วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2563

"มจร วิทยาเขตสุรินทร์" นำนิสิตลงพื้นที่ศึกษาวัฒนธรรมพุทธ ใน"อารยธรรมขอม-ทวารวดี"อีสานใต้


วันที่ 21 ก.ย.2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยเป็นมหาวิทยาลัยทางพระพุทธศาสนา มีปรัชญาของมหาวิทยาลัยว่า "ศูนย์กลางการศึกษาพระพุทธศาสนา บูรณาการกับศาสตร์สมัยใหม่ พัฒนาจิตใจและสังคม"  มีพันธกิจในการผลิตบัณฑิต วิจัยและพัฒนา ส่งเสริมพระพุทธศาสนาและบริการวิชาการแก่สังคมทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมในด้านการจัดการศึกษาตามหลักสูตรพุทธศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาพระพุทธศาสนามีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตบัณฑิตให้มีความรอบรู้และเชี่ยวชาญในพระพุทธศาสนา สามารถวิเคราะห์ วิพากษ์และวิจัยวิชาการด้านพระพุทธศาสนาได้อย่างแตกฉาน 

เพื่อผลิตบัณฑิตให้มีคุณธรรมจริยธรรม เป็นผู้นำสังคมด้านจิตใจและปัญญา และเพื่อผลิตบัณฑิตให้สามารถนำพุทธธรรมไปประยุกต์ใช้ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและพัฒนาชีวิตและสังคม นอกจากนี้ยังมุ่งพัฒนานิสิตให้มีคุณสมบัติที่พึงประสงค์ 9 ประการ ได้แก่มีปฏิปทาน่าเลื่อมใส รู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงทางสังคมมีศรัทธาอุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนามีความสามารถในการแก้ปัญหา มีความใฝ่รู้ใฝ่คิด มีน้ำใจเสียสละเพื่อส่วนรวม มีโลกทัศน์กว้างไกล  มีความเป็นผู้นำด้านจิตใจและปัญญาและมีความมุ่งมั่นพัฒนาตนให้เพียบพร้อมด้วยคุณธรรมจริยธรรม

วิทยาเขตสุรินทร์เป็นส่วนงานหนึ่งของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในเขตอีสานใต้ ได้เปิดดำเนินการเรียนการสอนหลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิตสาขาวิชาพระพุทธศาสนา เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังที่กล่าวมา จึงจัดกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนานิสิต ให้นิสิตที่กำลังศึกษาระดับปริญญาโท  ในภาคการศึกษาที่ 1/2563 เดินทางไปศึกษาวัฒนธรรมพุทธในอารยธรรมขอม-ทวารวดีอีสานใต้ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ-ประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์วันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน2563  โดยมีความคาดหวังว่านิสิตจักได้รับประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับวัฒนธรรมพุทธศาสนาในพื้นที่อีสานใต้ตั้งแต่อดีตจนกระทั่งปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นด้านประวัติศาสตร์ ปรัชญา ความเชื่อ การเมือง การศึกษา บทบาท คุณค่า อิทธิพล ตลอดถึงวัฒนธรรมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวพุทธในแหล่งข้างเคียงและสามารถนำประสบการณ์ดังกล่าวมาวิเคราะห์ สังเคราะห์และประเมินได้อย่างลึกซึ้ง อันจะส่งผลให้พระพุทธศาสนามีความเข้มแข็งมั่นคงสืบไป

ทั้งนี้โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้นิสิตได้ศึกษาวัฒนธรรมพุทธในอารยธรรมขอม ทวารวดีอีสานใต้ เพื่อให้นิสิตได้เห็นแบบอย่างองค์กรชุมชนที่นำหลักพุทธธรรมไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ในสังคม บนพื้นฐานอุดมคติพุทธปรัชญา และเพื่อบูรณาการรายวิชาและการส่งเสริมพัฒนานิสิตให้บรรลุวัตถุประสงค์การเรียนการสอนที่หลักสูตรกำหนด

ลักษณะกิจกรรม สิกขาจาริกที่โรงเรียนสิงห์วงศ์  ตำบลหนองไทร  อำเภอนางรอง  จังหวัดบุรีรัมย์ วัดเขาอังคาร ตั้งอยู่บนเขาพระอังคาร บ้านสายบัว หมู่ที่  14  ตำบลเจริญสุขอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์  ปราสาทเมืองต่ำ ปราสาทอโรคยาศาลาบ้านโคกเมือง และอัคคิศาลาบ้านบุ จังหวัดบุรีรัมย์ ฟังการบรรยายจากผู้ทรงคุณวุฒิและเสวนาแลกเปลี่ยนทรรศนะระหว่างคณาจารย์และนิสิต

