.
'คนละครึ่งเฟส 2' ล่าสุด เพิ่มเป็น 3,500 บาท รายเก่าได้ด้วย เปิดลงทะเบียน 16 ธ.ค. เช็คที่นี่!
'คนละครึ่งเฟส 2' ลงทะเบียนตาม 7 ขั้นตอนนี้ ได้เงินเข้า 'เป๋าตัง' ช้อปได้ 3,500 บาท
หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และความยินยอมสำหรับประชาชนที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง
- 1. สาระสำคัญของโครงการคนละครึ่ง (โครงการฯ)
- * โครงการฯ ระยะแรก หมายถึง โครงการคนละครึ่ง ที่มีช่วงระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 *
- * โครงการฯ ระยะที่ 2 หมายถึง โครงการคนละครึ่ง ที่มีช่วงระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564 *
- 1.1 ช่วงระยะเวลาดำเนินโครงการฯ คือ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564
- 1.2 คุณสมบัติของผู้ประกอบการร้านค้า (ร้านค้า) ที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ
- (1) เป็นผู้ประกอบการสัญชาติไทยประเภทใดประเภทหนึ่ง ดังต่อไปนี้
- (1.1) เป็นผู้ประกอบการที่ไม่ใช่นิติบุคคล
- (1.2) เป็นร้านค้าของกองทุนหมู่บ้านหรือกองทุนชุมชนเมืองตามพระราชบัญญัติกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พ.ศ. 2547
- (1.3) เป็นร้านค้าของวิสาหกิจชุมชนตามพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
- (2) เป็นร้านค้าที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com หรือผ่านสาขาธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ) และ/หรือให้ความยินยอมตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป
- (3) ไม่เป็นร้านค้าที่มีลักษณะเป็นร้านสะดวกซื้อธุรกิจแฟรนไชส์
- (4) ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการอื่น ๆ ของรัฐ
- (5) ไม่เป็นผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของมาตรการอื่น ๆ ของรัฐ หรือฝ่าฝืนมาตรการใด ๆ ของรัฐเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
- (1) เป็นผู้ประกอบการสัญชาติไทยประเภทใดประเภทหนึ่ง ดังต่อไปนี้
- 1.3 คุณสมบัติของประชาชนที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ
- (1) มีหมายเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก
- (2) มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ ณ วันลงทะเบียน
- (3) เป็นผู้มีสัญชาติไทย
- (4) ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- (5) ผู้มีสิทธิเขาร่วมโครงการฯ ระยะที่ 2 จะต้องเป็นผู้ได้รับสิทธิตามโครงการฯ ระยะแรกที่ยืนยันการเข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 2 ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” หรือ เป็นผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 2 ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2563
- (6) มีแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” โดยกระบวนการยืนยันตัวตนเพื่อใช้บริการแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” (รวมทั้ง G-wallet ในบริการแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”) ให้เป็นไปตามที่ธนาคารกรุงไทยฯ ซึ่งเป็นผู้จัดทำระบบให้รัฐและเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับข้อมูลการพิสูจน์และยืนยันตัวตนดังกล่าวกำหนด
- 1.4 รัฐจะสนับสนุนเงินแก่ประชาชนในการซื้ออาหาร เครื่องดื่ม หรือสินค้าทั่วไป จากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ เป็นจำนวนร้อยละ 50 ของราคาสุทธิในใบเสร็จรับเงิน โดยรัฐจะชำระเงินดังกล่าวให้แก่ร้านค้าโดยตรง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564 ภายใต้เงื่อนไขดังต่อไปนี้
- (1) ประชาชนต้องชำระค่าอาหาร เครื่องดื่ม หรือสินค้าทั่วไป ให้แก่ร้านค้าผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”
- (2) ต้องมีการซื้อ-ขายอาหาร เครื่องดื่ม หรือสินค้ากันจริง
- (3) จำนวนเงินที่รัฐสนับสนุนให้ต่อหนึ่งหมายเลขประจำตัวประชาชนจะไม่เกินกว่า 150 บาทต่อวัน และไม่เกินกว่า 3,500 บาทรวมตลอดทั้งโครงการฯ
- (4) ค่าสินค้า เครื่องดื่ม หรืออาหาร ที่รัฐสนับสนุนเงิน ไม่รวมถึงสลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ ยาสูบที่มีชื่อเรียกอย่างอื่น และบริการต่าง ๆ
- (5) สำหรับผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 2 จะต้องใช้สิทธิภายใน 14 วัน นับแต่วันถัดจากวันที่ได้รับข้อความสั้น (SMS) แจ้งว่าได้รับสิทธิ หากไม่ใช้สิทธิภายในเวลาดังกล่าวจะถูกตัดสิทธิ และไม่สามารถลงทะเบียนได้อีก ในกรณีประชาชนลงทะเบียนสำเร็จก่อนวันที่โครงการฯ ระยะที่ 2 เริ่มเปิดให้ใช้สิทธิ (1 มกราคม 2564) ระยะเวลาดังกล่าวจะเริ่มนับตั้งแต่วันที่โครงการฯ ระยะที่ 2 เริ่มเปิดให้ใช้สิทธิ
- (6) แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” จะสามารถใช้งานได้ระหว่างเวลา 06.00 – 23.00 น. ของทุกวัน
- 1.5 รัฐจะสนับสนุนเงินตามข้อ 1.4 รวมตลอดระยะเวลาโครงการฯ ให้แก่ประชาชนผู้ได้รับสิทธิตามโครงการฯ ระยะแรก ไม่เกิน 10 ล้านหมายเลขประจำตัวประชาชน และประชาชนผู้ได้รับสิทธิตามโครงการฯ ระยะที่ 2 ที่ไม่ใช่ผู้ได้รับสิทธิตามโครงการฯ ระยะแรก ไม่เกิน 5 ล้านหมายเลขประจำตัวประชาชน ทั้งนี้ รัฐอาจพิจารณาเพิ่มเติมจำนวนสิทธิได้ในภายหลัง
- 1.6 การพิจารณาผู้ได้รับสิทธิตามข้อ 1.4 จะพิจารณาเมื่อประชาชนได้รับสิทธิ ตามลำดับก่อนหลัง จนกว่าจะครบจำนวนสิทธิตามข้อ 1.5 หรือจนกว่าจะสิ้นสุดโครงการฯ
