วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2567

มนต์เพลงพุทโธจีพีที - ชันตุสูตร : หลงลืมธรรม


                       ເນື້ອເພງ : ດຣສົມພົງສ໌

ທຳນອງ - ຮ້ອງໂດຍ : suno  

คลิกฟังเพลงที่นี่

 (Verse 1)

อยู่ในโลกที่เปลี่ยนไป ทุกคนวิ่งไล่หา

ฟุ้งซ่านไปกับความปรารถนา หลงลืมทางธรรมะ

พระบางรูปยึดติดสิ่งใด กลายเป็นผู้หลงทาง

ความเรียบง่ายหายไปจากใจ ดั่งลมหายใจที่พรากจากเรา

(Pre-Chorus)

ครั้งก่อนภิกษุท่านสอนว่า ธรรมะนั้นสำคัญ

รู้ว่าทุกสิ่งในโลก ไม่เที่ยงไปในวันนั้น

ส่วนพวกเรากลับลืมสิ่งนี้ ฟังเสียงโลกเสียงลวง

ประมาทไปในทางที่ผิด จิตวิ่งวนจนสับสน

(Verse 2)

คนดีนั้นกลับถูกลืม ถูกแทนที่ด้วยความเย่อหยิ่ง

ยึดติดในผลประโยชน์ ปากกล้าเพราะความโลภ

พระบางรูปประจบกับผู้คน หลงลืมทางธรรมะ

แต่ยังมีผู้ไม่ประมาทอยู่ ฝึกใจในป่าอย่างสงบ

(Pre-Chorus)

ครั้งก่อนภิกษุท่านสอนว่า ธรรมะนั้นสำคัญ

รู้ว่าทุกสิ่งในโลก ไม่เที่ยงไปในวันนั้น

ส่วนพวกเรากลับลืมสิ่งนี้ ฟังเสียงโลกเสียงลวง

ประมาทไปในทางที่ผิด จิตวิ่งวนจนสับสน

(Bridge)

ขอเธอหยุดและทบทวน หยุดความฟุ้งซ่านในใจ

ธรรมะยังเป็นคำตอบ ทางพ้นทุกข์ที่ยั่งยืน

(Chorus)

ลมหายใจแห่งธรรม กำลังจะเลือนหาย

คนหลงไปกับโลกและกิเลสที่มากมาย

เมื่อไรจะตื่นจากฝัน จากความฟุ้งซ่านในใจ

ธรรมะนั้นยังอยู่ แค่เพียงเธอหยุดและมองไป

(Outro)

ลมหายใจแห่งธรรมะ อยู่ในตัวเรา

หากเธอจะฟังใจของตนเอง


สรุปสาระสำคัญของ ชันตุสูตร ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 15  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 7  สังยุตตนิกาย สคาถวรรค  ความว่า 

