เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 2 ตุลาคม 2564 ดร.นิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร เขต 2 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่มหาเถรสมาคม ประชุมเมื่อ 30 กันยายนที่ผ่านมา มีวาระจรเข้าที่ประชุมแจ้งเพื่อทราบ แต่งตั้งพระสังฆาธิการ จำนวน 30 รูป และมีการถอดถอนเจ้าคณะจังหวัด 3 รูป คือ พระธรรมรัตนาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ฝ่ายมหานิกาย พระเทพสารเมธี เจ้าคณะจังหวัด กาฬสินธ์ ฝ่ายธรรมยุต และ 3 พระราชปรัยัติสุนทร เจ้าคณะจังหวัด ฉะเชิงเทรา มหาฝ่ายนิกาย ในวาระเดียวกัน ยังมีการแต่งตั้งเจ้าคณะจังหวัดขึ้นมาแทน โดยไม่แจ้งสาเหตุ ที่สำคัญ ในส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช มีมติตั้งเจ้าคณะจังหวัดธรรมยุติ ซ้อนทับรูปเดิม ที่ยังไม่ประกาศถอดถอนท่าน
ต่อมา เมื่อวันที่ 1 ตค.ที่ผ่านมา พระป่าสายธรรมยุต ประมาณ 200 รูป ได้นัดหมายมาประชุมที่วัดโสภณพัฒนาราม อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ โดยมีพระญาณรักขิต รองเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานตามที่นำเสนอไปแล้ว คณะสงฆ์ธรรมยุต จังหวัดกาฬสินธุ์ มีมติ ไม่รับ มติมหาเถรสมาคม โดยจะลงชื่อเป็นบัญชีหางว่าวทำเป็นหนังสือยื่นต่อสมเด็จมหาววีระวงศ์ เลขาสมเด็จสังฆราช ซึ่งเป็นผู้นำวาระจรเข้าที่ประชุม เพื่อให้ทบทวนมติดังกล่าว โดยท่านเจ้าคุณพระญาณรักขิต จะนำพระสงฆ์จำนวนหนึ่ง ไปยื่นหนังสือที่วัดราชบพิตรสถิตย์สีมาราม กรุงเทพ ในวันจันทร์นี้
ส.ส.ดร.นิยม เวชกามา กล่าวอีกว่า “ตนขอฝากถึงกรรมการมหาเถรสมาคม ได้ทบทวน เรื่องดังกล่าว ขอให้เขาดูเจ้าคณะกลาง มหานิกาย วัดไตรมิตร เป็นตัวอย่าง เคยเสนอเรื่องแนวนี้มาแล้วในการตั้งพระวัดนิมมารดีไปเป็นเจ้าอาวาสวัดสระเกศ และพระวัดเศวตรฉัตรไปเป็นเจ้าอาวาสวัดพิชัยญาติ ซึ่งสร้างความเจ็บปวดให้กับญาติโยมลูกศิษย์ลูกหาของวัด ไม่นึกว่า จะเกิดเช่นนี้ซ้ำอีก แต่ก็เกิดจนได้ การปลดพระสังฆาธิการ ซึ่งเป็นพระผู้ใหญ่ที่มีคนเคารพนับถือทั้งจังหวัด จะต้องมีเหตุผล จะต้องมีอธิกรณ์ ไม่ใช่ไปฟังคำสั่งของฆราวาส ผู้มีอำนาจบางคน แล้วไปอ้างพระราชดำริ มาปลด เป็นเรื่องเสี่ยงเกินไป ไม่นึกถึงจิตใจของพุทธศาสนิกชน เป็นการทำลายจิตใจชาวพุทธ แตกแยกกันไปหมด ถึงเข้าข่ายทำสังฆเภทในหมู่สงฆ์ “
ดร.นิยม กล่าวต่อไปว่า “โดยเฉพาะจังหวัดกาฬสินธุ์ ปลดพระผู้ใหญ่ชั้นเทพ แล้วแต่งตั้งพระครู เจ้าคณะอำเภอ จากอำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย มาเป็นเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์แทน อาวุโส ยังน้อยกว่า รองเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์รูปปัจจุบันด้วยซ้ำ อย่างนี้ มันเป็นเรื่องฆราวาสไม่รู้เรื่องพระ แต่มาสร้างปัญหาให้พระ เอาโพยมาจับใส่มือมหาเถรแล้วอ้างว่า เป็นพระราชดำริ เกิดเรื่องอย่างนี้ เสียหายกับมหาเถรมาก ยิ่งการปกครองสงฆ์ ฝ่ายธรรมยุต ท่านถือเรื่องอายุพรรษามาก เคารพนับถือกันตามอายุพรรษา ท่านไม่ใช่ผู้ว่า ไม่นายอำเภอ หรือกำนัน ผู้ใหญ่บ้านที่เป็นลูกน้องในสังกัดฆราวาส เหมือนฝ่ายโลก นึกจะย้ายจะถอดก็ย้ายก็ถอด ไม่ต้องมีเรื่องให้สอบอธิกรณ์ เรื่องผิดเพี้ยนแบบนี้ ตนได้ตั้งกระทู้ถามนายกไปแล้ว กรณีพระวัดสระเกศ วัดสามพระยา และวัดสัมพันธวงศ์ ที่ มส ออกมติมาให้ท่านเป็นอาบัติปาราชิก ไม่ได้เป็นพระ โดยไม่เคยมีการสอบอธิกรณ์ ตนทราบว่า พรุ่งนี้พุทธศาสนิกชนชาวกาฬสินธุ์ จะมาชุมนุมรวมตัวกัน ที่วัดประชานิยมธรรม อ.เมืองกาฬสินธุ์ จำนวนนับพันคนต่อต้านคำสั่ง มส ตนได้สอบถามไปยังรองเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ ฝ่ายธรรมยุต รูปปัจจุบัน ท่านบอกว่า ไม่ได้นัดพระภิกษุสงฆ์มาชุมนุม แต่พระเหล่านั้นไม่มีที่พึ่ง จึงมาหาตน และตนก็ทำตามมติสงฆ์ธรรมยุต กาฬสินธุ์ หากยื่นหนังสือไปแล้ว มส. ไม่ทบทวน พระภิกษุสงฆ์ ทั้งจังหวัด ก็จะลาออกจากทุกตำแหน่ง จะขออยู่เป็นพระทั่วไป ถือศีลและวินัย สงฆ์ 227 ข้อต่อไป ให้สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ มหาเถรสมาคม กับฆราวาสที่อยู่เบื้องหลังดำเนินการปกครองกันเองต่อไป พระภิกษุสงฆ์เราจะอยู่ปฎิบัติธรรมไปตามปกติของพระเท่านั้น”
“ตนจะตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรีอีกทาง ว่า มีฆราวาสข้างนอกซึ่งไม่เกี่ยวกับสงฆ์มายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยหรือไม่ และจะเสนอให้กรรมาธิการศาสนาหาความจริงเรื่องนี้” ดร.นิยมกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น