วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2562

ไปแน่! 'ธนาธร' โพสต์โชว์ใบสั่ง เตรียมแจง กกต. ถือหุ้นสื่อ


วันที่ 30 เม.ย.2562นี้  นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จะเดินทางไปที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อชี้แจงกรณีการโอนหุ้นวี-ลัค มีเดีย จำกัด โดยจะมีว่าที่ส.ส.ของพรรค และกองเชียร์ไปร่วมให้กำลังใจด้วย ขณะที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค เตรียมแถลงข่าวในเวลา 10.00 น. ประเด็นความผิดพลาดในการทำงานกกต.ในหลายกรณี.

อย่างไรก็ตามเมื่อช่วงค่ำวันที่ 29 เม.ย. นายธนาธร  ได้โพสต์ภาพลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว Thanathorn Juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นภาพใบสั่งการใช้ความเร็ว จากการเดินทางออกจาก จ.บุรีรัมย์ เข้ามายังกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 8 ม.ค. เพื่อมาโอนหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ให้กับนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดา พร้อมข้อความระบุว่า เราเลือกที่จะทำงานการเมืองเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยอย่างสันติ
          
ผมเลือกที่จะร่วมสร้างพรรคอนาคตใหม่กับสมาชิก เพราะเราเชื่อว่าการเปลี่ยนผ่านกลับสู่ประชาธิปไตยที่สันติและค่อยเป็นค่อยไปมากที่สุดคือการทำผ่านกระบวนการรัฐสภา
          
สังคมที่เราอยากเห็นคือสังคมที่เป็นประชาธิปไตย ที่คนทุกคนเท่าเทียมกัน หลักนิติรัฐและความเป็นธรรมได้รับการเชิดชู ทรัพยากรของประเทศถูกนำไปใช้เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตของคนส่วนใหญ่ของประเทศ สังคมสวยงามที่เรียบง่ายแต่ขณะเดียวกันก็หนักแน่นไปด้วยหลักการ
          
แต่จนถึงวันนี้ ผมมีคดีและข้อกล่าวหาทั้งสิ้นแล้ว 6 กรณี ผมไม่มีเจตนาร้ายกับสังคม แต่แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงประเทศที่เราฝันถึง ย่อมกระทบกับผลประโยชน์ของคนกลุ่มน้อยที่พอใจกับสังคมที่ไม่มีวันพรุ่งนี้ คนกลุ่มนี้เองที่ไม่ต้องการให้เราเข้าสภา และพร้อมทำทุกอย่างที่แม้แต่จะนำประเทศไทยลงเหวเพื่อรักษาอำนาจตัวเองไว้
          
ข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นที่ผมต้องไปชี้แจงพรุ่งนี้ไม่มีมูล ไม่มีใครมีหลักฐานที่เป็นวิทยาศาสตร์โต้แย้งหลักฐานที่เรานำเสนอได้ ผมไม่ได้ถือหุ้นสื่อในวันที่ผมสมัคร ส.ส. และ กกต. ไม่มีอำนาจในการตั้งข้อกล่าวหาและตรวจสอบผมในประเด็นนี้ ผมหวังว่า กกต. จะเป็นองค์กรอิสระอย่างแท้จริง เป็นเสาหลักที่เข้มแข็งในการดำเนินการผลักดันสังคมให้กลับสู่ความเป็นประชาธิปไตย
          
หาก กกต. ใช้อำนาจโดยมิชอบ สุ่มเสี่ยงที่จะมีความผิดตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 157 ผมขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินการทางกฏหมายกับ กกต. ต่อไป
          
พรุ่งนี้ผมต้องไปอธิบายกรณีที่เกี่ยวข้องกับการถือหุ้นสื่อต่อ กกต. โดยจะนำหลักฐานแสดงความบริสุทธิ์ของผมไปด้วย นอกเหนือจากหลักฐานที่ผมเสนอต่อสาธารณะไปแล้ว ยังมีเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมอื่นๆ อีกมาก เช่น
          
รูปที่ 1 ใบสั่งตามรูปแสดงให้เห็นว่าผมอยู่ที่สุรินทร์ในวันที่ 7 มกราคม
          
รูปที่ 2 ใบสั่งตามรูปแสดงให้เห็นว่าผมอยู่ที่ถนนทางหลวงที่ 24 กม. ที่ 107-109 อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ วันที่ 8 มกราคม เวลา 11.41 น.
          
รูปที่ 3 ใบสั่งตามรูปแสดงให้เห็นว่าผมอยู่ที่ถนนกาญจนาภิเษก กม. 5 (ขาเข้า) ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี วันที่ 8 มกราคม เวลา 14.45 น.
          
รูปที่ 4 และ 5 เนื่องจาก ม.จ. จุลเจิม ยุคล ได้เขียนข้อความทวงถามต้นขั้วเช็คผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวของเขา ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้เอ่ยชื่อโดยตรง ผมสันนิฐานว่าเขาเขียนถึงผม ถ้าเจ้าตัวไม่มีเจตนาเขียนถึงผม ผมขอโทษมา ณ ที่นี้ รูปนี้แสดงให้เห็นว่าต้นขั้วเช็คเรียงลำดับอย่างถูกต้อง และสอดคล้องกับหมายเลขเช็คที่แถลงไปก่อนหน้า ไม่มีการทำเช็คย้อนหลังอย่างที่หลายคนพยายามกล่าวหาแต่อย่างใด ท่านที่ยังสงสัยสามารถสอบถามไปยังธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้ถึงการเรียงเบอร์ตามต้นขั้วดังกล่าว
          
รูปที่ 6 แสดงให้เห็นถึงเส้นทางการเดินทาง และการยืนยันหลักฐานที่อยู่และเวลาตามใบสั่งในรูปก่อนหน้า และตามใบเสร็จทางพิเศษที่ชี้แจงไปก่อนหน้า ทุกท่านจะเห็นได้ว่าเวลาและที่อยู่สอดคล้องกันทั้งหมด 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บุคคลไม่ควรคบยามสูงวัย

การแยกแยะบุคคลที่ควรคบในวัยสูงอายุเป็นสิ่งสำคัญในบริบทพุทธสันติวิธี เพื่อเสริมสร้างความสงบสุขภายในและการใช้ชีวิตที่สมดุล การปฏิบัติตามหลักธร...