สำหรับโรงเรียนสิงห์วงศ์นั้นดำเนินการก่อสร้างและการขออนุญาตจัดตั้งโรงเรียน  โดยพระครูปริยัติภัทรคุณ  เจ้าอาวาสวัดสิงห์วงศ์  เจ้าคณะอำเภอนางรอง  ได้ดำเนินการขออนุญาตใช้ที่ดินสาธารณประโยชน์ ป่าชุมชนเชิงเขาอังคาร (ป่าช้าเก่า) หมู่ที่  11 บ้านหนองทะยูง ตำบลหนองไทร   เนื้อที่จำนวน 81 ไร่ ซึ่งที่ดินตั้งอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ โดยได้รับความเห็นชอบจากสภาองค์การบริหารส่วนตำบลหนองไทร และได้รับอนุเคราะห์จากสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์  อนุญาตให้วัดสิงห์วงศ์ใช้ประโยชน์ในที่ดิน  เพื่อดำเนินการจัดสร้างศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาและวิชาสามัญสำหรับพระภิกษุสามเณร เด็ก เยาวชนทั่วไป  และทางวัดได้จัดสร้างอาคารเรียนโรงเรียนพระปริยัติธรรมและโรงเรียนการกุศลขึ้น เพื่อเป็นสถานที่ฝึกอบรม พัฒนาเด็ก เยาวชนให้เป็นผู้เพียบพร้อมด้วยคุณธรรมจริยธรรม  สัมมาปฏิบัติพร้อมกับจัดสร้างสวนธรรมสำหรับพุทธศาสนิกชนผู้ปฏิบัติธรรมทุกคน

เมื่อสร้างอาคารเรียนเสร็จ  ได้ดำเนินการขออนุญาตจัดตั้งโรงเรียนการกุศลของวัดในพระพุทธศาสนา  แต่ยังไม่สามารถขอรับใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนการกุศลของวัดในพระพุทธศาสนาได้  จึงได้ดำเนินการขออนุญาตจัดตั้งโรงเรียนเอกชนในระบบ  และได้รับอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนเอกชนในระบบ  เมื่อวันที่  3  พฤษภาคม พ.ศ. 2560 โดยมีนางประภาวัลย์  สิงหภิวัฒน์  เป็นผู้รับใบอนุญาต  และมีวัตถุประสงค์ในการขออนุญาตจัดตั้งมีลักษณะเป็นโรงเรียนการกุศล   เพื่อจัดการศึกษาสงเคราะห์แก่เด็กและเยาวชน บุตรหลานผู้มีรายได้น้อย  เพื่อเป็นศูนย์กลางการศึกษาพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรม  แก่สังคม  และเพื่อสนองกิจพระพุทธศาสนาด้านการศึกษาสงเคราะห์

การบริหารจัดการของโรงเรียน ในวาระเริ่มแรกได้เชิญ นางสาวสมมารถ รอดจากเข็ญ เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน และ   นางระวีวรรณ บุญไพศาลบันดาล เป็นผู้จัดการ รวมถึงคณะกรรมการบริหารและคณะครูได้ดำเนินการบริหารจัดการมาโดยลำดับ ในปีการศึกษา 2561 ดสิงห์วงศ์ได้ดำเนินการ ขอจดทะเบียนมูลนิธิ และได้รับการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิวัดสิงห์วงศ์ขึ้นเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ.2561 จึงได้ขอเปลี่ยนแปลงผู้รับใบอนุญาตจัดตั้งโรงเรียนจากนางประภาวัลย์  สิงหภิวัฒน์  เป็นมูลนิธิวัดสิงห์วงศ์ โดยมี พระครูปริยัติภัทรคุณ  เป็นผู้ทำการแทนผู้รับใบอนุญาต  มีคณะกรรมการบริหารและ  คณะครูได้ดำเนินการบริหารจัดการมาถึงปัจจุบัน

มีการบูรณาการรายวิชาอาทิ นิเทศศาสตร์ในพระไตรปิฎก เมื่อศึกษาศึกษาความหมาย และขอบข่ายของนิเทศศาสตร์ คำสอนในพระไตรปิฎกที่เกี่ยวกับหลักการ รูปแบบวิธีการสื่อคำสอนของพระพุทธเจ้า และสาวก และจริยธรรมกับการสื่อสาร เรียบร้อยแล้ว ลงพื้นที่ศึกษา 1. ข้อมูลทั่วไปด้านการสื่อสารที่ปรากฎในสถานที่แห่งนั้น 2.ต้นเรื่องของการสื่อสารทางธรรมที่ปรากฏในสถานที่    แห่งนั้นคืออะไร  3. วัตถุประสงค์หลักของการสื่อสารทางธรรมในสถานที่ แห่งนั้นคืออะไร 4.วิธีการหรือกระบวนการในการสื่อสารทางธรรมในสถานที่แห่งนั้นคืออะไร  

โดยมีวิธีการศึกษาคือ 1. ให้นิสิตใช้วิธีการศึกษาจากเอกสารวิชาการที่เกี่ยวข้อง และใช้วิธีการศึกษาด้วยวิธีการสังเกต การสอบถาม การสัมภาษณ์ และการร่วมเสวนา ทั้งภาคสนาม และระหว่างการเดินทาง จากประเด็นในการศึกษา ทั้งนี้ ต้องครบทั้ง 4 ประเด็นที่กำหนด ตามหัวข้อที่ได้รับมอบหมาย 2. ให้นิสิตเขียนสรุปสาระสำคัญใน 4 ประเด็นหลัก จำนวน 1-5 หน้ากระดาษ A4 3.ให้นิสิตถ่ายภาพสถานที่ ตามที่ได้รับมอบหมายพร้อมกับรูปภาพของนิสิต และแทรกในเนื้อหางานจำนวน 3 ภาพด้วย 4.จัดส่งทางอีเมล์

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วิเคราะห์ 3. สุนทรวรรค ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 24 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 16 อังคุตตรนิกาย ทสกนิบาต จตุตถปัณณาสก์

  วิเคราะห์ 3. สุนทรวรรค ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 24 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 16 อังคุตตรนิกาย ทสกนิบาต จตุตถปัณณาสก์ ในปริบทพุทธสันติวิธี บทนำ สุน...