- 2. หลักเกณฑ์และเงื่อนไขสำหรับประชาชนที่เข้าร่วมโครงการฯ
- 2.1 ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ต้องปฏิบัติตามสาระสำคัญของโครงการฯ รวมถึงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการฯ
- 2.2 ห้ามผู้เข้าร่วมโครงการฯ กระทำการใด ๆ ที่สร้างความเข้าใจผิดต่อมาตรการและ/หรือโครงการของรัฐ หรือก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการดำเนินโครงการฯ หรือมาตรการอื่น ๆ ของรัฐ
- 2.3 หากผู้เข้าร่วมโครงการฯ ไม่ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืนหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการฯ ผู้เข้าร่วมโครงการฯ จะต้องชดใช้ความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นให้แก่รัฐภายใน 7 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งถึงการกระทำดังกล่าว โดยชดใช้ความเสียหายผ่านช่องทางที่กระทรวงการคลังกำหนด
- 2.4 กระบวนการพิจารณาและดำเนินการตามข้อ 2.3 ให้เป็นไปตามที่กระทรวงการคลังกำหนด
- 2.5 ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ที่ได้รับสิทธิและใช้สิทธิตามข้อ 1.4 (5) แล้ว จะไม่มีสิทธิได้รับการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในมาตรการช้อปดีมีคืน
- 3. ข้อความตกลงยินยอมของประชาชนที่เข้าร่วมโครงการฯ
* “ข้าพเจ้า” หมายถึง ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการฯ *- 3.1 ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้กระทรวงการคลัง ธนาคารกรุงไทยฯ และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง จัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ข้าพเจ้าได้ให้ไว้ในการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าจากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โครงการธงฟ้าประชารัฐ และโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- 3.2 ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้กระทรวงการคลัง ธนาคารกรุงไทยฯ และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง จัดเก็บ ประมวลผล และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ข้าพเจ้าได้ให้ไว้ในการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าจากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โครงการธงฟ้าประชารัฐ และโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ต่อหน่วยงานของรัฐ และผู้รับให้บริการที่ได้รับมอบหมายจากหน่วยงานของรัฐ เพื่อการประมวลผลและการตรวจสอบข้อมูล และ/หรือเพื่อการยืนยันตัวตนหรือเพื่อการตรวจสอบคุณสมบัติเพื่อรับสิทธิตามโครงการฯ และ/หรือเพื่อการบริหารจัดการโครงการฯ
- 3.3 ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้กระทรวงการคลัง หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ จัดเก็บ ประมวลผล และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้า เพื่อประโยชน์ในการดำเนินมาตรการอื่นของรัฐหรือเพื่อประโยชน์ในการบริหารราชการแผ่นดินในอนาคต
- 3.4 ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องร้องขอ สอบถาม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าเพื่อประโยชน์ในการดำเนินโครงการฯ
- 3.5 ความยินยอมของข้าพเจ้าในอันที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บ ใช้ ประมวลผล หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าข้อ 3. นี้ ให้มีผลไปตลอดช่วงระยะเวลาดำเนินโครงการฯ เว้นแต่ความยินยอมตามข้อ 3.3
- 3.6 ข้าพเจ้าตกลงปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการฯ และรับทราบว่าหากข้าพเจ้าไม่ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืนหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการฯ ข้าพเจ้าจะต้องชดใช้ความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นให้แก่กระทรวงการคลังภายใน 7 วัน โดยกระบวนการพิจารณาและดำเนินการให้เป็นไปตามที่กระทรวงการคลังกำหนด
- 3.7 ข้าพเจ้ารับทราบและยินยอมว่า ในกรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่าข้าพเจ้าไม่ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืนหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการฯ กระทรวงการคลังอาจพิจารณาระงับสิทธิตามโครงการฯ ของข้าพเจ้าเพื่อดำเนินการตรวจสอบ และหากพบว่าข้าพเจ้ากระทำการดังกล่าวจริง ข้าพเจ้าจะต้องชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นให้แก่กระทรวงการคลังภายใน 7 วัน ทั้งนี้ ให้การตัดสินของกระทรวงการคลังถือเป็นที่สุด
- 3.8 ข้าพเจ้ารับทราบว่าการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมาย
ข้าพเจ้าได้อ่าน รับทราบ และตกลงยินยอมปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการฯ ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่ข้าพเจ้าได้ให้ไว้ในการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ แล้วแต่กรณี ถูกต้องตามความเป็นจริงทุกประการ หากข้อมูลดังกล่าวไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการระงับการจ่ายเงินตามโครงการฯ หรือชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้น แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ ไม่ระงับซึ่งสิทธิของรัฐในอันที่จะดำเนินการตามกฎหมาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น