"ศูนย์การเรียนรู้การปลูกผักในเมือง" ในกรุงเทพมหานครที่ได้รับการยอมรับทั้งจากชาวไทยและชาวต่างประเทศอย่างมาก ก็คือ "ฮิพอินทรีย์ ฟาร์มวิลล์พอเพียง" ของนายธรรมศักดิ์ ลือภูวพิทักษ์กุล หรือ คุณโอ๋ หนึ่งในนักร้องนำวงพีทูวอร์ชิพ (P2WARSHIP) สังกัดค่ายแกรมมี่ ปี 2555 คุณโอ๋ผันตัวเองมาลงมือจับจอบ จับเสียม พรวนดิน โดยนำพื้นที่บ้านส่วนหนึ่งซึ่งเคยเปิดเป็นธุรกิจสนามฟุตบอลให้เช่า แต่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 จึงนำพื้นที่ส่วนนี้มาทำฟาร์มปลูกผัก โดยใช้ชื่อว่า "ฮิพอินทรีย์ ฟาร์มวิลล์พอเพียง" โดยได้รับแรงบันดาลใจจากคุณพ่อและคุณแม่ที่มีความสนใจการทำ "เกษตรพอเพียง" ตามแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่9)
เริ่มหาข้อมูลทางด้านนี้ พร้อมกับปลูกผักไปด้วย ตอนนั้นก็เริ่มที่ปลูกชะอม เลี้ยงไก่ไข่ ต่อมาก็เริ่มปลูกผักสวนครัว เช่น คะน้า ผักบุ้ง พริก ซึ่งก็ใช้เวลาราวๆ 2 ปี หลังจากนั้นก็เริ่มนำโหระพา อิตาลี มาปลูก" ครบ 10 ปี เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ.2565 ประสบความสำเร็จเป็นศูนย์การเรียนรู้การปลูกผักในเมือง ตั้งอยู่ที่เลขที่ 11 ถนนนาคนิวาส 30 ซอยลาดพร้าว 71 เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ
"ฮิพอินทรีย์ ฟาร์มวิลล์พอเพียง" ยังมีเมนูแปรรูปพืชผักทางการเกษตรจำหน่ายด้วย และจัดว่าเป็นพระเอกของฟาร์ม ได้แก่ เพสโต้ (Pesto) และ เนยถั่วเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ซึ่งทั้ง 2 เมนูนี้คุณโอ๋คิดค้นขึ้นมาเองเป็นสูตรเฉพาะของฮิพ อินทรีย์ฯ
การทำเกษตรด้วยการศึกษาหาข้อมูล โดยใช้พื้นฐานงานวิจัยก่อนนั้น คุณโอ๋บอกว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อให้การลงมือทำอะไรก็ตาม มีความแม่นยำ นอกจากนี้ คุณโอ๋ยังมีมีดีกรีจบวิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ และ จบด้านการบริหารและดีไซน์ค้าปลีก (Retail Design & Management) ที่ University of The Arts London ทำให้นำความรู้ด้านงานศิลปะมาใช้กับงานด้านเกษตรได้อย่างผสมผสานและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวนำมาสู่ความเป็น "ฮิพอินทรีย์ ฟาร์มวิลล์พอเพียง" ทั้งในการถ่ายภาพและการตกแต่งพื้นที่ฟาร์ม
"วันนี้แม้ตัวสินค้าแปรรูปจะขายดี แต่ก็ไม่คิดไปสร้างโรงงานผลิต เพราะต้องการความสุขที่ได้จากการทำเกษตรพอเพียง เพราะหากทำเป็นโรงงานก็ต้องมีเรื่องกำลังผลิต และ การจ้างแรงงานจำนวนมาก ซึ่งส่วนตัวก็มองว่า อาจจะเป็นอะไรที่เกินตัว และ อาจทำให้ความสุขหายไป อย่างที่ผ่านมาหลายๆคนพอมาเห็น ฮิพอินทรีย์ฯประสบความสำเร็จ ก็มองว่า ชีวิตดีมากๆ อยากเป็นอย่างนี้บ้าง แต่กว่าจะมีวันนี้ผมก็ใช้เวลา 10 ปี ผ่านเส้นทางยากลำบากมาประมาณหนึ่ง รวมไปถึงตอนที่มาลงมือทำเกษตร ผมไม่มีภาระ ไม่มีหนี้สิน ไม่มีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบมาก ก็สามารถจะมาลุยความลำบากกับการทำเกษตรได้ในช่วงแรกๆ แต่หากยังมีภาระหนี้สินมีความรับผิดชอบในครอบครัว การทำงานประจำอยู่และค่อยๆเรียนรู้การทำเกษตรผมว่าเป็นสิ่งที่ดีกว่าจะทิ้งงานประจำมาทำเกษตร"
https://www.naewna.com/likesara/675498
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น