ชันตุสูตรที่ ๕

             [๒๙๓] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้-

             สมัยหนึ่ง ภิกษุเป็นจำนวนมากอยู่ในกุฎีอันตั้งอยู่ในป่าข้างเขาหิมวันต์

แคว้นโกศล เป็นผู้ฟุ้งซ่าน เย่อหยิ่ง โอนเอน ปากกล้า วาจาสามหาว มีสติ

ฟั่นเฟือน ขาดสัมปชัญญะ ไม่มั่นคง  มีจิตคิดนอกทาง ประพฤติเยี่ยงคฤหัสถ์ ฯ

             [๒๙๔] วันหนึ่งเป็นวันอุโบสก ๑๕ ค่ำ ชันตุเทพบุตรเข้าไปหาพวกภิกษุ

เหล่านั้นถึงที่อยู่ ครั้นแล้วจึงได้กล่าวกะภิกษุเหล่านั้นด้วยคาถาทั้งหลายว่า

                          ครั้งก่อน พวกภิกษุผู้เป็นสาวกพระโคดมเป็นอยู่ง่าย (เลี้ยง

                          ง่าย) ไม่เป็นผู้มักได้แสวงหาบิณฑบาต ไม่มักได้ที่นอน

                          ที่นั่ง ฯ

                          ท่านรู้ว่าสิ่งทั้งปวงในโลกเป็นของไม่เที่ยง กระทำที่สุดแห่ง

                          ทุกข์ได้ ฯ

                          ส่วนท่านเหล่านี้ ทำตนให้เป็นคนเลี้ยงยากเหมือนชาวบ้านที่

                          โกงเขากิน กินๆ แล้วก็นอน เที่ยวประจบไปในเรือนของ

                          คนอื่น ฯ

                          ข้าพเจ้าขอทำอัญชลีต่อท่าน ขอพูดกะท่านบางพวกในที่นี้ว่า

                          พวกท่านถูกเขาทอดทิ้งหมดที่พึ่ง เป็นเหมือนเปรต ฯ

                          ที่ข้าพเจ้ากล่าวนี้หมายเอาบุคคลจำพวกที่ประมาทอยู่ ส่วน

                          ท่านพวกใดไม่ประมาทอยู่ ข้าพเจ้าขอนมัสการท่านพวกนั้น ฯ

ตามลิ้งค์นี้ https://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=15&A=1947  และแนะนำหลักธรรมใน ชันตุสูตร    ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน  เสร็จแล้ว  แต่งเพลง  ตั้งชื่อเพลง   พร้อมเนื้อหาเพลงเต็มเพลง

สรุปสาระสำคัญของ ชันตุสูตร

ใน ชันตุสูตร ที่ ๕ แห่งพระไตรปิฎกเล่มที่ 15 ภิกษุหลายรูปในกุฎีที่ป่าข้างเขาหิมวันต์ แคว้นโกศล ประพฤติตนไม่สมควร เช่น ฟุ้งซ่าน เย่อหยิ่ง และประพฤติเยี่ยงคฤหัสถ์ เทพบุตรชันตุได้เห็นและกล่าวคาถาเตือนสติว่า ภิกษุในยุคก่อนประพฤติเรียบง่าย รู้เท่าทันความไม่เที่ยงของโลกและสามารถละทุกข์ได้ ส่วนภิกษุในยุคนั้นกลับทำตัวเลี้ยงยาก และฟุ้งซ่าน ทำให้สูญเสียความเป็นพระแท้ เทพบุตรชันตุยังเน้นว่าบุคคลที่ประมาทในการดำเนินชีวิตจะเหมือนเปรตไร้ที่พึ่ง แต่ยังคงนับถือภิกษุที่ไม่ประมาทในการปฏิบัติธรรม


หลักธรรมในชันตุสูตรที่ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน


ความไม่ประมาท: ควรมีสติและสัมปชัญญะในการดำเนินชีวิต ไม่ประมาทในทุกสถานการณ์

การยึดมั่นในธรรม: ยึดมั่นในความเป็นธรรมและการดำรงชีวิตด้วยความเรียบง่าย ไม่ตกเป็นทาสของความโลภและความเย่อหยิ่ง

การรู้เท่าทันความไม่เที่ยงของชีวิต: ตระหนักว่าทุกสิ่งในโลกไม่เที่ยง ควรละการยึดติดและฝึกตนเพื่อดับทุกข์

การพึ่งพาตนเอง: ควรดำเนินชีวิตอย่างพึ่งพาตนเอง ไม่ต้องการสิ่งเกินจำเป็นจากผู้อื่น และหลีกเลี่ยงการเอาเปรียบผู้อื่น

 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

มนต์เพลงพุทโธจีพีที - พันธนสูตร : เครื่องจองจำตัดยาก

ເນື້ອເພງ : ດຣສົມພົງສ໌ ທຳນອງ - ຮ້ອງໂດຍ : suno                             นักปราชญ์ทั้งหลายไม่ได้กล่าวเครื่องจองจำที่ทำด้วยเหล็ก ทำ          ...