วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

พม.จัดงานรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี



พม.ร่วมกับสมาคมบัณฑิตสตรีทางกฎหมายแห่งประเทศไทยฯ จัดงานรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี  เร่งสร้างความเข้มแข็งให้ครอบครัวเพื่อต่อสู้กับความรุนแรง "จุติ" เร่งจ่ายเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด ลั่น!งวดหน้าไม่ต้องรอถึงรอบจ่าย

วันนี้ 11 พ.ย. 62 เวลา 08.30 น. ที่ห้องกรุงธนบอลรูม ชั้น 3 โรงแรมรอยัลริเวอร์ เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) ร่วมกับสมาคมบัณฑิตสตรีทางกฎหมายแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ จัดงานรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก และสตรี ภายใต้แนวคิด "ประสานรัก ประสานใจ ครอบครัวไทยไร้ความรุนแรง" 



นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานในพิธีเปิดงาน พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "มาตรการการส่งเสริมและป้องกันการเกิดความรุนแรงในครอบครัว" ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมงาน ประกอบด้วย เด็ก และเยาวชน บุคคลในครอบครัวจากชุมชนกรุงเทพมหานคร 50 เขต หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ผู้นำชุมชน องค์กรสตรี และประชาชนทั่วไป จำนวน 400 คน

นายจุติ กล่าวว่า สืบเนื่องจากการที่องค์การสหประชาชาติ ประกาศให้วันที่ 25 พฤศจิกายนของทุกปี เป็นวันรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี สำหรับประเทศไทย มีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2542 ซึ่งกำหนดให้เดือนพฤศจิกายนของทุกปีเป็น "เดือนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี" เพื่อมุ่งเน้นที่จะป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงทางต่อเด็กและสตรีทุกรูปแบบ กระทรวงพม. ร่วมกับสมาคมบัณฑิตสตรีทางกฎหมายแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ดำเนินการจัดงานรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก และสตรี ในครั้งนี้นับเป็นประโยชน์อย่างยิ่งและเป็นการประสานความร่วมมือเพื่อร่วมรณรงค์ ยุติความรุนแรงให้บุคคลในสังคมให้ได้รับความรู้ มีความเข้าใจในสิทธิและหน้าที่ และมีส่วนร่วมในการรณรงค์ยุติความรุนแรงในครอบครัวและสังคม อันจะส่งผลให้บุคคลในสังคมปราศจากความรุนแรงในทุกรูปแบบ สังคมมีความเข้มแข็ง มีครอบครัวที่อบอุ่น และมีสัมพันธภาพที่ดีของครอบครัว

"การจัดงานรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก และสตรี ภายใต้แนวคิด "ประสานรัก ประสานใจ ครอบครัวไทยไร้ความรุนแรง"  ในวันนี้ นับเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่กระทรวง พม. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วยกระตุ้นให้คนในสังคมมีความรู้ และมีความตระหนักถึงความสำคัญของปัญหา และร่วมกันเป็นพลังในการยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว จนก่อให้เกิดกระแสสังคมในการ ไม่ยอมรับ ไม่นิ่งเฉย ไม่กระทำความรุนแรง"  นายจุติ กล่าว

นายจุติ กล่าวภายหลังด้วยว่า เราจะสร้างครอบครัวให้เข้มแข็งเพื่อต่อสู้กับความรุนแรงในครอบครัว ครอบครัวที่เข้มแข็งจะเป็นพลังสำคัญเพื่อชาติต่อไปในอนาคต สังคมดีไม่มีขาย ถ้าอยากได้ต้องช่วยกันสร้าง เราควรหันมาให้ความรัก ความสนใจความเอาใจใส่กับคนรอบข้าง คนในครอบครัว ถ้าเรามีความรัก ความเมตตา ให้อภัยซึ่งกันและกัน เราก็จะมีความสุขกันถ้วนหน้า ตนมีความตั้งใจจะทำงานร่วมกันกับกระทรวงศึกษา พม.จะจับมือกันกับครูตามโรงเรียนต่างๆ ที่จะไปสำรวจเด็กนักเรียนในห้องไปดูและสังเกตความผิดปกติตั้งแต่เริ่มต้นจะได้แก้ไขได้ทัน ในขณะเดียวกันจะให้ความรู้กับสตรีทั่วประเทศทั้ง 76 จังหวัด หลังจากนั้นเราจะช่วยกันสร้างสถาบันครอบครัวให้เข้มแข็งต่อไป 

