กระทรวงมหาดไทยร่วมกับมหาเถรสมาคมจัดโครงการบรรพชาอุปสมบท 99 รูป ถวายพระพรแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ให้ทรงหายจากพระอาการประชวรและทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงในเร็ววัน
เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2565 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่สำนักพระราชวังได้มีแถลงการณ์ เรื่อง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงมีพระอาการประชวร โดยเสด็จเข้ารับการรักษาพระองค์ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
“เพื่อเป็นการถวายพระพรแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ให้ทรงหายจากพระอาการประชวร และทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงในเร็ววัน และเป็นการร่วมถวายความจงรักภักดีและสำนึกในพระกรุณาธิคุณ โดยการเจริญจิตตภาวนา อีกทั้งให้การเข้าร่วมอุปสมบทได้เป็นโอกาสศึกษาพระธรรมวินัยและปฏิบัติธรรมตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนาของผู้เข้าร่วมโครงการ กระทรวงมหาดไทยได้ร่วมกับมหาเถรสมาคม โดยความเมตตาของเจ้าพระคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประธานกรรมการมหาเถรสมาคม จัดโครงการบรรพชาอุปสมบท 99 รูป ถวายพระพรแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา โดยได้แจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้เชิญชวนข้าราชการ บุคลากรจากภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัด จำนวน 99 คน สมัครเข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทฯ เป็นเวลา 15 วัน ซึ่งในส่วนของข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราว ของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และพนักงานรัฐวิสาหกิจ สามารถลาเข้าร่วมโครงการฯ ณ วัดที่จังหวัดกำหนด ทั้ง 76 จังหวัดได้โดยไม่ถือเป็นวันลา เสมือนเป็นการปฏิบัติราชการและได้รับเงินเดือนตามปกติ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2565” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงต้น
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ในด้านการจัดพิธีบรรพชาอุปสมบท กำหนดจัดขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 14 มกราคม 2566 โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนำหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งวัฒนธรรมจังหวัด ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด หัวหน้าสำนักงานจังหวัด ท้องถิ่นจังหวัด เข้ากราบนมัสการเจ้าคณะจังหวัดและเจ้าคณะผู้ปกครองในพื้นที่ เพื่อเตรียมการด้านการจัดพิธีฯ ได้แก่
1) การจัดพิธีปลงผมนาค ในวันที่ 13 มกราคม 2566 โดยในเวลา 13.00 น. ผู้บรรพชาอุปสมบท จำนวน 99 นาค พร้อมกัน ณ วัดที่จังหวัดกำหนด และเวลา 14.30 น. ผู้ว่าราชการจังหวัด ประธานในพิธี และผู้เข้าร่วมพิธีเดินทางถึง ประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระประธานภายในพระอุโบสถ จากนั้น ถวายดอกไม้ธูปเทียนแพหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และถวายดอกไม้ธูปเทียนแพหน้าพระรูปสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา แล้วถวายเครื่องสักการะแด่เจ้าอาวาส และประกอบพิธีปลงผม โดยผู้เป็นประธานสงฆ์ คณะสงฆ์ ประธานในพิธี และญาติ ขลิบผมตามลำดับ เมื่อพิธีปลงผมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประธานในพิธีกราบลาเจ้าอาวาส แล้วถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระรูปสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เป็นอันเสร็จพิธี
2) การจัดพิธีบรรพชาอุปสมบท 99 รูป ในวันที่ 14 มกราคม 2566 โดยในเวลา 07.00 น. นาค จำนวน 99 นาค และผู้ร่วมพิธีพร้อมกัน ณ วัดที่จังหวัดกำหนด เวลา 08.00 น. ประธานและผู้เข้าร่วมพิธีเดินทางถึง ประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระประธานภายในพระอุโบสถ จากนั้น ถวายดอกไม้ธูปเทียนแพหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และถวายดอกไม้ธูปเทียนแพหน้าพระรูปสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา แล้วถวายเครื่องสักการะแด่พระอุปัชฌาย์ และถวายเครื่องสักการะแด่เจ้าอาวาส เวลา 08.15 น. ประธานเดินไปยังหน้าหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระรูปสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา แล้วมอบผ้าไตรแก่นาค จำนวน 99 นาค และเริ่มบรรพชาสามเณร เมื่อเสร็จพิธีบรรพชาสามเณร ถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ สามเณร และในเวลา 12.30 น. เริ่มพิธีอุปสมบท จำนวน 99 รูป จนเสร็จพิธี
สำหรับคุณสมบัติของผู้สมัครเข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทฯ 12 ข้อ คือ 1) สัญชาติไทย 2) เป็นเพศชาย อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ จนถึงไม่เกิน 55 ปี 3) ร่างกายสมบูรณ์ สุขภาพแข็งแรง ไม่ทุพพลภาพ 4) ไม่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง หรือโรคที่สังคมรังเกียจ 5) ไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดทุกชนิด เช่น บุหรี่ เป็นต้น 6) เป็นบุรุษโดยสมบูรณ์ ไม่เป็นคนลักเพศ 7) สามารถท่องคำขออุปสมบท (คำขานนาค) และบทสวดตามที่วัดกำหนด 8) ไม่เป็นบุคคลต้องโทษ หรือหลบหนีคดี หรือเกณฑ์ทหาร 9) มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งสามารถตรวจสอบได้ ไม่เป็นคนเร่ร่อน 10) ไม่เป็นบุคคลต้องห้ามตามหลักพระวินัย 11) ต้องแสดงผลการได้รับวัคซีนจำนวนไม่น้อยกว่า 2 เข็ม และ 12) มีผลตรวจ ATK เป็นลบก่อนเข้าร่วมงานภายใน 24 ชั่วโมง
“นอกจากนี้ เพื่อให้การจัดโครงการบรรพชาอุปสมบท 99 รูป ถวายพระพรแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ตลอดระยะเวลา 15 วัน เกิดการปฏิบัติบูชาของข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ ญาติ ตลอดจนพี่น้องพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ ได้ร่วมกันทำบุญและประกอบศาสนกิจเพื่อถวายพระกุศลถวายพระพรให้พระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวรและทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงในเร็ววัน จึงให้ผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ได้บูรณาการเชิญชวนบุคลากร และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ร่วมกันทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหารเช้า ถวายภัตตาหารเพล ถวายน้ำปานะ ตามกำลังศรัทธา เพื่อเกิดอานิสงส์จากพลังแห่งการร้อยรวมความศรัทธาและความจงรักภักดีถวายพระพรแด่พระองค์ท่านในโอกาสนี้ด้วย” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเพิ่มเติม
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวในช่วงท้ายว่า กระทรวงมหาดไทย ขอเชิญชวนข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ ตลอดจนพี่น้องประชาชนที่มีคุณสมบัติในการบรรพชาอุปสมบทในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ สมัครเข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทฯ ได้ ณ ที่ทำการปกครองจังหวัด ศาลากลางจังหวัด ทุกจังหวัด และที่ว่าการอำเภอ ทุกแห่ง ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เพื่อร่วมกันถวายพระพรแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา โดยพร้อมเพรียงกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น