"เราจะต่อสู้กับสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลาย ความรุนแรงในครอบครัว และยาเสพติด จะช่วยกันทำให้ครอบครัวมีภูมิคุ้มกันมีความรัก ความเมตตาต่อกันและกัน ทั้งนี้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ท่านทรงให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ก็จะเป็นพลังผลักดันพวกเราในเรื่องนี้ด้วย ให้เดินหน้าอย่างมั่นคงและมีกำลังใจ" นายจุติ กล่าว

เร่งจ่ายเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด ลั่น!งวดหน้าไม่ต้องรอถึงรอบจ่าย

ที่ สถาบันการพัฒนาความรู้ด้านการพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ต.เกาะพลับพลา  อ.เมือง จ.ราชบุรี นายจุติ  ลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินงานในโอกาสการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 ระหว่างวันที่ 11-12 พฤศจิกายน 2562 โดยมีกลุ่มผู้สูงอายุ และประชาชนชาวจังหวัดราชบุรี จำนวนกว่า 400 คน ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ ได้เยี่ยมชมนิทรรศการ มหกรรมการขับเคลื่อนงานสวัสดิการด้านสังคมในพื้นที่ พบปะรับฟังเสียงประชาชนจากภาคส่วนต่างๆ ของ จ.ราชบุรี 

นายจุติ กล่าวว่า วันนี้ได้ลงมาเยี่ยมและรับฟังความคิดเห็นของชาวราชบุรี มีหลายองค์กรที่ทำงานด้านสังคมช่วยและร่วมกันทำงาน รัฐบาลมีความมุ่งมั่นและตั้งใจดีในการทำงานเพื่อทุกคน ในส่วนผู้ที่มีรายได้น้อยก็จะช่วยให้ยืนอยู่ได้ด้วยตนเอง ในส่วนอาสาสมัครสังคมก็จะต้องได้รับการพัฒนาศักยภาพในทุกมิติ เพื่อเป็นกำลังสำคัญและเป็นพี่เลี้ยงให้กับสังคมราชบุรีให้เดินก้าวหน้าต่อไป

"ผมคิดว่าวันนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการพัฒนาทุนมนุษย์ เพราะทุนมนุษย์เป็นต้นทุนที่สำคัญ ถ้าคุณมีความแข็งแกร่ง ครอบครัวมีความสุขมั่นคง สังคมจะมีความแข็งแกร่ง ประเทศก็จะมีความก้าวหน้าและสามัคคีพร้อมที่จะเดินหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ"  นายจุติกล่าว

นายจุติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดที่ยังมีรายชื่อบางส่วนตกหล่น ทำให้ทางกระทรวงเร่งตรวจสอบข้อมูลและทยอยแก้ไขให้เร็วที่สุด ว่า มันมีปัญหาเนื่องจากมีการเปลี่ยนเกณฑ์ จากเดิมผู้ที่ได้รับเงินมีจำนวนน้อยขณะนี้ได้เพิ่มเป็นจำนวนมาก ฉะนั้นมีความจำเป็นในการที่จะต้องเอาข้อมูลเข้าระบบ เพื่อเงินที่จ่ายจะได้ถึงประชาชนโดยตรง ป้องกันการทุจริต มีความโปร่งใส ดังนั้นจำเป็นต้องกรอกข้อมูลถึง 59 ข้อต่อคน (จากเดิม 79 ข้อ) จึงมีความยากลำบากในการทำงานพอสมควร ทำให้เกิดความล่าช้า แต่ตนเชื่อมั่นว่าเมื่อกรอกข้อมูลเข้าระบบเสร็จแล้ว ทุกอย่างจะเดินหน้าไปโดยไม่ติดขัด

ในส่วนผู้ที่ยังไม่ได้รับเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด นายจุติ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้ประชุมกับ พม.ทุกจังหวัด ทุกหน่วยงานระดมเจ้าหน้าที่จากส่วนต่างๆ มาช่วยทำตรงนี้อย่างเดียว เชื่อว่าจะทำให้เสร็จโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้จากปกติเงินจะออกทุกวันที่ 10 แต่ถ้าทำข้อมูลล็อตตกค้างเสร็จ ทาง พม.จะเร่งจ่ายเงินแก่ผู้ปกครองโดยไม่ต้องรอถึงรอบจ่าย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หนังสือ: หลักสูตรนักธรรมตรียุคเอไอ

คิดเขียนโดยดร.สำราญ สมพงษ์ - แชทจีพีที (เป็นกรณีศึกษา) สารบัญ 1. คำนำ ความสำคัญของการศึกษานักธรรมในสังคมไทย ความเปลี่ยนแปลงของโลกยุคดิจิทัลแ...